เจ้าบ่าวเจ้าสาวในชุดแต่งงานอย่างศาสนาอิสลาม
“Bachelor บะเชเลอ” สำหรับคนอินเดียนั้นไม่ได้หมายถึงเพียงวุฒิการศึกษาปริญญาตรี แต่ยังมีความหมายที่เรียกว่า “คนโสด” หรือคนที่ยังไม่มีครอบครัวของตนเองซึ่งจะถูกโยงไปถึงการพิจารณาสิทธิทางสังคมเช่น การเช่าที่พักอาศัย โดยบ้านเช่า หอพักต่างๆ มักจะจำกัดไว้ให้กับคนที่แต่งงานและอยู่เป็นครอบครัวมากกว่าให้คนโสดเช่าที่พัก นี่จึงเป็นเหตุผลเล็กๆประการหนึ่งว่า ทำไมการแต่งงานนั้นจึงสำคัญ มากสำหรับคนอินเดีย แม้ว่าภาพภายหลังการแต่งงานที่สวยงามนั้นจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิตอื่นๆอีกมากมาย การแต่งงานจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของคนสองคนและความรักนั้นอาจจะมาในภายหลังของความมั่นคงในชีวิต
ในทุกๆปี ผมจะได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่งงานเป็นอยู่อย่างสม่ำเสมอไม่ขาดสาย (เพลงของไมค์ ภิรมย์พร แว่วๆมา...งานแต่งที่ใด เป็นได้แค่แขกรับเชิญ...) ทั้งจากลูกน้องทีมงาน พนักงาน รวมไปถึงจากภายนอกบริษัทฯ ทำให้แต่ละเดือนแต่ละปีเหมือนรอลุ้นกันว่าใครจะสละโสดก่อนกันและคอยแสดงความยินดี
การแต่งงานของคนอินเดียจะแตกต่างกันไปตามความเชื่อ การนับถือศาสนาและองค์เทพเจ้าที่แต่ละครอบครัวนั้นนับถือศรัทธารวมทั้งสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ (วรรณะ ความรวย ความจน) การ์ดเชิญไปงานแต่งงานแต่ละใบที่ได้รับมาจึงแตกต่างกันไปด้วยทั้งขนาด สีสัน รูปเทพเจ้า อย่างของพนักงานที่นับถือฮินดูนั้นจะมีรูปพระพิฆคเณศวร ส่วนของคนที่นับถือคริสต์จะใช้รูปพระเยซู เป็นต้น ไม่ได้เหมือนอย่างการ์ดแต่งงานที่ใช้รูปถ่ายพรีเว้ดดิ้งของเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างทั่วไปในแบบฉบับของคนไทยหรือในบางประเทศ ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงสมัยสักยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาการ์ดแต่งงานของคนไทยก็จะมีลักษณะในแบบนี้เช่นกัน (ข้อความ กำหนดการ และพริ้นรูปดอกไม้ นก เป็นต้น) การ์ดแต่งงานนี้ยังสัมพันธ์ไปถึงขนาด ระดับ ความใหญ่โตมโหฬารของพิธีแต่งงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน (ถือเป็นตัวชี้วัดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจได้เช่นกัน)
พิธีสวมชุดแต่งงานดอกไม้สำหรับเจ้าบ่าว
ผมได้ไปร่วมงานแต่งงานทั้งงานเลี้ยงอย่างชาวบ้านๆ ที่จัดในบ้านของตนเองหรือสถานแต่งงานที่รัฐจัดให้ไปจนถึงงานใหญ่ๆ ในโรงแรมหรูหราอลังการล้านห้าจนสุดจะพรรณนา ในบางงานหากได้กวีมาเขียนบทกวีพรรณนา สรรหาคำงามๆน่าจะเหมาะสมที่สุด บางงานเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานา กลิ่นหอมตั้งแต่ศรีษะจรดยาวเรี่ยเรื่อยไปถึงพื้นดิน กลายเป็นชุดแต่งงานดอกไม้อย่างธรรมชาติ ส่วนแขกร่วมงานทั้งหลายล้วนเติมเต็มไปด้วยสีสันคัลเลอร์ฟูลของชุดสวยสดอวดเบ่งความงดงามแก่กัน ประกอบกับลีลาการเต้นในแบบฉบับอินเดียชนผสมกับความเพลิดเพลินไปกับเสียงบทเพลงแล้วบทเพลงเล่าเร้าความสุข เป็นงานแต่งงานที่สนุกสนาน รื่นรมย์มากๆ สิ่งที่ประทับใจในทุกๆงานวิวาห์คือ ความสุขและรอยยิ้มที่อบอวลอยู่ในงานตลอดเวลา
เจ้าบ่าว คุณจาเวด (Mr.Javed) ในชุดเจ้าบ่าวดอกไม้สด
เมื่อครั้งเดือนพฤษภาคม ปี 2012 จำได้ว่าวันนั้นเป็นการปิดงานสุดท้ายของวันด้วยความประทับใจด้วยการไปร่วมงานแต่งงานของคุณ Azhar กับคุณ Heena ขณะที่ลงจากรถพลันได้ยินเสียงดนตรีดึงดูดเร่าๆให้ไปเต้นรำได้ในทันที ซึ่งเจ้าของงานมีการจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับคนที่ต้องการจะวาดลวดลาย (ปล.กำลังจะเดินเข้าไปโซนนี้แต่เจ้างานดึงตัวให้เข้าไปในส่วนพิธีการเสียก่อน)
ความอลังการในใจเกิดขึ้นในบัดดลกับบริเวณทางเข้าสู่งานและในส่วนพื้นที่จัดงาน ทางเจ้าภาพเข้ามาต้อนรับขับสู้ด้วยการคล้องผ้าพันคอสีขาวนวลและมอบกุหลาบให้อีก 2 ดอกก่อนที่จะเดินเข้าไปสู่ในพื้นที่พิธีการ ตื่นตาตื่นใจทั้งเวทีสีทองอร่าม ความโอ่โถงของพื้นที่ การตกแต่ง แรกๆนั้นก็แปลกใจ ทำไมมีแต่ผู้ชายในโซนนี้ ผมเลยกระซิบถามลูกทีมได้คำตอบกลับมาว่า เขาจะแยกพื้นที่กันระหว่างฝ่ายเจ้าบ่าวกับฝ่ายเจ้าสาว (พื้นที่เจ้าบ่าวจะเป็นส่วนของผู้ชาย)ในการทำพิธีของวันนี้ก่อนที่จะมาทำพิธีร่วมกันทั้งสองฝ่ายอีกครั้งในวันถัดไป
พิธีการในวันนี้เป็นการเซ็นต์ใบทะเบียนสมรสโดยจะทำต่อหน้าแขกเหรื่อทั้งหลายและมีการสวดมนต์ตามคำภีร์แนวพีธีการแต่งงานของศาสนาอิสลาม (งานนี้เลยอดชมโฉมหน้าของเจ้าสาว) การแต่งงานของแต่ละศาสนาจะมีพิธีการไม่เหมือนกัน เมื่อพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นยังตามมาด้วยการจุดพลุ ทั้งพลุไฟ พลุกระดาษ เสริมความอลังการยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากนั้นจึงเป็นช่วงที่ญาติๆ เพื่อนๆ และผู้มาร่วมงานเข้าไปแสดงความยินดี ชักรูปร่วมกันด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
การแต่งงาน งานแต่งงานสำหรับผมแล้วเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สำคัญ รายละเอียดในชีวิตที่จดจำและประทับใจอย่างมากในอีกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่อินเดียครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in