เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
A Pop Culture EditionA'Nikolas
รีวิว/วิเคราะห์ : Cruella | แฟชั่นและอาชญากรรม
  • ***บทความอาจมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในภาพยนต์***
    หลังจากตัวละคร ครูเอลล่า เดอ วิล (Cruella de Vil) โลดแล่นบนจอแก้วเมื่อปี 1996 ที่สวมบทบาทโดยเจ้าแม่ในวงการภาพยนต์อีกคนอย่าง เกลนน์ โคลส (Glenn Close) ในปี 2021 ดีสนีย์ปัดฝุ่นตัวละครตัวนี้อีกครั้งเฉกเช่นกับ มาเลฟิเซนต์ (Maleficent) โดยการนำเรื่องราวของเหล่าตัวร้ายในการ์ตูนมาเล่าใหม่และเสนอมุมมองอีกแบบที่ต่างไปจากในการ์ตูนต้นฉบับ
    เกลนน์ โคลส กับ หนังเรื่อง 101 Dalmatians ปี 1996 

    หลายคนอาจจะจดจำเรื่องราวของครูเอลล่า เดอ วิล ฆาตกรฆ่าลูกหมาเพื่อมาทำฟอร์ ครูเอลล่าในหนัง The Hundred and One Dalmatians เป็นช่วงวัยกลางคนของตัวละครที่เติมเปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจ ความเห็นแก่ตัวและความบ้าร้ายเหลือของเธอ

    Cruella (2021) เล่าเรื่องราวของสาวน้อย Estella Miller (Emma Stone) เด็กสาวอัจฉริยะที่เกิดมามีผมสีขาวและสีดำอย่างละครึ่ง กลับต้องมาระหกระเหินเป็นเด็กกำพร้าดิ้นร้นเอาชีวิตรอดในกรุงลอนดอน เอสเทลล่าฉายแววความเป็นตัวแม่ด้านแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงตัดสินใจมุ่งมั่นไปเอาดีด้านแฟชั่นโดยจับพลัดจับผลูได้ไปทำงานให้กับดีไซเนอร์นับเบอร์วันของเมืองลอนดอนในยุคนั้นอย่าง Baroness (Emma Thompson) 

    “From an early age, I realized I saw the world differently than everyone else.”

    Cruella

    สาวน้อยผู้มีผมครึ่งขาวครึ่งดำ

    เอสเทลล่าในวัยเด็กตลอดจนถึงช่วงวัยรุ่น เรียกได้ว่าแสบเหมือนพริกสิบเม็ดในช่วงแรกของหนังอบอวนด้วยความสนุกและความเปรี้ยวของสาวน้อย ความฉลาดและพรสวรรค์เริ่มเปล่งแสงออกมาให้ได้เห็นแม้ในยามที่เป็นจุดพลิกพลันในชีวิตของเธอ สิ่งเหล่านี้แปรเปลี่ยนกลายเป็นโกรธแค้น ร้ายกาจและความบ้าคลั่ง เมือเธอเปิดประตูเข้าสู่ House of Baroness

    "The thing is, I was born brilliant. Born bad. And a little bit mad." 

    Cruella

    โอบรับความดำมืดในตัว 

    หลังจาก เอสเทลล่าย่างก้าวเข้าสู่โลกของบารอนเนส จิ๊กซอว์ที่เสมือนหล่นหายไปเมื่อตอนเด็กของเอสเทลล่าถูกเติมเต็ม เรื่องราวความจริงของตัวเธอเป็นภาพสมบูรณ์ขึ้น ความจริงอันโหดร้ายทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด ผลักตัวตนที่อ่อนแอเข้าสู่หลุมลึกในใจ และถือกำเนิดตัวตนใหม่ผ่านความโกรธและโศกเศร้าสู่ความพยาบาทและต้องการแก้แค้น ช่วงที่เอสเทลล่าเข้าสู่วงวนของความมืดที่ก่อตัวภายในตัวนั้นมีสิ่งที่ขาดไปคือการสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูอินไปกับตัวละคร หนังไม่ได้สร้างบรรไดอารมณ์ที่นานพอให้คนดูได้ไต่ไปพร้อมๆกับสิ่งที่ตัวละครได้ประสบมากนัก ช่วงแสดงอารมณ์เศร้าหรือเจ็บปวดของครูเอลล่าเป็นแค่ฉากเล็กๆเท่านั้น เป็นเหตุให้อารมณ์ของตัวละครส่งมาไม่ถึงคนดู หนังเน้นหนักไปในทางคววามปรารถนาที่จะล้างแค้นของครูเอลล่าและวิธีการล้างแค้นของตัวละครแทน

