เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
PSYFE TH TRANSbeeaybeehuh
(TH TRANS) PSYCHIC FEVER พูดถึงเพลงฮิต Just Like Dat
  • บทความโดย MARISSA CHIN จาก Buro Malaysia
    (ส่วนถาม-ตอบอยู่ด้านล่าง)



         ก่อนยุคเคป๊อปและกระแสทีป๊อปจะมาเมื่อไม่นานมานี้ก็มีเจป๊อปมาก่อน อุตสาหกรรมดนตรีที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่นอยู่แถวหน้าในเรื่องของเทรนด์และการสรรค์สร้างงานดนตรีที่บันดาลใจศิลปินชาวเอเชียในสื่อกระแสหลักมาตลอดจนทุกวันนี้ แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของไอดอลก็มาจากประเทศญี่ปุ่นนี้เอง เมื่อนึกถึงท่าเต้นมีสไตล์ แท่งไฟ และระบบการเทรนไอดอล ผู้มีวิสัยทัศน์ในวงการเคป๊อปอย่างลีซูมานจาก SM Entertainment ก็ได้รับแรงบันดาลใจแรงกล้ามาจากสิ่งเหล่านี้จนถูกนำไปใช้เป็นระบบหลักในการสร้างพื้นฐานของเคป๊อปในปัจจุบัน


         ผลผลิตใหม่ล่าสุดของความสามารถทางดนตรีที่หาจับตัวยากนี้คือ ไซคิกฟีเวอร์ บอยกรุ๊ปที่มีสมาชิกเจ็ดคน กำเนิดขึ้นจากการรวมกลุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอย่าง Exile Tribe เดบิวต์ในเดือนกรกฎาคม 2022 ประกอบด้วยโคโคโระ วีสะ ซึรุกิ เรียวกะ เร็น จิมมี่ และริวชิน ซึ่งมีช่วงวัยตั้งแต่ 2004 ถึง 1997
         ผ่านการฝึกฝนด้านการเต้น ร้อง แรพมาเป็นพิเศษ ไซคิกฟีเวอร์ได้รวบรวมยอดติดตามออนไลน์เป็นจำนวนมากและคว้าความสำเร็จน่าสรรเสริญได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ล่าสุดก็ชนะรางวัล Next Generation Global Award (รางวัลรุ่นใหม่สู่สากล) ในงาน 2022 Genie Music Awards ที่ประเทศเกาหลีใต้ และรางวัล Asia’s Rising Star (ดาวรุ่งเอเชีย) ในงาน Thailand’s Digital Awards 2022 ที่ประเทศไทย มุ่งสู่ทัวร์ P.C.F 2023 ด้วยความร้อนแรง เป็นวงที่กำลังลุกโชนอย่างรวดเร็ว และในเดือนมกราคมปี 2024 นี้ พวกเขาจะพุ่งทะยานสูงขึ้นไปอีกระดับของความโด่งดังจากเพลงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมา
         ชื่อเพลง Just Like Dat เพลงฮิปฮอปเรโทรพร้อมซาวน์ไมอามี่เบสกระตุกใจดังเป็นกระแสไปทั่วโซเชียลจนได้เข้าสู่เพลย์ลิสต์เพลงดัง Viral 50 Hits บน Spotify ของประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ตัวแฮชแท็ก #JustLikeDat ก็เก็บเกี่ยวไปได้ถึง 61.2 ล้านวิวบน Tiktok กระตุ้นชาเลนจ์เต้นอย่างคึกคัก


         ถัดจากนี้ เราได้พูดคุยกับสมาชิกทั้งเจ็ดคนจากไซคิกฟีเวอร์เกี่ยวกับรีแอคของแต่ละคนต่อความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ของเพลงนี้ กระบวนการเบื้องหลัง Just Like Dat เป็นอย่างไร ไปจนถึงว่าตัววงขึ้นอยู่เหนือเจป๊อปได้อย่างไร





    ยินดีด้วยกับความปังของ Just Like Dat! รู้สึกยังไงกันที่เพลงดังมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ฟังจากนอกประเทศ?


