เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เจอ-พบ-จาก เมืองคอง ss2AROMINT
EP 05 เรื่องเซอร์ไพรส์

  • เรื่องเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นที่บ้านอ้ายด่อง

     มีเรื่องราวเก็บเป็นความทรงจำเยอะมากๆ

    กลัวการเดินทางครั้งนี้จะจืดชืดเกินไปหรอ

    😂😂


    เหตุผลที่เราย้ายพักสองที่ เนื่องจากความเข้าใจ

    ที่ผิดพลาด บวกกับความมือไว

    เจอ เพจ เมืองคอง อ้ายด่อง โฮมสเตย์ 

    กดทักไปแล้วพี่ตอบไวมาก

    ส่วนภูตะวันเป็นที่พักเดิมที่เราจำได้

     และคิดว่ามันค่อนข้างปลอดภัย 

    อยู่คนเดียวไม่อันตราย

    แต่สื่อสารกันผิด คิดว่าห้องเต็ม

    ในขณะที่อ้ายด่อง ทักแล้วตอบเลย

    เราเลยไปจองอ้ายด่อง 

    สำรองเข้าพักวันที่ภูตะวันห้องพักเต็ม

    //


    เริ่มจาก วันที่จะต้องย้ายเข้าพักที่นี่


    9 โมงเช้า 


    พี่ปองโทรมาแจ้งให้เราเข้ามาช้าหน่อย

     เพราะข้างบ้านมีคนเสีย 

    ศพจะออกไปตอนบ่ายโมง 


    เซอร์ไพรส์สส แทบช็อกค๊าบ 

     อุแง๊.. . 

    ย้ายที่พักได้มั้ยแกร 


    ลุงคะ 1 ปี มี 365 วัน 

    ทำไมลุงมาเสียวันที่หนูเข้าพัก 

    🥹🥹


     ที่จองไว้เป็นโฮมสเตย์ 

    ยังคิดว่าคงได้แชร์ห้องพักกับคนอื่น

    ..

    บ่ายสองโมง พี่ปองมารับ

    บ้านอ้ายด่องอยู่หมู่บ้านหนองบัว 

    คนละหมู่บ้านกับเมืองคอง

    แล้วเส้นทางไปคือแอบไกล

     ผ่านเขาสองลูก 


    ประเด็นคือ

     มันคือเนินเขาที่เราประสบเหตุ

     รถดับกลางเนินวันแรก 

    ละบอกกับตัวเองว่า

     ฉันจะไม่มาทางนี้อีก 

    เพราะกลัวมาก เนินสูงมาก 


    สรุปก็คือ อ้ายด่อง ต้องขี่ผ่านเขานี้ต่อไปอีกจ้า

     เนินเขาพิชิตโอลิมปิกสุดๆ


    ไปถึงที่พัก

    ข้างบ้านเค้ายังเคลียร์สถานที่ไม่เสร็จ

     ฟิลได้เลยค๊าบ

    ข้างบ้านที่ว่านั้น คือในรั้วเดียวกันเลยค๊าบ


    แล้วคืนนี้ไม่มีแขกอื่นเลย

     only me กับบ้าน5หลัง


    เซอร์ไพรส์สส


    หลังนึงนอนได้4คน เป็นเบาะวางเรียงไว้

     บ้านอยู่กลางทุ่งนาไป

    แล้วฉันต้องนอนคนเดียวคร้า

     ใจอยากเปลี่ยนที่นอนมากๆ 

    แม้จะโอนจ่ายค่าที่พักไปล่วงหน้าแล้ว

    .


    พี่ปองกับน้องพอเพียงดูแล 

    ต้อนรับเราดีมากๆ 

    ทำให้เราเกรงใจไม่กล้าปฏิเสธมิตรไมตรี

     เราแค่คิดว่า อยากอยู่ที่นี่ให้น้อยที่สุด

     เลยพยายามหากิจกรรมทำข้างนอก 


    ใช่แล้ว เรายืมมอเตอร์ไซค์พี่ปองออกมา

     เพราะมีนัดไปล่องแพกัน 

    เลี้ยวออกไปถึงต้นซอย

     ยังไม่ทันถึงไหน จอดคิดทบทวน

     ขามาเราเลี้ยวมาจากทางไหนแล้วนะ 🤣


     พี่ปองตะโกนมาเลี้ยวซ้ายๆ

     🤣🤣 

    จะรอดมั้ยเนี่ย 


    รีบบิดไปรับน้อง

     ขับผ่านเนินเขาแบบ slowly ใจเย็น 

    ช้าได้ช้า ปลอดภัยไว้ก่อน 




    เซอร์ไพรส์ต่อมา 

    หลังกลับจากอนามัย

     

