เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เจ้าชาย Monsterfainattasanan
ตอนที่ 5 คริสมาสต์ที่ขมขื่น
  • เข้าสู่เดือนธันวาแล้ว ฉันพยุงรักหักๆของฉันถึงตอนนี้ ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งจะเขาจะกลับไปเป็นพี่ภูคนเดิม ฉันอยากให้เขาเป็น Lover ไม่ใช่ Monster 

    ทุกครั้งที่เขาไปต่างจังหวัด น้อยครั้งที่เขาจะถ่ายรูปมาให้ดู บอกกับฉันว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร ไปเที่ยวเป็นยังไง เขาไม่แชร์ประสบการณ์หรือสิ่งใหม่ๆที่เขาเจอให้ฉันรู้บ้างเลย เพราะ ข้ออ้างเพียงข้อเดียว 
    " ถึงกลับไปภูก็เล่าให้ฟังอยู่ดี " 

    สัปดาห์นี้ เขาไม่เคยทักแชทฉันมาเลย มีแต่ฉันที่ทักไป พอตกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เขาก็ไปขอนแก่น ตัวฉันนั่งรออยู่ในห้องนอนของเขา เมื่อเขากลับมาถึง เขาดูท่าทางหงุดหงิดและบอกว่าจะนอน แต่เขาก็นอนเล่นมือถือ พอฉันเข้านอนใกล้ๆถามว่าเหนื่อยไหมเขาก็รีบปิดแชทแฟนเก่าทิ้งทันที 

    "พี่ภูคุยกับแฟนเก่าอีกแล้วหรอ ไหนบอกว่าไม่ติดต่อไปแล้วไง "
    " ภูจะนอน! " 
    " พี่ภูเอาแชทมาดู คุยอะไรกันนักหนา "
    " ก็บอกแล้วไง ภูจะนอนๆ พูดไม่รู้เรื่องหรอฝ้าย " เขาหงุดหงิดใส่ฉัน แล้วเดินหนีไปนอนที่ห้องพี่เปอร์ฉันตรงดิ่งไปหาเขาเพื่อขอดูแชท เขากลับลบมันออกจนหมด แล้วยื่นให้ฉันดูเหลือเพียงประโยคสุดท้ายที่ฉันเห็นข้อความของผู้หญิงคนนั้นคือ 
    "วันนี้เรามีความสุขมากๆเลย ขอบคุณมากนะภู "

    ฉันเจ็บปางเจียนตาย ฉันไม่รู้ว่าปกปิดฉันเพื่ออะไร ที่ผ่านมาฉันถูกสวมเขาหรอ?น้ำตาของฉันพลั่งพรูจวนจะเป็นสายเลือด ฉันกรีดร้องที่หลังบ้านจนสุดเสียง ฉันเหนื่อยมากจนจะหมดแรงอยู่แล้ว ที่หน้าอกของฉันเหมือนมีดปลายแหลมปักตรงกลางใจ ต่อให้ดึงสุดแรงเท่าไหร่ก็ไม่มีทางออก

    ฉันร้องไห้ได้ 1 ชั่วโมง เขาส่งข้อความมาหาฉัน มันเป็นเพียงไลฟ์สดที่เขาไปค่ายมาที่ขอนแก่น ในนาทีที่13 พี่ภูพูดว่ามีแฟนแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าแฟนคนไหน เพราะมันเยอะเหลือเกิน 

    ฉันกลับเข้ามาในห้อง เขาบอกว่า ไม่อยากให้ฉันร้องไห้และทรมานแบบนี้แล้ว แต่ฉันกลับสู้แล้วโผกอดเขาเพราะไม่อยากเสียเขาไป ฉันไม่พร้อมจะเสียเขาไปจริงๆ ฉันอ้อนวอนให้เขาอยู่ต่อ ฉันอ้อนวอนและร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา

    ไม่มีอะไรที่ฉันเคยทำและน่าสมเพชได้ถึงขนาดนี้ ฉันกำลังอ้อนวอนขอให้คนที่ไม่เคยรักฉันเลยอยู่ด้วยกันต่อ ฉันอ้อนวอนคนที่มองฉันว่า ฉันน่ะไร้ค่าเท่าเศษฝุ่น เพราะให้ฉันหายใจต่อไปได้  สุดท้ายแล้วเขาก็อยู่ต่อ...
    ฉันมาถึงจุดที่หัวใจของฉันเคยเป็นสีรุ้ง จนมันกลายเป็นสีดำหมดแล้ว โลก Wonderland ที่ฉันเคยอยู่ มันกลับตลปัตรกลายเป็นนรกที่พร้อมจะเผาร่างฉันให้กลายเป็น คนไร้หัวใจไปแล้ว

