เล่ม 1 ตอนที่ 15 นั่นเป็นแค่กลอุบาย
เขา
เสาค้ำสวรรค์ ตามชื่อหมายความว่า ลูกเต๋าทุกลูกทับซ้อนกันเรียงตั้งเสมือนเสาที่ตระหง่านค้ำฟ้าและลูกเต๋าที่อยู่ด้านบนสุดมีแค่จุดเดียว
ดังนั้นแต้มตัดสินของหนิงเจิงคือหนึ่ง!
ชนะแบบขาดลอย
ทุกคนต่างเบิกตาอ้าปากค้างสูดหายใจหลายครั้ง แล้วมองลูกเต๋าพวกนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ทุกความดูถูกเหยียดหยามมลายไปหมดสิ้นและกลายเป็นความตกตะลึงแทน!
ทักษะนี้ต่อให้เป็นเจ้ามือในบ่อนเล่นพนันมาหลายปี ไม่แน่ว่าอาจทำไม่ได้ขนาดนี้
ดวงตาของเซียวหนานสวินหม่นแสงลงเล็กน้อย
สีหน้าของเซียวเฉิงอิ่งเต็มไปด้วยความตกตะลึง“ไม่...นี่มันเป็นไปไม่ได้!”เขาหันขวับจ้องหน้าหนิงเจิง “ทำไมเมื่อกี้เจ้าไม่บอกว่าทำแบบนี้ก็ได้คิดว่าข้าทำไม่เป็นหรือ นี่แสดงว่าเจ้าไม่ได้บอกกติกาให้ชัดเจนนี่นา!
หนิงเจิงกะพริบตาปริบๆทำหน้าไร้เดียงสา “แต่ข้าก็มิได้ห้ามไม่ให้ลูกเต๋าเรียงซ้อนกันนี่นา
แววตาของเซียวเฉิงอิ่งดูเกรี้ยวกราด“เมื่อกี้ข้าไม่รู้ เพราะฉะนั้นไม่นับ!”
หนิงเจิงขมวดคิ้วมุ่น“เจ้าคิดจะโกงกันหรือ”
“ใครกันแน่ที่ขี้โกง
เซียวเฉิงอิ่งโมโหถึงขีดสุด
แม้แต่คนรอบข้างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา
เกิดประกายแสงวาววับในดวงตาหนิงเจิงอย่างรวดเร็
เซียวเฉิงอิ่งจ้องนางตาเขม็งและแอบคิดแผนการในใจ
มิใช่ว่าเขาไม่เคยทอยลูกเต๋าได้แต้มเสาค้ำสวรรค์เพียงแต่เขาทำได้เมื่อนานมาแล้ว และไม่ค่อยได้เล่นนานแล้วเช่นกันหากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร
แต่...
หากเขาไม่ตอบตกลงวันนี้ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างมิต้องสงสัย!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็พยักหน้าทันที “ตกลง!”
เขาไม่เชื่อหรอก ว่าทหารองครักษ์ตัวเท่าลูกหมาจะทอยลูกเต๋าได้เสาค้ำสวรรค์สองครั้งติดต่อกัน!
ถ้าเก่งกาจปานนั้นแล้วจะมาเป็นองครักษ์ทำไม เพราะสามารถทำเงินมหาศาลจากการเที่ยวบ่อนทุกวันได้มิใช่หรือ
เซียวเฉิงอิ่งมีสีหน้าเย็นชา“งั้นก็พนันกันอีกครั้ง!”
หนิงเจิงมองหน้าเขาแสร้งถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม “แต่ว่าครั้งนี้ เจ้าห้ามโกงอีกเป็นอันขาด”
เซียวเฉิงอิ่ง“...”
โกงมารดาเจ้าสิ
คราวนี้ภายใต้คำร้องขอของเซียวเฉิงอิ่ง ทั้งสองจึงต้องเขย่าทอยลูกเต๋าพร้อมกัน
ในระหว่างนั้น เซียวเฉิงอิ่งก็ได้ถูกครอบงำจิตใจโดยสมบูรณ์
หนิงเจิงยกยิ้มมุมปากก่อนจะเริ่มเขย่าลูกเต๋า นางถือจังหวะขณะที่ทุกคนไม่สนใจ นางก็เหยียดมือซ้ายออกมาที่ใต้ถ้วยลูกเต๋าแล้วเขย่าจนแทบมองไม่ทัน
ไม่มีใครสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของนาง มีเพียงเซียวหนานสวินเท่านั้นที่หรี่ตาลงเล็กน้อย
“ปั้ก...
ทั้งสองปิดถ้วยลูกเต๋าพร้อมกัน!
“เปิดรีบเปิดซี่!”
ฝูงชนโห่ร้องอย่างตื่นเต้น
เซียวเฉิงอิ่งสบถเยาะเย้ยคราวนี้เขาไม่ได้เรียกเด็กรับใช้ในบ่อน แต่เขาเป็นคนเปิดถ้วยลูกเต๋าตรงหน้าเอง
จากนั้นทุกคนก็ได้เห็นลูกเต๋าทั้งหกเรียงตั้งแถวตรงเป็นระเบียบ...ได้เสาค้ำสวรรค์อีกแล้ว
ทุกคนต่างส่งเสียงปรบมือเกรียวกราว
ดวงตาของเซียวเฉิงอิ่งเป็นประกาย และเหลือบมองหนิงเจิงอย่างยียวนกวนประสาท“เจ้าเห็นไหม คิดว่ามีแค่เจ้าที่ทำได้คนเดียวจริงหรือ”
พวกเขามองตามสายตาของเขาไปที่หนิงเจิงทีละคน ดวงตาพวกเขาฉายแววเสียดายอย่างอดมิได้
ความสามารถขององครักษ์ผู้นี้มิธรรมดาแต่น่าเสียดาย ดันมาเจอเทพเจ้าแห่งการพนันที่เก่งกาจเหมือนกัน...หรือต่อให้เขาได้เสาค้ำสวรรค์อีกครั้งก็แค่เสมอกันเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้อาจไม่ได้ผลก็ได้!
