เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เจ้าชาย Monsterfainattasanan
ตอนที่ 3 : สงครามแฟนเก่า
  • 14 ตุลาแล้ว เป็นวันที่เขาต้องไปประท้วงที่หน้ามอ ฉันเองก็ไปแอบดูเขาที่ม๊อบ จริงๆแล้วทุกม๊อบที่เขาไปปราศรัย หรือแหกปากโต้งๆ ฉันไปหมดแหละ แค่เขาไม่รู้เท่านั้นเอง ฉันไปแอบเชียร์และรู้สึกภูมิใจมากที่ฉันมีแฟนทำเพื่อประชาชาชนแบบนี้  ตั้งแต่นั้นฉันก็เริ่มรักเขาขึ้นทีละนิด เพียงเพราะได้เห็นเขาใส่ใจดูแลผู้ใหญ่คนรอบข้าง และเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อส่วนรวม 

    เขาคือเจ้าชายติดดินที่ฉันรู้สึกว่าไม่ต้องมีข้อกังขาอะไรแล้วที่จะค่อยๆปันหัวใจให้ แม้เพื่อนจะบอกคนนี้ไม่ผ่านก็ตาม เจ้าชายที่ไม่มีเวลาเลยให้กับฉัน แต่ฉันก็เข้าใจนะ ฉันจะยืนรอเขาอยู่ตรงนี้แหละ

    16 ตุลา ฉันยืนรอเขา นั่งรอเขาเป็นชั่วโมงที่บ้านของเขา ฉันนั่งตรงขั้นบันได เพื่อรอเขากลับมาจากประท้วง เพราะฉันเองก็เพิ่งได้ดูเขาประท้วงมาที่หน้าคณะนิติศาสตร์ ฉันเหม่อมองฝนตกที่รินไหลจากหน้าต่างท่ามกลางหน้าบ้านมืดๆคนเดียว
    " นั่นไง ฝ้ายมารอแล้วน่ะ " เสียงพี่ไปป์ผู้ซึ่งซ้อนมอไซต์แฟนของฉันมา
    เขาพาฉันเข้าบ้าน "รู้สึกเหมือนเป็นพี่มากเลยนะฝ้าย แบบว่าภูไปรบมา แล้วมีเมียมารออยู่ที่ท่าน้ำทุกวันเลย " 
    ฉันหัวเราะ แล้วยิ้มให้เขา ฉันยื่นนมและขนมให้เขาเพราะฉันเป็นห่วงว่าเขาจะยังไม่กินอะไรมา
    " ขอบใจนะ ทำไมไปรอภูข้างคนเดียว ทำไมไม่เข้าบ้านไปรอในห้อง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก " เขาพลางเปิดประตูห้องนอนของเขาให้ฉันเข้าไป

    "ไม่เอาหรอก ฝ้ายเกรงใจ ถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เข้าก็จะไม่เข้า แม้ประตูจะไม่ได้ล็อคก็ตาม " ฉันยิ้มแฉ่งให้เขา
    " ตอนนี้เจ้าของบ้านอนุญาตแล้ว จะเข้าจะออกตอนไหนก็ได้ เจ้าของบ้านไม่ว่าเลย " เขาก็ส่งสายตาหวานเยิ้มให้ฉัน ทำเอาตัวฉันบิดเบี้ยวเป็นตะปู
    คืนนั้นเรานอนกอดกันจนเช้า หัวใจของฉันตอนนี้มันพองเหมือนกับบอลลูนสีรุ้งเลย ฟิ้ววว...ลอยไปปารีสแล้ว

    30 ตุลา หลังจากฉันกลับมาจากสอบจีนเสร็จเขาก็มารับฉันไปกินข้าวเย็น ฉันบอกว่าพาไปร้านพี่จั๊ดอีกได้ไหม ฉันอยากได้หนังสือและก็ยังเสริมอีกว่าช่วงนี้ พี่ภูไม่ค่อยพาฉันไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อนเลย ฉันเลยใช้ข้ออ้างให้พาไปร้านหนังสือ เพื่อให้เราได้มีเวลาสวีทกันอีก แต่สุดท้ายเขากลับบอกกับฉันว่า 
    "ก็แค่อยากอยู่กับภู ก็อยู่ที่บ้านเลยสิ ไม่เห็นต้องไปไกลถึงนั่น" แล้วเขาก็ล้างรถ

