ความลับของ BITCOIN - Crypto Defi

BITCOIN ( ยาวนะ แบบเพ้อ เขียนไปเรื่อย แต่ก็ว่าสาระ อยู่ครับ )
ถ้าขี้เกียจอ่านแนะนำให้ไปฟัง link ล่างสุดของ โพสต์เลยครับ ฟังมาเหมือนกัน

ล่าสุดฟังคลิปของ อ.พิริยะ กับ คุณคิม เปิดโลกเกี่ยวกับ BITCOIN ขึ้นเยอะเลยครับ ทำให้มุมมองใน BITCOIN เปลี่ยนไป ดูมันยิ่งใหญ่กว่าแค่เรื่องการเงิน การลงทุนเยอะเลย

- BITCOIN ไม่ใช่ BLOCKCHAIN เราอาจจะบอกว่า มันก็มาจากเทคโนโลยีของ BLOCKCHAIN แต่จริงๆแล้ว BITCOIN ประกอบขึ้นด้วยหลายเทคโนโลยี ดังนั้น จะต้องบอกว่า BITCOIN ประกอบไปด้วยหลายแนวคิด หลายเทคโนโลยีและหนึ่งในนั้นคือ เทคโนโลยี blockhain

- BITCOIN ไม่ได้เพิ่งเกิดมาในปี 2009 จากแนวคิดที่คนรุ่นใหม่สร้างกันเพียวๆ เพราะในความเป็นจริงแล้วมันมีที่มาที่ไปมากว่า 40 -50 ปี แล้วจากแนวคิดของกลุ่ม CypherPunk ที่พยายามหาวิธีต่างๆ ในการล้มระบบการเงิน หรือระบอบเดิมๆที่คอยเป็นสิ่งที่ควบคุมผู้คนภายใต้นโยบายรัฐ ซึ่งนั่นก็คือ เงิน

- เราลองนึกภาพดู เราทำงานเก็บเงินไว้ วันหนึ่งเรามีเงินมากพอก็ออกจากงานใช้ชีวิตปกติ เราโดนโจรปล้นเงินลดน้อยลง เราก็ต้องกลับไปหาเงินใหม่ แจ้งตำรวจ แต่ถ้าหากเงินนั้นถูกปล้นโดยรัฐล่ะ

- รัฐปล้นเรายังไง วันที่เรามีเงินพอและเก็บไว้ใช้จ่ายไปเรื่อยๆ 1 ล้านบาท เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเงินจำนวนนี้อาจไม่พออยู่ถึง 3 ปี เพราะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น การพิมพ์เงินอัดเข้าระบบของรัฐบาล แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ได้เงินเหล่านั้นพร้อมๆกัน ใครอยู่ในแนวทางของรัฐก็ได้ไป เงิน 1 ล้านของเราที่เก็บอย่างดีกลับมีมูลค่าลดลงไม่ต่างอะไรจากการโดนปล้นแล้วเราจะโทษใคร โทษที่เราไม่ลงทุนเองนั้นเหรอ

- ในประเทศไทยเราเองเราบอกว่า เราไม่ได้มีการพิมพ์เงิน แต่ก็ออกมาในรูปแบบการกู้ แน่นอนว่าเงินเหล่านั้นทำให้มีเงินบาทมากขึ้น ที่อัดเข้าไปในระบบ ร้านที่เข้าโครงการตามแนวทางรัฐก็ได้เงิน แต่ร้านที่ไม่ร่วมอาจมีล้มหายกันไปนั่นคือความผิดที่เราไม่รู้จักปรับตัว หรือมันคือเพราะแค่เราไม่ปฏิบัติตามแนวทางของรัฐ

- และถึงแม้พวกเราทุกคนจะไม่ได้ประโยชน์ จากเงินในระบบที่ฉีดเข้ามานั้น แต่ถ้าพูดถึงการใช้หนี้ พวกเรากลับต้องเสียทุกคนในรูปแบบ ข้าวของที่แพงจากเงินเฟ้อ ปัจจัยพื้นฐานค่าน้ำไฟที่รัฐเป็นผู้จัดการ หรือ ชัดเจนที่สุดคือ ภาษีที่รัฐใช้ในการเรียกเก็บรายได้ของประชาชนเพื่อให้รัฐนำไปจัดการ

- ความฝันที่คนเราจะได้มีอิสรภาพ ได้ใช้ชีวิตตามเจตจำนงเสรี จึงถูกปิดกั้นไปกลายๆ ให้เราต้องเคลื่อนไหวตามเศรษฐกิจ และนโยบายทางภาครัฐที่ออกมาและเราไม่ได้มีสิทธิอะไรในการควบคุม

- มันจึงเป็นที่มาของการดิ้นรนคิดค้นให้เราหลุดออกจากระบบการเงินแบบเก่าๆที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนของภาครัฐ นั่นคือความคิดมุ่งหมายของกลุ่ม CypherPunk

