เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
องครักษ์หญิงจอมป่วนminimore
เล่ม 1 ตอนที่ 25 ช่างเป็นคนไหวพริบดีจริงๆ!
  • เล่ม 1 ตอนที่ 25 ช่างเป็นคนไหวพริบดีจริงๆ!

     

    เซียวหนานสวินสายตาจริงจังริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง เขาใจเสาะหมือนหนูจริงๆ!”

    สิ้นเสียงเขาก็สะบัดเสื้อแรงๆ หันตัวกลับ

    ไป!”

    ไปหรือ

    ไท่จื่อกลับไปง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ!

    ดังนั้นสิ่งที่หนิงเจิงทำไปเมื่อครู่นี้ทั้งโอบทั้งกอดเสียมารยาทบ่อยครั้ง ไม่เอาเรื่องเลยอย่างนั้นหรือ!

    สีหน้าจ้าวซู่ยิ่งสงสัย หัวหน้าองครักษ์จี้เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าท่าทีของไท่จื่อที่มีต่อหนิงเจิงไม่ปกตินัก

    จี้หลิวเฟิงส่ายหน้า ถอนหายใจเบาๆ จ้าวกงกง พระองค์เพิ่งจะรู้สึกได้หรือ

    หากเป็นแต่ก่อน ไท่จื่อไม่ชอบหน้าใครก็ต้องตีอย่างเดียวมิจำเป็นต้องปลอมเป็นผีหลอกชาวบ้านเช่นนี้ด้วยซ้ำ

    ที่สำคัญที่สุดคือพอสุดท้ายแล้วยังไม่ได้อะไรอีก กลับกันยังเสียเปรียบกลายเป็นใบ้เสียอย่างนั้นนี่ใช่วิธีการของไท่จื่อที่ไหนกัน!

     

    หนิงเจิงกลับถึงห้องปาดน้ำตาแล้วฟุบลงตรงหลังประตูฟังการเคลื่อนไหวของด้านนอกอย่างตั้งใจ

    ผ่านไปนานพอควรคนด้านนอกดูเหมือนจะแยกย้ายกันไปหมดแล้ว

    นางจึงได้ถอนหายใจโล่งอกเฮือกใหญ่

    ความจริงแล้ว ตอนที่นางรู้ว่าไท่จื่อปลอมเป็นผีมาหลอกนางนั้นถึงแม้จะตกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้โกรธมากเพียงนี้

    เพียงแต่ว่าเป็นเรื่องที่นางกระโดดขึ้นตัวไท่จื่อต่างหากดังนั้นนางจึงต้องโจมตีก่อนอย่างไรเล่า!

    มิเช่นนั้นหากเขาถือโทษขึ้นมานางจะไม่ตายเลยหรือ

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการโจมตีก่อนได้ผลจริงๆ!

    หนิงเจิงมองกระโจมเตียงนอนครุ่นคิดนางช่างเป็นคนไหวพริบดีจริงๆ!

    ฮ่าๆๆ

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    หนิงเจิงเพิ่งเปิดบานประตูออกประตูที่ห้องหลักก็เปิดออกเช่นกัน ทำให้เผชิญหน้ากับชายหนุ่มในร่างชุดคลุมสีดำ

    ขณะที่สบตากันนั้น บรรยากาศรอบๆ ก็ดูแปลกไป

    หนิงเจิงคิดไม่ออกว่านางควรจะโกรธต่อไปหรือว่าทักทายเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นดี

    ขณะที่คิดอยู่นั้นชายหนุ่มที่อยู่ด้านในก็ได้ก้าวเท้าเข้ามาหานางทีละก้าวๆ อย่างกะทันหัน

    หนิงเจิงใจวูบวาบ

    มองดูเขาที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ในสมองก็ปรากฏฉากเมื่อคืนขณะที่นางเปิดประตูออกมาเจอเขาความรู้สึกปลอดภัยราวกับฟางเส้นสุดท้ายนั่น

    เมื่อนึกถึงตรงนี้สายตาของหนิงเจิงก็เปลี่ยนไป

    เหตุใดนางจึงมีความรู้สึกเช่นนี้!

