เล่ม 1 ตอนที่ 2 ข้าเป็นถึงคนของรัชทายาทเชียวนะ
หนิงเจิงรู้สึกละอายใจเมื่อเห็นกลุ่มคนที่อยู่ข้างบนตกใจอ้าปากค้าง นางก็ยิ่งรู้สึกเขินกว่าเดิมอีก
ไม่มีสิ่งใดต้องละอายฟ้าดินอันที่จริงนางก็ไม่อยากแต่งเรื่องเจ้านายของตนเองขึ้นมาทั้งๆที่เพิ่งเข้าจวนเป็นวันแรกหรอก...ถึงแม้เรื่องนกเขาของรัชทายาทไม่ขันจะไม่ใช่ความลับอะไรทว่าการนินทาเรื่องเจ็บปวดของผู้อื่นลับหลัง ก็มิใช่เรื่องดีอยู่แล้ว
ดังนั้นหลังจากพูดประโยคนั้นออกไปสายตาของนางจึงเหม่อลอยอย่างอดมิได้ และเพราะสายตาเหม่อลอยนี้จึงทำให้นางไม่ทันสังเกตเห็นเซียวหนานสวินหนังตากระตุก
“แล้วไงต่อ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นเฉียบ“องครักษ์จวนรัชทายาทที่มาใหม่มีมากมายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนกเขาของรัชทายาทไม่ขัน”
“เอ่อคือ...”หนิงเจิงกัดริมฝีปากอย่างลุกลี้ลุกลน เจ้าคนนี้จะขยี้ถามให้จนตรอกเลยใช่หรือไม่
ทุกคนทำเป็นรู้แต่ไม่ต้องพูดออกมาได้หรือไม่
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนา
นางจึงทำได้เพียงแถจนสีข้างถลอกต่อไป“แน่นอนว่า...รัชทายาททรงมีประสงค์อยากเลือกพวกข้าสักคนสองคนที่ถูกชะตาเอาไว้คอยรับใช้ไงเล่า
เคล้งๆ
องครักษ์ที่อยู่ข้างบนมือสั่นจึงทำให้จับพลั่วเอาไว้ไม่มั่นจนพลั่วหลุดมือตกลงมา
หนิงเจิงตกใจและรีบเบี่ยงกายหลบหลีก
แววตาของชายหนุ่มทั้งเฉียบคมและดำดิ่งน้ำเสียงแหบพร่าเยือกเย็นราวกับน้ำค้างแข็ง ไร้ซึ่งความอบอุ่น “เจ้าหมายความว่ารัชทายาทไร้ความรู้สึกต่อสตรี ดังนั้นจึงหันไปนิยมชมชอบบุรุษอย่างนั้นหรือ”
หนิงเจิงลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ
พวกองครักษ์ที่อยู่ข้างบนยิ่งเบิกตาโตกว่าเดิมทว่าสายตาที่มองนางยังคงฉายแววเห็นอกเห็นใจอยู่บ้างเล็กน้อย
ท่ามกลางความเงียบแสนเนิ่นนานซึ่งแม้แต่เสียงสายลมแถวนั้นดูเหมือนจะนิ่งค้างไปเสียแล้ว และเผยให้เห็นความเงียบอันน่าแปลกประหลาด
หนิงเจิงถูกเขาจ้องมองจนทำตัวไม่ถูกนางลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จากนั้นจึงเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “เอ่อคือ...ขอเพียงแค่เจ้าไม่ฝังกลบข้าข้าจะไม่นำความไปฟ้อง”
ฝังนางไปแล้วนางจะมีหน้าไปฟ้องใครที่ไหนได้อีก!
เซียวหนานสวินขมวดคิ้วเป็นปม“เจ้าเอาความลับของรัชทายาทมานินทาเช่นนี้ พระองค์ทรงทราบหรือไม่”
นั่นไม่จำเป็นต้องรู้อยู่แล้ว
หนิงเจิงรู้สึกผิดในใจแต่ช่วงเวลาคับขันเยี่ยงนี้ นางจึงต้องเอาตัวรอดก่อน
เมื่อคิดถึงตรงนี้นางก็ยืดอกขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ที่ข้าพูดเรื่องพวกนี้กับเจ้าไม่ใช่เพราะนินทารัชทายาท แต่ข้าอยากเตือนเจ้าด้วยความหวังดีอย่าลงมือกับข้าส่งเดช เพราะข้าเป็นถึงคนของรัชทายาทเชียวนะ
เซียวหนานสวินหัวเราะเยาะทันที“องครักษ์มาใหม่เข้าจวนมากมายเจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่ารัชทายาทจะชายตามองเจ้า”
หนิงเจิงพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ“แน่นอนว่าเป็นเพราะข้าเกิดมาหน้าตาดีอย่างไรเล่า!
