เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 26 หนิงเจิงเป็นคนของเปิ่นกง
  • เล่ม 1 ตอนที่ 26 หนิงเจิงเป็นคนของเปิ่นกง

     

    สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเล็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดังนั้นแล้วเปิ่นกงจะเข้าใกล้เขามากเพียงนี้ แล้วจะทำไม

    เยี่ยเหลียงเซวียนมองเขาด้วยความตกใจและเจ็บปวดแต่เขาเป็นผู้ชายนะเพคะเหตุใดพระองค์…”

    คำพูดของนางจบเพียงเท่านี้!

    เพราะวินาทีต่อมาแขนของเซียวหนานสวินก็ยกขึ้น แต่กลับไม่ได้ผลักบ่าวชั้นต่ำนั่นออกตามที่นางคิดกลับโอบไหล่ของหนิงเจิงโดยตรง!

    เยี่ยเหลียงเซวียนตะลึงเล็กน้อย

    หนิงเจิงขาอ่อนทันทีหน้าแดงก่ำมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ!

    นางอดไม่ได้ที่จะผลักเขาออกแต่แน่นอนว่าไม่สำเร็จ มือของนางยังถูกชายหนุ่มจับไว้ด้วย!

    ทำอะไร

    เซียวหนานสวินก้มมองนาง สีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มต่อหน้าเซวียนเช่อเฟยเจ้ากล้ายั่วยวนข้าหรือ

    ให้ตายเถอะ!

    ใบหน้าของหนิงเจิงยิ่งแดงมากขึ้นกล่าวอย่างเขินอาย ข้า…”

    ช่างเถิดเขาขัดคำพูดนางอย่างเฉยเมย “ในเมื่อเป็นเปิ่นกงเองที่โอ๋เจ้าจนเป็นเช่นนี้เช่นนั้นก็ไม่อาจโทษเจ้าได้

    “…?!”

    หนิงเจิงจะบ้าตาย ไม่ไม่ๆนางรู้สึกว่าคนที่บ้าเป็นชายตรงหน้านี้มากกว่า!

    ใบหน้าของนางแดงข้างหนึ่งเขียวข้างหนึ่งแต่ทว่าคนที่ตกใจกว่านางคือเยี่ยเหลียงเซวียนที่ยืนทรงตัวไม่อยู่

    ไท่จื่อ…” สีหน้าของเยี่ยเหลียงเซวียนซีดเซียว ริมฝีปากสั่นคลอน “พระองค์จงใจทำเช่นนี้ให้หม่อมฉันเห็นหรือเพคะ”

    เซียวหนานสวินหันมองนาง ทำให้เจ้าเห็นอย่างนั้นหรือเขากล่าวเย็นชา เปิ่นกงเพียงแค่อยากบอกเจ้าหนิงเจิงเป็นคนของเปิ่นกง ต่อไปอย่าให้เปิ่นกงเห็นว่าเจ้าใช้วิธีสกปรกมารังแกเขาอีกเข้าใจหรือไม่”

    เยี่ยเหลียงเซวียนตกใจแรง

    เรื่องเมื่อคืน เขาสงสัยนางจริงๆ ด้วย!

    ไม่ท่าทางเขาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าชี้ตัวเป็นนางแล้ว!

    นางกำมือแน่น กัดฟันพูด พระองค์ไม่กลัวว่าหม่อมฉันจะทูลฝ่าบาทเลยหรือ

    หึ

    เซียวหนานสวินยิ้ม เจ้าลองดูก็ได้ดูสิว่าหลังจากที่เสด็จพ่อรู้ พระองค์จะฆ่าปิดปากคนหรือไม่

    เยี่ยเหลียงเซวียนสีหน้าซีดเผือด

    หม่อมหม่อมฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำนางถอยหลังอย่างเร่งรีบ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน!”

