เล่ม 1 ตอนที่ 24 กล้าดีอย่างไรกระโดดขึ้นตัวไท่จื่อ...
มีเสียงแผ่วเบาและเยือกเย็นปนน้ำเสียงอ้างว้างและแปลกประหลาดดังมาจากนอกประตู
ฝีเท้าของนางหยุดชะงัก
ขณะเดียวกันเงาดำนอกประตูก็ยิ่งส่ายไปมามากขึ้น พร้อมกับเสียงโหยหวนและเสียงดนตรีหลอนราวกับว่ามีวิญญาณนับไม่ถ้วนกำลังล้อมรอบห้องนางอยู่
หนิงเจิงสูดหายใจเข้าลึกอ้าปากกว้างด้วยความหวาดกลัว ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างเป็นระฆัง
จากนั้น…
เสียงกรีดร้องใจจะขาดดังลั่นในห้อง
นางวิ่งออกไปข้างนอกโดยไม่คิดอะไรเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาอันคุ้นเคยก็กระโดดขึ้นไปตามสัญชาตญาณ
รูม่านตาของเซียวหนานสวินหดแน่นแข็งทื่อไปทั้งตัว
ข้างหูเป็นเสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังของนางเสียงหนึ่งดังยิ่งกว่าเสียงหนึ่ง ดังจนหูจะหนวกอย่างไรอย่างนั้น
แต่ทว่ามือทั้งสองของเขา
ค่ำคืนอันมืดมิดรอบๆ เงียบสงัดอย่างบอกไม่ถูก
ทุกคนตะลึงตกใจจนยืนแข็งทื่อเหมือนไท่จื่อหุ่นไล่กามององครักษ์ที่กระโดดขึ้นบนตัวไท่จื่ออย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่สิ…ไม่เพียงแต่กระโดดเท่านั้น แต่ยังเหมือนดั่งหมีต้นไม้
ผีน่ากลัวกว่าไท่จื่ออีกหรือ
พวกเขาคิดเช่นนี้แต่หนิงเจิงกลับไม่คิดเช่นนี้!
พูดให้ถูกคือนางไม่มีแม้แต่เวลาคิดไตร่ตรองตกอยู่ในความกลัวของตนเองโดยสมบูรณ์
เซียวหนานสวิน
ไม่มีผีจริงๆ
เขาเพียงแค่ขัดตาบ่าวคนนี้จึงได้ให้จ้าวซู่ไปหาคนปลอมตัวเป็นผีหลอกนางเท่านั้น
ทว่าขณะนี้ เขากลับไม่รู้ว่าตนทำถูกหรือไม่
เขาเพียงแค่…ว่าแต่เจ้าคนนี้กล้าเกาะตัวเขาได้อย่างไรกัน!
ร่างกายอันนุ่มนิ่มแนบชิดอยู่บนตัวของเขาทั้งๆ ที่เป็นองครักษ์ที่วรยุทธ์แก่กล้า แล้วยังตัวเล็กตัวน้อยอีกด้วย
เขาหลับตา “บังอาจนัก!”
นอกจากคำว่าบังอาจสองคำนี้ เขาไม่รู้จะพูดอะไรแล้วมือที่เห็นกระดูกแยกชัดเจนยกขึ้นตั้งนานแล้ว แต่กลับไม่ดึงตัวนางลงเสียที
ช่างเถอะไม่รู้ว่าโกรธนางหรือโกรธตนเองกันแน่ เขากล่าวดุดัน
น้ำเสียงอันดุร้าย ทำเอาหนิงเจิงตกใจกระเจิง
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดกลัวพบว่าองครักษ์คนอื่นกำลังยืนทื่อมองนางเหมือนไท่จื่อหุ่นไล่กาอยู่รอบๆ
เมื่อก้มหน้าลงก็พบว่าตนกำลังเกาะอยู่บนตัวไท่จื่อ
เสียงกรีดร้องอีกแล้วนางรีบกระโดดลงมาโดยไม่คิด ใบหน้าแดงก่ำเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ในที่มืด
นางทำอะไรลงไป!
ถึงได้…ถึงได้กล้ากระโดดขึ้นบนตัวของเทพเจ้าได้!
