เล่ม 1 ตอนที่ 27 คนน่าสงสารที่ถูกใช้เยี่ยงทาส
ตั้งแต่ต้นจนจบก็มีเพียงองครักษ์น้อยตรงหน้าคนนี้เท่านั้นที่ทดสอบขีดจำกัดของไท่จื่อบ่อยครั้ง แต่ยังมีชีวิตรอดอยู่
สายตาเขาแปลกไป “การเลือกของขวัญวันเกิดเป็นเรื่องใหญ่ไท่จื่อนั่นก็เพราะยกย่องเจ้า เจ้าคิดไร้สาระอะไรกัน”
หนิงเจิงไม่อยากได้ความยกย่องเช่นนี้ จึงได้มองเขาอย่างน่าสงสาร
จ้าวซู่ “…”
เกิดอะไรขึ้นถึงได้มีความรู้สึกเห็นด้วยกับไท่จื่อกะทันหัน
ณ ตำหนักชิงเฟิง
เยี่ยเหลียงเซวียนเดินวนไปมาอยู่ในห้องมาครึ่งวันแล้วในที่สุดก็รอจนประตูถูกเปิดออก
ดวงตาของนางเป็นประกายรีบมองไป “เป็นอย่างไรบ้าง”
มู่เอ๋อร์เดินเข้ามาอย่าวรวดเร็ว กล่าวยิ้มๆ
เยี่ยเหลียงเซวียนดวงตาเป็นประกายมากขึ้นอีก
บัดนี้ นางเพิ่งจะเข้าจวนได้ไม่นานก็มีความสัมพันธ์กระด้างกระเดื่องกับไท่จื่อเสียแล้วจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้ต้องหาโอกาสปรับความเข้าใจให้ได้
เดิมทีนางไม่มีสิทธิ์ไปกับไท่จื่อ เพียงแต่ว่าเยี่ยหลินหรันเป็นน้องชายแท้ๆของบิดาของนาง ดังนั้นนางไม่จำเป็นต้องไปในฐานะ ‘
ถึงครานั้นเมื่อพบไท่จื่อค่อยให้ท่านอาช่วยพูดเล็กน้อยเช่นนั้นเพียงแค่หนิงเจิงจะไปกลัวอะไร!
สุดท้ายหนิงเจิงได้เลือกหยกมงคลคู่ หินปะการังโมราสองชิ้นแล้วก็ผ้าไหมบางเบาชั้นดีหลายผืนเมื่อเห็นสายตาของจ้าวซู่ที่รู้สึกว่าของขวัญวันเกิดไม่มีปัญหาอะไรแล้วจึงได้นำของออกจากคลัง แล้วตามไท่จื่อไปที่จวนอัครมหาเสนาบดี
ตั้งแต่เช้ายันตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องนางเลยขณะนี้กำลังหิวโซจนท้องไส้บิดเกลียวแล้ว
เซียวหนานสวินมาถึงช้ากว่าแขกคนอื่นๆดังนั้นตรงหน้าประตูจวนอัครเสนาบดีก็เหลือเพียงญาติต้อนรับเท่านั้น
เมื่อเห็นไท่จื่อมาถึงก็รีบไปรายงานทันที
ไม่นาน เยี่ยหลินหรันก็ปรากฏตัวที่ประตูใหญ่ สีหน้ากรุณาและอบอุ่นทำความเคารพมาแต่ไกล “ต้อนรับไท่จื่อข้าเสียมารยาทที่ไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง!”
