เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DOI 1001 ปลายดอยศึกษาSAILOM
SAY BYE AND GOES ON NEXT STEP - #3
  • บางครั้งการบอกลาก็เป็นการเริ่มต้นใหม่เพื่อก้าวไปอีกขั้น
    12 /12 /59

    SAY BYE AND GOES ON NEXT STEP

    ในวันนี้เรียกได้ว่าน่าจะเป็นวันที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่เคยเป็น พี่เยจะต้องกลับบ้านและผมกับพี่สุ่นก็จะ
    คอนทินิวอยู่กับครูและเด็กๆ บ้านห้วยแห้ง กันต่อไป...

    เช้าที่มีเมฆหมอกเยอะเกินกว่าที่คาดคิด และเราเองก็เริ่มกลัวแล้ว  เริ่มกลัวว่าฝนจะต้องตกแน่นอน อากาศในวันนี้แสงอาทิตย์ที่หาแทบไม่ได้เป็นความรู้สึกที่แปลกและแตกต่างจาก 2 วันก่อนที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ห้วยแห้ง แต่อย่างไรก็ตามเราก็จะอยู่กันต่อไป

    เรามาที่โรงเรียนกันในเวลา 8.40 น. ซึ่งถือว่าถ้าเป็นค่ายที่ไปเป็นคณะนี่แม่งโดนด่าแหกแน่นอน และเด็กๆในตอนนี้ก็แยกย้ายเข้าห้องกันแล้ว  พี่เยเองก็เก็บของขึ้นมาที่หน้าโรงเรียนแล้ว
    ในวันนี้พี่เยจะลงไปด้วยรถของ โครงการหลวงที่จะลงไปในอมก๋อยด้วยเช่นกัน ทำให้เราประหยัดค่ารถขากลับได้   

    ความจริงเราเองก็ถ่ายภาพเป็นที่ระรึกด้วยนะครับ ก่อนที่เราจะจากกันไป แหม่ ทำตัวประดุจทัวร์จีน






    หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกันเล่นๆ ในมือถือและกล้องของแต่ละคน รอรถโครงการหลวงมาจอดที่หน้าโรงเรียน ไม่นาน 10 นาทีต่อมา รถโครงการหลวงก็มาที่หน้าโรงเรียน
    เราทั้งสองคน ก็ต้องจากลาพี่เยกันแล้ว   รู้สึกใจหายเหมือนกัน


    "พี่ต้องไปแล้ว  --- ที่เหลือฝากเราทั้งสองคนต่อด้วยนะ"  --พี่เย

  • ภาพพี่เยที่ส่องกล้องถ่ายภาพ และจากไปพร้อมกลับรถของโครงการหลวงและเด็กๆทืี่ยืนดูอยู่หน้าโรงเรียน เป็นบรรยากาศที่เศร้าแปลกๆ ในวันที่ไม่มีแสงแดดส่องถึงเท่าไรนัก พร้อมกับเสียงเด็กเล็กสองคนที่ร้องไห้เพราะพี่เยไปแล้ว นั้นสร้างรอยยิ้มจางๆให้ผมและพี่สุ่นได้เมื่อครูพริ้วพูดกับเด็กที่ร้องไห้อยู่

    "ครูเยแค่ลงไปจากดอย   ไม่ใช่ครูเยตายสักหน่อยจะร้องอะไรขนาดนั้น ไป๋กลับเข้าห้องได้แล้ว"


    และนั่นก็หมายถึง

    ผมและพี่สุ่นก็จะต้องทำหน้าที่เป็นครูอาสา

    แบบเต็มตัวแล้วสินะ



    วันแห่งการเรียน

    วันที่ 1

    การเรียนการสอนของที่นี่จะเน้นสองวิชาเป็นหลักนั่นก็คือ 

    ภ า ษ า ไ ท ย    แ ล ะ    ค ณิ ต ศ า ส ต ร์

    เพราะ

    "หัวใจหลักของการเรียนอย่างแรกสุดคือการอ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น"

    ในคาบแรกของวันเด็กๆจะได้เรียนวิชา ภาษาไทยก่อน โดยที่เด็กๆจะต้องอ่านและเขียนให้ได้  หนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทยระดับชั้น ป. 4 คือ หนังสือเรียนภาษาไทยของที่นี่ สำหรับเด็กชั้นประถม

    ส่วนเด็กที่อ่อนจะถูกแยกไปเรียนกับครูอีกคน นั่นคือครูพริ้ว ส่วนเด็กประถมที่มีความเข้าใจภาษาแล้วก็จะเรียนกันกับครูต้นที่ชั้นเรียนรวม


    หนังสือที่ใช้ในการเรียนมีสองเล่มด้วยกันคือ

    มานะ  มานี 

    หนังสือเรียนภาษาไทยยุคแรกเริ่มที่เรายังไม่เคยเรียนเลย เป็นเบสิกสกิลสำหรับเด็กผู้เริ่มอ่านและฝึกเขียน  

    หนังสือเรียนภาษาไทย  ป. 4 ฉบับปัจจุบัน

    หนังสือเรียนที่ใช้กันทั่วไป และ นี่คือแบบเรียนมาตรฐานสำหรับเด็กๆชั้นประถมที่อ่านออกเขียนได้แล้ว


    ในวันนี้เราเลือกที่จะสอนเด็กๆ ที่อ่านออกเขียนได้แล้ว ด้วยการสอนตามหนังสือ

    ใช่แล้วสอนตามหนังสือ เพราะเหตุผลง่ายๆ เราไม่ได้เตรียมการสอนอะไรมาเลย และมาด้นสดกันที่นี่   เราให้เด็กๆอ่านจากที่เรียนไปแล้ว อธิบายเพิ่ม  และคัดคำที่น่าสนใจ

    เท่านี้ก็กินเวลาไปทั้งภาคเช้าแล้ว   และนั่นคือจุดเริ่มแรกของเรากับการเป็นครูอาสาครั้งแรก



    ภาคบ่ายกับการสอนแบบเต็มขั้น

    ไม่น่าเชื่อว่าเราเองก็สอนกันได้นะ    สำหรับภาคบ่ายนี้เด็กๆจะได้เรียนคณิตศาสตร์กัน  การสอนจะเน้นเป็นการบวกและลบทศนิยมเป็นหลัก   ส่วนเด็กอ่อนถูกจับแยกและดูแลโดยครูพริ้ว  ดังนั้นจึงมีเด็กโตให้เราดูแลกันประมาณ 6-7 คน

    การสอนบวกลบถือว่านี่มันง่ายที่สุดสำหรับเราแล้วในตอนนี้   มันไม่ยากเท่าไรนักการสอนถือว่าง่ายและสบายๆ  ด้วยเลขทศนิยมสองหลัก  และเลขจำนวนหลักไม่เกินพัน ถือว่าเป็นเรื่องง่ายแล้ว จึงให้เด็กๆ เอาไปทำเป็นการบ้านครึ่งหนึ่ง และทำด้วยกันที่โรงเรียนครึ่งหนึ่ง ถือว่าจบ





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in