เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ASA 18 thLonely Bear
Day 4.1 : ไม้กวาด กระดาษ และ เครื่องวัดความดัน

  •      Day 4.1 : ไม้กวาด กระดาษ และ เครื่องวัดความดัน


    เช้าวันหนึ่งของค่ายหมอขออาสา ครั้งที่ 18 ณ โรงเรียนบ้านทุ่งยาง

                    พวกเราเริ่มต้นวันใหม่อีกครั้งเมื่อพระอาทิตย์เริ่มสูงขึ้น หมอกหนาๆ ก็จางลงไปปล่อยให้แสงแดดได้ทำหน้าที่ของมันเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังไปทั่วห้อง ตรงนี้ปลุกแล้วดับไป ตรงนั้นปลุกแล้วดับไป แต่ละเครื่องก็มีเพลงต่างกันไปตามเสียงที่ตั้งแต่สิ่งที่พวกเราทุกคนเหมือนกัน คือ “ กดเลื่อนนาฬิกาปลุก !! ”

    .

    .

    .

    .

    = กด Snooze =

    .

    .

    .

    .

     “ เฮ้ย 7.50 แล้ว !! ”

     เสียงเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆดังขึ้น หลังจากงัวเงียลุกขึ้นมาดูนาฬิกาปลุก ด้วยน้ำเสียงของเพื่อนที่เต็มไปด้วยความตกใจ ส่งผลให้เราเองก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วย

     เราหยิบแว่นที่วางไว้บนหัวนอนมาใส่พอเรามองไปรอบๆ ก็ยังเห็นทุกคนนอนอยู่ในท่าทีแสนสบาย Zzz เราเลยคิดในใจว่า“ เห่ย! เพื่อนมันตั้งนาฬิกาผิดเปล่าวะ ” เพื่อตอบข้อสงสัยนั้นมือทั้งสองเลยคว้านหาโทรศัพท์ของตัวเองซึ่งน่าจะวางไว้บนหัวนอนเช่นเดียวกับแว่นขึ้นมาดู


    .

    .

     “ 7.51 น. ”    เอ๊ะ ไม่ผิดแน่!!

     

    สายแล้วโว้ยยยยยยยย ตื่นครับทุกโคนนนนนนนนนน!!!!

     

                    เหมือนที่เล่าเลยครับ วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการตื่นเกือบสาย  55555 พวกเราไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ในห้องก็หลับกันอย่างมีความสุขไม่รู้เพราะอากาศดีหรือเปล่า แต่ทันทีที่รู้ว่าเริ่มจะสายแล้วพวกเราไม่รอช้าวิ่งกันไปแปรงฟัน ล้างหน้าที่อ่างแถวฝ่ายก่อสร้างอย่างรวดเร็ว ( ส่วนเรื่องอาบน้ำแอบขยิบตาขวา 1 ที เข้าใจตรงกันนะครับ ฮ่าๆ :P)

                    อาหารเช้าวันนี้ยังอร่อยเหมือนเดิมต้องขอบคุณฝ่ายครัว เพราะ ต้องตื่นเช้ากว่าเราเพื่อมาทำอาหารให้พวกเราทานกันหลังจากเมื่อวานได้ไปทำงานครัวและสิงอยู่ในครัวทั้งวัน ทำให้รู้ว่างานครัวนี่หนักเหมือนกันสู้ๆ ครับทีมครัวที่แข็งแกร่ง หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้วงานของเราก็เริ่มต้นขึ้น


    ตอนนี้เราก็วนไปยังฝ่ายสุดท้ายที่เรายังไม่เคยทำมาก่อนนั่นก็คืออออออออออ

     .

     .

     .

    .

    .

