เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ASA 18 thLonely Bear
Day 2.1 : อาวุธของฝ่ายก่อสร้าง
  •             ฝนที่ตกลงมาเมื่อวานทำให้อากาศตอนเช้าหนาวมากๆ  เราตื่นตอนประมาณ 7.15 น.ด้วยเสียงนาฬิกาปลุกของเพื่อนข้างๆ เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนปั๊บปิดตา ภาพก็ตัดมาตอนเช้าแบบไม่รู้สึกตัวอะไรเลย 55555 (หลับสนิทนั่นเองZzz) แม้พื้นจะแข็งก็ไม่มีปัญหาการนอนเลย


               สิ่งที่เรียกว่าเป็น Climax ของค่ายนี้ คือ เมื่อคืนมี ตุ๊กแกตัวยักษ์ มาส่งพวกเราเข้านอนด้วย ทำเอาทั้งห้องชาย 1  ทั้งรุ่นน้อง รุ่นพี่ถึงกับร้องลั่น 5555555

    และ ตุ๊กแกที่นี่ใหญ่มาก ตัวใหญ่ชิบ*าย

                อยู่ดีๆ มันก็มาส่งเสียงร้องในห้องนอนของพวกเรา มีตั้งแต่เสียง อินโทร ฮุค แล้วก็ซ้ำฮุคอีกรอบ 5555 เสียงมันชัดมาก ระบบเสียงเซอราวด์ก้องกังวาลสุด ถ้าเป็นเพลงที่เปิดตอนก่อสร้างก็คงโอเค แต่เฮ้ยยยย!!!!! นี่มันเสียงตุ๊กแกนะเฟร้ยยย แล้วตอนนั้นทุกคนก็เงียบรอฟังจนมันร้องจบด้วย 55555555

               โชคดีตุ๊กแกมาห้องเราแค่วันเดียวหลังจากวันนั้นก็จะไปเจอที่ตามแถวห้องน้ำหญิง ห้องนอนหญิงแทน กลางคืน เวลาตุ๊กแกร้องจะได้ยินเสียงดังจากฝั่งห้องนอนหญิงว่า " เห่ย!!! " ตามด้วยกรี๊ดมาเป็นบางครั้ง สำหรับเรื่องตุ๊กแกถือเป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับค่ายนี้เลยทีเดียว เดี๋ยวขอตัดประเด็นไว้ก่อน  

             ด้วยความหนาวสภาพบาดขั้วหัวใจ เราเลยตัดสินใจแปรงฟันแต่ไม่อาบน้ำละกัน รอบนี้ทำใจแปรงฟันบ้วนปากกับน้ำสีชาเย็นได้แล้ว คิดว่าถ้าไม่กลืนคงไม่เป็นไรมั้ง แต่ถ้าเอามาล้างหน้าสิวขึ้นแหงๆ กว่าจะเดินไปห้องน้ำทำธุระอะไรเสร็จมองนาฬิกาอีกทีก็เกือบ 8 โมงแล้ว


       " เวลาทานข้าวเช้า คือ 8 โมง ไม่ว่าฝ่ายไหนจะนัดกันกี่โมงแต่ต้องมาทานข้าวพร้อมกันตอน 8 โมง " ( ยกเว้น ที่ต้องถึงครัวตั้งแต่ 6 โมง )

             วันนี้อาหารเช้าเป็นข้าวไส้กรอกกับไก่อบ ด้านหลังครัวจะมีเครื่องปิ้งขนมปังกับซีเรียลให้ พร้อมด้วยนมแกลลอนตั้งเอาไว้ข้างๆ พร้อมแยมหลากรส พอหันไปบนโต๊ะด้านหลังให้นึกถึวฟีลกำลังทานอาหารเช้าในโรงแรม 5555 :D

