เช้าวันที่สาม...."
นี่เราต้องลงแล้วหรอเนี่ย"
เก็บของที่จะฝากพี่ลูกหาบให้เรียบร้อย ก็ทานข้าวเช้า มื้อสุดท้ายบนดอยหลวงของพวกเรา พอทานเสร็จก็พร้อมออกเดินทาง โดยมีคุณลุงสิงห์พาเราลงเหมือนเคย
สูดหายใจลึกๆเอาธรรมชาติเข้ามาให้เต็มปอด ก่อนลง แล้วลุยยย!!
เราลงทางปางวัวซึ่งเป็นทางที่ยากและชันกว่า ทางเด่นหญ้าขัดที่เราขึ้นมา แต่ระยะทางจะสั้นกว่า ลุงแกมาส่งเราแค่ครึ่งทาง เพราะแกต้องรอนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่จะขึ้นมาวันนั้น พวกเราเลยลาคุณลุงตั้งแต่ตรงนั้น แล้วออกเดินทางต่อ
"ใครบอกทางนี้ชันวะ ไม่เห็นจะชันเลยย" นี่คือคำพูดของเรา ก่อนที่เราจะพบกับ 'ของจริง'
เดินมาซักพักก็พบกับความชิบหายครั้งยิ่งใหญ่ พวกเราเดินมาถึงตรงทางที่เละ ลื่น ชัน และไม่มีอะไรให้เกาะ เป็นการเดินลงที่ลำบากมากกว่าจะก้าวได้แต่ละก้าวใช้เวลาคิดอยู่นานว่ากูจะเอาขาลงตรงไหนดีวะ
"โหดสัสสส!" เป็นคำพูดของเราหลังเจอ 'ของจริง'
ในที่สุดเราก็ลงมาถึงข้างล่าง เราก็พอว่ารถกระบะได้รอรับเราอยู่แล้ว 'จะได้กลับบ้านแล้วววว' ดีใจเล็กๆ พี่คนขับพาเราไปส่งที่รอรถบัสเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
ระหว่างรอรถ เราก็ทานอาหารกลางวันที่คุณลุงสิงห์ทำให้เราติดตัวกันลงมา
พอขึ้นรถบัส ก็หลับกันเป็นตายจนถึงตัวเมืองเลย เมื่อเรามาถึงสถานีขนส่งช้างเผือกอีกครั้ง เราก็หารถแดงต่อไปยังสถานีรถไฟ เพื่อไปขึ้นรถไฟตู้นอนสายใหม่อุตราวิถีกลับกรุงเทพฯกัน
เป็นทริปที่สนุก และ โหดมากจริงๆ ถ้าถามว่าจะไปอีกมั้ย? ไปอีกแน่นอน เป็นทริปที่คุ้มค่ามาก
แต่เหนื่อยมากเช่นกัน....
"จุดหมายปลายทางไม่ใช่ที่สุดของการเดินทาง...."
ขอบคุณ ลุงสิงห์ที่คอยดูแลเราตลอดทริปนี้ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in