    ทั้งตัวละครเอสเทลล่าและครูเอลล่าแทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยในแง่ของการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมีเพียงแค่เมกอัพและเสื้อผ้าที่จัดเต็มแบบเกินต้านเท่านั้น โดนครูเอลล่านั้นเป็นแค่ร่างอวตารเวอร์ชั่นอัพเกรดที่เพิ่มความบ้าคลั่งเข้ามาเท่านั้น ต่างกับตัวละครที่ประสบสภาวะคล้ายๆกันอย่าง อาเธอร์ เฟล็กในภาพยนต์ Joker ปี 2019 ที่คนดูไปร่วมสัมผัสไปถึงความเจ็บปวด ความโกรธ และความหดหู่ของชีวิตอาเธอร์ เฟล็ก และได้เห็นการเปลี่ยนถ่ายอารมณ์ของตัวละครไปพร้อมๆกัน ซึ่งทำให้คนดูทำความเข้าใจถึงการกระทำของตัวละครมากขึ้น ถึงแม้ว่าปมเรื่องราวของครูเอลล่าจะค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควร แต่เมื่อชั่งน้ำหนักของเหตุผลนั้นเเล้ว การที่ตัวละครผลักตัวเองเข้าสู่ด้านมืดและสร้างอีกตัวตนเพื่อแก้แค้น ก็อาจจะฟังดูน้ำหนักเบาไปหน่อย


    I’m not like her, I’m better.

    Cruella

    ฟาดฟันกันด้วยเสื้อผ้าชั้นสูง

    การถือกำเนิดของครูเอลล่ามาพร้อมกับการถีบจักรเย็บผ้า ถักทอผลงานศิลปะสไตล์พังก์อันวิจิตรบรรจงมากมาย เสื้อผ้าของเธอซ่อนความกบฏอยู่ในชิ้นงาน การต่อสู้ด้วยแฟชั่นครั้งนี้เปรียบได้กับเรื่องราวการฟาดฟัดระหว่างแบรน์แฟชั่นรุ่นคลาสสิกที่คร่ำหวอดในวงการมายาวนานอย่าง ดิออร์ หรือชาแนลกับแบรน์แฟชั่นดาวรุ่งที่ฉีกรูปแบบเดิมๆ อย่าง อีฟส์ แซงต์ โลรอต์

    การปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะครูเอลล่าต่อสาธารณะชนเพื่อประกาศตัวจะงัดข้อกับผู้ทรงอิทธิพลอย่างบารอนเนส สะท้อนนัยยะของการต่อต้านอำนาจเก่าและความต้องการเปลี่ยนแปลงต่อโครงสร้างสังคม อีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการขบฐต่อกลุ่มชนชั้นสูง ผลงานศิลปะผ่านฝีเข็มและเส้นด้ายของครูเอลล่าแฝงความป่าเถื่อน การเสียดสีสังคมและความปรารถนาที่จะหลีกหนีสังคมเน่าเฟะของชนชั้นสูง เฉกเช่นเดียวกับแนวดนตรีพังก์

