ขณะนี้เราก็จะเข้าสู่การเดินทางโดยเรือที่นะครับพ่อเเม่พี่น้องปู่ย่าตา...(พอ!!เดี๋ยวมากันทั้งหมู๋บ้านกันพอดี)โดยพวกเราก็จะเดินทางจาก สาทร-ท่าช้าง(ดูในภาพได้นะครับจะอยู่ตรงเส้นสีเเดงๆจนถึงบริเวณโค้งน้ำอันเเรกอะครับ) ซึ่งเราก็ต้องนั่งเรือด่วนพิเศษธงส้ม ซึ่งมีราคาที่ย่อมเยาและยังไปถึงในต่อเดียว !!!คำเตือน!!!อย่าได้คิดจะนั่งเรือธงฟ้านะครับมันเป็นเรือท่องเที่ยวมันจะมีราคาตั๋วที่ขูดรีดกระเป๋าตังอย่างมหาศาล(ดูโคตรเว่อร์เลย) ส่วนเรือธงเขียวผมก็ไม่ค่อยจะเข้าตารางเวลาของมันหรอก เรือประจำทางหรอวิ่งเฉพาะเช้าเย็น แต่เรือธงส้มเนี่ยมันจะวิ่งทั้งวันเลยตั้งเเต่หกโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่มแหละเอาอันนี้แหละถูกเเละชัวร์(ดูตามสีได้เลย)
ในตอนเเรกที่พวกเราไปถึงท่าเรือก็เห็นเลยว่าจะมีดาวคะนองอยู่ข้างๆ(ไม่ใช่ละ)ที่เราเห็นก็คือคนเเม่งเยอะชิบเเล้วเราก็กำลังจะไปต่อเเถวเพื่อรอขึ้นเรือเเต่เราก็นึกได้ว่ามันน่าจะซื้อตั๋วก่อนขึ้นนะก็เดินตามหาที่ซื้อตั๋วตั้งนานหาไม่เจอเลยไปถามพนักงานดูเขาเลยบอกว่าให้ไปต่อเเถวเลยเเละเดี๋ยวซื้อตั๋วบนเรือเลยนะ(ดูบ้านนอกรอบ2)รอไปสักพักนึงก็เห็นเรือมาลำแบบใหญ่เลยนะเป็นเรือนักท่องเที่ยว ก็รอไปอีกสักพักสักพักสักพักสักพักสักพัก(จะเยอะไปไหน)ก็มีเรือธงส้มมาก็เป็นเรือที่ธรรมดาไม่ได้หวือหวาเหมือนเรือท่องเที่ยว(ถึงว่าราคามันถึงต่างกันมาก)
เราก็รีบเดินไปขึ้นเรือเพราะกลัวจะได้ตั๋วยืน แต่สุดท้ายก็ได้ตั๋วยืน(จะยืนหรือนั่งราคาเท่ากันนะเหมือนรถเมล์เลยเเม้กระทั่งกระเป๋าเรือด่วน) บนเรือที่เราขึ้นเนี่ยมีอย่างกะอยู่ตลาดมีกิมจู ไร้เมล็ด เต็มไปหมดเลย(ฝรั่งชาวต่างชาติอะครับ)มีตั้งเเต่เเบบBackpackerจนถึงพวกดูดีมีสไตล์ ผมก็มองไปมีBackpackerคนนึงกระเป๋าเเม่งใหญ่มากคงหนักเขาก็เลยเอามันไปวางเเล้วนั่งบนที่สี่เหลี่ยมตรงกลางถึงท้ายเรือคงเป็นเครื่องยนต์มั้ง ป้ากระเป๋าเรือด่วนมาเห็นพอดีตะโกนใส่ฝรั่งคนนั้นเลยให้ลงมาๆเเล้วฝรั่งคนนั้นก็ถามราคากี่บาทป้าแกก็ตอบแบบโมโหๆ(ไม่รู้ใครไปเเย่งผัวป้าไปเมื่อเช้ารึป่าวดุจิงๆ)ผมเห็นเลยเซ็งก็เลยหันออกไปมองเเม่น้ำข้างนอกดีกว่าซึ่งในความคิดของผมคิดว่าเเม่น้ำนี้คงมีไรสวยๆเกร๋ๆให้ดูตลอดทางเเน่นอน แต่!!!ความเป็นจริงก็มักจะตรงข้ามกับความคิดเสมอ(แล้วมันก็จริงครับ) ในระหว่างที่ผมมองก็เริ่มเห็นถุงเซเว่นมาก่อน(อันนี้ยังธรรมดา) แล้วก็เห็นลูกมะพร้าว ใบตอง รองเท้า หรือเเม้กระทั่งสัปปะรดเเบบยังไม่ปลอกเลย ผฝนี่นึกว่าอยู่Shopping Mallเลยทีเดียวก็เลยหันไปมองตึกรามบ้านช่องดีกว่า ก็ดูไปเรื่อยๆก็เพลินดีนะแต่ระหว่างดูก็มีน้ำเป็นเหมือนฟอกกี้กระเด็นใส่อยู่เป็นระยะๆ(นี่ขนาดอยู่ท้ายๆเเล้วนะ) การนั่งเรือครั้งทำให้ได้ชัดเลยว่าฝั่งกรุงเนี่ยมันเจริญจริงๆเเต่ดูฝั่งธนเเล้วเหมือนพวกเขาจะชอบวิถีชีวิตแบบSlow lifeเลยดูไม่เจริญเท่าอีกฝั่ง นั่งเรือ(ยืนไม่ใช่หรอ)ไปได้ไม่นานพวกเราก็มาถึงท่าช้างจุดหมายปลายของการเดินทางบทนี้เเต่เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in