เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอน....ที่น่าน
พอกลับมาจากน่านก็รีบพุ่งตัวมาที่นี่ ความรู้สึกที่อยากแชร์ประสบการณ์มันเรียกร้องให้เรามาอยู่ที่ี่นี่ หน้าจอคอม
เอาหล่ะมาเริ่ม
ทริปน่านทริปนี้เป็นทริปแอบสายฟ้าแลปนิดนึง แพลนตอนต้นเดือนม.ค. ไปจริงเกือบๆปลายเดือน
ดอยภูแว - บ้านสะปัน - ณ น่าน [3 วัน 2 คืน]
ตามชื่อหัวข้อเลย เราจะมาโฟกัสกันที่เรื่องเพื่อน ที่เราได้รู้จัก ระหว่างเดินทาง
ที่มาของทริปนี้คือความที่เราไม่ได้ไปปีนเขามาสองปีแล้ว ร่างกายมันwant ธรรมชาติเหลือเกิน
เลยทักไปถาม "แตงโม" เพื่อนที่เราเคยชวนไปปีนเขาเมื่อนานมาแล้ว
ด้วยความที่แตงโมก็ชอบภูเขาด้วย ทริปนี้จึงเกิดขึ้น
เราไม่ได้เลือกภูเขาจากจังหวัดที่เราอยากจะไป แต่เราเลือกภูเขาที่เราอยากจะไปแต่อยู่จังหวัดไหนค่อยว่าอีกที สุดท้ายหวยมาออกที่นี่ ที่ภูแว (รายละเอียดทริปไว้จะอธิบายในอีกบันทึกละกันเนอะ)
ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ที่สุดของการเดินทาง" หรือ ประโยคต่างๆที่มีความหมายสื่อถึงว่าการเดินทางนั้น ความสวยงามที่แท้จริงของมันอยู่ที่ระหว่างทาง ไม่ใช้จุดหมายปลายทางแต่อย่างใด อะไรประมาณนี้
ซึ่งบางคนก็เข้าใจบ้าง บางคนก็ไม่เข้าใจ
เราเป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าใจนะ แต่....การเดินทางครั้งนี้มันยิ่งตอกย้ำถึงประโยคนี้มากขึ้น และเข้าใจในความหมายของมันมากกว่าเดิม
จริงอยู่ที่ความหมายมันออกจะตรงตัว
แต่ถ้าไม่เคยประสบณ์เอง ก็ไม่รู้ จริงไหม
- ขึ้นภูแว -
จนท: "เดี๋ยวน้องต้องมาให้ถึงทางขึ้นก่อนสิบโมงเช้านะ เพราะอีกกลุ่มนึงเค้ามารออยู่แล้ว"
(ไอเราก็คิดว่า เอ้า..จ่ายค่าไกด์แล้วยังต้องไปพร้อมคนอื่นอีกหรอเนี่ย)
เรา: ค่ะๆ ได้ค่ะ
กลุ่มที่เดินทางไปพร้อมกับเรานั้นเป็นกลุ่มเพื่อน 4 คน
ก่อนขึ้นพวกพี่ๆเค้าก็มีความเฮฮา เรียกลุงขวัญ(เจ้าหน้าที่คนนำทาง)ไปถ่ายรูปรวมก่อนขึ้น แล้วก็สลับมาให้เราถ่ายกับลุงบ้าง
พี่ก็ถามชื่อเราเสร็จสรรพ ก็เริ่มเดินขึ้นกันเลย
ช่วงอาหารกลางวันก็ได้นั่งทานด้วยกัน พี่ๆก็แบ่งหมูทอดให้เราด้วยกินไปฟังพี่เค้าคุยกันไป บันเทิงมากๆ
ระหว่างทางพี่ๆก็ชวนเราคุยเป็นระยะๆจนเริ่มสนิทขึ้นมาบ้างพี่เล่าถึงประสบณ์การ การเดินทางไปยังที่ต่างๆของพี่เค้าพร้อมทั้งเปิดรูปประกอบ(มีความป้ายยา) โดยส่วนใหญ่แล้วพี่เค้าจะเดินทางแบบ Backpack และเป็นทริป trekking ซะส่วนใหญ่ ทำให้เราเปิดประสบณ์การณ์มาก
คือพี่เค้าเล่าเป็นแต่ละประเทศ แต่ละภูเขาอย่างงี้เลย
พร้อมปิดท้ายด้วยราคาแสนถูกที่พี่เค้าไปมา พี่เค้าบอก "ไปเลย เนี่ยช่วยlow season"
การที่เราเดินไปคุยไปทำให้ย่นระยะเวลาการเดินขึ้นเขามากๆ รู้สึกไม่ค่อยเหนื่อย
พอตกกลางคืนมันนาวมาก ทุกคนจัต้องมานั่งรวมกันตรงกองไฟที่ ลุงขวัญกับลูกหาบจุดให้
มันเปฌนบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ที่แบบคนไม่รู้จักกัน ได้มาคุยกันถึงเรื่องต่างๆ
มันเป็นฟีลที่สบายใจมากๆ
พอถึงขาลงเขา พวกพี่ๆเค้าล่วงหน้าลงไปก่อนเราไม่นาน ก็คิดว่าอาจจะได้เจอกันข้างล่างอีกที
แต่ที่ไหนได้พี่ๆเค้ากลับไปแล้ว เลยอดได้ลากันเลย
แต่อยากจะบอกพี่เค้าว่า " ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่สวยงามระหว่างปีนเขาค่ะ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in