เซียวหนานสวิน“...”
เขาเคยเห็นแต่หญิงไร้ยางอายแต่กลับไม่เคยเห็นบุรุษไร้ยางอายเยี่ยงนี้มาก่อน
ทุกคน “...”
ทุกคนล้วนเป็นองครักษ์เหตุใดข้างล่างมันถึงได้ยอดเยี่ยมอย่างนี้
สายตาจับจ้องนางมากมายหลายคู่ขนาดนี้ หนิงเจิงยิ่งรู้สึกถ่อมตนทันทีจากนั้นจึงโบกมือหย็อยๆ “นั่นปะไร พวกเจ้าไม่ต้องซาบซึ้งจนเกินไป รีบไปซะเถอะ
ทุกคน “...”
ท่านอวยพรตนเองให้โชคดีเถิด
เหล่าองครักษ์ต่างก้มลงไปดูนางอย่างอดมิได้ก่อนจะทอดถอนหายใจแล้วเบนสายตามองไปทางอื่น
เซียวหนานสวินเม้มริมฝีปากบางแนบสนิทความเย็นยะเยือกในดวงตาแทบล้นทะลักออกมา “รัชทายาทยังมิเคยเจอเจ้ามิใช่หรือ”
ก็ใช่น่ะสิ แล้วอย่างไรล่ะ
หนิงเจิงมองเขาอย่างงุนงง
ก่อนที่จะได้ยินคำเยาะเย้ยอันร้ายกาจของชายหนุ่ม“ต่อให้รูปงามเพียงไร พระองค์ก็จะไม่ได้เห็นอีกแล้วล่ะในเมื่อจวนรัชทายาทรับองครักษ์ใหม่มามากมายตายไปสักคนสองคนคงไม่ระแคะระคายหรอกกระมัง”
เขาแผดเสียงลั่น “พวกเจ้าลงมือได้
ฉิบxxx!
หนิงเจิงตกตะลึงในทันที
นางไม่เหมือนผู้อื่น แตกต่างจากผู้อื่น
แต่ถ้าหากคนพวกนี้รู้เข้าว่าแท้จริงแล้วนางเป็นสตรีอย่าว่าแต่นางเลย แม้กระทั่งท่านพ่อก็คงพลอยโชคร้ายไปด้วย...
สีหน้าของหนิงเจิงพลันเปลี่ยนไป พร้อมกับเบิกตามององครักษ์พวกนั้นที่พากันหยิบพลั่วขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเริ่มกลบหลุมต่อ
ดินแตกกระจุยกระจายตกลงมาโดนนางจนเจ็บไปหมดหนิงเจิงรีบขดตัวเป็นก้อน เพื่อพยายามให้ก้อนดินร่วงใส่แผ่นหลังแทนที่จะโดนศีรษะ
ทำอย่างไรดี ต้องมาตายตรงนี้จริงหรือ
ฮือๆๆ นางยังไม่อยากตายนะ
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้านางแทบจะมองเห็นภาพตนเองที่ถูกฝังทั้งเป็นอยู่รำไร...
หนิงเจิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และบังคับตัวเองให้สงบสติลง
ทันใดนั้น ดวงตาของนางก็เปล่งประกาย
มีทางรอดแล้ว!
...
เซียวหนานสวินยืนเอามือไพล่หลังตรงปากหลุม ซึ่งห่างจากหลุมกับดักที่เต็มไปด้วยฝุ่นดินหลายจั้งและเขาก็ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในหลุมมาเป็นเวลานานแล้ว
สงสัยคงถอดใจแล้วกระมัง
หลุมกับดักลึกขนาดนี้ องครักษ์โง่เง่าที่ทั้งผอมกะหร่องและตัวเล็กนิดเดียวท่าทางดูขาดสารอาหาร จะเอาตัวรอดได้อย่างไร
แต่ถึงกระนั้น เขาไม่ได้เรียกขอความช่วยเหลือก็ถือว่ายังมีความอดทนอยู่บ้าง
เซียวหนานสวินหลุบตาต่ำและตั้งท่าจะหันจากไปทว่ากลับเห็นเหล่าองครักษ์พากันหยุดเคลื่อนไหวแล้วหันมองมาที่เขา
“ระ...รัช...รัชทายาท
เมื่อคำพูดสุดท้ายหลุดออกจากปากพวกนั้นความอันตรายในแววตาของชายหนุ่มถูกกลืนกลับไปอย่างรุนแรง
แล้วสีหน้าของทุกคนก็พลันตกตะลึงเช่นกัน
จ้าวซู่วิ่งไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าตื่นตระหนกแม้ว่าจะพยายามข่มเสียงต่ำแล้ว แต่ก็ยังข่มความตกใจในน้ำเสียงไม่ได้ “องค์รัชทายาทเขาๆๆ...ปีนขึ้นมาแล้ว!”