    วีสะ: ขอบคุณมากๆ ครับ! เราออกทำงานที่ต่างประเทศมาตลอด ก็ดีใจที่เพลงของเราถูกเปิดฟังในหลายๆ ประเทศที่เรายังไม่เคยไปครับ หวังว่าคนในประเทศเหล่านั้นจะฟังเพลงใหม่ของเราอย่างที่ฟัง Just Like Dat นะครับ ถึงจะไม่เคยฟังก็อยากให้ฟังนะ


    เร็น: เป็นครั้งแรกเลยครับที่เราเข้าถึงคนจากต่างประเทศเยอะขนาดนี้ การที่เราได้รับคอมเมนต์มากมายที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นเป็นตัวยืนยันให้ผมได้อย่างดีเลยครับ หลายๆ คนไม่ได้พูดถึงเรื่องร้องอย่างเดียวแต่พูดถึงเรื่องเต้นด้วย เป็นสิ่งที่พวกเราอยากเห็นอะครับ เลยเป็นแรงใจมาก


    จิมมี่: หนึ่งในความฝันของพวกเราคือการได้ไปรอบโลกครับ เลยมีความสุขมากๆ ที่ฝันของเรากำลังเป็นความจริง! ชอบที่ได้เห็นคลิปของทุกคนร้องเต้นเพลงเราบนโซเชียลด้วยครับ




    เคยคาดคิดมาก่อนไหมว่าเพลงจะแมสบนโลกออนไลน์?


    เรียวกะ: ไม่ได้คาดหวังให้เพลงนี้แพร่ออกไปแบบนี้เลยครับ เซอร์ไพร์สมาก ถึงอย่างนั้นก็รับรองได้เลยครับว่าเราจะปล่อยเพลงแหวกแนวที่เปิดฟังตอนไหนก็ได้ออกมาแน่นอน และคิดว่าเพลงจะไปถึงผู้ฟังได้เยอะด้วยครับครั้งนี้กับเป้าหมายนั้น


    เร็น: จริงๆ ผมก็แอบคาดหวังไว้นะครับ เราถูกเสริมแรงใจเยอะมากจากช่วงที่ทำเพลงอยู่ ได้คุยกับคุณ JP The Wavy ที่โปรดิวซ์เพลงนี้ด้วยว่าขายได้แน่ๆ เราค่อนข้างมั่นใจเลยเพราะบรรยากาศของตัวเพลงมันต่างจากเพลงก่อนหน้าของพวกเราอย่างสิ้นเชิงครับ


    จิมมี่: พวกเราไม่ได้คาดหวังว่าคนจากนอกประเทศจะมาฟังเราเยอะขนาดนี้ครับ ผมว่าที่เราสร้างความกระตือรือร้นขนาดนี้ได้ก็ต้องขอบคุณพลังโซเชียลกับแฟนๆ ของเราชาว ForEVER เหนือจินตนาของเราไปเลยครับ ช่วงที่เขียนเพลง เราไม่ได้เขียนเพื่อเจาะตลาดญี่ปุ่น แต่เขียนเพื่อคนทั้งโลกมากกว่า ก็เลยภูมิใจมากครับที่มีคนชอบเพลงเราเยอะขนาดนี้




    ดูจากรีแอคบนโซเชียลแล้ว มีคนไม่น้อยแอบตกใจที่ Just Like Dat เป็นเพลงเจป๊อป! ในความเห็นของเมมเบอร์ เคยเจอความคิดอคติเกี่ยวกับเจป๊อปยังไงบ้าง และไซคิกฟีเวอร์ได้ใส่คำจำกัดความให้แนวเพลงนี้ใหม่ด้วยเพลงอย่าง Just Like Dat ยังไง?


    โคโคโระ: เราทุกคนก็มีเทสต์เพลงไม่เหมือนกันครับ เราพยายามจะทำเพลงหลากหลายไม่ผูกติดกับแนวใดแนวหนึ่ง เป็นความท้าทายส่วนตัวก็ว่าได้ครับ แต่เราพยายามจะเผยตัวตนในแนวเพลงของไซคิกฟีเวอร์ที่ยกระดับขอบเขตของเจป๊อปขึ้นไปอีกครับ


    ซึรุกิ: เราเชื่อว่าเพลงของเราไม่มีใครเหมือนครับ ด้วยความเชื่อนี้เราก็เลยขยายความเป็นไปได้และขอบเขตของเจป๊อปออกไป ในขณะเดียวกันผมคิดว่าการจำกัดความความเป็นเจป๊อปใหม่ในวงการดนตรีให้โลกรู้ในอนาคตก็สำคัญครับ!