เซียวหนานสวินเห็นท่าทางอยากจะหนีจนแทบรอไม่ไหวก็สีหน้าไม่ดียิ่งกว่าเดิม
ไอ้ลูกหมาสมควรตายนี่เมื่อครู่ยังกลัวจนกระโดดขึ้นตัวเขาอยู่เลยตอนนี้ไม่กลัวแล้วกลับกระโดดออกห่างไปสามคืบ เห็นเขาเป็นสัตว์ร้ายหรืออย่างไรกัน
น้ำเสียงอันเยือกเย็นพูดชัดถ้อยชัดคำ
หนิงเจิงหน้าถอดสีด้วยความหวาดกลัว
กำลังจะอธิบายบางอย่างก็สังเกตพบว่าในมือขององครักษ์รอบๆถือของประหลาดเอาไว้
เมื่อสังเกตดูดีๆ ก็พบว่าเป็นผ้าฝ้ายเนื้อหนาและยังมีราวไม้ไผ่ด้วย ทั้งในมือบางคนยังถือเครื่องซวิน
ของเหล่านี้…
เงาผี เสียงโหยหวน และเสียงขอความช่วยเหลือ
หนิงเจิงหรี่ตาลงหันหน้ามองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ “ผีนอกประตูเมื่อครู่นี้เป็นฝีมือของพระองค์หรือ”
อาจเป็นเพราะดวงตาของนางน่ากลัวเกินไปทำให้มีครู่หนึ่งที่เซียวหนานสวินพูดอะไรไม่ออก
แต่ก็เป็นแค่ครู่เดียวเท่านั้นเขาก็พูดเสียงขรึมว่า “
ชายหนุ่มหัวเราะ
ดวงตาของเซียวหนานสวินเป็นประกาย เขาขบสันกรามแน่นโดยไม่รู้ตัวน้ำเสียงอันทุ้มต่ำมีความไม่เป็นธรรมชาติซ่อนอยู่ “ใครให้เจ้าออกมาโดย…”
หนิงเจิงตาแดงก่ำแล้วร้องไห้ขึ้นมาทันที
เปลือกตาเซียวหนานสวินกระตุกสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติกว่าเดิม
คนตรงหน้าน้ำตาไหลไม่หยุดพลางร้องไห้ฟูมฟายพลางตะโกนเสียงดัง “แม้นกระหม่อมจะเป็นเพียงองครักษ์ต่ำต้อย ไม่มีอำนาจใดๆ แต่กระหม่อมก็เป็นชายคนหนึ่งนะพ่ะย่ะค่ะ!”
ครั้งนี้นางยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ร้องไห้ฟูมฟายวิ่งเข้าห้องตนเองโดยไม่หันกลับไปเลย
เสียงประตูปิดดังปังโดยคนคนหนึ่ง
ผู้คนรอบๆ ตะลึงจนอ้าปากค้าง
เซียวหนานสวินมองบานประตูที่ถูกปิดแน่นด้วยสีหน้าย่ำแย่หว่างคิ้วขมวดแน่นเป็นปมอย่างสมบูรณ์
ผ่านไปครู่หนึ่ง บริเวณรอบๆ ก็เงียบลง
ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็กล่าวเสียงขรึม
จ้าวซู่คิดว่าหนิงเจิงต้องจบเห่แน่
แต่ทว่าวินาทีต่อมากลับได้ยินน้ำเสียงดูไม่แน่ใจออกจากปากชายหนุ่ม“เปิ่นกงทำเกินไปจริงหรือ”
จ้าวซู่ “…?”
อะไรกัน…เขาหูฝาดไปหรือ!
แม้จะปลอมตัวเป็นผีไปหลอกคนนั้นจะไม่ถูกก็ตามแต่นี่เป็นไท่จื่อเชียวนะ แม้นจะทำผิดจริงก็ไม่ผิดอยู่แล้ว
สายตาจ้าวซู่แปลกประหลาดกล่าวอย่างระมัดระวัง “
เขาไม่เหมือนหนิงเจิงที่กล้าพูดจาไร้สาระไปมั่วนั่นเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเชียวนะ!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in