    พูดจบไม่รอให้ชายหนุ่มได้พูดอะไรต่อก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองเลย

    เซียวหนานสวินละสายตาก็เห็นว่าคนในอ้อมกอดเริ่มขัดขืนขึ้นมาอีกแล้ว

    ทำเอาเขาหัวเราะออกมาแขนที่เดิมคิดจะยกออกแล้วกดทับลงไปอีกครั้ง โอบไหล่ของนางไว้อีกครั้ง เจิงเอ๋อร์ เจ้าทำอะไรน่ะ

    ดีที่หนิงเจิงไม่สำลักน้ำลายตัวเองตายนางเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทีตะลึงงัน

    ไท่จื่อ!” นางสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วด้วยความสั่นเทาแล้วขยับไปมาอยู่ตรงหน้าเขา “พระองค์รู้หรือไม่ว่ามีกี่นิ้ว

    บ่าวคนนี้คิดว่าเขาบ้าหรือโง่หรืออย่างไรกัน

    เซียวหนานสวินสีหน้าครึ้มลงดึงมือกลับอย่างไร้สีหน้าและอารมณ์

    เจ้าคิดว่าเปิ่นกงจะชอบเจ้าจริงหรือเขากล่าวเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา แม้ว่าเปิ่นกงจะชอบผู้ชายจริงคนอย่างเจ้าไม่มีทางอยู่ในสายตาเปิ่นกงเป็นแน่

    เมื่อครู่ยังชื่มชมคนอื่นตอนนี้มาว่าคนอื่นอัปลักษณ์เสียแล้ว!

    หนิงเจิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อไท่จื่อมีพระเนตรสูงส่งเหตุใดเมื่อครู่จึงได้ทั้งกอดทั้งโอบกระหม่อม ทั้งยังพูดจาชวนเข้าใจผิดอีกด้วยล่ะพ่ะย่ะค่ะ

    เซียวหนานสวินมองนางด้วยสายตาอันเยือกเย็น แน่นอนว่าต้องทำให้เซวียนเช่อเฟยเห็นอยู่แล้วมิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ

    ครั้งแรกเขาสามารถทนได้ทั้งยังให้หนิงเจิงทนไว้ได้ แต่ทว่าเยี่ยเหลียงเซวียนยังคงไม่สำนึกแถมยังยิ่งรุนแรงขึ้นอีก เขาไม่มีทางปล่อยให้จวนไท่จื่อเกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นอีกแน่

    หนิงเจิงโกรธ เมื่อครู่พระองค์ยังปฏิเสธอีก!”

    เปิ่นกงพูดไปอย่างนั้นแหละ

    เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น พูดเสริมไปอีกว่าหนิงเจิงเจ้าคงไม่ได้มีความคิดอันไม่สมควรต่อเปิ่นกงหรอกนะ

    พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมาก น่าเสียดาย เปิ่นกงไม่มีทาง…”

    ไม่พ่ะย่ะค่ะ!” หนิงเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “พระองค์วางใจได้ กระหม่อมไม่มีความคิดอื่นใดนอกจากนายบ่าวเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

    สายตาของเซียวหนานสวินเย็นวูบ ไม่มียิ่งดี!”

    เขาจ้องนางด้วยสายตาอำมหิตอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง ตอนนี้เจ้าต้องออกไปกับเปิ่นกง

    แม้นว่าหนิงเจิงจะรู้สึกว่าสายตาของเขาน่ากลัวมากก็ตามแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามว่าจะไปที่ใด ทำได้เพียงพยักหน้ารับ

    พ่ะย่ะค่ะ

     

    ตอนแรกนางคิดว่าชายคนนี้มีเรื่องทางการต้องจัดการแต่สุดท้ายพบว่าไม่ใช่เลย!

    ทั้งหมดล้วนเป็นการจ่ายตลาดไปเรื่อยเปื่อยทั้งยังโยนของใส่นางอย่างไม่หยุดหย่อน!

    จนกระทั่งของเหล่านั้นสูงกว่านางสองเท่าแล้วจึงได้จำใจปล่อยนางไปแล้วกลับไปที่จวนไท่จื่อ

    ดีซื้อก็ซื้อเถอะ มีเงินนี่!

    แต่ทว่า

    หลังจากกลับจวนไอ้คนสารเลวคนนี้กลับให้นางนำสิ่งเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับคนใช้ในจวน!

    หนิงเจิงรู้แล้วเขาไม่ได้ทำเพื่อซื้อของแต่อย่างใด แค่จงใจแกล้งนางเท่านั้น!

    ไปตายซะ!”