             ตามปกติแล้วเวลานั่งทานข้าว เราจะนั่งรวมกับรุ่นพี่รวมกับรุ่นน้องอย่างละครึ่งๆ เปิดโอกาสให้มีโอกาสได้ทำความรู้จักพูดคุยระหว่างพี่กับน้อง เพื่อให้พี่และน้องได้นั่งด้วยกันครบทุกคน ตอนเช้าน้องๆ ก็ย้ายโต๊ะจะเวียนไปตามเข็มนาฬิกาแล้วเราก็จะนั่งกับโต๊ะใหม่นั้นทั้งวัน แล้วก็เปลี่ยนแบบนี้ทุกเช้าของวันถัดไป


              หลังจากทานอาหารกันอิ่มน้ำสำราญ เราก็ไปงานก่อสร้างตามที่แบ่งไว้เมื่อวานทันที  พวกเราก็มาหยิบอุปกรณ์กัน อุปกรณ์ที่มีให้ก็คือ หมวกฟางง XD (ใส่แล้ว มังกี้ D ลูฟี่มาก 5555555 ) ถุงมือยาง ใส่ไว้ข้างในแล้วทับด้วยถุงมือผ้าที่ช่วยลดแรงกด เวลายกของจะได้ไม่เจ็บมือ พี่เค้าบอกว่าให้ใส่ถุงมือยางด้วยเพราะกันปูนโดนมือตรงๆ   แต่มีเพื่อนเราคนนึงบอกว่าใส่ถุงมือยางแล้วจั๊กจี้มือด้วย 5555 


                                                                   ----------------------------------สถานะ-----------------------------

    คุณได้รับ : หมวกฟาง 1ea. ถุงมือยาง 1 ea. ถุงมือผ้า 1 ea. 

    Buffพิเศษ : โลชั่นกันแดด SPF ระดับสูงสุด

    Buff กลุ่ม : เพลงในเพลย์ลิสต์ที่วนซ้ำไปซ้ำมา

    -------------------------------------------------------------------------- 

    สุดท้ายคืออาวุธของฝ่ายก่อสร้างที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือออ

    " จอบ !! " ขาดไม่ได้จริงๆ ครับ เจ้านี่


              ได้เวลาไปทำงานกันจริงซักที  งานวันนี้เริ่มจาก "เทเสา"  ฉะนั้นก็ต้องผสมปูนกันก่อน ถุงปูนหนักตั้ง 50 kg. ยกทีถุงนึงใช้แรงเยอะมากก พอยกมาก็เทลงอ่างไปทันที เวลา กวนปูน ก็เริ่มจากเทปูนลงไป เทน้ำตาม ทิ้งไว้ซัก 5 นาที รอปูนเดือดปุดๆแล้วก็เทหิน เททรายลงไป เทน้ำไปอีกนิดไม่ให้หนืดมาก


              แล้วก็กวนๆ กันไป พอทำไปซักพักจะรู้สึกปวดหลังมาก กว่าจะได้ท่าที่ดี  ลุงช่างที่มาดูแลพวกเรา เก่งมาก แค่มองลงไป ก็รู้แล้วว่าปูนนี้หนืดไป เติมน้ำหน่อย หินน้อยไปใส่อีก อะไรยังไง ลุงเค้าจะมาเช็คๆ อยู่เรื่อยๆ คอยบอกและแนะนำพวกเรา ไม่ได้มาทำเองแต่พยายามจะให้เราทำด้วยตัวเอง ยกเว้นบางกรณีก็จะแนะนำและช่วยเป็นบางอย่างไป ถือเป็นความชำนาญเฉพาะด้านจริงๆ (รวมทั้งการฉาบปูนตอนหลังด้วย) และขอบคุณที่เปิดโอกาสให้พวกเราลองทำด้วยนะครับ


     