    ฉันลืม ฝ้ายคนเดิม คนที่เคยร่าเริงคนนั้น ฉันกลายเป็นหุ่นกระบอกเต็มรูปแบบ ในแบบที่เขาชอบ ฉันหุบปากทุกครั้งและพูดทุกอย่างที่เขาอยากได้ยิน และฉันก็ยอมให้เขากระตุก แขนขา หัวใจ และสมองทุกวินาที ทุกถ้วงท่าที่เขาสั่งให้ฉันเดิน

    จนถึงวันก่อนคริสมาสต์ 24 ธันวา เขานัดฉันไว้สองทุ่ม เพื่อมาซักเต้นท์เขียวของพี่ไปป์ ตอนแรกฉันไม่เห็นเขาในบ้าน เขาคงออกไปที่ไหนสักแห่ง และอาจมาสายทุกๆครั้งไป ฉันนั่งรอเขาอยู่นานนับครึ่งชั่วโมงจนตัดสินโทรหาเขา
     "พี่ภู อยู่ไหนคะ ฝ้ายมารอซักเต้นท์ เตรียมงานคริสมาสต์แล้วน้า "
     " เออ จะบอกว่าไม่ต้องซักแล้วนะ ภูอยู่ปาร์ตี้กับอาจารย์ เดี๋ยวภูกลับไปซักเอง "
    " ทำไมพี่ภูชอบลืมนัดตลอดเลย แถมยังชอบมาสายตลอด แผนฝ้ายพังหมดแล้ว วันนี้ฝ้ายวาง Plan ไว้จะโน้นนี่ในแบบที่เราตกลงกันแล้ว ทำไมถึงมาเทแบบนี้ล่ะ "
    " เออ งั้นภูจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ " ตู๊ดๆๆ เขาตัดสายฉันทิ้ง 
    เขากลับมาหน้าตาบูดบึ้ง ไม่พอใจฉันและไม่พูดกับฉันสักคำ ฉันเดินซักเต๊ณท์กับเขาด้วยความอึดอัดและแล้วเขาก็เอาเรื่องนี้มาพูดในวันคริสมาสต์อีกครั้ง

    25 ธันวา เขาตัดสายผู้หญิงที่ชื่อตอง นางโทรจิกๆมาถึง 5-6 สาย ตอนเที่ยงคืน ฉันบอกให้เขารับ แต่ภูกลับตัดสายผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเฉย

    " ฝ้ายเชื่อใจพี่ภูนะ เรื่องผู้หญิงคนนั้น"

    ทั้งๆที่จริงฉันโกหกเพราะฉันไม่อยากทะเลาะด้วยฉันเจ็บจนด้านชา มันเอือมระอาจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเขากอดฉัน เขาบอกว่า นอนได้แล้ว ฉันเลยลุกขึ้นมาขอบคุณที่เมื่อวานเขากลับมาซักเต๊ณท์ด้วย

    " เรื่องนี้ ภูว่าภูอึดอัดว่ะ ภูอึดอัดที่ฝ้ายตรงเวลา อึดอัดที่มี Planner ต้องเป๊ะๆ ไปหมดทุกอย่าง เมื่อวานนี้แทนที่ภูจะได้คุยกับผู้ใหญ่ กลับต้องมาซักเตณท์เพราะเรื่องแค่เนี้ย มันซักเมื่อไหร่ก็ได้เว้ยฝ้าย อย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม หัดเรียงลำดับความสำคัญซะบ้าง "

