เล่ม 1 ตอนที่ 23 ฉลาด!
ไม่ว่าหนิงเจิงจะคิดอย่างไรก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
กำลังจะปริปากพูดหางตาก็เห็นว่าเงาดำนั้นกำลังจะหนีไป สีหน้าของนางผันเปลี่ยน รีบกล่าวขึ้น
กล่าวจบไม่ทันให้เขาพยักหน้าก็ปลีกตัวออกไปเลย
เซียวหนานสวินสีหน้ามืดครึ้มเป็นถ่านก้อนหนึ่งทันที
ใครให้เขาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขากัน
แต่ทว่าหนิงเจิงวิ่งออกไปไกลตั้งนานแล้วจากนั้นยืนอยู่บริเวณพื้นที่ว่างกว้างแล้วตะโกนขึ้น
เงาดำที่กำลังดึงกระดาษยันต์ออกข้างสระดอกบัวชะงัก
เขาคิดจะหนีแต่ขณะนั้นเองจี้หลิวเฟิงก็นำผู้คนออกมาจากทางไกล และปิดล้อมรอบๆ เอาไว้
ทันใดนั้นรอบๆ ก็สว่างไสวด้วยแสงเพลิงไฟ
หนิงเจิงหัวเราะแห้งชอบใจรีบเดินไปตรงหน้าเงาดำ “
เงาชุดดำบิดตัวเตะไปที่นาง
หนิงเจิงไหวตัวทัน รีบกดทับเขาไว้บนพื้นทันทีแล้วดึงผ้าดำบนใบหน้าของเขาออก!
นางขมวดคิ้วแน่นมองหลิวอี้ที่ถูกตนกดทับอยู่บนพื้น พร้อมกับกล่าวเยาะเย้ย
หนิงเจิงมองบน
ขณะที่พูดผู้คนมากมายก็ถือโคมไฟเดินมาที่นี่ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไป ‘
เซียวหนานสวินเดินอยู่ด้านหน้าสุดสีหน้าเย็นชา
เยี่ยเหลียงเซวียนกัดริมฝีปากจ้องหลิวอี้เขม็ง
สาวใช้ด้านหลังต่างชะเง้อมองบ้างตกใจบ้างสงสัย
สีหน้าหลิวอี้เปลี่ยน
หนิงเจิงหันตัวกลับพร้อมกับกล่าวขึ้นด้วยความนับถือ “ไท่จื่อ จับตัวคนร้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
เพิ่งกล่าวจบ ผู้คนต่างก็ตะลึงงัน
คนร้ายที่องครักษ์หนิงว่านั้นเป็น
หลิวอี้ตะโกนว่าถูกใส่ร้าย
หลิวอี้สีหน้าซีดเซียว
คิ้วของเซียวหนานสวินกระตุก
หนิงเจิงหันหน้าไปทางผู้คน กล่าวชัดถ้อยชัดคำ“ทุกพระองค์ดวงวิญญาณปลาจิ่นหลี่ที่ข้าพูดเมื่อครู่นั้นล้วนเป็นเรื่องโกหกบนโลกนี้ไม่มีวิญญาณอยู่จริงแต่ที่ข้าต้องพูดเช่นนั้นก็เพื่อจะล่อคนร้ายตัวร้ายออกมา!”
