เล่ม 1 ตอนที่ 16 ความต้องการปกป้อง!
หนิงเจิงกลัวว่าจะมีทหารไล่ตามดังนั้นจึงวิ่งกลับจวนไท่จื่ออย่างเหนื่อยหอบและไม่หยุดพักเลยระหว่างทาง
เมื่อเห็นกระบี่ล้ำค่าในมือแล้วนางก็ซาบซึ้งใจจนแทบร้องไห้!
ดีที่นางไหวพริบดี
เซียวหนานสวินกลับมาถึงก็เห็นนางนั่งอยู่บนเตียงบุปผาพร้อมทั้งหายใจเหนื่อยหอบ โดยไม่สนใจรูปลักษณ์ใดๆ แล้ว
น้ำเสียงของเขาไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
หนิงเจิงแหงนหน้ามองเขาแวบหนึ่ง ชีวิตน้อยๆของนางแขวนอยู่บนกระบี่เล่มนี้ ต้องวิ่งแน่นอนอยู่แล้ว
นางตบปากตนเอง
หนิงเจิงรู้สึกว่าถึงเพลาที่ต้องกระชับความสัมพันธ์แล้ว
เซียวหนานสวินหัวเราะ
เขากล่าวเรียบๆ
หนิงเจิงเบิกตากว้างขึ้นกะทันหัน
ริมฝีปากบางๆ ของเซียวหนานสวินยกขึ้นเล็กน้อย“ตามที่เจ้าคิดเขาคือน้องสามของเปิ่นกงเอง”
หา?!
หา?!
หนิงเจิงมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
เซียวเฉิงอิ่ง…องค์ชายสามผู้เป็นที่โปรดปรานมากที่สุดของฮ่องเต้ในบัดนี้อย่างนั้นรึ!
หนิงเจิงเสียวสันหลังวาบไปชั่วขณะ มิน่าล่ะ
แล้วที่ทั้งสองแสร้งทำเหมือนไม่รู้จักกันนั้นหมายความว่าอย่างไร
หนิงเจิงเห็นริมฝีปากที่อมยิ้มของชายผู้นี้ก็รู้สึกไม่ดีไปทั้งตัว
นางอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แล้วกล่าวว่า
เซียวหนานสวินเลิกคิ้ว
หนิงเจิงจะร้องไห้จริงๆ แล้วชายคนนี้เมื่อครู่ไม่ได้พูดอะไรไม่ว่าแถมตอนนี้ยังแสดงท่าทางเหมือนดูฉากในละครหลังข่าวอีก
เป็นเพราะใครกันที่ทำให้นางไปบาดหมางกับองค์ชายสามได้
นางมองเขาด้วยความน่าสงสาร
เซียวหนานสวินชำเลืองมองนาง
หนิงเจิงหมดหวังแล้วจริงๆ
เพิ่งจะรอดชีวิตจากไท่จื่อมาอย่างไม่ง่ายดายจะต้องตายคามือน้องชายของเขาจริงๆ หรือ
นางสูดจมูก ดวงตาทั้งสองแดงก่ำน้ำเสียงสะอื้น “
เซียวหนานสวิน
เขามองดูท่าทางน่าสงสารของนางเป็นชายหนุ่มแท้ๆ กลับแสดงอาการเฉกเช่นสตรี ทั้งยังไร้กลิ่นอายความเป็นหญิงสาวในทางกลับกันยังมีความไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ซ่อนอยู่ ทำให้สะกิดความอยากปกป้อง
ความต้องการปกป้อง?
สีหน้าของเซียวหนานสวินขรึมลงในทันที
เขาจะอยากปกป้ององครักษ์ของตนเองได้อย่างไร
ดวงตาของชายหนุ่มกระตุกริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงในทันที พร้อมกับตอบกลับไปสองคำอย่างเย็นชา
หนิงเจิง “…”
บาดเจ็บจากการทำงานแล้วไม่ชดใช้ค่าเสียหายไม่ว่าแค่เก็บศพยังไม่ยอมอีกหรือ!
ชาติที่แล้วนางทำเวรทำกรรมอะไรไว้กันแน่
เซียวหนานสวินคว้ากระบี่ออกจากมือนางกล่าวชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เปิ่นกงพูดจริงทำจริง ในเมื่อเจ้านำกระบี่มั่วเหยียมาได้ฉะนั้นเปิ่นกงไม่ถือสาเอาความเจ้าเรื่องเมื่อคืนก็ได้ แต่ทว่าเรื่องอื่นนั้น…
กล่าวจบ เขาก็เดินจากไปอย่างสุขุมเยือกเย็น
หนิงเจิงโกรธมากจนแทบอยากจะพุ่งเข้าไปตีเขาสักรอบ
ดูสิ…นี่ก็คือนายแสนดีของนางเอง!