    หนิงเจิงแจกจ่ายของเสร็จก็เหนื่อยจนยกแขนไม่ขึ้นแล้วแทบจะไม่มีแรงอาละวาดแล้ว

    แต่ทว่านางเพิ่งก่นด่าเสร็จก็ได้ยินเสียงอันคมชัดดังขึ้นบ่าวตัวดีด่าใครกัน

    หนิงเจิงตกใจ คิดว่าตนถูกจับได้เสียอีกจนกระทั่งเห็นจ้าวซู่ที่ยืนอยู่ข้างดอกกุหลาบที่ห่างออกไปไม่ไกลนักถึงได้ทุบอกอย่างโล่งใจ พร้อมกับกล่าวยิ้มๆ จ้าวกงกง ข้าน้อยเจอของขวัญที่จะให้แล้ว

    จ้าวซู่จ้องนางเขม็งงานฉลองวันเกิดของอัครมหาเสนาบดีเยี่ยในวันนี้ฝ่าบาทมีพระบัญชาให้ไท่จื่อเป็นตัวแทนไปเข้าร่วมงานแทนพระองค์อีกประเดี๋ยวจะออกเดินทางแล้ว ไท่จื่อมีคำสั่งให้เจ้าไปเลือกของขวัญวันเกิดที่คลังเก็บของสักสองสามชิ้น

    ได้ จบไปหนึ่งอย่างมาอีกหนึ่งอย่าง ไท่จื่อบ้าบอนั่นกำลังใช้แรงงานทำให้นางเหนื่อยตายชัดๆ!

    ที่สำคัญคือนางไม่มีประสบการณ์เลือกของขวัญวันเกิดเลยเขาไม่กลัวนางเลือกผิดเลยหรืออย่างไรกัน!

    หนิงเจิงกัดฟันเกือบจะหยิบเรื่อยเปื่อยไม่กี่ชิ้นแล้วส่งไปที่จวนอัครเสนาบดีเลยอย่างไรก็ขายหน้าจวนไท่จื่ออยู่แล้ว!

    แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าอันน่าหวาดกลัวของไท่จื่อนางจึงลบล้างความคิดนั้นทิ้ง

    สุดท้ายทำได้เพียงมองจ้าวซู่ด้วยความหวัง เช่นนั้นประเดี๋ยวต้องขอไหว้วานให้กงกงช่วยข้าเลือกแล้ว

    จ้าวซู่ส่ายศีรษะหน้าตั้ง ไท่จื่อบอกแล้วว่าให้เจ้าเป็นคนเลือกเองทั้งหมดคนอื่นห้ามยุ่งเด็ดขาด

    หนิงเจิงแทบเป็นลมล้มพับ

  • เล่ม 1 ตอนที่ 26 หนิงเจิงเป็นคนของเปิ่นกง

     

    สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเล็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดังนั้นแล้วเปิ่นกงจะเข้าใกล้เขามากเพียงนี้ แล้วจะทำไม

    เยี่ยเหลียงเซวียนมองเขาด้วยความตกใจและเจ็บปวดแต่เขาเป็นผู้ชายนะเพคะเหตุใดพระองค์…”

    คำพูดของนางจบเพียงเท่านี้!

    เพราะวินาทีต่อมาแขนของเซียวหนานสวินก็ยกขึ้น แต่กลับไม่ได้ผลักบ่าวชั้นต่ำนั่นออกตามที่นางคิดกลับโอบไหล่ของหนิงเจิงโดยตรง!

    เยี่ยเหลียงเซวียนตะลึงเล็กน้อย

    หนิงเจิงขาอ่อนทันทีหน้าแดงก่ำมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ชายคนนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ!

    นางอดไม่ได้ที่จะผลักเขาออกแต่แน่นอนว่าไม่สำเร็จ มือของนางยังถูกชายหนุ่มจับไว้ด้วย!

    ทำอะไร

    เซียวหนานสวินก้มมองนาง สีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มต่อหน้าเซวียนเช่อเฟยเจ้ากล้ายั่วยวนข้าหรือ

    ให้ตายเถอะ!

    ใบหน้าของหนิงเจิงยิ่งแดงมากขึ้นกล่าวอย่างเขินอาย ข้า…”

    ช่างเถิดเขาขัดคำพูดนางอย่างเฉยเมย “ในเมื่อเป็นเปิ่นกงเองที่โอ๋เจ้าจนเป็นเช่นนี้เช่นนั้นก็ไม่อาจโทษเจ้าได้

    “…?!”

    หนิงเจิงจะบ้าตาย ไม่ไม่ๆนางรู้สึกว่าคนที่บ้าเป็นชายตรงหน้านี้มากกว่า!