    วีสะ: แน่นอนครับว่าเจป๊อปเป็นแกนหลักของเพลงเรา แต่สมาชิกแต่ละคนก็ได้รับอิทธิพลมาจากแนวเพลงหลากหลายต่างกันออกไป แล้วผมก็คิดว่านี่ก็มีส่วนส่งถึงอิทธิพลถึงเพลงของเราด้วยครับ ไซคิกฟีเวอร์อยากจะเป็นวงที่ไม่ได้ถูกกั้นไว้ในขอบเขตใดขอบเขตหนึ่ง แต่อยากจะปรับพัฒนาไปเรื่อยๆ ครับ


    เรียวกะ: เราทำงานร่วมกับศิลปินเจ้าบ้านประเทศอื่นบ่อยๆ ก็เลยตั้งเป้าอยากให้ดนตรีไม่มีเขตแนวเพลงครับ หน้าที่เราคือการสรรค์สร้างเพลงไร้แนวเพลงโดยยังไม่ลืมรากฐานความเป็นเจป๊อปของพวกเราครับ




    ท่าเต้นในเพลงก็ดูเต้นสนุกมาก! ริวชินมีส่วนร่วมคิดท่าเต้นด้วย มีอะไรต้องคำนึงถึงอะไรบ้างตอนคิดท่า?


    ริวชิน: สำหรับเพลงนี้ผมร่วมคิดท่าเต้นกับ Kaita และ Kaz the Fire จาก Riehata Tokyo คิดว่าใจหลักสำคัญคือการนำท่าที่ดังๆ ในอดีตมาใช้ครับ ทั้งองค์ประกอบและท่าเต้นก็ชวนให้นึกถึงเพลงดังๆ กับบรรยากาศของอดีต ก็อยากให้ผู้ชมรู้สึกถึงห้วงอดีตตอนมาดูวงที่เขาไม่เคยดูมาก่อนครับ!




    ทำเพลงนี้และก็ EP 99.9 Psychic Radio ร่วมกับ JP The Wavy ด้วย มีเหตุผลเฉพาะที่ต้องทำงานร่วมกับเขาไหม?


    ริวชิน: JP The Wavy เป็นแรปเปอร์เบอร์ต้นของญี่ปุ่นเลยครับตอนนี้ ตอนเราปล่อยเพลง Hotline ก่อนเดบิวต์เขาก็เขียนเกี่ยวกับเราบนโซเชียล และด้วยความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อะไรต่างๆ เราก็เลยได้ทำเพลงกับเขา เขาจัดการทุกอย่างเลยครับตั้งแต่ชุดคอสตูมยันท่าเต้นยันอัดเพลง เราซาบซึ้งใจมากครับ! ผมได้เรียนรู้มาเยอะมากและคิดว่ามันเป็นช่วงจังหวะสำคัญสำหรับเราทั้งวงและทั้งส่วนตัวด้วยครับ!


    โคโคโระ: เราดีใจมากๆ ครับเพราะปกติเราเองก็ฟังเพลงเขาอยู่แล้ว เขาใจดีกับพวกเรามากมาตั้งแต่ช่วงอัดเพลงแล้วครับ แล้วเราก็รู้สึกว่าชิ้นงานนี้ผสานให้เกิดพลังแห่งการบรรยายความรู้สึกผ่านคำพูดขึ้นมา ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธของแรปเปอร์เลยครับ


    ซึรุกิ: เขาเป็นหนึ่งในแรปเปอร์ชาวญี่ปุ่นที่แอคทีฟไปทั่วโลกมากที่สุดครับ ดังมากๆ ด้วยในญี่ปุ่น เราทั้งคู่ต่างก็มีการตระหนักสูงเรื่องการสร้างอะไรเท่ๆ ก็เลยมาทำงานร่วมกันเพื่อจะเป็นซูเปอร์กรุ๊ปที่เต้นเพลงฮิปฮอปได้ครับ!




    สำหรับวงที่เดบิวต์ในยุคของ TikTok คิดว่าเจป๊อปมีการพัฒนาทั้งในแง่แนวเพลงและสื่ออุตสาหกรรมยังไงบ้าง และไซคิกฟีเวอร์คาดหวังจะสื่อสารสิ่งใดออกไปกับเพลงของตัวเอง?


    ซึรุกิ: เจป๊อปมีการเติบโตตามยุคสมัยอยู่ตลอด แต่ก็มักจะสะท้อนและพัฒนาขึ้นจากเพลงโฟล์ครวมถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย ก็มีช่วงที่วัฒนธรรมถูกยกขึ้นให้ความสำคัญแต่ขณะเดียวกันมันก็เปลี่ยนไปตามทั้งสิ่งที่เราได้ยินได้เห็น เราเดบิวต์มากับบริบทนี้นี่เองล่ะครับ