    ผลงานของครูเอลล่าสะท้อนถึงวิวัฒนาการ (Evolution) และการปฎิวัติ (Revolution) ชุดที่เธอสวมใส่มาประชัดกับบารอนเนสบอกเล่าความปรารถนาที่จะมายืนแทนที่ในฐานะดีไซน์เนอร์นับเบอร์วันของลอนดอน ยกตัวอย่างชุดเดบิ้วในฐานะครูเอลล่านั้นเป็นชุดเดรสยาวสีแดงท่อนล่างเป็นหางปลากรุยกรายเหมือนเพลิงกำลังลุกโชน โดยชุดเดรสสีแดงนั้นเป็นผลงานคอเลกชั่นเก่าของบาราเนสที่ครูเอลล่านำมาตัดเย็บใหม่ให้เข้ากับในแบบฉบับที่เป็นตัวเธอมากขึ้น เพื่อประกาศก้องถึงการมาของคลื่นลูกใหม่

    ชุดของบารอนเนสในปี 1965 ซึ่งถูกแก้ไขโดยครูเอลล่า

    หรืออย่างการเพ้นท์หน้าด้วยข้อความ "the future" (อนาคต)

    และการยืนอยู่บนหลังรถที่บารอนเนสนั่งอยู่ด้วยชุดเเจ็กเก็ตทหารและกระโปรงจากเศษผ้าฟูฟ่องโดยข้างกระโปรงของเธอปรากฏข้อความว่า "past" (อดีต)


    และอีกหนึ่งชุดที่เป็นที่ตราตรึงคนดูอย่างชุดราตรีที่ตัดเย็บจากขยะจากชาวเมืองลอนดอน ครูเอลล่าปรากฏตัวจากรถขนขยะด้วยชุดราตรีจากขยะรีไซเคิลและข่าวแท็บลอยเกี่ยวกับเธอ ครูเอลล่าทำผมทรงสะดุดตาของเธอออกสไตล์ของมารี อ็องตัวแน็ต และเธอก็จากไปบนรถขนขยะ โดยชุดนี้อาจจะแฝงนัยยะเสียดสีในเรื่องชนชั้นทางสังคมของชาวลอนดอน ซึ่งครั้งนึงเธอก็เคยเป็นเด็กกำพร้าข้างถนนไม่ต่างอะไรกับเศษขยะที่พวกเขาทิ้งขว้างไม่สนใจ เธอเป็นคนชายขอบมาตลาด จนวันหนึ่งเธอถือตีพิมพ์อยู่บนหน้าหนึ่งของทุกสำนักพิมพ์และกำลังเป็นที่สนใจในวงกว้างในสังคม ทรงผมสุดบรรเจิดที่ช่างหาทำอันเป็นเอกลักษณ์ของมารี อ็องตัวแน็ต เป็นภาพแทนถึงกลุ่มชนชั้นสูงในสังคมอย่างในสังคมของฝรั่งเศษในช่วงพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตอย่างหรูหราอู้ฟู่ไม่สนใจชีวิตของชนชั้นล่าง จนนำการปฏิวัติฝรั่งเศสในที่สุด


    การฟาดฟันกับดูเสื้อผ้าระหว่างครูเอลล่ากับบารอนเนส เป็นจุดที่คนดูจะได้เพลิดเพลินและตื่นตาไปกับเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างปาณีตมากมายที่ได้รับแรงบรรดาลใจจากแบรนด์อย่าง Dior, Vivienne Westwood และ Alexander McQueen รวมไปถึงคนดูจะได้เสพผลศิลปะผ่านการเสื้อผ้าที่ตัวละครสวมใส่กันด้วย ขนาดตัวเอกของเรื่องอย่าง เอมม่า สโตรน ก็มีลุคมากถึง 47 ลุคด้วยกัน

    ลาก่อน เอสเทลล่า สวัสดี ครูเอลล่า

    เอสเทลล่าได้จากไปแล้วจริงๆ เธอสูญเสียตัวตนในด้านดีของเธอและท้ายที่สุดได้เปลี่ยนเป็นคนที่แข็งกร้าวและคิดถึงแต่ตัวเอง แม้ว่าในหนังยังไม่ได้บอกเล่าถึงความอำมหิตและความบ้าบิ่นของครูเอลล่าถึงขนาดฆ่าคนหรือสัตว์ได้ แต่ตัวหนังได้บอกถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าเธออาจจะพัฒนาความอำมหิตของเธอไปอีกขึ้นในอนาคต แต่ถึงจะไม่ได้มีฉากใช้ความรุนแรงมากมาย ตัวหนังก็ยังมีโทนดาร์กๆ กระแทกอารมณ์ให้ได้สัมผัสอยู่บ้าง จึงถูกจัดอยู่ในเรท PG-13


    I call that a happy ending. 