    ใบหน้าของนางแดงข้างหนึ่งเขียวข้างหนึ่งแต่ทว่าคนที่ตกใจกว่านางคือเยี่ยเหลียงเซวียนที่ยืนทรงตัวไม่อยู่

    ไท่จื่อ…” สีหน้าของเยี่ยเหลียงเซวียนซีดเซียว ริมฝีปากสั่นคลอน “พระองค์จงใจทำเช่นนี้ให้หม่อมฉันเห็นหรือเพคะ”

    เซียวหนานสวินหันมองนาง ทำให้เจ้าเห็นอย่างนั้นหรือเขากล่าวเย็นชา เปิ่นกงเพียงแค่อยากบอกเจ้าหนิงเจิงเป็นคนของเปิ่นกง ต่อไปอย่าให้เปิ่นกงเห็นว่าเจ้าใช้วิธีสกปรกมารังแกเขาอีกเข้าใจหรือไม่”

    เยี่ยเหลียงเซวียนตกใจแรง

    เรื่องเมื่อคืน เขาสงสัยนางจริงๆ ด้วย!

    ไม่ท่าทางเขาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าชี้ตัวเป็นนางแล้ว!

    นางกำมือแน่น กัดฟันพูด พระองค์ไม่กลัวว่าหม่อมฉันจะทูลฝ่าบาทเลยหรือ

    หึ

    เซียวหนานสวินยิ้ม เจ้าลองดูก็ได้ดูสิว่าหลังจากที่เสด็จพ่อรู้ พระองค์จะฆ่าปิดปากคนหรือไม่

    เยี่ยเหลียงเซวียนสีหน้าซีดเผือด

    หม่อมหม่อมฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำนางถอยหลังอย่างเร่งรีบ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน!”

    พูดจบไม่รอให้ชายหนุ่มได้พูดอะไรต่อก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองเลย

    เซียวหนานสวินละสายตาก็เห็นว่าคนในอ้อมกอดเริ่มขัดขืนขึ้นมาอีกแล้ว

    ทำเอาเขาหัวเราะออกมาแขนที่เดิมคิดจะยกออกแล้วกดทับลงไปอีกครั้ง โอบไหล่ของนางไว้อีกครั้ง เจิงเอ๋อร์ เจ้าทำอะไรน่ะ

    ดีที่หนิงเจิงไม่สำลักน้ำลายตัวเองตายนางเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทีตะลึงงัน

    ไท่จื่อ!” นางสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วด้วยความสั่นเทาแล้วขยับไปมาอยู่ตรงหน้าเขา “พระองค์รู้หรือไม่ว่ามีกี่นิ้ว

    บ่าวคนนี้คิดว่าเขาบ้าหรือโง่หรืออย่างไรกัน

    เซียวหนานสวินสีหน้าครึ้มลงดึงมือกลับอย่างไร้สีหน้าและอารมณ์

    เจ้าคิดว่าเปิ่นกงจะชอบเจ้าจริงหรือเขากล่าวเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา แม้ว่าเปิ่นกงจะชอบผู้ชายจริงคนอย่างเจ้าไม่มีทางอยู่ในสายตาเปิ่นกงเป็นแน่

    เมื่อครู่ยังชื่มชมคนอื่นตอนนี้มาว่าคนอื่นอัปลักษณ์เสียแล้ว!

    หนิงเจิงกล่าวด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อไท่จื่อมีพระเนตรสูงส่งเหตุใดเมื่อครู่จึงได้ทั้งกอดทั้งโอบกระหม่อม ทั้งยังพูดจาชวนเข้าใจผิดอีกด้วยล่ะพ่ะย่ะค่ะ

    เซียวหนานสวินมองนางด้วยสายตาอันเยือกเย็น แน่นอนว่าต้องทำให้เซวียนเช่อเฟยเห็นอยู่แล้วมิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ

    ครั้งแรกเขาสามารถทนได้ทั้งยังให้หนิงเจิงทนไว้ได้ แต่ทว่าเยี่ยเหลียงเซวียนยังคงไม่สำนึกแถมยังยิ่งรุนแรงขึ้นอีก เขาไม่มีทางปล่อยให้จวนไท่จื่อเกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นอีกแน่

    หนิงเจิงโกรธ เมื่อครู่พระองค์ยังปฏิเสธอีก!”