    ไท่จื่อฟางเส้นสุดท้ายอย่างนั้นหรือ!

    เป็นไปได้อย่างไร!

    เซียวหนานสวินมองนางจากสายตามึนงงเป็นรังเกียจและสีหน้าขรึมลงทันที เจ้ามองข้าด้วยสายตาแบบนี้ทำไม

    เขาไม่ถือสาเรื่องที่เขาทำไปทั้งหมดแล้วบ่าวคนนี้ยังกล้าทำตัวเช่นนี้อีก หรือจะให้เขาขอโทษเขาอีกอย่างนั้นหรือ!

    ไม่พ่ะย่ะค่ะ!”

    หนิงเจิงรีบก้มศีรษะลงนางกลัวว่าตนจะพูดไร้สาระอีกทั้งยังถอยหลังกลับไปครึ่งก้าวอีกด้วย

    เซียวหนานสวินเห็นดังนั้น สีหน้ายิ่งเคร่งขรึมกว่าเดิม

    บ่าวคนนี้ไม่เพียงแต่กระโดดแล้ววิ่งหนีไปเมื่อคืนเท่านั้นมาวันนี้เห็นเขายังถอยห่างจากเขาอีก

    กำลังจะอาละวาดหางตาก็เห็นเงาสีม่วงอ่อนตรงหน้าประตูตำหนักกำลังเดินมาทางนี้

    สายตาเขาหรี่ลง ราวกับคิดอะไรบางอย่างออกกะทันหันเขาละสายตาค่อยๆ ย่อตัวลง

    หนิงเจิง

    หนิงเจิงคาดไม่ถึงว่าเขาจะเข้ามาใกล้กะทันหันเช่นนี้จึงตกใจไปครู่หนึ่งแล้วคิดจะถอยหลังอย่างรู้ตัว ฮะ

    เพียงแต่นางเพิ่งขยับตัวนิดเดียวแขนอันเรียวยาวของชายหนุ่มก็ทาบเข้าบนประตูที่อยู่ข้างนาง ขวางเส้นทางของนางไว้ เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับข้าเลยหรือ

    ท่าทางนี้ดูเหมือนนางกำลังถูกเขาโอบไว้ในอ้อมกอดอย่างไรอย่างนั้น!

    ใบหน้าของหนิงเจิงร้อนผ่าว พูดพูดอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ

    เซียวหนานสวินมองดูท่าทางตื่นเต้นกังวลของนางด้วยสายตาลึกซึ้งขึ้นมากเมื่อคืนที่เปิ่นกงให้คนไปหลอกเจ้าก็เพราะเจ้าทำผิดเดิมทีเรื่องมาถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่เจ้ากลับกระโดดขึ้นบนตัวเปิ่นกง…”

    พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ค่อยๆ พูดเสียงต่ำต่อไป เจ้าว่าควรทำอย่างไรดีหืม

    นางทำผิดหรือ!

    หนิงเจิงมองเขาด้วยความตะลึงนางถูกใส่ร้ายยังต้องตามหาคนร้ายด้วยตัวเองอีก ทำผิดตรงไหนกันเล่า!

    ทว่าชายหนุ่มอยู่ใกล้ชิดนางมากลมหายใจร้อนอบอ้าวรบกวนความคิดของนางอย่างมาก ทำให้นางพูดไม่เป็นคำพูด กระกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นเพราะว่ากลัวเกินไปจึงได้เสียมารยาทต่อพระองค์ ขอไท่จื่อโปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

    ย่อมได้น้ำเสียงชายหนุ่มเปลี่ยนไป “แต่เปิ่นกงยังไม่เคยกอดใครเลยเจ้าจะชดใช้อย่างไร

    ชดชดใช้หรือ!