- มีผลิตภัณฑ์ แนวคิดมากมายที่ถูกคิดค้นมาตลอดในระยะเวลา 40-50 ปี ที่ผ่านมานี้และวิธีออกมามากมายนั้นก็เปรียบเสมือน ราก ลำต้น อะไรดีไปต่ออะไรใช่ไม่ได้ตัดทิ้งจน จนพัฒนาออกดอกผลมาเป็น BITCOIN ในปัจจุบัน นี้ ที่ยังคงอยู่มาตั้งแต่การประกาศ whitepaper ของ ซาโตชิ (นามแฝง) และคงอยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและดูท่าจะ WORK ซะด้วย

- มีการกล่าวโดยนักลงทุนระดับโลก Ray Dalio ว่าอันตรายเดียวของ Bitcoin อาจจะเป็นเรื่องความสำเร็จของมัน เพราะ ศัตรูทางธรรมชาติของ Bitcoin นั้นคือ รัฐบาล ยิ่งมันประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ มันก็จะถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจ หรือรัฐบาลมากเท่านั้น

- แล้วรัฐบาลจะจัดการมันยังไง Bitcoin ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ มันไม่มีตัวตน ไม่มีหัวเรือ ไม่มีผู้นำ อันที่จริงแล้วมันเหมือนมะเร็งที่รุกรามไปมากกว่า แล้วคุณจะเริ่มฆ่ามันจากตรงไหน

- BITCOIN มีเครื่องประมวลผลอยู่ทุกที่ทั่วโลก หากคุณจะฆ่ามันเชิงกายภาพแล้วคุณต้องทำลายระบบนี้ทั้งหมด ซึ่งอาจจะหมายถึงต้องดับไฟทั่วทั้งโลกซึ่งหากเป็นแบบนั้นปัญหา BITCOIN อาจจะเป็นปัญหาสุดท้ายก็ได้ที่คุณจะต้องแก้จากการไม่มีไฟฟ้าใช้

- การโจมตีเดียวที่ยังพอทำได้จึงต้องโจมตีไปที่ ความมั่นคงของมันเช่น ข่าว ทำให้มันดูไม่น่าเชื่อถือ ให้ดูเหมือนว่าซักวันมันจะหายไป เพื่อให้คนเลิกเชื่อถือในมันและปล่อยให้มันหายไปเอง

- BITCOIN ทำให้โลกร้อน อันที่จริงจากข้อมูล BITCOIN น่าจะใช้ไฟเพียง 0.5% ของโลก ซึ่งนั่นทำให้โลกร้อนจริงเหรอ แล้ว 99.5 % ที่เหลือนั่นล่ะ การใช้ไฟของ BITCOIN เป็นไปตามเศรษฐกิจอยู่แล้ว ไม่มีใครขุด BITCOIN เพื่อการกุศล มันเป็นเรื่องของรายได้ทั้งนั้น ไม่มีใครสนหรอกว่าพลังงานมาจากไหน ถ้าพลังงานไหนถูก คนก็จะย้ายไปใช้เอง คำถามคือทำไมพลังงานสกปรกถึงยังถูกกว่าตั้งหากล่ะ แน่ใจใช่มั้ยว่าไม่ใช่เพราะพวกมันสร้างรายได้ให้กับผู้มีอำนาจเดิมๆอยู่

- ดังนั้นจากข้างต้น BITCOIN คงจะหมดประโยชน์ไปเลยล่ะ ถ้ารัฐบาลมีการจัดการที่ดี เลิกแทรกแซงระบบ มีความโปร่งใส ทำให้สิทธิของทุกคนเท่าเทียมกันได้จริงๆ ถึงตอนนั้นใครจะยังไปให้ค่ากับ Bitcoin แต่ก็ต้องย้อนถามว่าเราจะมีวันนั้นกันมั้ย

- มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้เพื่อการทำอารยะขัดขืน ซึ่งมาในคราบของแชร์ลูกโซ่ ก็เพราะว่ามันไม่มีใครควบคุม ดังนั้น ราคา ก็เกิดการขึ้นลง การเกร็งราคา และนั่นก็ทำให้มันแข็งแกร่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก เลยไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียกันแน่

- ในกลุ่มคนที่คลั่งไคล้ BITCOIN ส่วนใหญ่ไม่เคยสนว่ามันราคาเท่าไหร่เพราะเขาเชื่อใน BITCOIN มากกว่าสกุลเงินใดๆในโลก ไม่ว่าจะขึ้นหรือจะลงสำหรับพวกเขา 1 bitcoin ก็คือ 1 bitcoin แต่เรา ( ผู้เขียน ) สนนะ เขิลจุง

ปล.ตั้งแต่เข้าตลาดคลิปโต ไม่เคยสนใจ หรือ ซื้อ BITCOIN เลยแม้แต่ครั้งเดียว หลังจากฟังอาจารย์เค้าแล้ว เอ้อ นี่เราควรต้องหันไปเก็บไว้บ้างละนะ 0.0000001 ก็ยังถือว่ามี .

นี่ไม่ใช่คำแนะนำในด้านการลงทุนนะครับแค่ว่าพอคิดตามเขาแล้วมันก็สนุกดี

https://www.youtube.com/watch?v=hr9lNy4fd2g...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น