เซียวหนานสวินพลันหรี่ตา
จากนั้นเขาก็เบนสายตาไปที่ข้างบนหลุมกับดักมองคนที่กำลังเปิดฝาครอบเหล็กแล้วปีนขึ้นมา...ซึ่งเขาสวมชุดประจำตัวองครักษ์ร่างเล็กเปื้อนดินดำดูสกปรกมอมแมมเป็นที่สุด
จ้าวซู่กลืนน้ำลายด้วยความประหลาดใจแล้วลองถามอย่างไม่มั่นใจนัก “หรือว่า จะให้กระหม่อมมัดมือมัดเท้าเขาแล้วโยนกลับลงไปในหลุม แล้วฝังกลบใหม่อีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”
แววตาของเซียวหนานสวินล้ำลึกใบหน้าหล่อคมคายยังคงความเย็นชา เพียงแต่ว่าครั้งนี้เขากลับไม่ได้พยักหน้าตอบรับ
“จ้าวซู่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเหตุใดจึงทำกับดักนี่เอาไว้”
จ้าวซู่จะลืมได้อย่างไรหลุมกับดักนี้เขาเป็นคนขุดเองกับมือในฐานะขันทีรับใช้ข้างกายรัชทายาท
กับดักนี้มีความลึกมาก ทำจากเหล็กทมิฬ ผนังเหล็กทั้งสี่ด้านเป็นเงาวาววับแม้อาจปีนขึ้นมาได้อย่างสบายๆทว่าฝาครอบเหล็กกลวงด้านบนกลับผูกด้วยกุญแจเหล็กหนักกว่าพันจิน
มีหนทางเดียวก็คือเหยียบดินที่พวกองครักษ์โยนลงไปจากนั้นก็ออกแรงใช้วรยุทธ์เปิดฝาครอบเหล็กนี้ให้ได้!
ดังนั้นที่รัชทายาทถมดินเมื่อครู่นี้จึงไม่ได้เรียกว่า‘
นอกจากนี้ในสวนบุปผาหลังจวนรัชทายาทไม่ได้มีเพียงกับดักแบบเดียวกันแค่หนึ่งแห่งเท่านั้น...องครักษ์ใหม่ที่เข้าจวนในวันนี้ล้วนพบกับกับดักที่คล้ายคลึงกันซึ่งเป็นบททดสอบเหมือนกันทั้งสิ้น
น่าเสียดายที่กองทัพทั้งหมดถูกกวาดล้างออกไป
มีเพียงคนตรงหน้าคนเดียวที่ตกหลุมพรางที่พระองค์คาดการณ์ไว้!
แต่ทว่า...
จ้าวซู่มีสีหน้าครุ่นคิดแปลกๆ ฉลาดก็ส่วนฉลาดเจ้าทาสที่สมควรตายถึงได้ล่วงเกินรัชทายาท นั่นต้องโดนโทษประหารตัดลิ้นแล้วจะใช้มาตรฐานเดียวกันได้อย่างไร
“รัชทายาท...”
“หุบปาก”
สายตาของเซียวหนานสวินจับจ้องหนิงเจิงพร้อมกับตัดบทเขาอย่างเย็นชา
...
หนิงเจิงกระเสือกกระสนเหยียบดินขึ้นมาเปิดฝากว่าจะกลับขึ้นมาบนผืนดินได้นั้นไม่ง่ายเลย นางเหนื่อยหอบหายใจแฮกๆ
จากนั้นดูเหมือนนางจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่เซียวหนานสวิน
ไอ้ตาบ้า!!!
เมื่อดวงตาทั้งสองคู่สบกันชายหนุ่มจึงหรี่ตาอย่างเจ้าเล่ห์
หนิงเจิงแทบหายใจไม่ออก
ทำไมถึงมีคนชั่วร้ายเช่นนี้ได้นะ
ทำร้ายผู้อื่นแล้ว กล้าดีอย่างไรถึงยังทำเป็นสงบนิ่งอยู่ได้คิดจะยั่วโมโหนางอย่างนั้นหรือ!
ในวินาทีต่อมาเสียงแหบทุ้มต่ำอันแสนเย็นชาของชายหนุ่มก็ดังขึ้น “หากเจ้ายังถลึงตาใส่ข้าอีก ข้าจะจับเจ้าโยนกลับไปในหลุมเจ้าเชื่อหรือไม่”
หนิงเจิง “...”
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่ามีคนเลวทรามเช่นนี้จริง!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in