ผู้คนตะลึงอีกครั้ง มองนางด้วยสายตางุนงง
นางอธิบายเสียงต่ำ
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ผู้คนก็โกลาหลขึ้น
หลิวอี้ยิ่งโกรธ
นางหัวเราะเย็นชา ชี้เขาพร้อมกับกล่าว
กล่าวจบ นางก็คุกเข่าลงพื้นข้างเดียว
เซียวหนานสวินหรี่ตาลงกวาดสายตามองไปด้วยความเย็นชา “หลิวอี้…ใครสั่งให้เจ้าทำเช่นนี้”
ไม่มีใครคาดถึงว่าไท่จื่อจะถามเช่นนี้หรือว่า…เรื่องนี้จะมีคนอยู่เบื้องหลัง
สีหน้าเยี่ยเหลียงเซวียนซีดเซียวเงยหน้าขึ้นมองเขา หรือว่าไท่จื่อจะรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนางแล้ว
หลิวอี้กัดฟันมองไปทางเยี่ยเหลียงเซวียนอย่างรวดเร็ว
เยี่ยเหลียงเซวียนเกือบจะปริปากพูดแก้ตัวแล้วแต่ทว่ากลับได้ยินหลิวอี้พูดขึ้นอย่างแค้นใจ “ในเมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว กระหม่อมเองก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก…
แม้นจะล้มเขาได้หนึ่งคนก็ไม่อาจดูถูกหนิงเจิง
เยี่ยเหลียงเซวียนตะลึงคาดไม่ถึงว่าหลิวอี้จะไม่เปิดเผยนางออกมาในยามคับขันเช่นนี้
สายตาของเซียวหนานสวินเฉียบคมมองผ่านเยี่ยเหลียงเซวียนด้วยสายตาเย็นเฉียบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อไป
เรื่องชุลมุนวุ่นวายก็จบลงเพียงเท่านี้
คนในจวนต่างก็ชื่นชมหนิงเจิง
หนิงเจิงเหนื่อยมากแล้ว เมื่อเห็นว่าเรื่องคลี่คลายแล้วจึงได้หันตัวออกจากที่เกิดเหตุ
ถึงแม้ว่านางจะรู้สึกว่ามีเรื่องอะไรยังไม่จัดการก็ตาม
แต่ทว่า…เรื่องอะไรล่ะ
นางคิดไม่ออก จึงได้ตัดสินใจปล่อยสมองของตนไม่อยากคิดมากอีกต่อไป!
เซียวหนานสวินมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของนางก็เม้มริมฝีปากสีหน้ามืดมน
ให้ตายเถอะ จะไปแล้วก็ไม่รู้จักบอกลากันหน่อยหรือ
อย่างน้อยตนก็เป็นนายของเขานะแถมยังช่วยเขาด้วย อย่างน้อยพวกเขาก็พักอยู่ตำหนักเดียวกัน เขากลับไม่สนใจตน
ช่างกล้าเหลือเกิน
จ้าวซู่รีบเดินหน้าขึ้นมา
เซียวหนานสวินมองแผ่นหลังที่หายไปนั่นสายตาหรี่ลง “ไปจัดการเรื่องแทนข้าที”
กว่าหนิงเจิงจะล้มตัวลงนอนได้เดิมคิดว่าจะสามารถนอนหลับฝันดีแล้ว
แต่ไม่รู้คืนนี้เกิดอะไรขึ้น นางเพิ่งจะหลับตาลงก็มีเสียงดังมาจากข้างนอกอีกครั้ง
เดิมนางจะไม่สนใจแล้วแต่ในขณะนั้นเองก็มีลำแสงแปลกประหลาดวิ่งผ่านหน้าประตูไปอย่างกะทันหันจากนั้นก็เป็น…เงาห้อยลงมาจากด้านบนเงาหนึ่ง!
นางตกใจกระโดดขึ้นเตียงไปทันที
ตัวอะไรกัน!
หนิงเจิงตกใจกลัวจนยืนอยู่บนเตียงดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง จ้องที่ประตูโดยไม่ละสายตา
เหตุใดจึงมีเงาเช่นนี้ได้
วิญญาณนั้นไม่มีเงา ดังนั้นน่าจะ
หนิงเจิงปลอบใจตนเอง ไม่เป็นไรๆนางกลัวภูตผีวิญญาณเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่วิญญาณเสียหน่อย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็ถอนหายใจแล้วรีบกระโดดลงจากเตียงค่อยๆ เดินไปทางประตู
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in