    “ ฝ่าย สาธา !! ”


    ก่อนจะไปดูว่าฝ่ายสาธาเค้าทำอะไรกันบ้างเราอยากจะเล่าความเข้าใจเกี่ยวกับฝ่ายสาธาในมุมมองเราก่อนจะมาอยู่ฝ่ายนี้ให้ฟัง  สำหรับ  “ ฝ่ายสาธา ” เนี่ย ตอนแรกเราคิดว่าเกี่ยวกับ “ การสันทนาการ”  55555 ใช่แล้ว คิดอย่างนั้นจริงๆ สาเหตุที่ได้ความคิดความเข้าใจแบบนั้นมา เพราะ ตอนค่ายอาสาเล็ก ฝ่ายที่ต้องไปเล่นกับเด็กๆ แล้วสันทนาการน้องๆ ให้โรงเรียน ทีมอาสาเค้าเรียกฝ่ายนี้ว่า   “ สาธา ” !!


                    จินตนาการของเรายังไม่หมดเท่านั้นเราเข้าใจผิดอีกว่า สาธา ย่อมาจาก สา-ธา-นา-การ (มันยาวไงเลยเรียกสั้นๆ เร็วๆ สันทะ พอเรียกไปเรียกมากลายเป็น สาธา ) 55555 เอาจริงๆ ตอนนั้นก็มีคนบอกว่ามันย่อมาจาก “ สาธารณสุข” นะ นึกว่าล้อเล่นครับ เพราะว่างานของสาธาที่ค่ายเล็ก คือ ร้อง เล่น เต้น สัน จริงๆ งานมันไม่สาธารณสุขเล้ยยย ถามเพื่อนก็ไม่มีใครรู้ พี่ๆก็ยังจำใครไม่ค่อยได้ ไม่กล้าถาม ก็เข้าใจแบบนั้นมาตลอดครับ จนกระทั่งได้เข้าค่ายใหญ่เลยรู้ครับว่าเข้าใจผิดมาตลอด เอาล่ะ!  ได้เวลากลับสู่ความเข้าใจถูกแล้วสาธาที่แท้จริงจะเป็นยังไงกันหนอออ ? ไปดูกันโลดดดด


                    งานของสาธาจะเริ่มตอน9 โมง นั่นก็คือหลังทานมื้อเช้าเสร็จ ( เริ่มพร้อมก่อสร้างเลย ) ฝ่ายนี้จะมีห้องเล็กๆ ห้องนึง อยู่แถวส่วนก่อสร้างเลย ห้องนี้เป็นห้องของน้องป.4  (น้องๆต้องย้ายไปเรียนห้องโซนหลังๆ แทน)  ถ้าเรายืนอยู่หน้าประตูห้องก็จะเห็นหมดเลยครับว่าก่อสร้างกำลังทำอะไรกันอยู่ วันนั้นเป็นวันที่ฝ่ายก่อสร้างเริ่มเทพื้นกันแล้วก็มีเชื่อมโครงเหล็กเอาไปเป็นส่วนของหลังคา ( เชื่อม โดยพี่ดอจผู้ชำนาญการครับตอนใส่แว่นแล้วเอาที่เหมือนปืนจี้ จากนั้นก็มีไฟพุ่งๆ ออกมา เท่สุดยอดไปเลยฮะ XD)


    ก่อสร้างก็เริ่มเทพื้นแล้วครับ


    ณ ห้องสาธา แปะภาพ หมอนวดเฉพาะกิจ ดูท่าทางแล้วนวดสบายจริงๆ ครับ ^^



             ว่ากันด้วยเรื่องงานของสาธานั้นจะมีหลากหลายมากเริ่มจาก “ ทำความสะอาดที่หลับที่นอนชาวค่าย ” “ วางแผนกิจกรรม ” “ ฝึกวัดความดัน และ เยี่ยมบ้าน ”

     

    งานที่ 1 : การทำความสะอาดที่พักของพี่น้องชาวค่ายนั่นเอง  พวกเราก็จะแบ่งคนกัน มีห้องนอนชาย 2 ห้อง หญิงอีก2 ห้อง พี่เฮดสาธาก็บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง  ซึ่งสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น คือ เก็บของในห้องให้เป็นระเบียบเอาผ้าปูออกมาสะบัด ม้วนเสื่อ กวาดห้อง ถูพื้น แล้วก็จัดให้ผ้าปูเหมือนเดิม ผู้ชายก็ทำฝั่งห้องนอนผู้ชายผู้หญิงก็ฝั่งห้องนอนผู้หญิง


