เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวยSALMONBOOKS
00: HOLY HOTLINE / โทรฤกษ์

  • ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด

    เป็นการรอสายโทรศัพท์ที่บีบคั้นหัวใจเป็นอย่างยิ่ง

    เสียงประดิษฐ์ที่ให้จังหวะแห่งการรอคอยไม่เคยทำปฏิกิริยากับหัวสมองเราขนาดนี้ มือข้างขวาจับดินสอบีบเกร็ง ริมฝีปากเม้มเล็กน้อย ในหัวมีความคิดหลายอย่างตีกันพัลวัน คิดถึงบทสนทนาที่จะเกิดต่อจากนี้ว่ามันจะเป็นอย่างไร เราจะเริ่มทักทายด้วยคำไหนก่อนถึงจะดี แล้วปลายสายจะคุยกับเรามั้ย เป็นมิตรกับเราหรือเปล่า และเขาจะให้สิ่งที่เราต้องการมั้ย

    เมื่อตรู๊ดที่สี่ผ่านไป ในที่สุดก็มีคนรับสาย

    “สวัสดีค่ะ ที่นั่นวัดอรุณราชวรารามฯ ใช่มั้ยคะ”

    “อะไรนะครับ”

    “วัดอรุณฯ ใช่มั้ยคะ”

    “อ๋อ ไม่ใช่ครับ สงสัยโทร.ผิดแล้ว”

    “...”
  • ค่ะ เริ่มต้นได้ดีมาก ที่รอสายจนเกร็งเยี่ยวเหนียวฟาวล์หมดเพราะโทร.ผิด

    เรากลับไปเสิร์ชกูเกิล เอาเบอร์โทรศัพท์มาทวนดูแล้วก็พบว่า เออ มึงจดมาผิดจริงๆ เหตุก็เพราะเว็บไซต์ของวัดอรุณฯ อนุรักษ์ความเป็นไทยมาก สงสัยกลัวฝรั่งจะโทร.มาก่อกวน ในเว็บเลยใส่เบอร์โทร.เป็นเลขไทยอ่อนช้อยมาเลย แต่คนที่ตกเป็นเหยื่อดันเป็นดิฉัน ดูเลข ๔ และ ๕ สลับกัน แทนที่จะต่อสายถึงวัดเลยไปติดบ้านใครก็ไม่รู้

    ไม่เป็นไร คนเรามันผิดพลาดกันได้ (ปลอบใจตัวเองได้เชยสุดๆ)

    เราเช็กความถูกต้องของเบอร์โทรศัพท์ เอาให้ชัวร์ว่ารอบนี้ไม่พลาดแน่ๆ จิ้มเบอร์เสร็จ รอสองตรู๊ดก็มีคนรับ

    “สำนักงานกลางวัดอรุณฯ สวัสดีครับ”

    “สวัสดีค่ะ”

    “เอ่อ...” (เราเริ่มสัมผัสได้ว่าปลายสายต้องไม่ใช่ปุถุชนที่เราจะไปสวัสดีตีสนิทท่านเฉยๆ ได้ จึงปรับน้ำเสียงให้นุ่มขึ้นแล้วทักทายใหม่อีกครั้ง)

    “นมัสการค่ะ”

    “ติดต่อเรื่องอะไรหรือโยม” (นอกจากเราน้ำเสียงเปลี่ยนแล้ว หลวงพี่ก็น้ำเสียงเปลี่ยนด้วย พาสเวิร์ดปลดล็อคบทสนทนามันอยู่ที่คำว่านมัสการสินะ)

    “ดิฉันอยากจะขอฤกษ์แต่งงานน่ะค่ะ”

    “...ว่าไงนะโยม”
  • “คือกำลังจะแต่งงานค่ะ แล้วดิฉันกับแฟนไปทำบุญที่วัดบ่อย เลยอยากจะขอฤกษ์จากทางวัดค่ะ”

    “...ฤกษ์แต่งงานเหรอโยม”

    “ค่ะ”

    หลวงพี่เงียบไปพักใหญ่ จนเรานึกว่าสายหลุดไปแล้ว ซึ่งเดาว่าในใจหลวงพี่คงว้าวุ่นคิดหาทางออกอยู่ว่าอุบาสิกาคนนี้ล้อเล่นอะไรกับอาตมาหรือเปล่า รายการอะไรโทร.มาแกล้งอาตมามั้ย ไอ้เราก็บวชได้ไม่ถึงสัปดาห์ สวดพาหุงฯ ยังไม่ได้เลย แล้ววัดเรามีให้บริการด้านนี้หรือเปล่านะ อาตมาคิดว่าเรื่องนี้คงจะเกินกำลังรับไหวแล้วแหละ

