มีเงื่อนไขอะไรที่จะทำให้เขามาปรากฏตัวอยู่ในความฝันของผม
อะไรทำให้ผมฝันถึงเขา
เคยได้ยินมาว่า
ความฝันคือสิ่งที่สะท้อนจิตใต้สำนึก
ถ้าอย่างนั้นทำไมผมไม่เคยฝันถึงคุณยายที่รักและเลี้ยงดูผมมาหลังจากที่สูญเสียท่านไป
ไม่เคยฝันถึงเพื่อนสนิท
ถึงแฟนสาวของผม
แต่กลับไปฝันถึง 'คนอย่างเขา'
2
'คนอย่างเขา'
หมายถึง ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเป็นอะไรกับผม
นอกเสียจากคนแปลกหน้า
เราแค่รู้จักชื่อกันเพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียน
อยู่คณะเดียวกัน
ผมเปล่าหมางเมินหรือไม่ถูกชะตากับเขา
ตรงกันข้าม
ผมรู้สึกว่าเราน่าจะมีอะไรคล้ายๆ กันเสียด้วยซ้ำ
ผมและเขาต่างฝ่ายต่างก็ใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันมาก่อนแล้วของตัวเอง
ผมเป็นแค่คนเงียบๆ
ที่บังเอิญอยู่ท่ามกลางกลุ่มชายห้าวที่มีเพื่อนเยอะ
จึงพลอยดูเหมือนผมเองก็เป็นคนเพื่อนเยอะไปด้วย
แต่สำหรับเขา ไม่ใช่แบบนั้น
ตัวเขาคือศูนย์กลางของทุกคนในกลุ่มเพื่อน
เขาเป็นคนดึงดูดให้ทุกคนมารวมกลุ่มกัน
มีความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับผม
เท่าที่จำได้ก็แค่ประมาณสองประโยคเท่านั้น
คือตอนที่เขาเดินมาบอกว่า
ติดตามผลงานของศิลปินคนนี้เช่นกัน
ในขณะที่ผมนั่งอยู่ตามลำพังกับสมุดภาพที่ซื้อมา
ผมยิ้มตอบ ขณะบอกตัวเองว่า
ผมแค่ทึ่งที่ค้นพบว่าคนอย่างเขาสนใจงานศิลปะเหมือนกับผมด้วย
ผมแค่แปลกใจ
เพราะเขาแค่ดูไม่เหมือนคนที่จะสนใจเรื่องนี้เท่านั้น
ผมเปล่ามีความสุข
เมื่อรู้ว่าผม และเขาที่ดูห่างไกลคนนั้น
มีสิ่งที่เชื่อมโยงกันเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง
และอีกครั้งคือ ผมพูดว่า สวยจัง
ตอนที่เห็นผลงานภาพวาดของเขา
แล้วเขาก็เอ่ยเพียง ขอบคุณ ตอบมา
ผมเลิกคิ้วตอบ
คิดว่าไม่เห็นต้องขอบคุณเลย
ผมไม่ได้ชื่นชมด้วยความคิดเห็น
ผมแค่พูดความจริงเกี่ยวกับภาพวาดของเขา
ความสวยงามของมันคือความจริงอยู่แล้ว
ผมรู้สึกเหมือนเขาเป็นเพียงตัวละครสมมติในนิยาย
ทำความรู้จักได้ เรียนรู้ได้
แต่ถึงจะน่าประทับใจแค่ไหนก็ไม่มีอยู่จริง
แต่ทุกครั้งที่รู้ตัว
ผมก็พบว่าตัวเองกำลังมองหาเขาอยู่เสมอ
ในขณะบังเอิญเดินสวนกับเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเขา
แล้วก็พบอีกว่ามันเป็นการยากที่เมื่อมองเห็นเขา
แล้วจะละสายตาออกไปได้
ทุกอย่างเพียงผ่านพ้นไป พวกเราเรียนจบ
และต่างคนก็ต่างมีชีวิตของตัวเองเช่นที่ควรจะเป็น
ผมมีงาน มีคนรัก
มีความรับผิดชอบมากมายในชีวิตของตัวเอง
ได้ยินข่าวคราวของเขาบ้างในระหว่างที่มันดำเนินไป
จนถึงไม่ได้ยินอีกเลย
เป็นแปดปีที่เขาทั้งห่างหายไปจากชีวิต
และเลือนหายไปจากความทรงจำของผม
3
จนถึงขณะนี้ ในเวลาตีสี่
ผมยังนอนต่อไม่ลง และยังคงคิดไม่ตก
ลึกๆ ก็รู้ว่าควรจะลืมๆ มันไป
เช่นเดียวกับความฝันในคืนอื่นๆ ที่แค่ลืมตาก็เลือนหายไป
แต่ทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเขา
กลับชัดเจน...