    Cruella

    ส่วนสำคัญที่ทำให้หนังไปไม่สุดคือฉากดึงอารมณ์ร่วมกับคนดูที่น้อยไป ทำให้คนดูไม่สามารถสัมผัสและมีเวลาทำความเข้าใจตัวละครอย่างครูเอลล่ามากนัก ส่งผลให้การกระทำต่างๆของเธอเป็นเพียงแค่คนที่ต้องการเพียงแต่จะแก้แค้น แม้ว่าฉากไคลแม็กซ์ที่ควรจะกระชากอารมณ์คนดูได้กว่านี้ ก็ไปได้เพียงครึ่งๆกลางๆ เอมม่า สโตรน ถ่ายทอดอารมณ์เจ็บปวด สงสัยและโศกเศร้าได้อย่างดีเยี่ยม แต่ปัญหาอยู่ที่บทที่พยายามยัดไส้ความดาร์กและการหักมุมที่ควรจะทำให้คนดูเซอร์ไพรส์ แต่ปมที่พยายามยัดใส่เข้ามานั้น ไม่สามารถช่วยให้คล้อยตามได้จริงๆ อย่างไรก็ตาม Cruella (2021) ก็เป็นหนังที่สนุกและควรดูอีกหนึ่งเรื่องในปี 2021 เราจะได้เห็นอีกหนึ่งมุมมองของหนึ่งตัวละครในการ์ตูนในวัยเด็กที่เรามองว่าเขาเหล่านั้นเป็นวายร้าย เเต่ทุกๆเรื่องราวย่อมมีวายร้ายเสมอ เราคนใดคนหนึ่งอาจเป็นวายร้ายในเรื่องราวของคนอื่นก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วดีสนีย์ก็ยังคงเป็นดีสนีย์อยู่วันยังค่ำ ตัวร้ายของเรื่องอย่างบารอนเนสก็ถูกจัดการได้อย่างราบเรียบดั่งถูกฉีดน้ำยาปรับผ้านุ่ม จุดลงของตัวละครบารอเนสเป็นไปตามแบบฉบับของดีสนีย์ที่จุดจบที่เห็นบ่อยๆ แต่สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังดีสนีย์ก็คงจะสนุกอย่างแน่นอน เพราะหนังใส่ดีเทลเล็กๆ ให้ได้ถูกหยิบมาใส่จากหนังต้นฉบับ One Hundred and One Dalmatians หนังผสมผสานอารมณ์ความสนุกสานและความตลกได้อย่างลงตัวตามสไตล์ของดีสนีย์ที่ไม่เน้นหนักไปที่ฉากรุนแรงมากมายหนัก อีกทั้งหนังยังให้กลิ่นอายความเป็นพังก์ร็อกช่วงยุค 70 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพลงประกอบหนังที่ทั้งดนตรีและเนื้อเพลงถูกใส่เข้ามาอย่างเหมาะเจาะกับเหตุการณ์ในภาพยนต์ เอ็มม่า สโตรนสวมบทบาทเป็นครูเอลล่าได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งการถ่ายทอดอารมณ์และสำเนียงอังกฤษ เอ็มม่าทั้งสองประชันอารมณ์กันได้อย่างที่คนดูเต็มอิ่มแน่นอน หนึ่งประเด็นสำคัญที่สะท้อนให้เห็นในหนังคือ ความเด็ดเดี่ยวและการต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่างของตัวละครฝ่ายหญิง การฟาดฟันกันด้วยความสามารถและความสร้างสรรค์การแสดงออกทางศิลปะเพื่อเรียกร้องบางสิ่งอย่างเป็นอิสระ 


    Cruella

    ประเภท : ดราม่า, คอมเมดี้
    ช่องทางการรับชม : Disney+
    ออกอากาศ 3 กันยายน 2564

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in