25 ธันวาคม 1798
ฉัน—หรือใครหน้าไหนก็ตาม—คงไม่มีวันหยั่งรู้ได้ ว่าในจุดๆ นั้นที่เคยอยู่ มันต่ำและอับความเจริญมากขนาดไหนในสังคม จนกระทั่งวันนั้นมาถึง วันที่สามารถกระเสือกกระสนพาตัวเองออกมาในที่ที่ลืมตาอ้าปากได้ ฉันจึงได้เห็นความแตกต่าง จึงได้เข้าใจว่าสิ่งที่เคยมี ที่เคยมองว่ามันปกติแลเป็นครรลองทั่วไปของมนุษย์ มันชั่งไม่ต่างจากขุมนรกของคนเป็น
‘คนเราเลือกเกิดไม่ได้ หากเลือกที่จะเป็นได้’
ประโยคปลุกใจ พาให้ชนชั้นกลางในสังคมเมืองรู้สึกฮึกเหิม แลได้ใช้เป็นมาตรฐานเหมารวมกลุ่มคนทุกชนชั้น โดยเฉพาะชนชั้นล่าง ชนชั้นที่จะถูกตัดสินหากเลือกทำอาชีพที่เขาถือว่าไร้ศักดิ์ศรีแลไร้ยางอาย ความกตัญญูกตเวทีมิใช่ข้ออ้างในการทำอาชีพให้บริการทางเพศแลอารมณ์ หากทำไม ผู้ทำอาชีพเหล่านั้นจึ่งต้องหาข้ออ้างด้วย?
‘คนเราเลือกเกิดไม่ได้ หากเลือกที่จะเป็นได้’
บางครั้งเป็นประโยคที่ถูกกล่าวโดยกลุ่มคนที่อาศัยอยู่บนตึกสูง ในคอนโดมิเนียมราคาแพง หรือในรั้วสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ สูญรวมของผู้ที่ได้รับโอกาสต่างๆ ที่มากกว่า แม้สักนิดก็นำไปสู่การต่อยอดขึ้นมา หากพวกเขากล่าวประโยคนั้น ยามที่ชายตามองลงมาในชุมชมแออัด ในชุมชนที่หลังคาสังกะสีเก่าๆ เหมือนซากปรักหักพังบดบังแลปิดกั้นทุกวิสัยทัศน์แม้กระทั่งสิทธิ์พื้นฐานที่มนุษย์พึงได้รับ
คุณจะมองหาอนาคตที่สดใส วางแผนชีวิตที่ดีกว่านี้ในอีกสามปี ห้าปีข้างหน้าไหม ถ้าหากแม้นใต้ฝาชีไม่มีอาหาร ในตู้กับข้าวกลายเป็นโพลงของแมลงสาบ และเงินที่มีไม่พอสำหรับข้าวสักมื้อ จุดหมายไกลที่สุดของคุณคงจะอยู่แค่เช้าวันพรุ่งนี้ หรือเย็นอีกวัน จากนั้นก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด
คุณจะมองหาอินเตอร์เน็ต หนังสือวรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ภาพยนตร์ บทเพลงสร้างความบันเทิงไหม หากแม้นแต่การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานยังเข้าไม่ถึง
คุณจะวิ่งหนีหายออกไปจากบ้านเพื่ออะไรที่ดีกว่าไหม ในเมื่อคุณไม่แม้แต่จะรู้จักมันแลไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่าด้วยซ้ำ
ตอบมันในใจของคุณ
ฉันในตอนนี้ ยืนอยู่บนคอนโดมองลงไปยังชุมชนเล็กใหญ่ข้างล่างอย่างไม่เกิดข้อคิดหรือข้อแนะนำใดๆ นอกจากอยากจะให้—พื้นที่นั้น—เป็นการแก้ไขอย่างหนึ่งของสังคม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in