    หนิงเจิงตะลึงงันอีกครั้ง

    เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ เพียงแค่ถูกกอดไปหนเดียวยังจะให้นางชดใช้อีกหรือเช่นนั้นจูบแรกของนางก็ถูกถวายให้เขาอย่างงงงันแล้ว ใครจะชดใช้ให้นางเล่า!

    ทว่าเมื่อเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ใกล้จนแทบจะแนบชิดแล้วนางก็ตกใจจนอารมณ์โกรธลดลงไปอย่างรวดเร็ว เช่นนั้นพระองค์อยากให้กระหม่อมชดใช้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ

    เซียวหนานสวินมองคนในอ้อมกอดที่โกรธจนลุกเป็นไฟแล้วแต่ก็กลัวจนถอยกลับไปคนนี้ ริมฝีปากบางก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เปิ่นกงเองก็ไม่เอาเปรียบเจ้าแต่อย่างใดเอาอะไรไป ย่อมต้องชดใช้ด้วยสิ่งนั้น ดีหรือไม่”

    หา?!

    หนิงเจิงมองเขาอยู่ที่เดิมดังนั้นแล้วชายคนนี้คงไม่ได้คิดจะกระโดดขึ้นบนตัวนางหรอกกระมัง

    ภาพนั้นแม้นางจะทนอับอายขายหน้าได้ แต่ร่างน้อยๆนี้ก็ทนรับไม่ได้หรอกนะ!

    แต่แต่ทว่า…”

    ไท่จื่อ!”

    เสียงสูงแหลมเสียงหนึ่งขัดคำนางไว้!

    หนิงเจิงหายใจทั่วท้องเสียที

    เพียงแต่เห็นเยี่ยเหลียงเซวียนเดินเข้ามาจากนอกประตูตำหนักด้วยความกริ้วโกรธพร้อมกับกำมือแน่น ใบหน้าบูดเบี้ยว

    นางยืนอยู่ข้างนอกตั้งนานแล้วแม้นเมื่อคืนหลิวอี้จะไม่ได้เปิดเผยนางออกมาก็ตามแต่นางก็รู้สึกว่าไท่จื่อสงสัยในตัวนางแล้ว ดังนั้นจึงอยากจะมาสืบดู พร้อมกับทำความดีเสียหน่อย

    ทว่าคาดไม่ถึงว่ามาถึงก็เห็นไท่จื่ออยู่ใกล้ชิดกับหนิงเจิงแล้วทั้งยังยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ ยิ่งอยู่ยิ่งคลุมเครืออีกด้วยสองคนนี้ถึงขั้นนี้กันแล้วหรือ!

    บ่าวชั้นต่ำสมควรตายนี้ ทั้งๆที่เป็นชายหนุ่มยังกล้ายั่วยวนไท่จื่ออีก!

    หนิงเจิง!”

    นางบ่นด้วยความกริ้วโกรธ เจ้าบังอาจนักที่เข้าใกล้ไท่จื่อถึงเพียงนี้ยังมีกฏระเบียบอยู่หรือไม่

    หนิงเจิงตกใจขวัญกระเจิงขัดขืนจะออกจากอ้อมกอดของเซียวหนานสวิน แต่ทว่าแขนของชายหนุ่มกลับไม่ขยับเลยยังคงขวางเส้นทางนางเอาไว้อยู่เช่นเคย!

    นางจ้องเขาเขม็ง ชายคนนี้คิดจะทำอะไร

    เซียวหนานสวินไม่สนใจท่าทางส่งสัญญาณของเขากวาดสายตามองไปที่เยี่ยเหลียงเซวียน กฎระเบียบอะไรกันเขากล่าวอย่างไม่เดือดร้อนในจวนไท่จื่อนี้ ข้านี่แหละคือกฎระเบียบ

    เยี่ยเหลียงเซวียนหรี่ตาลง ไท่จื่อ

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in