    "ใช่ ฝ้ายทำตัวเป็นเด็ก แต่เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบพอที่ใส่ใจการนัดคนอื่น ไม่เบี้ยวนัดเลย ตรงเวลาตลอด แบบนี้แหละที่เด็กๆเขาทำกัน " ฉันยืนยันเสียงแข็ง เขาลุกไปหยิบกล่องตุ๊กตาโพนี่มา แล้วบอกกับฉันว่า ถ้าฉันทายถูกว่าจะไม่มีตัวไหนในกล่อง เขาจะไม่เลิกกับฉัน ฉันนั่งซังกะตายไร้วิญญาณข้างๆเขา แล้วยอมเป็นกระบอก ยอมเลือกมั่วๆเพื่อให้จบๆไปสักที และแล้วฉันก็ทายถูก ฉันอยากจะอ้วกช่วงเวลานั้นออกมาเป็นตัวอักษร มันช่วงเวลาที่ฉันขมขื่นที่สุดในชีวิต มันบีบคั้นหัวใจจนอยากวิ่งหนี แต่ฉันสู้มาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าบุญเท่าไหร่แล้ว

    เช้าวันถัดมา เขาส่งฉันที่สถานีรถไฟ ฉันจะกลับศรีสะเกษ แต่เขาก็ร่ำลาด้วยประโยคสุดท้าย "ภูจะใช้เวลานี้จีบๆ ผู้หญิงให้หมดเลย " ฉันได้แต่มองหน้าเหมือนคนตายไร้วิญญาณแล้วตอบว่า " อือ " จากนั้นฉันก็ขึ้นรถไฟกลับ 

    ฉันนั่งคิดทบทวนอยู่นานว่าทำไมฉันถึงวิ่งมาไกลขนาดนี้ได้ ฉันพบคำตอบแล้ว ฉันกำลังหลอกตัวเองอยู่ว่าเขาเป็นคนที่ใช่ เพราะเดี๋ยวสักวันเขาก็คงดีขึ้นมั้ง


     
  • พอกลับมา อาจารย์วิตกับภูมารับฉันที่สถานีรถไฟ ฉันได้แต่นั่งเงียบซังกะตาย   คนเดียวที่ทำให้ฉันยิ้มได้และมีแรงเดิน คือ อาจารย์วิต วันนี้มาถึงจุดที่ไม่รู้วิธีมีความสุขด้วยซ้ำ อาจารย์วิตน่าจะจำรอยยิ้มของฉันได้ แต่ช่วยอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ นี่มันเป็นปัญหาของฉันกับภูเอง

    พอกลับที่บ้าน ภูถามว่าเป็นอะไร ฉันได้แต่เงียบและตอบว่า ไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยก็เท่านั้น ฉันหายไปจากชีวิตเขาได้ วันเดียว เขาก็โทรมาหา ขับรถมาหาถึงหอ เขาถามว่าเป็นอะไรอีกครั้ง เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันหมดความอดทนกับเขาไปนานแล้ว

    พอเขาง้อเข้า พอเขาเริ่มทำตัวดีขึ้นบ้าง ฉันก็หายโกรธแล้ว และแล้วฉันส่งเขากลับบ้านที่นครพนมก่อนวันปีใหม่เขากลับไปโดยบอกกับฉันว่า จะมีรุ่นพี่มานอนบ้าน ซึ่งก็เป็นรุ่นพี่คนเดิมที่คว้าผ้าสีชมพูลายเจ้าหญิงของฉันไป โดยไม่ขออนุญาตก่อน นั่นเป็นผ้าห่มส่วนตัวที่ฉันใช้ห่มคนเดียว หรือแฟนของฉันก็ห่มได้ แต่นี่เป็นคนไม่รู้จัก ฉันจึงโกรธมาที่เขาเสียมารยาทแบบนั้น 

    นอกจากจะมีคริสมาสต์ที่ขมขื่นก็ยังมีปีใหม่ที่เจ็บปวดเพิ่มอีกหนึ่งแมทซ์ ผ้าห่มฉันหายไปอีกแล้ว โดยที่ภูก็โทษฉันว่างี่เง่าอีกแล้ว เขาบอกฉันว่า เรื่องเล็กแค่นี้ทำไมถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็แค่ผ้าห่มมันเอาไปซักใหม่ได้
    ฉันเริ่มรู้สึกว่า เขาไม่ได้ห่วงสิ่งของของแฟนตัวเองด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ให้เกียรติฉันเลยด้วยซ้ำ จนฉันถามเขากลับไปว่า 

    " อยากเลิกกันไหม ? มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะไม่อ้อนวอนอะไรอีกแล้ว " 