เซียวหนานสวินยกมือขึ้นเบาๆ “ไม่ต้องมากพิธีไปวันนี้เป็นวันเกิดของท่าน เปิ่นกงเป็นเพียงแขกรับเชิญเท่านั้น”
เยี่ยหลินหรันรีบส่ายศีรษะ “มารยาทนั้นเสียไม่ได้ไม่ว่าอย่างไรไท่จื่อก็เป็นไท่จื่อ เชิญเข้ามาประทับด้านในก่อน ให้กระหม่อมได้ดูแลพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”
คำปฏิเสธของเซียวหนานสวินมาถึงปลายลิ้นแล้ว แต่ทว่าในขณะนั้นเอง
สีหน้าผู้คนผันเปลี่ยน
เสียงอะไรกัน
เยี่ยหลินหรันมองตามต้นเสียงด้วยความสงสัยพบกับใบหน้าที่กำลังยิ้มแป้น
เขาอึ้งไปชั่วขณะ “คนนี้คือ…”
เซียวหนานสวินมีสีหน้ารังเกียจ
หนิงเจิงยิ่งเขินอายจนต้องก้มศีรษะลง กล่าวด้วยอาการเหงื่อตก
เยี่ยหลินหรันขบขัน “ไม่เป็นไรๆ”เขาโบกมือ “ในเมื่อเจ้าเด็กนี่หิวแล้วเช่นนั้นก็รีบเข้ามารับประทานด้วยกันเร็ว”
หนิงเจิงปิดหน้า แทบจะขุดหลุมฝังตนเองแล้ว
นางแอบมองไท่จื่อไปแวบหนึ่ง คิดว่าตนจะถูกก่นด่าเสียแล้วแต่โชคดีที่ครั้งนี้เซียวหนานสวินไม่ได้ว่าอะไรรีบก้าวเดินเข้าไปในจวนอัครเสนาบดีโดยตรง
หนิงเจิงยื่นของขวัญวันเกิดให้กับข้ารับใช้ในจวนอัครมหาเสนาบดี แล้วรีบเดินตามชายหนุ่มไป
งานฉลองในวันนี้จัดขึ้นที่สวนบุปผาของจวนอัครมหาเสนาบดี เป็นบรรยากาศเรียบง่ายรอบบริเวณเต็มไปด้วยอาหารและสุราอันโอชะ แขกที่มาร่วมงานสามารถหยิบได้ตามใจชอบ
เซียวหนานสวินไม่ชอบงานรื่นเริง คนอื่นๆ เข้ามาทักทายเขาเสร็จก็จากไปแล้ว
อัครมหาเสนาบดีเยี่ยเองก็ถูกเขาบอกให้ไปทักทายแขกคนอื่นดังนั้นที่แห่งนี้จึงมีแค่เขาและหนิงเจิงสองคน
เสียงอันเยือกเย็นของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหูหนิงเจิงมองเขาอย่างเขินอาย พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
เซียวหนานสวินเงียบขรึมไปชั่วขณะ ยกมือขึ้นชี้ที่ผลไม้บนโต๊ะ
หนิงเจิงอึ้ง ดวงตาเป็นประกาย
ไท่จื่อใจดีขึ้นมากะทันหันแล้วหรือ
ในใจนางเต็มไปด้วยความปลื้มปีติและซาบซึ้ง รู้สึกว่าในที่สุดไท่จื่อก็เปลี่ยนแปลงไปภายใต้อิทธิพลของนางดังนั้นขณะที่นางกำลังแกะเนื้อเกาลัดออกมา แล้วชายหนุ่มก็ยื่นมือออกมาหานางนั้นในใจของนางจึงมีความรู้สึกไม่เข้าใจนัก
หนิงเจิงไม่เข้าใจต่อไป “พระองค์จะเสวยด้วยหรือ”
เซียวหนานสวินขมวดคิ้วมุ่น “มิเช่นนั้นล่ะเปิ่นกงว่างไม่มีอะไรทำจะสั่งให้เจ้าแกะเกาลัดอย่างนั้นหรือ”
นางต้องคิดว่าแกะให้ตัวนางเองอยู่แล้วน่ะสิ
หนิงเจิงแทบจะร้องไห้ คาดหวังให้ไท่จื่อเป็นคนดีนี่มันยากจริงๆ
นางยื่นเนื้อเกาลัดในมือออกไปอย่างน่าสงสารชายหนุ่มรับไปโดยไม่มองนางแม้แต่นิดเดียว ทั้งยังกล่าวเสริมนิ่งๆ ว่า
หนิงเจิง “…”
นางจึงได้แกะเกาลัดอย่างน่าสงสารราวกับเป็นคนน่าสงสารที่ถูกใช้เยี่ยงทาสอย่างไรอย่างนั้น
ขณะที่เยี่ยเหลียงเซวียนเดินเข้ามาก็เห็นฉากนี้
มีเพียงช่วงที่หนิงเจิงแกะเสร็จเงยหน้าขึ้นเขาถึงจะแสร้งทำเป็นเบนสายตาเหมือนกับว่าตั้งใจหลบหลีกเหมือนกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าเขากำลังแอบมอง
ชายหนุ่มที่มักจะยุ่งอยู่ตลอดเวลาคนนี้ตอนนี้กลับมีความอดทนได้เพียงนี้ และมีอารมณ์ปล่อยวางเช่นนี้
เยี่ยเหลียงเซวียนโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเก็บซ่อนความโกรธไว้แล้วเดินเข้าไปทำความเคารพ “
สายตาของเซียวหนานสวินชะงักละสายตาจากหนิงเจิงแล้วกวาดมองไปที่นางแวบหนึ่ง “
เยี่ยเหลียงเซวียนกล่าวจบก็จ้องไปที่หนิงเจิงเขม็ง
หนิงเจิงตกใจ จึงลองยื่นเกาลัดในมือออกไป
กินบ้ากินบออะไรกัน!
เยี่ยเหลียงเซวียนไม่มีแรงอาละวาดแล้ว บ่าวชั้นต่ำคนนี้ต้องจงใจยั่วยุนางเป็นแน่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in