    เร็น: ช่วงหลังมานี้เพลงญี่ปุ่นถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกผ่านโซเชียล ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะฮัมตามเพลง ผมว่านี่แหละที่ทำให้การเข้าถึงผู้ฟังนอกประเทศมันง่ายขึ้น เราอยากจะส่งออกไม่ใช่เพียงแค่ดนตรีแต่เป็นการเต้นและการร้องซึ่งอยู่ในรากเหง้าของเราด้วย รวมถึงความรัก ความฝันและความสุข (Love Dream Happiness) ที่เป็นตัวย่อของ LDH ชื่อค่ายเรา LDH บันดาลใจให้เราฝันและได้มาเป็นศิลปิน ตอนนี้เราก็กำลังอยู่ในช่วงกำลังไขว่คว้าความฝันของพวกเรา ก็เหมือนกับที่เราเคยถูกมอบความฝันมาอะครับ เราก็เลยอยากเป็นคนที่มอบความฝันให้คนอื่นเหมือนกัน


    ริวชิน: ผมว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในยุคของโซเชียลมีเดียที่คนได้รู้สิ่งที่พวกเขาไม่ได้อยากรู้หรือได้เห็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเห็น ในทางที่ดีนะครับ ในช่วงยุคสมัยนี้การตามเทรนด์ให้ทันมันสำคัญก็จริง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญกับเราที่สุดก็คือการได้เป็นคนแรกริเริ่มเทรนด์ครับ! ตอนนี้เราได้ไปหลายๆ ประเทศ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราอยากจะสื่อออกไปก็คือการได้ทำให้คนทั่วโลกมีความสุขไปกับการแสดงของพวกเราและอยู่เหนือกำแพงภาษาครับ!




    Just Like Dat มีความเหมือนหรือแตกต่างกับซาวน์ของไซคิกฟีเวอร์ยังไงบ้าง?


    เรียวกะ: เราทำเพลงนี้โดยมีซาวน์เพลงยุค 2000 อยู่ในหัวครับ เรามักจะรวมองค์ประกอบของเจป๊อปกับฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีในเพลงของเราอยู่บ่อยๆ การทำงานกับ JP The Wavy ทำให้ซาวน์เพลงที่เราได้ทำๆ มากันมีความสตรองขึ้นมากกว่าเดิมครับ


    เร็น: ผมว่ามันเป็นอะไรที่เรายังไม่เคยทำมาก่อนนะครับ เพราะเป็นการนำแทร็กเพลงฟีลยุคต้น 2000 มาใช้รวมกับการแรปและร้องที่ออกจะเป็นของยุคนี้ ผมว่ามันกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับสไตล์ที่ใหม่ขึ้นมากกว่า พวกเราก็มักจะหาทำดนตรีและการแสดงโชว์แบบใหม่ๆ มาอยู่เสมอครับ


    จิมมี่: ในแง่หนึ่งมันก็ไม่ได้คล้ายกับเพลงไหนที่เราเคยทำมาเลยครับ เพราะเพลงนี้โปรดิวซ์โดย JP The Wavy มันเลยเป็นโอกาสดีที่จะลองทำเพลงแนวแนวที่ไซคิกฟีเวอร์ไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็เป็นการชาเลนจ์ขอบเขตสิ่งที่เรายังไม่เคยทำด้วยครับ




    ได้ปล่อย EP 99.9 Psychic Radio ไปเมื่อเดือนมกราคมด้วยนี่ บทใหม่ทางดนตรีนี้นำเสนออะไรบ้าง?


    โคโคโระ: ชื่อ 99.9 Psychic Radio ของ EP นี้ ทั้งได้รับแรงบันดาลใจและเป็นการเคารพสื่อวิทยุที่เป็นสื่อกระแสหลักในการกระจายเพลงในช่วงนั้นครับ แล้วก็ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพสถานีวิทยุในจินตนาการที่เปิดฟังได้แค่ที่นี่เดียว เราอยากจะส่งมอบสไตล์ของวิทยุที่มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่จะแสดงออกไปได้ครับ


    ซึรุกิ: ผมว่ามันเป็นพรมแดนใหม่เลยล่ะ เป็นการยกระดับขึ้นสำหรับพวกเรา ส่วนนึงก็เพราะได้ทำร่วมกับคนที่มองเราตามที่เป็นจริง และทำให้เราได้เข้าใกล้กับผู้ฟังของเรามากขึ้นครับ


    จิมมี่: เราได้แสดงออกว่าไซคิกฟีเวอร์เป็นวงที่พัฒนาขึ้นได้ตลอดผ่าน EP นี้ครับ มีทั้งเพลงที่มีแต่โวคอลกับเร็น แล้วก็เพลงแรปฟรีสไตล์ที่มีแต่แรปเปอร์ด้วย เริ่มจาก EP นี้เป็นต้นไปเราก็จะพยายามแสดงออกถึงความเป็นตัวเราในหลากหลายทางมากขึ้นในอนาคตครับ


