เรามองว่าในกรณีตัวอย่างเมื่อครู่ นั่นคือการโต้ตอบด้วยการเป็นผู้ให้ของเรา ให้อภัย ให้โอกาส ให้ความรัก ให้ความเข้าใจ อะไรก็ได้กับคนรอบข้าง แต่กลับกันแล้วเรากลับไม่เป็นผู้รับที่ดีเลย การรับสิ่งใดๆก็ตามมาจากผู้อื่นของเราล้มเหลวมาก เคยมีปัญหาถึงขั้นต้องไปหาหมอ แล้วก็โดนหมอถามคำถามนึงกลับมาว่า "ทำไมเวลาคนอื่นทำอะไรไม่ดีกับเราเราให้อภัยได้ แต่เวลาตัวเองทำอะไรผิดซักอย่าง เรื่องมันเล็กมากๆ แต่เราให้อภัยหรือยอมให้ตัวเองทำอะไรกับคนอื่นไม่ได้ล่ะ? มันผิดมากเลยเหรอ?" เราก็กลับมานั่งคิดตามนะ เออ...นั่นสิ เราไม่ยอมเป็นผู้รับอะไรเลย ไม่รับการให้อภัย ไม่รับความรู้สึกใดๆที่อีกฝ่ายจะเอาออกมาให้เราเจอ เรากลัวไปหมด แม้แต่ตัวเราเองเวลาที่จะให้อภัยตัวเอง หรือให้อะไรดีๆแล้วปลอบใจตัวเองเราก็ยังไม่ยอมรับอีก และสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เรา
โคตรไม่มีความสุข
สำหรับคนที่มีนิสัยการเป็นผู้รับอยู่ในตัว เรายินดีด้วยที่ไม่ต้องมาเจอหรือรู้สึกอะไรที่น่าอึดอัดแบบนี้
สำหรับคนที่กังวล ไม่กล้าปฎิเสธ กลัวคนอื่นจะมองไม่ดี รู้สึกแย่ ระวังด้วย...ความสุขอาจจะกำลังหายไป
สำหรับคนที่กำลังเป็นแบบเราอยู่ ไม่ต้องกลัวนะ...ทุกปัญหามีทางออกเสมอแม้จะต้องใช้เวลาหาทั้งชีวิต
มีเพื่อนที่ทำงานกับเรา เค้าคอยสอนเราทุกอย่างเลย
ในช่วงนั้นเราคงอึดอัดมาก
เค้าพูดกับเราว่า " ให้ลองไปค้นหาตัวเองให้เจอนะ แล้วเราจะมีความสุขมากขึ้น"
" บางครั้งก็ไม่ต้องตึงเครียดกับตัวเองมากจนเกินไปก็ได้"
" ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่าแล้วที่จะลองค้นหาดู"
" พอถึงวันนั้นที่เรารู้จักตัวเอง แล้วเรายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ เราจะเริ่มจับทางได้ว่าอะไรกันที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ"
เรานึกไปถึงวันที่ขึ้นรถไฟกลับจากมักกะสันมาลงที่ลาดกระบัง
ระหว่างทางเราแอบวาดรูปเด็กผู้หญิงคนนึง แล้วก็ถูกจับได้ มันตลกมากเลยล่ะ
แม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นดูจะชอบรูปวาดของเรามาก
ส่วนตัวเด็กผู้หญิงเองก็ดูจะเขินมาก ไม่ยอมมองหน้าเราเลยแต่ยิ้มตลอด
วันนั้นเราก็มีความสุขนี่นา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in