    • ก่อนหน้านี้มี Feedback มาว่า “ สาธาเมื่อวานพอไปจัดห้องแล้วสะอาดดีมากๆ แต่หาของไม่เจอ เพราะเวลาเอาออกมา ไม่เอาไปเรียงไปวางไว้ที่เดิม เอาไปกองรวมไปข้างห้อง” ปัญหานี้ทีมสาธาได้แก้ไขด้วยการเก็บของเสร็จก็ให้เอาวางไว้แถวๆ นั้นตรงที่เอาออกมาเวลาหาจะได้สะดวกๆ

    แอบส่องห้องนอนกันหน่อยซิ

                 พอเริ่มทำความสะอาด พวกเราก็เริ่มเคลียร์พวกสัมภาระออกไปข้างๆกันก่อน  ม้วนมุ้ง เก็บผ้าปูที่นอน เอาออกมาสะบัดๆนอกห้อง ม้วนเสื่อให้เรียบร้อย ตอนนี้ห้องจะเป็นพื้นโล่งๆแล้ว เราก็จัดการกวาดเศษดินเศษฝุ่น แล้วก็ถูพื้น ( มีไม้ถูพื้นอยู่ 1 ไม้ ต้องรอกันถู5555 ) จากนั้นก็เรียงผ้าปูที่นอนกลับไปเหมือนเดิมแค่นี้เราก็จะได้ ห้องนอนที่แสนสะอาด และนอนสบายในค่ายแล้วล่ะครับ   จบงานแรก สบายๆ ไม่มีอะไร เมื่อเคลียร์อุปกรณ์เสร็จก็กลับมานั่งรอเพื่อนๆ ที่ห้องสาธา

    หน้าห้องก็กวาดสะอาดทุกซอกทุกมุมครับ


             แล้วเริ่มงานที่2  คือ “ คิดแผนงาน Health Pro ” ครับ


     HealthPro หรือHealth Promotion ( ส่งเสริมสุขภาพชาวชุมชน ) ขออธิบายสั้นๆ ว่างาน HP (ขอใช้ตัวย่อนะครับ) เป็นงานที่จะช่วยดูแลและส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนวังวิเศษกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นผู้สูงอายุ พวกเราจะนัดมาตรวจร่างกายเบื้องต้นใครที่อาการหนักก็จะส่งให้พี่แพทย์กายภาพรักษา แต่ถ้าอาการไม่รุนแรงก็จะส่งไปห้องสอนกายบริหารแทนเพื่อให้พี่แพทย์กายจะสอนท่าบริหารเอาไว้ดูตัวเองแลและออกกำลังกายที่บ้านครับ

    ในครั้งนี้ เราจะให้การรักษาทางด้านกายภาพบำบัดครับ เนื่องจากปีก่อนๆ นี้ มีคนมาเข้าร่วมกิจกรรมเพียงเพื่อต้องการยาเฉยๆ   พี่ๆ เค้าก็เลยปรับปรุงใหม่ จนออกมากิจกรรม HP ขึ้นมา

    กิจกรรมนี้พี่ๆ จะคิด concept  ไว้หมดแล้วว่าต้องทำยังไงก็มีตั้งแต่ ต้อนรับซักประวัติ สแกน ส่งห้องรักษา ส่งห้องกายภาพบำบัด ประมาณนี้ครับ   หน้าที่ของปี1 อย่างพวกเรา คือ จะจัดเจ้าพวกนี้ไว้ตรง ที่จอดรถ  ที่ซักประวัติ ห้องตรวจ  ความรู้สึกๆ คล้ายๆ เป็นพวกเราเป็นผอ.รพ.แล้วต้องดูแลรพ.ให้เป็นระบบอะไรประมาณนั้นเราใช้ได้ทุกส่วนในโรงเรียนเลยยกเว้นครัวกับแถวก่อสร้าง   เราก็เริ่มคิดกันครับต้องวางยังไง เรียงลำดับยังไง คนไข้เดินสะดวกหาเจอไหม ต้องดูสถานที่ดูเวลามากมายเป็นงานที่หนักเอาการเพราะ วางแผนแล้วต้องเอาไปใช้จริงๆ ด้วยครับ