หนิงเจิง
เมื่อเซียวเฉิงอิ่งเห็นท่าทางกล้าๆกลัวๆ ของนาง เขาก็หัวเราะเยาะ “ทำไม เจ้ากลัวหรือ”
หนิงเจิงลังเลครู่หนึ่ง“งั้นข้าจะเปิดแล้วนะ”
“เร็วๆ เข้า”
“โอ้...”
หนิงเจิงกระตุกมุมปากและเปิดถ้วยลูกเต๋าต่อหน้าเขาอย่างรวดเร็ว!
ทันทีที่ผลลัพธ์ถูกเปิดเผย ก็เกิดความเงียบสงัดไปทั่วสารทิศ!
จากนั้นก็มีเสียงหอบหายใจดังขึ้นเรื่อยๆ...
สีหน้าของทุกคนตกตะลึงเหมือนตอนที่นางทอยได้เสาค้ำสวรรค์ครั้งแรก!
“นี่...นี่มันอะไรกัน”
“ลูกเต๋าไปไหนแล้วนี่จะนับแต้มอย่างไร”
“เศษผง...ผงพวกนั้นเจ้าคงไม่ได้ทำให้ลูกเต๋าหายไปใช่หรือไม่”
“...”
รอยยิ้มมุมปากของหนิงเจิงยิ่งลึกขึ้นเปลี่ยนจากท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เมื่อครู่นี้แล้วเงยหน้ามองเซียวเฉิงอิ่งที่กำลังตกตะลึง “ถูกต้อง ผงพวกนั้นก็คือลูกเต๋าที่แตกละเอียดเป็นผุยผง”
นางพูดช้าๆ ชัดๆ“ดังนั้นตานี้ ท่านชายได้ไปหนึ่งแต้ม ส่วนของข้าคือ...ศูนย์แต้ม
ตั้งแต่แรกเริ่มลูกไม้เด็ดที่นางกะจะใช้มิใช่เสาค้ำสวรรค์...ถึงแม้ลูกไม้นี้จะไม่ง่ายแต่เมื่อต้องเผชิญกับจอมยุทธ์ด้านการพนัน นางจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน
ดังนั้นนั่นจึงเป็นเพียงแค่กลอุบาย!
วิธีที่แท้จริงคือเปลี่ยนลูกเต๋าทั้งหมดเป็นผงให้ได้ศูนย์แต้มนี่คือศิลปะการต่อสู้ที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้แม้ว่าพวกเขาอยากเรียนมากแค่ไหนก็ตาม!
ทุกคนโดยรอบตกตะลึงจนสติหลุดพวกเขาแต่ละคนมองนางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
แววตาของเซียวหนานสวินดำดิ่งมองนางด้วยแววตาสับสนโดยไม่รู้ตัว
เขาแทบลืมความโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปหมดสิ้นตอนแรกที่เขาเลือกหนิงเจิง ก็เพราะความชื่นชม
“ไอ้เด็กเหลือขอ
หนิงเจิงกะพริบตา“ท่านชาย เจ้าพูดอะไรน่ะ ก่อนเริ่มตาที่สอง ข้าทบทวนกติกาให้แล้วเพียงแค่ให้ได้แต้มน้อยที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ เจ้าก็ยินยอมนี่นา”
นางพูดอย่างไร้เดียงสา“อีกอย่างเจ้าก็ใช้ลูกไม้เสาค้ำสวรรค์แล้วมิใช่หรือ ซึ่งหมายความว่าเจ้าเห็นด้วย...
“นี่เจ้า...”
เซียวเฉิงอิ่งจุกจนพูดไม่ออกสักคำ
สีหน้าของเขาในตอนนี้มิอาจบรรยายได้เขาโกรธจนตาลุกเป็นไฟแทบจะเผาหนิงเจิงให้มอดไหม้อยู่แล้ว
หนิงเจิงกะพริบตาอีกครั้งและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอขอบคุณท่านชายแทนนายน้อยของข้าด้วยตอนนี้กระบี่มั่วเหยียเป็นของพวกข้าแล้ว อย่าลืมจ่ายเงินให้เถ้าแก่สามหมื่นตำลึงล่ะ!”
นางพูดจบก็แย่งกระบี่มาจากมือเถ้าแก่โดยไม่ให้โอกาสเขาพูดอะไรสักคำจากนั้นก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เด็กเหลือขอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เซียวเฉิงอิ่ง
“น้องสามก็แค่พนันสนุกๆ เจ้าแพ้ไม่เป็นหรือไง”
น้อง...น้องสาม
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง
สรุปแท้จริงท่านชายผู้ร่ำรวยทั้งสองเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างนั้นหรือ
หนังตาเซียวเฉิงอิ่งกระตุกยิกๆเขาหันหลังถลึงตามองผู้เป็นพี่ชาย “พี่รองในจวนท่านได้องครักษ์ที่เล่นลิ้นเก่งแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เซียวหนานสวินก้าวขาเรียวยาวเดินผ่านเขาไปอย่างไม่เร่งรีบ “นี่ไม่ใช่เรื่องที่น้องสามต้องใส่ใจ”
เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง“อย่าลืมจ่ายเงินล่ะ”
เซียวเฉิงอิ่ง“...”
ตอนนี้สีหน้าของเขายิ่งบูดบึ้งกว่าเดิมเสียอีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in