    “เดี๋ยวอาตมาโอนสายให้นะโยม”

    รอไม่ถึงอึดใจ เราก็ได้คุยกับพระอีกรูปหนึ่ง

    “สวัสดีโยม”

    หลวงพี่ที่ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกเปล่งบารมีต่างจากพระท่านเมื่อกี้หลายเลเวล ซึ่งเดาว่าท่านจะต้องเป็นพระมหาผู้มีวิชาแก่กล้า สอบได้เปรียญธรรมเอกเมื่อปีกลาย ต้องมีอาวุธข้างกายเป็นกระดานชนวน ไว้ผูกสูตรเชื่อมโยงดวงชะตาแน่ๆ!

    น่าเลื่อมใสขนาดนี้แล้วจะคุยกับท่านยังไงวะเนี่ย แค่ดิฉันคงไม่พอแล้วมั้ง เดี๋ยวท่านหาว่าลามปาม

    “เอ่อ...อ่า...นมัสการค่ะหลวงพี่ คือหม่อมฉันจะแต่งงานน่ะค่ะ แล้วพอดีหม่อมฉันกับแฟนไปทำบุญที่วัดนี้บ่อย เลยอยากจะได้ฤกษ์จากวัดนี้เจ้าค่ะ”

    “โยมคุยสบายๆ ก็ได้ ดิฉันก็พอ”
  • “คือหม่อม เอ๊ย ดิฉันอยากให้หลวงพี่ดูฤกษ์แต่งงานให้หน่อยค่ะ ประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า ดิฉันต้องบอกวันเกิดไหมคะ”

    “ไม่ต้องก็ได้โยม เดี๋ยวอาตมาดูให้นะ (เสียงเปิดปฏิทินดัง พรึ่บๆ) เดือนธันวาฯ มีวันดีคือ 14 หรือ 22 นะ ส่วนมกราฯ ปีหน้าคือ วันที่ 25 กับ 26”

    “แล้วถ้าเดือนกุมภาฯ ล่ะคะ พอดีชอบเดือนกุมภาฯ” (แน่ะ เรื่องมากอีกมึง)

    “วาเลนไทน์เหรอโยม ก็เป็นวันที่ไม่แย่นะ”

    “อ๋อ ไม่เอาวาเลนไทน์ค่ะ เอาวันอื่นในเดือนกุมภาฯ น่ะค่ะ”

    “ก็จะมีปลายๆ เดือน วันที่ 23”

    “แล้วถ้าเป็นวันที่ 2 กุมภาฯ ล่ะคะ พอจะไหวมั้ยคะ”

    “แล้วทำไมคุณโยมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าจะให้ดูว่าวันที่ 2 กุมภาฯ มันดีมั้ย ระบุมาสิครับ ชี้ชัดมาเลย อาตมาจะรีบไปทำวัตรเย็น”

    (อันนั้นเป็นรีแอ็กของหลวงพี่ที่เราคิด แต่จริงๆ แล้วหลวงพี่เสียงเย็นมาก ฟังแล้วรู้สึกเหมือนท่านกำลังยิ้มอยู่)

    “วันที่ 2 เหรอ มันก็ไม่ได้ไม่ดีนะ เป็นวันธรรมดาๆ”

    “แล้ววันธรรมดานี่จัดงานแต่งงานได้มั้ยคะ”

    “จัดได้สิโยม แค่ไม่ตรงกับวันฤกษ์ไม่ดีก็พอแล้ว วันที่ 2 ก็ไม่ใช่ว่าแย่ ตรงกับวันอาทิตย์ก็ถือว่าดีแล้ว อ้อ ปีหน้า วันอาทิตย์ถือเป็นวันดีน่ะโยม”

    “ก็คือว่าพอใช้ได้ใช่มั้ยคะ”

    “ใช่แล้ว”
  • “แล้วพวกฤกษ์เวลานี่ต้องกี่โมงถึงจะดีคะหลวงพี่”

    “ส่วนใหญ่เขาก็เอาพวกเลขเก้าเป็นหลักนะ เก้าโมงอะไรงี้ หรือจะกี่โมงก็ได้ แต่ให้นาทีลงท้ายด้วยเลขเก้า แต่จริงๆ เอาที่โยมสะดวกดีกว่า อย่าไปยึดติดมากนักเลย เอาที่โยมสบายๆ”

