หลายคนก็คงคิดเเบบนี้ใช่มั้ยหละ แต่ผมว่ามันก็มีหลายอย่างเลยนะถึงเเม้คุณจะเคยเห็นตามที่ต่างๆเเล้วเเต่ถ้าคุณมาเห็นของจริงได้ด้วยตาคุณเองเนี่ยคุณจะรู้เลยว่ามันไม่เหมือนกัน ที่เเรกที่เราจะดูคือพระบรมพิมานเเต่ว่าเขาปิดเเต่พอมองเข้าไปก็เห็นว่ามีคนนะสงสัยมีแขกVIPมาอยู่เราก็เลยเดินกันต่อไปส่วนของพระที่อมรินทรวินิจฉัย ในนี้เขาห้ามถ่ายรูปครับในพระที่นั่งนี้จะมีพระราชบัลลังค์2องค์ซึ่งทำขึ้นจากทองเเละก็จะมีทหารเฝ้าอยู่คนนึงในนั้น ระหว่างที่พวกเราดูพระราชบัลลังค์อยู่ก็เห็นฝรั่งคนนึงแกหยิบกล้องขึ้นมาอยู่ดานหลังเพื่อถ่ายรูปพี่ทหารก็เลยเดินไปเยี่ยมแต่พอไปปุ๊บคนข้างๆก็หยิบขึ้นมาทำท่าจะถ่ายอีก(ดูชอบแหกกฎกะนจริง)แต่คนที่เตือนไม่ใช่พี่ทหารเเต่เป็นฝรั่งด้วยกันเอง ผมเห็นแบบนี้เเล้วก็รู้สึกดีนะคือขนาดเขาไม่ใช่คนไทยเขายังช่วยกันเตือนฉะนั้นคนไทยก็ช่วยกันหน่อยนะครับสมบัติของชาติเราด้วยนะครับ ผมชอบที่นี่มากเลยนะหลายคนคงคิดพระราชบัลลังค์งดงามเกินจะพลาดสายตาป่าวหรอกพอดีในนั้นมีพัดลมอันใหญ่ๆอยู่อย่างเย็นเลยถุ้ยยยยยย...
พอเดินต่อมาก็จะเจอกับพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ลักษณะจะเป็นพระที่นั่งลูกครึ่งทำไมผมเรียกงี้ก็เพราะตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมเเนวตะวันตกแต่ส่วนหลังคาเป็นสถาปัตยกรรมไทยเเละบางคนก็เรียก"ฝรั่งสวมชฎา" ข้างในพระที่นั่งนี่มีเปิดอยู่นิดหน่อยเเค่ส่วนที่เเสดงอาวุธเก่าๆตั้งเเต่ยังใช้หอกที่เป็นที่มาของหอกข้างเเคร่ยันปืนในสมัยสงครามระหว่างกาแล็คซี่(อย่าเชื่อเยอะมีโม้ แต่ที่เเสดงอาวุธหน่ะมีจริงๆนะ)และข้างหน้าก็จะมีทหารยืนโชว์พาวทนร้อนอยู่อย่างนิ่งนึกว่าเอามาจากMadame Tussauds พอกำลังจะเดินออกก็เห็นทหารชุดขาวกองนึงเดินมาดังตรึกๆๆๆให้อารมณ์เหมือนstormtrooperที่อยู่ในหนัง star wars พอออกมาจากพระบรมฯได้ก็เสวนาว่าจะไปไหนกันตอนนั้นก็บ่ายแก่ๆละก็เลยตกลงกันว่าจะไปหาที่นั่งพักกันเราจิงเลือกที่จะไป"ท่ามหาราช"กัน
ปล.1พวกชื่อพระที่นั่งต่างๆนี่ผมกับมาค้นหาทีหลังนะครับคงไม่มีใครจำได้หมดเนอะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in