    ริวชิน: ผมว่าเราได้ปล่อยเพลงที่ได้ทำหน้าที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของเราออกไปนะ! เมื่อก่อนนี้ มันยากมากๆ สำหรับพวกเราที่จะไปข้างหน้าได้ตามใจหวัง แต่คราวนี้เราได้งอกงามขึ้นในทางที่ดีมากๆ ผมคิดว่านี่แหละเป็นโอกาสดีสำหรับเราที่จะส่งข้อความออกไปด้วยความมั่นใจแล้วก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองเหมือนกันครับ




    Just Like Dat ได้รับความรักล้นหลามเลยที่มาเลเซีย แฟนๆ ที่นี่ก็มีเพิ่มขึ้นทุกวันๆ! แฟนๆ รอดูโชว์ที่มาเลเซียได้เร็วๆ นี้มั้ย?


    โคโคโระ: หวังว่าจะรอพวกเรากันนะครับ พวกเรารักประเทศมาเลเซียมากๆ! เราอยากจะเป็นวงที่โด่งดังขึ้นอีกเพื่อที่จะมาหาแฟนๆ ชาวมาเลเซียให้ได้เร็วที่สุด แล้วเราก็อยากจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่มาเลเซียด้วยครับ


    วีสะ: ทัวร์เอเชียของเราจะเริ่มเดือนพฤษภาคมนี้ครับ เราอยากมาทัวร์ในประเทศมาเลเซียด้วยเหมือนกัน อยากแสดงที่งานเฟสติวัลกับอีเวนต์ต่างๆ ในมาเลเซียครับ


    ซึรุกิ: ใช่ครับ คาดหวังได้เลย พวกเรารักมาเลเซียมากๆ จนอยากจะกลับมาแสดงไลฟ์มาเจอกับทุกๆ คนแน่นอนครับ! ตั้งตารอกันได้เลย!


    เรียวกะ: ผมปลื้มใจมากครับ ไซคิกฟีเวอร์เคยมามาเลเซียแค่ครั้งเดียวเอง เราเลยเตรียมพร้อมจะได้เจอ ForEVER ชาวมาเลให้มากๆ ขึ้นอีกนับจากนี้ไป ช่วยรอพวกเราด้วยนะครับ


    เร็น: แน่นอนครับ! รอเจอทุกคนที่มาเลเซีย รอที่จะแสดงไลฟ์ไม่ไหวแล้ว ตั้งแต่เดบิวต์มาเราได้โชว์ที่มาเลเซียครั้งเดียวเอง เมมเบอร์ทุกคนอยากกลับมามาเลเซียไวๆ จะแย่แล้วครับ


    จิมมี่: เราคิดอยู่ครับว่าเป็นไปได้ เพราะเรามีแพลนจะทัวร์ทั่วเอเชียปีนี้เลยหวังว่าจะมีโอกาสได้มาเยี่ยมมาเลเซียอีก อยากมาบ่อยครั้งเท่าที่จะมาได้เลยครับ! อยากเจอ ForEVER ที่มาเลเซียครับ!


    ริวชิน: ครับ อยากไปเยือนมาเลเซียอีกครับ! ผมน่ะอยากไปจริงๆ ก็ช่วยรอดูด้วยนะครับ!




    สุดท้ายนี้ ไซคิกฟีเวอร์มีความหวังเรื่องอะไรบ้างในปี 2024?


    โคโคโระ: กับเอเชียทัวร์ HEAT ที่จะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ ผมอยากจะแชร์ดนตรีและพื้นที่นี้ไปกับทุกคนในเอเชียรวมถึงทั่วโลกให้มีช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปด้วยกัน ช่วยติดตามเพลงใหม่ที่พวกเราจะปล่อยในอนาคตด้วยนะครับ!


    ซึรุกิ: สำหรับพวกเรา ปี 2024 เป็นปีที่สำคัญเลยครับ ทุกๆ วันเรารู้สึกว่าเพลงของเราเข้าถึงคนมากขึ้นๆ ปีนี้เราก็อยากขยายไซคิกฟีเวอร์ให้รู้จักเป็นวงกว้างขึ้นในเอเชียและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครับ


    เรียวกะ: เราตั้งตาคอยจะได้เจอแฟนๆ ในประเทศต่างๆ คอยจะสนุกไปด้วยกันกับเพลงของพวกเราในทัวร์ที่จะถึงนี้ครับ เราจะทำเต็มที่เพื่อจะปล่อยเพลงที่จะแซงหน้า Just Like Dat ให้ได้ครับ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in