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

             ไหนๆ ก็พูดถึงคุณลุงช่างแล้ว ขอเล่าเรื่องที่ไม่ได้เล่าในวันที่ 1หน่อย (เพราะวันแรกมันยาวมากละ ตัดตอนมานี้)   คือ  นอกจากจะต้อง " เกลี่ยดิน " ก็มีอีกงานคือเริ่มที่ " ทำเสา " ที่ข้างในป็นโพรงเอาไว้ให้หล่อด้วยปูน  โครงสร้างเสานี้จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำเอาไว้รอบให้ตั้งตรงอยู่ ตอนแรกเห็นเพื่อนทำอยู่เลยกะจะไปช่วยจับๆ อยู่ดีๆลุงก็บอกว่า ลองตอกตะปูดูมั้ย ( ได้พี่พิงค์สนับสนุนให้ทำด้วย ) เราเลยลองตอกตะปูดู ตะปูที่ใช้ค่อนข้างใหญ่แล้วก็ยาว พอตอกไปซักพักมันเบี้ยวออกข้างตลอด แล้วพอตอกเบาๆ  มันก็ไม่ลงอีก ไม่รู้เพราะองศาแปลกๆ ที่เราต้องตอก หรือ ความกากในกำลังแขน  ( ควรสรุปว่าความกากในกำลังแขนมั้ยบางที 55555 เพราะ พอลุงมาทำฉลุยเลยอ่ะ ) ตอกยังไงก็ไม่ลง นี่ก็ว่าไม่ทำละ ลุงก็บอกทำดูสิ ลองดู อ่ะเดี๋ยวลุงเริ่มให้ครึ่งทาง  ได้พี่พิงค์ช่วยจับไม้แล้วตอกไปเรื่อยๆ สรุปเสร็จไปอันนึง พอจะให้ทำอันที่ 2 นี่ขอบายเลยครับ  ขอบคุณคุณลุงมากที่เปิดโอกาสให้ทำ อย่างน้อยได้ลองทำดู อิอิ แต่หลังจากเกลี่ยดินวันนั้นแขนหมดแรงจริงๆ TAT มันล้ามากกว่ายกปูนส่งๆ กันซะอีก


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                    กลับมาสู้งานวันที่สองอีกครั้ง งานกวนปูนเริ่มขึ้น อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้นั่นแหละ แรกๆ จะมีอ่าง (เรียกแบบนี้มั้ย) อยู่อันนึงก็ให้พี่ๆ ได้กวนกันไป เราก็ยืนดูพี่เค้าทำก่อน พอได้อ่างอีกอันมา คราวนี้ถึงเวลาละเลงกันแล้ว ช่วงแรกๆ ดูมีความเข้าหางานสูงคือคอยถามกันตลอดว่าให้ช่วยมั้ยย 5555 ปวดรึเปล่า  คนกวนก็จะแบบไม่เป็นไร เราโอเคแค่นี้สบายมาก 555

    พอกวนไปสักสามสี่ถังก็ คนกวนจะเริ่มมี duration การกวนลดลงละ คือ ผลัดกันไปกันมาเร็วขึ้น เพราะเวลากวนต้องใช้จอบ พอกวนไปนานๆ แล้วจะปวดหลัง  ระหว่างกวนไปกวนมาก็มีพี่คนนึงผ่านมามาช่วยแนะนำท่ากวนปูนที่ถูกต้องให้ ท่าที่ว่านั้น ก็คือ ย่อขาลงเล็กน้อย แล้วยืดหลังตรงๆอย่าตัวงอ พอลองเอาไปใช้   เฮ้ยได้ผลว่ะ!!!!  แต่ถ้าไปโฟกัสท่าทางที่ทำจะรู้สึกว่าท่ามันแปลกๆนิดหน่อย แต่เอาวะเพื่อสุขภาพหลังที่ดีของเรา :D