    “แล้วดิฉันไม่ต้องเข้าไปให้หลวงพี่ดูชะตาวันเกิด เวลาตกฟากอะไรเลยเหรอคะ คือวันนี้ใช้ได้เลยใช่มั้ยคะ” (อีนี่ก็ยังคงอยากจะเอาวันเกิดตัวเองเข้าไปอยู่บนกระดานชนวนสุดขลังของหลวงพี่)

    “ไม่ต้องหรอกโยม แค่ดูว่าเป็นวันที่พอใช้ได้ เจ้าภาพสะดวก ก็ถือว่าเป็นวันดีแล้ว”

    “ขอบพระคุณมากเลยค่ะหลวงพี่”

    “ด้วยความยินดีคุณโยม เท่านี้นะ”

    “นมัสการค่ะ อ๊ะ หลวงพี่ ชื่อ...”

    แกร๊ก

    ไม่ทัน ยังไม่ทันได้ถามว่าท่านชื่ออะไร ท่านก็ชิงวางสายไปก่อน ถือเป็นโมเมนต์แห่งความไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอของจริง

    และแค่โทรศัพท์กริ๊กเดียว เราก็ได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว

    ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำแบบนี้มั้ย แต่คนคิดน้อยแบบเราไม่ได้หวังอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ชะตาชีวิตเราต้องลิขิตเอง ที่โทร.ไปก็หวังแค่ให้หลวงพี่คอนเฟิร์มว่าวันมันไม่แย่ก็เท่านั้น (มิน่า ชีวิตกูถึงไม่ค่อยเจริญ)

    เราเดินกลับไปที่โต๊ะ หยิบปากกาสีแดงขึ้นมา กาดอกจันตัวใหญ่ลงปฏิทินในช่องวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2557 แล้วยิ้มกริ่ม ลูบเหนียงด้วยความภูมิใจที่หน้าตาแบบนี้ก็หาสามีได้
  • อีกเพียงไม่ถึงสิบเอ็ดเดือน นิดนกคนนี้ จะมีพิธีแต่งงานเป็นของตัวเอง โลกจะได้จารึกว่า ตัวข้านี้มีสามีอย่างเป็นทางการ

    ในใจตอนนั้น อยากจะเข้าไปประกาศในเฟซบุ๊ค อวดโลกด้วยสเตตัสเรียกร้องความสนใจประมาณว่า ‘วันที่ 2 เดือนสอง’ กะว่าต้องได้สัก 67 ไลก์ กับ 45 คอมเมนต์

    แต่ก็กลัวคนอื่นเขาจะหาว่าเราขี้อวด นิดนกเลยเก็บเอาไว้ให้มันอัดอั้นตันใจเล่นอยู่คนเดียวก่อน

    อีกแค่ 11 เดือนเอง...

    11 เดือนแห่งการนับถอยหลังเข้าสู่งานแต่งงาน

    11 เดือนแห่งความหวานแหวว กุ๊กกิ๊ก โรแมนติก

    11 เดือนที่เราจะต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเหมือนที่หลายๆ คนเขาทำกัน

    11 เดือนข้างหน้า เราคงจะต้องทำอะไรอีกมาก ผ่านอะไรอีกเยอะ มีอะไรหลายอย่างมาพิสูจน์หัวใจของเราสองคน แต่เราไม่กลัวหรอก เพราะความรักที่เรามีให้แก่กัน จะเป็นเกราะกำบังที่ช่วยพาเราข้ามผ่านภยันตรายทั้งหลายไปได้ เพียงแค่เราเชื่อมั่น

    ในความรักของเราก็พอแล้ว แค่มีกันและกัน เราก็จะฝ่าฟันไปให้ถึงวันวิวาห์ของเราได้แล้ว ใช่มั้ยคะที่รัก?
    ...
    พอก่อน มึงดูหนังเกาหลีมากเกินไปแล้วนิดนก ฝ่าฟันด้วยความรักอะไรล่ะ เงินก็ยังไม่มี ที่ก็ยังไม่ได้หา ร่างก็บวมเหมือนโดนปาเกียวต่อยมา จะหาชุดเจ้าสาวที่เข้าร่างได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ญาติพี่น้องก็ยังไม่ได้บอก ถ้าเกิดเขาไม่ให้แต่งแล้วจะทำกันยังไง

    เฮ้ย ทำไมเรื่องมันเยอะขนาดนี้วะ!

    และ 11 เดือนของการเตรียมงานแต่งที่มันทะลุไห ห่างไกลความโรแมนติกของดิฉันก็เริ่มตั้งแต่บัดนั้น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in