    เที่ยวเชิงวิถีชีวิต ทำการเช็คอิน

    ทำแผลที่อนามัยเรียบร้อย


     เราขับตามกระบะพี่ที่ล่องแพ 


    มีรถคันหนึ่งสวนกัน 

    และวนกลับมา 


    “ Aslammualaikum “

    นักท่องเที่ยวมุสลิมมาที่นี่หรอ

     เอะ คนมาเลหรือเปล่า 

    คิดว่าที่นี่ไม่น่าจะมีพี่น้องมุสลิม


    บังกาเซ็มกับพี่แสงดาว

     ทักทายเห็นเราคลุมฮิญาบ 

    เห็นว่าเรามาคนเดียว

     สิ่งแรกที่ถามคือ แล้วกินอะไรหรือยัง

    แล้วชวนเราไปกินข้าวที่บ้าน 


    MashaAllah ดีใจจจมากกกก 


    เจอพี่น้องมุสลิมอยู่เมืองคอง 

    ฟิลเจอญาติที่พลัดพรากมาก

    เราไม่ปฏิเสธคำชวน

     เพราะยังไม่อยากกลับเข้าที่พัก 

    ที่สำคัญจะได้กินอาหารฮาลาลอิ่มท้อง


     Alhamdulillah 




    พี่แสงดาวยกส้มจากสวนมาให้ทาน

     อร่อยมากๆ แถมให้ติดมือกลับมาอีก

    ส้มที่เราคิดว่าคงไม่ซื้อเพราะไม่อยากหิ้วของหนัก

    แต่แล้ว พอได้ชิมส้มที่นี่ หวานอร่อยมาก

    จนอยากให้คนที่บ้านได้ชิมด้วย

    ได้มาเป็นริสกีจากผู้ใหญ่ที่เราเพิ่งพบเจอกัน


    มื้อเย็นวันนี้เป็นริสกีที่อัลลอฮประทานให้เรา

    พร้อมกับการได้รู้จักพี่น้องมุสลิมที่นี่ 


    วันนี้เป็นอาหารมื้อเย็นที่พิเศษสำหรับเรามากๆ

     

    พี่แสงดาวกับบังกอเซ็มขับรถมาส่งที่อ้ายด่อง


    เราแอบระบายความกลัวกับบังกาเซ็ม

     ว่า เรากลัว ข้างบ้านเพิ่งมีคนเสีย 


    พี่แสงดาวกับบัง มานั่งคุยกับพี่ปอง

     ซึ่งเป็นญาติกัน เซอร์ไพรส์ไปอีก 

    ผืนนาทั้งหมดแทบนี้เป็นของพี่แสงดาวหมดเลย


    พี่ๆมาชวนกันนั่งดูดาวที่ระเบียงบ้านริมทุ่ง

    เราได้เงยหน้ามองฟ้า

     ดูดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า

    มองเห็นดาวเจิดจ้า

     ดวงเล็กดวงน้อย ทับซ้อนกัน 

    นิยามของคำว่า ดาวล้านดวง

    บนท้องฟ้าที่เมืองคองตอนนี้ไม่เกินจริง 

    สวยแบบตะโกน

     สวยจนอยากมองดาวไปทั้งคืน



    ความงดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืน

    เสมือนเป็นโบนัสพิเศษให้กับชีวิตแต่ละวัน


    หลังจากที่ช่วงกลางวันเราต่างมีเรื่องราว

    ที่อาจจะสุข หรือ ทุกข์

     กังวล ยิ้มแย้ม หัวเราะ

    พอตกกลางคืนด้วยร่างกายที่เตือนให้เราพักผ่อน

    โดยที่ในชีวิตจริง 

    เราแทบไม่ได้เหงนหน้ามองท้องฟ้าค่ำคืน

    และเราเอง ก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะเห็นมัน


    จนกว่าเราจะได้เห็นสิ่งงดงาม

    บนท้องฟ้ายามค่ำคืนอีกครั้ง


    ขอบคุณที่ทำให้เราได้มาเห็นความสวยงาม

    ของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบเช่นนี้


    เราจะคิดถึงหมู่ดาวนับล้านล้าน

    สายตาจะจดจำภาพจักรวาลท้องฟ้านี้ไว้

    ขอให้เราได้มาพบกันใหม่

    :


