1
เด็กหญิงนิดนกเติบโตมาในโรงเรียนหญิงล้วน ตั้งแต่ประถมยันมัธยมไม่มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายสักคน (ก็แน่สิวะ!) เราจึงกลายเป็นคนห้าวสนิท มีชีวิตแบบกึ่งทอมกึ่งหญิงในคนคนเดียว เห็นรุ่นพี่ทอมชู้ตบาสอยู่ก็ไปยืนกรี๊ด เจอรุ่นน้องสวยน่ารักก็ไปจีบ พอตกเย็นไปเรียนพิเศษ เจอผู้ชายต่างโรงเรียนก็เขินอาย
ไม่กล้าสบตา (ทำไมมึงมีหลายเพศขนาดนี้จ๊ะ) กว่าจะมีเพื่อนผู้ชายเป็นเรื่องเป็นราวก็ปาเข้าไปมหาวิทยาลัย แรกๆ ก็วางตัวไม่ค่อยถูก ไม่รู้ต้องทำตัวกักขฬะมั้ย เขาถึงจะคุยกับเรา แถมในมหาวิทยาลัยก็ดันมีผู้ชายหน้าตาดีเดินกันขวักไขว่ ไม่เหมือนตามโรงเรียนกวดวิชาที่มีแค่หยิบมือ
นาทีนั้น เราจึงรู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ยุคหินที่รอนแรมมาพบแม่น้ำเป็นครั้งแรก โลกที่มีผู้ชายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง (เอามือลูบคาง) นิดนกจึงปวารณาตนเองเข้าสู่ความเป็นเพศหญิง มุ่งหน้าหาคู่สืบพันธุ์ ดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มิให้สูญหายไปทันที
เดี๋ยวก่อน... ใจคอมึงจ้องจะสืบพันธุ์ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจมาเป็นผู้หญิงเลยหรือไง
เมื่อมีเป้าหมายชัด ขั้นต่อไปก็ต้องลงมือทำ
นิดนกในตอนนั้นเป้าตั้งกับตัวเองว่า (ตั้งเป้าก็พอ...) เราจะต้องออกไปเปิดหูเปิดตาสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเองตามที่ต่างๆ และในทุกที่ที่เราไปนั้น จะต้องมองหาเป้าหมายให้ได้อย่างน้อยหนึ่งคน เราจะเข้าสู่ยุคใหม่ของตัวเราเอง ทำอะไรทำจริง เป็นผู้หญิงเชิงรุก!
2
ช่วงปิดเทอมใหญ่ปี 3 เราไม่อยากอยู่ว่าง (ไหนมึงบอกผู้หญิงเชิงรุก ตัดภาพมาปี 3 เฉย) แต่ก็ไม่อยากเรียนซัมเมอร์ เลยหาอะไรทำแก้ว่างและสร้างรายได้ด้วยการสมัครเข้าฝึกงานกับค่ายมือถือเจ้าหนึ่งที่เขารับเด็กฝึกงานในรูปแบบโครงการที่พิเศษกว่าการฝึกงานแบบทั่วไป คือไม่จำกัดสาขาที่เรียน ถ้าคิดว่ามีความสามารถและทำให้เขาเชื่อว่าเราทำได้ เขาก็จะรับ มีงานให้ทำเป็นโปรเจ็กต์จริงๆ (ไม่ใช่แค่ไปชงกาแฟ) และระหว่างฝึกงาน ก็จะมีกิจกรรมให้ทำร่วมกับเพื่อนในรุ่นเดียวกันด้วย
การคัดเลือกเป็นไปอย่างซับซ้อน ตอนส่งใบสมัครก็มีโจทย์ให้เราทำอะไรก็ได้ อธิบายว่าทำไมบริษัทต้องอยากรับเราเข้าฝึกงาน (นิดนกทำคลิปร้องเพลงบ้าบอส่งเข้าไป) ผ่านจากรอบนี้ก็คัดกันอีกรอบด้วยการเข้าสัมภาษณ์กันเป็นกลุ่ม และสัมภาษณ์กับพี่ที่จะดูแลเราตอนฝึกงานอีกรอบ! ...เข้มข้นยิ่งกว่าการค้นฟ้าคว้าดาว
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะผ่านไปจนถึงรอบสุดท้าย ได้เป็นเด็กฝึกงานโครงการนี้สมใจ แถมได้ไปทำแผนกมาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ (Marketing Communications) ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเอกภาพยนตร์ที่เรียนมาเลย แต่งานมันน่าทำเป็นบ้าก็ขอสู้สักตั้งแหละวะ!
แต่ในความดีใจ ก็มีมุมหวั่นไหว
เราติดเข้าไปหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีเพื่อนสักคน ต้องไปหาเพื่อนเอาดาบหน้า งานก็ไม่รู้จะทำได้มั้ย จะมีใครคบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมกูไม่นอนเกาตูดอยู่บ้านวะ พาตัวเองมาลำบากลำบนทำไมเนี่ย (ทึ้งหัว)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in