    หลังจากกวนปูนเราก็จะเอาปูนไปเทในโครงเสาที่ทำไว้เมื่อวาน

    วิธีการย้ายไป คือ ทุกคนจะยืนเรียงแถวกันตั้งแต่อ่างกวนปูนไปยังนั่งร้านที่มีคนรอเอาปูนไปเท   คนแรกสุดที่ยืนอยู่หน้าอ่างปูนก็จะให้ถังตักแล้วส่งต่อๆ กันไปจนถึงคนท้ายบนนั่งร้านแล้วเทปูนลงในโครง แล้วก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยจนเต็มเสาจากนั้นก็ย้ายนั่งร้านมาเสาที่เหลือจนหมด

     ช่วงเช้าพวกเราทำไปได้ 5 เสาจากทั้งหมด 8เสา เลยต้องมาลุยต่ออีกทีช่วงบ่าย แต่ละเสาจะใช้ปูนปริมาณ อ่างครึ่ง  ดังนั้น พอเอาไปเทจนหมดอ่างก็ต้องรีบกวนปูนต่อเลย มีสองอ่างสลับกัน อ่างนึงเอาไป อีกเทอ่างนึงกวนปูน   ตอนทำงานไป เพื่อนๆ ก็มีเรื่องคุยไปด้วย ปากก็ขยับ มือก็กวนกันไป 55555


      ภาพประทับใจของเรา คือทุกคนตั้งใจทำงานมากๆ หันไปรอบๆ แล้วรู้สึกว่าแต่ละมีความมุ่งมั่นในการทำงานสุดๆ แม้อากาศจะร้อน (วันนั้นแดดไม่เยอะเท่าไหร่ แต่อบอ้าว ) ก็มีเพลงที่เปิดกล่อมไประหว่างทำงาน พวกเราก็ยืนร้องเพลงไปทำงานไป ถ้าคนที่มาหรือทำฝ่ายก่อสร้างบ่อยๆ จะได้ยินเพลย์ลิสอันนึง จะเป็นเซ็ทเพลงเดิมวนไปมาซะหลายรอบ 55555 ตอนแรกคิดว่าเราคิดคนเดียวซะอีกที่ิคิดแบบนี้ แต่ไปเห็นในบอร์ด “คิดในใจ” ที่ติดไว้ในครัว ที่เอาไว้ให้เขียนอะไรก็ได้ในค่ายลงไป มีคนเขียนว่าเพลงที่ก่อสร้างทำไมวนอยู่แค่นั้น 555555555 ถ้าลองสังเกตจะรู้ครับ

                    พอเข็มนาฬิกาหมุนไปที่เลข11 ทุกคนทุกฝ่ายก็เตรียมตัวไปทานอาหารเที่ยงที่ฝ่ายครัว แล้วก็ทำ 2 อย่างตามธรรมเนียม คือ แนะนำอาหาร กับ นำสวด หลังเปิดฝาชีขึ้นมาอาหารเที่ยงวันนี้ (ลืมจดเมนูมา TAT) มีทั้งแกงและผัด  ต้องบอกว่าอาหารอร่อยมากๆ  แถมบางแกงก็มีให้เติมอีกใครไม่อิ่มไปเพิ่มได้ ตั้งแต่อยู่ค่ายมาจนจบค่ายอาหารการกินดีมาก แกงแต่ละแกงไม่ใช่เล่นๆ นะครับ มาแต่ละที แกงส้ม ต้มยำไข่พะโล้ สปาเกตตี้ มักกะโรนี และอีกมากมาย พ่วงด้วยของหวานอย่าง ส้ม มังคุด มะม่วงหวาน น้ำหนักขึ้นครับ ตายครับตาย ซ้ำร้ายลงพุงอีกต่างหากเพื่อนชอบมาจับท้องแล้วถามท้องกี่เดือนอ่ะ ไอหย่าาาา 5555 แต่ชีวิตการกินดีสุดๆ ไปเลยครับค่ายนี้  อย่างนึงก็ต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ฝ่ายครัวด้วย ดูแลเราดีทุกมื้อจริงๆ  ^^


    Cr.ภาพประกอบจาก พี่โอปอล์ กับ ใหญ่มือจ่ายตลาด ครับพ้ม


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in