ชัดเจนจนเกินไป
ภาพที่เห็นคือทิวทัศน์ทุ่งหญ้าสเตปป์
ทิวเขา และแสงแดดที่ฉาบบรรยากาศให้เป็นสีส้มจางๆ อย่างอบอุ่น
ผมกำลังมาเที่ยวอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง
ซึ่งตัวผมในฝันปรารถนาที่จะไปถึงสักครั้ง
และผมมากับเขา
รับรู้ได้ถึงแขนทั้งสองของเขาที่โอบรัดหลวมๆ อยู่รอบเอวของผมซึ่งปั่นจักรยานอยู่
โดยมีเขาซ้อนท้ายไปตลอดเส้นทาง ซึ่งท้ายที่สุดก็หยุดลงที่ยอดเขา
มองดูพระอาทิตย์ตก
ผมรู้
มันเป็นทิวทัศน์ที่ผมรอคอยที่จะมาเห็นมาตลอด
แต่ผมกลับละสายตาไปจากรอยยิ้มของเขาที่ส่งมาให้อย่างสดใสไม่ได้เลย
รอยยิ้มนั้นส่งไปถึงดวงตาที่กำลังมองมาด้วยเสน่หา
รอยยิ้มแบบที่ผมไม่เคยกล้าจินตนาการถึงกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ
ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะโน้มลงมาสัมผัส
ผมหลับตาลงทั้งหัวใจที่แทบแหลกคามือคู่นั้น
มือที่กำลังสำรวจร่างกายของผมอย่างทะนุถนอม
จูบเขาตอบอย่างกระหายราวกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้
โดยไม่ต้องสงสัย
ผมกับเขาเป็นคนรักกัน
ขณะที่ร่างกายของเราเชื่อมต่อกัน
ผมรู้สึกราวกับฝันไป
4
ซึ่งมันก็ใช่
ผมตื่นขึ้นมา
เพื่อพบกับคำตอบว่าที่ผ่านมาคือความฝันจริงๆ
ผมเอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์
กดเปิดแอพพลิเคชันเฟสบุค แล้วพิมพ์ค้นหาชื่อของเขา
เจ้าของแอคเคาท์ไม่ได้อัพเดทความเคลื่อนไหวในชีวิตใดๆ ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ทำให้รู้ความเป็นไปมีเพียงภาพที่ถ่ายโดยเพื่อนของเขา
ภาพของชายที่ทำให้ผมเผลอมองเสมอในชุดเจ้าบ่าว ยืนเคียงคู่กับเจ้าสาว
เขากำลังยิ้มให้กล้องอย่างแจ่มใส
รอยยิ้มแบบเดียวกับที่ผมเห็นในความฝัน
หวังว่าความจุกในอกนี้จะมาจากความตื้นตัน
ที่ได้เห็นเขามีความสุขสมหวัง
ผมพยายามที่จะแสดงความยินดี...อย่างน้อยก็ผ่านหน้ามือถือให้ได้
ผมควรจะทำอย่างนั้น
5
ยินดีด้วยนะครับ
ผมกดส่งความคิดเห็นบนภาพที่ถูกโพสโดยเพื่อนของเขา
เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มาเห็นมันเร็วนัก
ผมกลัวว่าเขาจะมีมารยาทตอบขอบคุณกลับทุกข้อความ ซึ่งผมไม่อยากรับ
ผมแค่พูดความจริงเท่านั้น
การที่เขาคู่ควรที่จะมีความสุขนั้น
เป็นความจริงอยู่แล้ว
รอยจูบเร่าร้อนจากความฝันตะกุยฝุ่นที่ใช้เวลาแปดปี
ในการตกตะกอนลงสู่ก้นแก้วขึ้นมา
ครั้งนี้มันกระจายออกไปมากกว่าที่เคย
ครั้งนี้ที่อะไรๆ มันสายเกินไป
ผมชอบเขา
เกินกว่าที่จะปฏิเสธหรือเมินเฉยได้
ในเมื่อใจผมมันชาไปหมดอย่างนี้
ความรู้สึกว่าชอบเขาที่ผมไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ถูกกวนขึ้นมาจากก้นบึ้ง และยากเหลือเกินที่จะหายไป
ผมนึกถึงคำกล่าวที่ว่า
“เราไม่สามารถเป็นเพื่อนกับคนที่เราหลงรักได้”
ดังนั้นเขาจึงเป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับผม
และผมจะขอเป็นแค่นั้นต่อไป
คืนนั้นผมจัดการกับตัวเอง
จากนั้นจึงหลับตาลงเพื่อบรรเลงบทรักกับเขา
อีกครั้ง
และอีกครั้ง
แค่ในห้วงนิทราแห่งนี้เท่านั้น
ที่ผมเป็นของเขา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in