อดีตฮองเฮาพระองค์ก่อนเป็นคนสง่างามและใจดีเช่นนั้นเหตุใดจึงได้กำเนิดบุตรชายที่จิตใจชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้ออกมาได้กัน
และนางยังต้องอยู่ร่วมกับผู้มีพระคุณที่ชั่วร้ายอำมหิตคนนี้อีกนานแสนนาน
หนิงเจิงความโกรธแน่นอก แล้วทุบหน้าอกแรงๆ
ในขณะนั้นเองก็มีเงาคนเงาหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามาหานาง…
หนิงเจิงมึนงง
นางและเซวียนเช่อเฟยพบเจอกันที่นอกประตูห้องตำราเมื่อคืนเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เซวียนเช่อเฟยจะมีเรื่องอันใดจนต้องเรียกพบนางกัน
มู่เอ๋อร์ยิ้มตอบรับ
ขณะที่หนิงเจิงก้าวเข้าไปในตำหนักชิงเฟิงก็มีหญิงสาวในชุดสีม่วงอ่อนกำลังนั่งกินผลไม้อยู่ในตำหนักหว่างคิ้วที่สวยงามและละเอียดอ่อนมีกลิ่นอายความสูงศักดิ์อย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหญิงสาวเงยหน้ามองไปที่นางทันที
เยี่ยเหลียงเซวียนค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปหานางแล้วถลึงตามองนางอย่างเย็นชา “ได้ยินมาว่า…หลังจากที่ข้าออกไปแล้วเจ้ายังอยู่ต่อที่ห้องตำรานานพอควรอย่างนั้นหรือ”
หนิงเจิงเปลือกตากระตุกมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ
นางพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด
เยี่ยเหลียงเซวียนเบะปาก
หนิงเจิงเปลือกตากระตุกอีกครั้งยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิม “
เยี่ยเหลียงเซวียนขัดนางไว้นางไม่อยากฟังคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น ยิ่งกว่านั้นนี่อาจเป็นข้ออ้างก็เป็นได้
เรื่องเมื่อวานสิ่งที่นางต้องการคือการระบายอารมณ์ แน่นอนว่ายิ่งต้องสร้างมาตรการป้องกันเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าบ่าวคนนี้จะไม่ทำลายแผนการของนางในอนาคตได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของนางก็มีแสงมืดมนอันเฉียบคมสาดส่องอย่างรวดเร็วพร้อมกับกวักมือเรียก “
สิ้นเสียงมู่เอ๋อร์ก็ยกถ้วยชาเดินไปข้างหน้าหนิงเจิงราวกับเตรียมพร้อมไว้ตั้งนานแล้วอย่างไรอย่างนั้น!
หนิงเจิงกัดริมฝีปากจ้องมองฟองน้ำชาที่ลอยอยู่ในถ้วยชาแม้นมองแล้วดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่หากตระหนักให้ดีแล้วย่อมรู้ดีว่าที่เซวียนเช่อเฟยเรียกนางมาพบเป็นการส่วนตัวนั้นต้องไม่ใช่การเชิญนางดื่มชาอย่างแน่นอน!
นางลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ก้มศีรษะลง
เยี่ยเหลียงเซวียนหรี่ตาลงสีหน้ายิ่งเย็นยะเยือกกว่าเดิม “ทำไม…เจ้ากล้าขัดคำข้าอย่างนั้นหรือ”
หนิงเจิงรีบส่ายศีรษะ ทำได้เพียงรับถ้วยชามา
แต่ทันทีที่นางสัมผัสถ้วยชาดวงตาของนางก็หรี่ลง ปลายนิ้วของนางโค้งงออย่างคาดไม่ถึงพร้อมกับดีดออกไปกลางอากาศหนหนึ่ง
ข้อมือของมู่เอ๋อร์รู้สึกเจ็บกะทันหันถ้วยชาตกลงพื้นเสียงแตกกระจายดังเพล้งเป็นเสี่ยงๆ
ทำเอานางตกใจจนหน้าซีดเซียว คุกเข่าลงไปทันทีพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “บ่าวสมควรตาย!”
เยี่ยเหลียงเซวียนตกใจมึนดูเหมือนจะได้สติในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น “หนิงเจิง เจ้ากล้าดีนัก!”
หนิงเจิงกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่รู้เรื่อง
เยี่ยเหลียงเซวียนดวงตาลุกเป็นไฟกว่าเดิม ง้างฝ่ามือออกมาเหมือนจะฟาดลงไปในทันที
หนิงเจิงหน้าถอดสี
กำลังจะหลบหลีก แต่ทันใดนั้นเอง นางได้เหลือบหางตามองเห็นเงาดำตรงบริเวณหน้าประตูตำหนัก
ดวงตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วร้อง โอ๊ยออกมา พร้อมกับกระเด็นออกมาล้มลงบนพื้น!
ฝ่ามือของเยี่ยเหลียงเซวียนหยุดชะงักกลางอากาศพร้อมกับมองนางอย่างประหลาดใจ “เจ้าทำอะไร”
บ่าวชั้นต่ำ…นางยังไม่ทันได้ตบเลยก็ล้มลงเสียแล้ว?!
หนิงเจิงรีบเปลี่ยนสายตาเป็นประกายของตนอย่างรวดเร็วเงยหน้าพร้อมด้วยสีหน้าอันน่าสงสาร “เซวียนเช่อเฟยกระหม่อมทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ เหตุใดพระองค์ถึงทำกับกระหม่อมเช่นนี้”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in