    เปิ่นกงพูดไปอย่างนั้นแหละ

    เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น พูดเสริมไปอีกว่าหนิงเจิงเจ้าคงไม่ได้มีความคิดอันไม่สมควรต่อเปิ่นกงหรอกนะ

    พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมาก น่าเสียดาย เปิ่นกงไม่มีทาง…”

    ไม่พ่ะย่ะค่ะ!” หนิงเจิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “พระองค์วางใจได้ กระหม่อมไม่มีความคิดอื่นใดนอกจากนายบ่าวเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

    สายตาของเซียวหนานสวินเย็นวูบ ไม่มียิ่งดี!”

    เขาจ้องนางด้วยสายตาอำมหิตอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง ตอนนี้เจ้าต้องออกไปกับเปิ่นกง

    แม้นว่าหนิงเจิงจะรู้สึกว่าสายตาของเขาน่ากลัวมากก็ตามแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามว่าจะไปที่ใด ทำได้เพียงพยักหน้ารับ

    พ่ะย่ะค่ะ

     

    ตอนแรกนางคิดว่าชายคนนี้มีเรื่องทางการต้องจัดการแต่สุดท้ายพบว่าไม่ใช่เลย!

    ทั้งหมดล้วนเป็นการจ่ายตลาดไปเรื่อยเปื่อยทั้งยังโยนของใส่นางอย่างไม่หยุดหย่อน!

    จนกระทั่งของเหล่านั้นสูงกว่านางสองเท่าแล้วจึงได้จำใจปล่อยนางไปแล้วกลับไปที่จวนไท่จื่อ

    ดีซื้อก็ซื้อเถอะ มีเงินนี่!

    แต่ทว่า

    หลังจากกลับจวนไอ้คนสารเลวคนนี้กลับให้นางนำสิ่งเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้กับคนใช้ในจวน!

    หนิงเจิงรู้แล้วเขาไม่ได้ทำเพื่อซื้อของแต่อย่างใด แค่จงใจแกล้งนางเท่านั้น!

    ไปตายซะ!”

    หนิงเจิงแจกจ่ายของเสร็จก็เหนื่อยจนยกแขนไม่ขึ้นแล้วแทบจะไม่มีแรงอาละวาดแล้ว

    แต่ทว่านางเพิ่งก่นด่าเสร็จก็ได้ยินเสียงอันคมชัดดังขึ้นบ่าวตัวดีด่าใครกัน

    หนิงเจิงตกใจ คิดว่าตนถูกจับได้เสียอีกจนกระทั่งเห็นจ้าวซู่ที่ยืนอยู่ข้างดอกกุหลาบที่ห่างออกไปไม่ไกลนักถึงได้ทุบอกอย่างโล่งใจ พร้อมกับกล่าวยิ้มๆ จ้าวกงกง ข้าน้อยเจอของขวัญที่จะให้แล้ว

    จ้าวซู่จ้องนางเขม็งงานฉลองวันเกิดของอัครมหาเสนาบดีเยี่ยในวันนี้ฝ่าบาทมีพระบัญชาให้ไท่จื่อเป็นตัวแทนไปเข้าร่วมงานแทนพระองค์อีกประเดี๋ยวจะออกเดินทางแล้ว ไท่จื่อมีคำสั่งให้เจ้าไปเลือกของขวัญวันเกิดที่คลังเก็บของสักสองสามชิ้น

    ได้ จบไปหนึ่งอย่างมาอีกหนึ่งอย่าง ไท่จื่อบ้าบอนั่นกำลังใช้แรงงานทำให้นางเหนื่อยตายชัดๆ!

    ที่สำคัญคือนางไม่มีประสบการณ์เลือกของขวัญวันเกิดเลยเขาไม่กลัวนางเลือกผิดเลยหรืออย่างไรกัน!

    หนิงเจิงกัดฟันเกือบจะหยิบเรื่อยเปื่อยไม่กี่ชิ้นแล้วส่งไปที่จวนอัครเสนาบดีเลยอย่างไรก็ขายหน้าจวนไท่จื่ออยู่แล้ว!

    แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าอันน่าหวาดกลัวของไท่จื่อนางจึงลบล้างความคิดนั้นทิ้ง

    สุดท้ายทำได้เพียงมองจ้าวซู่ด้วยความหวัง เช่นนั้นประเดี๋ยวต้องขอไหว้วานให้กงกงช่วยข้าเลือกแล้ว

    จ้าวซู่ส่ายศีรษะหน้าตั้ง ไท่จื่อบอกแล้วว่าให้เจ้าเป็นคนเลือกเองทั้งหมดคนอื่นห้ามยุ่งเด็ดขาด

    หนิงเจิงแทบเป็นลมล้มพับ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in