     การวางแผนงานคร่าวๆนั้น ก็เริ่มตั้งแต่จอดรถตรงไหน ( รถยนต์กับมอไซต์จะแบ่งจอดยังไง )  เคาเตอร์ซักประวัติวางตรงไหน ส่วนถัดไปวางยังไงให้เดินสะดวก  ห้องทรีต (รักษา)ต้องวางอะไรในห้องบ้างแล้ววางพอรึเปล่า( อุปกรณ์ก็อย่างเช่น เครื่องอัลตร้าซาวด์ที่เอาไว้คลายกล้ามเนื้อเครื่องทดสอบการยืดตัวอย่าง Sit-Reach / Functional-Reach ) แต่ละส่วนห่างกันมากไหมคุณลุงคุณป้าโดนแดดรึเปล่า  ไหนจะการ Flowคนอะไรอีกมากมายครับซึ่งปี 1 ต้องวางแผนด้วยตัวเองทั้งหมด โดยรุ่นพี่จะไม่เข้ามายุ่งในเรื่องการวางแผนแต่จะคอยให้ข้อมูลที่จำเป็น และ ตอบคำถามที่น้องๆ สงสัย


    สำหรับเราเป็นงานวางแผน สำหรับตัวเรานะ เราเป็นงานที่เราไม่ถนัด ไม่รู้จะเสนออะไร หัวตันไปหมด เพราะว่างานนี้มันต้องรัดกุมในหลายๆ เรื่องจัดตรงนั้นได้ ดันมาเกิดปัญหาตรงนี้ .... พอแก้ตรงนี้ได้ตรงนั้นก็เป็นช่องโหว่... แถมยังต้องคอยคิดเผื่อแก้ปัญหาเผื่อไว้ตลอดมีแผน1 แผน 2 สำรองไว้ แต่เพื่อนๆ ก็ช่วยกัน โดยเฉพาะเฮดงานเฮลโปรที่ต้องทำงานหนักมากๆ ( แต่ผลออกดีเกินคาดเลยล่ะครับ ทุกอย่างราบรื่นสุดๆ ) ส่วนวันงานเดี๋ยวติดตามอ่านกันได้ใน Day 6 นะครับ

    ตอนที่วางแผนกันพวกเราก็ออกมาดูสถานที่แล้วลิสต์ห้องเรียงๆ ไว้ด้วย ก็ค่อยๆไล่จากครัวลงมาก่อสร้างเลยครับ ห้องไหนกว้างบ้าง ห้องไหนใช้ไม่ได้ (อย่างห้องพักครู เราไม่อยากใช้กันครับ เพราะ ต้องรื้อเอกสารของคุณครูออกมา ) จากนั้นก็กลับมาห้องสาธาแล้วไล่วางตำแหน่งกันไปยังไม่ทันเสร็จครับ พี่ๆ ก็บอกให้ไปทานข้าวกันก่อน

    สีหน้าทุกคนจริงจังมากครับ 5555


           ช่วงเที่ยงวันนี้ฝ่ายครัวยังทำอาหารอร่อยเหมือนเดิม แต่เราไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ คิดไปคิดมาเป็นเพราะของเทคจากพี่บัดเดอร์เมื่อเช้าแน่ๆ55555 จัดเต็มมากครับ มีขนมปังทาแยมกับซีเรียลถ้วยใหญ่ ( บัดดี้มี 2 คนและก็เทคพร้อมกันด้วย 5555 ) อิ่มยาวไปสิครับ 



    ระหว่างเดินไปดูแต่ละห้อง ก็แอบไปโบกไม้โบกมือให้น้องเค้าด้วย บรรยากาศห้องเรียนที่นี้ทุกคนเฮฮามากครับ