    " อย่าเพิ่งเลิกเลย ลองห่างกันสักพักก่อนไหม เผื่อมีอะไรดีขึ้น " เขาถามฉัน

    " นี่ไม่ใช่ สนามเด็กเล่น ตั้งแต่ภูกลับมา ก็เอาแต่เมินเฉยใส่เค้า ทำเหมือนเค้าไม่มีตัวตนในบ้านภู เขาซื้อขนมมาให้ก็ไม่รับ ไม่ขอบคุณสักคำ เค้าเป็นอะไรในสายตาภูวะ เหนื่อยแล้วนะเว้ยที่ต้องมาทนแบกรับความรู้สึกแย่ๆคนเดียว เค้าเป็นของตายที่แกล้งทำเป็นใบ้มาโดยตลอด เพราะไม่อยากมีปัญหาอ่ะ ถ้าตัดสินใจได้ เค้าก็จะได้ออกไปจากชีวิตภูเลย เค้าจะไม่กลับมาอีกเลย ภูจะเอายังไง"

    " ขอเวลาคิดก่อนนะ ถ้าเลิกกับฝ้ายไป ภูก็ต้องหาคนติวอังกฤษให้ใหม่น่ะสิ แล้วการที่คบกับภูมีผลอะไรกับฝ้ายไหมล่ะ " 

    " ไม่มี เพราะ มีแฟนก็เหมือนไม่มี มีแล้วไม่เห็นจะดูแลอะไรได้เลยสักอย่าง " " ถ้าอย่างงั้นภูตัดสินใจได้ เลิกก็เลิก ฝ้ายจะได้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องทนทรมานแบบนีิ้ บอกให้เพื่อนฝ้ายหาแฟนใหม่ได้เลยนะ " 

    "ภูจะมาบอกเลิกด้วยการโทรแบบนี้ไม่ได้หรอก ฝ้ายต้องการซึ่งๆหน้า ออกมารับฝ้ายหน่อยสิที่หอ "

    เขามารับฉัน รับฉันไปบ้านของเขา ฉันเอาแต่ร้องไห้เพราะฉันรู้สึกผิด ผิดสัญญาที่บอกว่าจะอยู่ข้างๆเขาตลอดในวันที่เขาลำบาก 

    แต่ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิแม้จะแตะต้องเขา ฉันเสียใจที่ภาพฝันของฉันทลายลงฉันอยากใส่ชุดเจ้าสาว เป็นแม่บ้านที่โคตรขยัน หาข้าวหาปลาให้เขากิน ฉันอยากดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้านที่เราสร้างมาด้วยกัน ฉันอยาก Support ตั้งแต่วันที่เขาไม่มีอะไรเลยจนวันที่เขาประสบความสำเร็จ 

    มันมาถึงวันนี้ วันที่ฉันยังไม่ได้รับคำขอโทษ ที่เคยถ่ายคลิปฉันส่งฉันเพื่อนของเขาดู ฉันไม่ได้รับคำขอโทษที่เขาบอกว่าฉันท้องต่อหน้าผู้ชายในวงเหล้าสี่ห้าคน ฉันยังไม่ได้รับคำขอโทษอะไรทั้งนั้น เพราะเขาไม่มีวันรู้สึกผิด วันนั้นฉันนอนกับเขาจนรุ่งเช้าเหมืิอนกับคำบอกเลิกเป็นโมฆะ 

    แต่ในความจริงแล้วก็แค่ความสัมพันธ์ Friend with benefit  ก็เท่านั้น ความสัมพันธ์มันอยู่กับเราทั้งคู่เพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้นจนฉันเห็นว่าเขาโหลดรูปคู่แฟนเก่าไว้ในโน้ตบุ๊ค นั่นเป็นวันที่ฉันรู้เลยว่า เขาไม่เคยลืมแฟนเก่า ที่เขาเศร้าเพราะความรัก เป็นเพราะเขาเจ็บปวดที่เห็นแฟนเก่ามีแฟนใหม่ 

    เขาไม่เคยเจ็บปวดกับคนที่เพิ่งเลิกไปอย่างฉัน เพราะที่ผ่านๆมา คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เขาไม่เคยรักฉันเลย ฉันเป็นแค่ตุ๊กตาแก้เหงาชั่วคราว ฉันมาเพื่อแก้ขัดใครสักคนที่กอดอดีตไว้แน่นมาก ไม่ว่าฉันจะรอเขาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์เลย 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in