    พี่แสงดาวอยู่ด้วยจน3ทุ่ม

     ก่อนกลับถามเราว่า อยู่ได้ไหม 🥺 


    อารมณ์ตอนนั้นคือจะร้องแล้ว 

    เพราะกลัวจริงๆที่ต้องนอนคนเดียว

    กับบรรยากาศกระท่อมกลางนาแบบนี้

    แล้วเรื่องชวนขนหัวลุก

    คุณลุงข้างบ้านที่เพิ่งเสียวันนี้อีก 


    จองที่พักไม่เช็คสกีลตัวเองเลย 


    หลังร่ำลากับผู้ใหญ่ใจดีทั้งสองท่าน


    พี่ปองบอกว่า คืนนี้ข้างบ้านจะมีเสียงคุยกันทั้งคืน 

    ไม่เงียบเหงาแน่

    พี่ปองมานั่งคุยด้วยต่อจนสี่ทุ่ม

    แล้วเดินกลับบ้านไป


    บรรยากาศความเงียบมาเยือน 

    คิดแค่ว่าต้องนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้า


    เราเข้าที่พักล็อกประตู

     จัดข้าวของ สัมภาระ

    สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น

    จิ้งจกตัวใหญ่มากกกกกก 

    ยาวเท่าฝามือ สีเทาเข้ม สองตัว

    ออกมาทักทายต้อนรับ 

    อีกนิดตัวมันจะเท่าตุ๊กแกแล้ว


    ไม่เคยเห็นจิ้งจกตัวเท่านี้มาก่อน


    อ๊ากกกกก กรี๊ด สิครับรออะไร 


    รีบออกมานอกห้อง กดโทรหาพี่ปอง

    พี่ปองงง นอนไม่ได้ดดด

     จิ้งจกกกตัวใหญ่มากก 


     “ แค่จิ้งจกเอง ไล่เด่วมันก็ไป ”

    พี่ปองตอบ


    ต้องยอมรับสารภาพความในใจกับพี่ปอง 

     มีจิ้งจก นี่นอนไม่ได้จริงๆ 

    จะร้องงง งง 

    ขอไปนอนด้วยได้มั้ยคะ

     คือไม่ไหวจริงๆ

    ถ้านี่อยู่ใกล้กับที่พักอื่น ก็คือขนของออกแล้วจ้า

    แต่คือไกลจากคนอื่น คนละหมู่บ้านอีก


    อนาถแท้ กับสภาพตัวเอง 

    เลือกมานอนแบบนี้ 

    แต่ลืมคิดเรื่องนี้ได้ไง 😂😂 


    และแล้ว

    พี่ปองก็พาน้องพอเพียงมาด้วยกัน

    คืนนี้เราเลยนอนที่โฮมสเตย์กัน 3 คน

    เกรงใจก็เกรงใจ

    ไม่งั้นคืนนี้ได้นั่งมองดาวทั้งคืนจริงแน่ๆ


    เรานอนเล่านิทานเจ้าหญิงให้น้องพอเพียงฟัง

    แบบ3season จบ น้องก็ยังไม่หลับ 😂


    ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าจิ้งจกตัวใหญ่ในกระท่อมแล้ว

    อากาศที่ว่าหนาวกลายเป็นเรื่องรอง

    เรื่องชวนขนหัวลุกก็พักไว้ก่อน


    เอ็นดูทั้งตัวเอง ทั้งเจ้าของโฮมสเตย์

     ต้องมานอนด้วยกัน 😂😂 



    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

     โปรดเช็คสกิลตัวเองก่อนเลือกที่พักด้วย


    หกโมงเช้าวันใหม่ 

    จากที่คิดว่ารถจะมารับตอนหกโมง

    แต่เข้าใจผิด เป็นแปดโมงกว่า

    ยังพอมีเวลาเดินเล่น สูดอากาศเย็นสดชื่นแบบนี้

    ก่อนกลับลงไปเชียงใหม่


    แอบใจหาย เวลาผ่านไปเร็วมาก

    การดื่มด่ำกับบรรยากาศรายล้อมด้วยธรรมชาติ

    อยากจะเก็บสิ่งสวยงามเหล่านี้ไว้กับตัว


    ..


    พี่ปอง ต้มน้ำร้อน เตรียมไข่ต้ม 4 ฟอง

    ปิ้งขนมปัง ไว้เป็นอาหารเช้าให้เรา


    ปกติกินไข่1ฟอง เท่านั้น

    เจอ 4 ฟอง กินกับน้ำพริก มันฝรั่งแผ่น

    กับบรรยากาศดีๆตอนเช้า

    แค่ไข่ต้ม ก็อร่อยมากๆ


    น้องพอเพียงมานั่งกินมื้อเช้าด้วยกันก่อนไปโรงเรียน

    แปดโมงกว่า

    พี่ปองพาน้องพอเพียงไปส่งที่โรงเรียน

    ไม่ไกลจากบ้านมากนัก

    เราออกไปเดินเล่นที่ทุ่งนาแห้ง

    พร้อมเจ้าทอง

    เดินตาม ในฐานะเจ้าบ้าน


    ฟังเสียงกระดิ่งวัว เสียงไก่ขัน

    เสียงนกร้องส่งเสียง

    ผสมผสาน

    เป็นเสียงบรรเลงบทเพลงจากธรรมชาติ


    แปดโมงครึ่ง

    รถกระบะป้าพันมารับเราคนแรก

    เราร่ำลาพี่ปอง ขอบคุณที่ดูแลเราอย่างดี

    เสมือนการมาเที่ยวบ้านเพื่อน


    ยังแอบเกรงใจที่ไม่ได้ไปทำกิจกรรมด้วยกัน


    อยากจะกลับมาเยือนอ้ายด่อง โฮมสเตย์ อีกคราหน้า

    แต่ครั้งหน้า ขอหาเพื่อนมานอนด้วย


     

    Next to EP 06


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in