เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เจอ-พบ-จาก เมืองคอง ss2AROMINT
EP 04 CONNECTED



  • กลับถึงที่พัก ทานอาหารเช้า
    เจอน้องผู้หญิงเดินเข้ามาทัก 
    “ เมื่อเช้าโดนรถทิ้งหรอคะ “

    โถวววว
    บทสนทนาเริ่มต้นทีิ่ทำให้ได้มิตรภาพใหม่
    มีเพื่อนนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน
    แม้ในห้วงเวลาสั้นๆ
    ก็เป็นรูปแบบหนึ่งในการสร้างสานสัมพันธ์
    ที่เกิดขึ้นมาที่นี่ 

    มันจะถูกเก็บเป็นส่วนหนึ่ง
    ในตัวละครของความทรงจำเรา

     

    “ไปล่องแพตอนไหนดีพี่”
    แชตเด้งมา ในขณะที่เรากำลังจะพักผ่อน

    ด้วยความคุ้นชินกับการทำอะไรคนเดียว
    ในใจคิดว่า ตอนไหนก็ได้ป่ะ
     
    แน่นอนการเดินทางของเราคือ
     มักเป็นแบบไม่มีแบบแผนตายตัว

    การต้องแพลนเวลาชัดเจน
    สำหรับเรามันเป็นการเพิ่มกรอบให้ตัวเอง
    ฉันไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ~
    ..

    ใช่แล้ว
    เมื่อมนุษย์เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
    ย่อมต้องลดความปรารถนาตัวเอง
    หันไปรับฟัง และเปิดพื้นที่เข้าใจ
    วงกลมวงอื่นที่โคจรเข้ามาใกล้

    ทั้งหมดก็เพื่อไม่สร้างบาดแผล
    ให้กันและกัน
    ให้ทุกการกระทำในปัจจุบัน
    แปลงเปลี่ยนเป็นเรื่องราวดีๆ
    ที่จะกลายเป็นความทรงจำของเรา

    :
    เรานัดหมายเวลากับน้องเรียบร้อย
    คิดว่ายังไงถ้าไม่ได้สมาชิกเพิ่ม
    ก็ไปจอยกันสองคน 

    -
    ถึงเวลาออกจากที่พัก
    ที่พักให้เรายืมรถมอเตอร์ไซต์ออกมาเที่ยวเล่น
    ระหว่างรอเข้าพักอีกที่หนึ่ง

    มอเตอร์ไซต์แบบเกียร์เหมือนเดิม
    ถีบๆ ๆ สตาร์ทขาไม่ติด 
    พี่ๆเดินมาหา 
    ทำไมไม่กดสตาร์ทมือ 
    🤣🤣
    จังหวะซิตคอมมาก 
    อ่อ รถแบบเกียร์ก็สตาร์ทมือได้
    .
    เราแวะไปคาเฟ่ที่น้องแนะนำ
    คาเฟ่ สวัสดีเมืองคอง
    ที่นี่มองเห็นวิวเมืองคอง ภูเขา ทุ่งนา
    บรรยากาศดีเลย 
    ใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักใหญ่

    /
    ก่อนแวะเข้าไปเที่ยวดูน้ำตกลำธารหลังที่พักน้อง
    เพราะใกล้เวลานัดหมายที่จะไปล่องแพ
    เราตั้งใจว่าจะขี่ไปรับน้องไปด้วยกัน
    พี่หนุ่ยกับพี่หนุ่มชวนไปเที่ยวด้วยกันก่อนถึงเวลาล่องแพ
    พี่ๆไปเช็คมาแล้วว่า พวกเราได้คิวกันบ่ายสาม
    ตอนนี้เรามีแก๊ง 4 คน 
    ไม่เหงาแล้ว


    น้ำตกที่เป็นธารน้ำเล็กๆ
    รอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่
    ผืนฟ้า ก้อนเมฆ
     ทำหน้าที่เป็นฉากหลังอย่างลงตัว
    ในแบบที่แต่ละสิ่งกำลังแสดงบทบาทของตัวเอง
    เสียงน้ำไหล และความเย็นของธารน้ำ
    ชวนให้เราอยากนั่งแช่น้ำอยู่ที่นี่นานๆ

    ถ้าไม่มีอะไรทำต่อ คงได้นั่งแช่น้ำที่นี่แล้ว
    ..
    เรามารับน้องเตรียมซ้อนมอเตอร์ไซค์
     พจนภัยไปด้วยกัน
    ก่อนบิดเครื่องไป บอกก่อนแล้วว่า 
    ถ้าเห็นท่าไม่ดี แค่เอาขาพยุงไว้ก็พอ
    ไม่ได้บอกให้โดดลงหนีไป
    🤣
    แน่นอนนี่คือผู้โชคดีรายแรกที่ได้ซ้อนท้าย
    ฉันที่ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มีเกียร์เช่นกัน
    บวกกับเรากำลังจะต้องขี่ออกจากที่พัก
    ที่เป็นดินเป็นหิน
    สองข้างทางเป็นทุ่งนา
    ไปจ้าาา..
    ..

    เรากลับไปเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์
    เอามาจากที่พักอีกที่ แล้ววนกลับมารับน้อง
    ที่อยู่คนละหมู่บ้านกัน

    เหตุผลที่ต้องมารับเพราะน้องขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้
    ไหนๆเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว
    ไปไหนไปกันงานนี้

    เราเชิญชวนให้น้องลองขี่มอเตอร์ไซค์
    เห็นว่าตรงนี้เป็นถนนลาดยาง ปลอดภัย
    น่าจะไม่ยาก
    น้องสนใจอยากลอง
    หลังจากบิดมอเตอร์ไซค์ไปแล้ว

    เรารับรู้ทันทีว่า คนเริ่มหัดขับครั้งแรกเป็นยังไง
    😂

    ห้ามไม่ทันแล้วด้วยค๊าบ
    เรานั่งซ้อนท้ายไปด้วยกัน
    ขี่ไปไม่ถึง 5นาที 

    โคร่มมมมมมม

    รถหักเลี้ยวโค้งไปชนกับพุ่งไม้หน้าโรงเรียน
    เรียบร้อยโรงเรียนเมืองคอง

    เรากลายเป็นผู้ประสบภัยทันที 
    😂😂

    ตัวเราไม่ได้แผลอะไรมาก แค่ถลอกนิดหน่อย
    แต่น้องได้แผลที่ขามา

    ยังอีกกก
    ใจยังสู้ ยังจะขี่ต่อ
    ข้างหน้ามีร้านขายของชำ
    คิดว่าควรล้างแผล ทายาห้ามเลือดก่อน
    จัดการล้างแผลปิดพาสเตอร์แผลไว้
    น้องยังใจสั่นตื่นเต้นกับอุบัติเหตุ
    การขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิต

    ทำเรารู้สึกผิดมากๆ
     ความหาทำ ไปเอ่ยชวนคนไม่เคยขี่
    มาให้ลองกับรถเกียร์ในป่าบนเขาแบบนี้
    ….
    ถึงเวลาล่องแพของพวกเรา
    หนึ่งแพนั่งได้ 4 คนพอดี เราไปขึ้นที่ต้นน้ำ
    ล่องผ่านแม่น้ำจากต้นน้ำที่มาจากเวียงแหง
    มีลุงมือพาย ชื่อ ลุงบูรณ์

    สายน้ำเย็นสบายจนน่าเอาเท้าลงไปจุ่มน้ำ
    เอาดีๆ ล่องแพนี่คือหลับได้เลย
    เพราะน้ำนิ่งมาก
    จนลุงบูรณ์ต้องคอยหยอก กลัวสมาชิกจะหลับกัน
    เราเลยพยายามสร้างเสียงหัวเราะ
    ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ

    เพราะระหว่างเรา
    จริงๆแล้ว เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
    เราต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน
    จนมาเป็นมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นแบบเฉพาะกิจ
    เพื่อเป้าหมายเดียวกัน

    /

    พี่หนุ่ยกับพี่หนุ่มเตรียมวาดภาพระหว่างล่องแพ
    ซึ่งแพนิ่งพอที่พี่หนุ่มสามารถวาดรูป
    พวกเราบันทึกไว้จนเสร็จได้
    ลุงบูรณ์กับไม้พาย
    คอยจัดการทิศทางแพ
    ให้ไหลไปตามผิวน้ำ
    ด้วยท่วงท่าที่คล่องแคล่ว

    ทางฝั่งน้องก็ล่องแพในสภาพที่เลือดที่ขาไหลไม่หยุด

    เราใช้เวลาชมบรรยากาศริมแม่น้ำ
    สูดอากาศสดชื่นที่หมู่บ้านกลางหุบเขา
    ลุงบูรณ์บอกเล่าเรื่องราวของเมืองคอง
    ชี้ให้พวกเราดูนก ความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่

    ความสวยงามที่เชื่อมโยงกันของธรรมชาติ
    แม่น้ำ ภูเขา ท้องฟ้า ก้อนเมฆ
    กลายเป็นภาพสะท้อนลงผืนน้ำ
    ถูกจัดวางโดยไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ

    นี่คือความพิเศษของธรรมชาติ
    ที่ทำให้เราตกหลุมรัก 



    //

    Next Read to EP 05


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
tinie (@tinie)
ดื่มด่ำกับบรรยากาศไปด้วย แต่อยากให้ต่อเรื่อง สนุกดีค่ะ