เราทั้งสองคนคือ ผมและพี่สุ่น ก็นั่งเรื่อยเปื่อยแถวๆโรงเรียนสัก 20 นาทีก็กลับมาพร้อมเริ่มที่จะจัดการกับอาหารเย็น ส่วนพี่เยนั้น แกไม่สนอะไรทั้งนั้นเพราะแกจะนอน นอน นอน และก็นอน
อาหารเย็นวันนี้เป็นแกงเห็ดใส่บวบและ ลาบเห็ดเพราะมีผักชีใบเลื่อยอยู่ข้างบ้านของเรา และคุณแม่ก็เก็บมา เราจึงแอบเอามาใช้ แบบนั้นเลย
แกงเห็ดใส่บวบ
สำหรับแกงนั้นเราว่ามันก็ทำง่ายพอสมควร เพราะเราไม่ใส่ใบย่านาง ความจริงมันมีนะ(มั้ง) แต่ก็ขี้เกียดที่จะคั้นน้ำมันมาทำ และมันใบใหญ่เวรี่ใหญ่ชนิดที่เราไม่มั่นใจว่านี่มันใบย่านางจริงหริือเนี่ย เราเลยไม่กล้าที่จะลองของแปลกสักเท่าไรนัก
-ตำเครื่องแกง ที่มีพริกและหอม
-ล้างและหั่นเห็ด
-ตั้งไฟ รอน้ำเดือด
-ใส่น้ำปลาและปราร้า พร้อมกับผงชูรส
-ใส่เครื่องแกงลงไป คนเข้ากัน รอเดือด
-ใส่เห็ดและบวบลงไป ทิ้งไว้สักพักรอเห็ดและบวบสุก ยกลง
ลาบเห็ด
เมื่อได้โจทย์ว่าจะเป็นเห็ดในมื้อนี้ ก็มีอีกเมนูก็คือลาบเห็ดนี่แหละที่น่าจะทำง่ายพอสมควร
-ล้างเห็ด และเอาเห็ดตั้งไฟ รอเห็ดสุก เทน้ำออกแล้วบีบน้ำที่เหลืออยู่ให้หมด
หั่นเห็ดออกเป็นชิ้นเล็กๆ
-ตำพริกและซอยหอม
-ทำข้าวคั่ว จากข้าวสารตั้งไฟให้เม็ดข้าวสารเป็นสีเหลืองทอง
นำมาตำให้ละเอียด รอพักไว้
- นำส่วนผสมมั้งหมดมาในชามผสม (ยกเว้นข้าวคั่ว)
- เติมน้ำปลา มะนาว น้ำปลาร้า ผงชูรส ผักชีใบเลื่อย คนให้เข้ากัน
- เมื่อได้รสที่พอเหมาะแล้ว นำข้าวคั่วโรยลงไป แล้วคลุกให้เข้ากันอีกที จบ
หน้าตาอาหารเย็นมื้อที่ 2 ของพวกเรา
ถือว่าใช้ได้กว่าต้มยำเห็ดเมื่อวานมากมายครับ เรากินกันสองคนยกเว้นพี่เย ที่แกนอนแล้วไม่สนอะไรทั้งนั้น แกจะนอนจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากนั้นเราก็ขนแกงและลาบขึ้นไปที่โรงเรียน และไปนั่งคุยกับครูต้นและครูพริ้วตามเดิมจนเป็นปกติวิสัย วันนี้เราลงมาเร็วกว่าปกติเพราะเราหนาวและเพลียกับการทำกิจกรรมในวันนี้พอสมควร และเราเองก็ไม่อยากตื่นสายเท่าไรนัก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in