    พอช่วงบ่ายก็กลับมาคุยเรื่องแผนต่อครับ  รอบนี้คุยกันไม่นานแค่สรุปเรื่องที่คุยกันเมื่อเช้านิดหน่อยต้องเผื่อเวลาไว้ฝึดวัดความดันด้วย งานที่ 3 คือ การฝึกวัดความดันและออกเยี่ยมบ้าน  นั้นคือแวะไปเยี่ยมตามบ้านนี่แหละครับ แล้วก็ลองไปพูดคุยถามไถ่สารสุขของเขา นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เพิ่มความเป็นหมออีก2 อย่าง คือเครื่องวัดความดัน กับ สเตรท  

    ก่อนไปเยี่ยมจริงๆ ก็จะต้องลองวัดความดันดูก่อนนี่เป็นครับแรกครับ ที่ผมเคยวัดความดันด้วยวิธีนี้ เคยเห็นแต่แบบอัตโนมัติ แต่คราวนี้เราก็ใช้ชีพจรกับเสียงตึกๆ เป็นตัววัดก็ใช้เครื่องวัดความดันเอาผ้ามาพันแขนแล้วสเตรทสอดฟังดู ตอนฟังยากมากๆครับ ลำพังแค่จับหาชีพจรก็ยากแล้ว คนที่ชีพจรชัดก็ชัดเลยบางคนที่หาไม่เจอกดไงก็หาไม่เจอ ต้องกดอยู่ซักพักกว่าจะรู้สึก แถมตอนนั้นก่อสร้างเปิดเพลงดังด้วย ฟังไปฟังมาเริ่มไม่แน่ใจว่าไอตึกนั้นมันตึกชีพจรหรือตึกๆ จากเพลง เราก็แอบมั่วเอาบ้างครับ -..-  เพื่อนเราบอกว่าเวลาทำจริงๆ ถ้าไม่ยิน ก็สังเกตปรอทดูก็ได้ เวลาวัดถ้าถึงจุดที่ปรอทมันกระเพื่อมก็ให้นับเอาตรงนั้นแหละ หลังจากฝึกวัดไปได้ซักพักก็สงสารแขนเพื่อนครับ เพราะกว่าจะได้ยิน แขนเพื่อนซีดหมดแล้ว55555  โชคดีได้พี่มาแนะนำและเสียแขนให้ทดลองวัดดูพอทำไปเรื่อยๆ ก็สนุกดีครับ


    ทุกคนกำลังฝึกความดันกันอยู่


    หลังจากทำไปได้ซักพักจนคล่องในระดับนึง ตอนนี้พี่ตั้มก็เข้ามาเพื่อประกาศรายชื่อกลุ่มที่เราจะต้องไปเยี่ยมบ้านครับของเรามี 4 คนครับ มีเรา บุ๋น พี่โอปอล พี่เขม จากนั้นก็รอทีมอสม. และพวกเราก็เช็คอุปกรณ์ไปพลางๆเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง  วันนี้ดูอากาศไม่เป็นใจเท่าไหร่ เพราะฟ้าเริ่มมืด ฝนลงนิดนึงแล้วก็หยุดไป

     

    ---  พักไว้ก่อนครับ จะเข้าสู่ช่วงออกไปเยี่ยมบ้านแล้ว ตอนออกเยี่ยมบ้านสนุกมากๆ ครับ ได้คุยกับชาวบ้านหลายอย่างเลย  รอติดตามกันด้วยนะครับ-----

    ภาพเรียกน้ำย่อย สนุกมากจริงๆ ครับ 55555555

    แปะภาพนี้อีกภาพครับ งานที่ปีหนึ่งทำดูเยอะแล้ว พี่ๆ เยอะกว่ามากครับ ต้องวางแผนกันหนักมากๆ นอนดึกกว่าน้องๆ (ยกเว้น น้องที่เล่นไพ่แล้วนอนดึก ) ห้องนี้เราเองก็ยังไม่เคยเข้าไปเหยียบเลย ( ยกเว้นตอน HP เพราะแปรสภาพเป็นห้องกายภาพ )


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in