    ฉันชวนเขาไปลอยกระทง แต่เขากลับบอกว่า "เหมือนแฟนเก่าภูเลยนะ ชวนไปลอย แต่ภูไม่อยากไปลอย แถมยังมาร้องไห้ใช้เพื่อนมาบังคับภูไปอีก " 
    ห้ะ ทำไมจู่ๆถึงพูดเรื่องแฟนเก่าขึ้นมา "ชวนไปแค่นี้จะตอบตกลง หรือไม่ตกลงก็ได้นี่พี่ภู ไม่เห็นต้องหยิบยกเรื่องแฟนเก่ามาพูดเลย "
    " ก็ภูแค่อยากให้เรียนรู้ว่าคนเก่ามันพลาดยังไง ฝ้ายจะได้ไม่ต้องทำแบบนั้นไง จริงๆแล้วฝ้ายต้องขอบคุณแฟนเก่าภูด้วยซ้ำ ถ้าไม่ภูกะเขาไม่เลิกกัน ภูก็คงไม่มีทางได้มาคบกับฝ้ายหรอก"

    ฉันกล้ำกลืนความเงียบอยู่นานนับ 2 ชั่วโมงแล้วเดินไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องของเขา ฉันแหงนหน้ามองดูหนังสือขนาดพกพาเล่มหนึ่ง มันมีหมายเลข 404 เขียนด้วยปากกาแดง ฉันหยิบขึ้นมากลับพบว่าเป็นชื่อผู้หญิงคนนั้น 
    ฉันเก็บความเงียบและกลั่นน้ำตาไว้คนเดียวอีก 3 ชั่วโมงหลังพบว่าเขายังเก็บ Dictionary ของแฟนเก่าอยู่บนชั้นหนังสือ เขาไม่เรียกฉันไปหาเขาเลย เพราะเขามัวแต่ล้างรถอยู่ และเดินไปเดินมาภายในบ้าน 
    พอทุ่มหนึ่ง ฉันเดินไปที่หลังบ้านเขา พบว่าเขากำลังกินข้าวเหนียวไก่ทอดอยู่ 
    เสียงในหัวกล่อมประสาทว่า "อย่างี่เง่าและหุบปากในสิ่งที่อยากพูดซะ เพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน"

    สองทุ่ม เขาพาฉันไปกินข้าวลาบเป็ดกับเพื่อนของเขา พี่เปอร์ หนุ่มแว่นร่างหมี ,พี่ไปป์ สุดคูล และอาจารย์วิต  ขณะที่กินข้าวอยู่นั้น ฉันเปิดปากอยากคุยกับอาจารย์ เรื่องอาชีพอาจารย์ เพราะฉันเองก็มีความฝันอยากจะสอนนักศึกษาอยู่เหมือนกัน 

    "ชู่ว ไม่ถามนะฝ้าย" พี่ภูเอ็ดฉัน แต่ฉันไม่แคร์และเปิดหัวข้อเสวนากับอาจารย์อย่างเป็นกันเอง ฉันไม่เข้าใจว่ามันผิดด้วยหรอที่ฉันจะถามคนที่เก่งกว่าฉัน มีประสบการณ์มากกว่าฉัน เพราะฉันอยากได้ความรู้จากเขา

    สี่ทุ่ม ฉันร้องไห้และเล่าเรื่ิองนี้ให้กับหมุยและพี่ปั้น แฟนของหมุยฟัง พี่ปั้นบอกว่า 
    "พี่เองที่เป็นผู้ชายยังรู้สึกเจ็บแทนเลย เป็นพี่ พี่ไม่พูดแบบนี้นะ มันเหมือนไม่ให้เกียรติแฟนใหม่เลย " ฉันแอบนั่งร้องไห้หน้าซิกเนเจอร์และตัดสินใจอยากเคลียร์ความรู้สึกนี้กับพี่ภู 
    หมุยส่งฉันที่บ้านของเขา ฉันร้องไห้เหมือนเด็กน้อยและบอกกับเขาว่า ฉันไม่พอใจที่เขาพูดถึงแฟนเก่ามันทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันเข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกเพื่อมาดามใจให้เขาลืมแฟนเก่าก็เท่านั้น  ฉันพลั่งพรูความน้อยใจออกมาจนหมดเปลือก แต่เขากลับยิ้มและบอกว่า เรื่องแค่นี้เอง 
    "ภูรู้นะฝ้ายไม่ชอบให้พูดเรื่องแฟนเก่า แต่พี่ที่ภูพูดเพียงเพราะยกตัวอย่างให้ฝ้ายเรียนรู้ เราจะได้ไม่ทะเลาะกันเหมือนกับคนเก่าอีก"

    ฉันแสร้งทำเป็นโอเค ทั้งที่ไม่โอเค ฉันแสร้งทำเป็นเข้าใจแต่จริงๆการกระทำของเขามันย้อนแย้ง ฉันเห็นบ่อยครั้งที่เขายังแชทกับแฟนเก่ามาโดยตลอด อ้างว่าเป็นเพื่อนกัน ทั้งที่ยังกดไลค์โพสกันอยู่ ฉันไม่รู้จะเชื่อยังไง ข้ออ้างที่บอกว่า "ที่ติดต่อกับแฟนเก่าอยู่เพียงเพราะ สร้าง Connection เผื่อรถคว่ำกลางป่าจะได้โทรหาเขา เพราะ เขาเรียนสาธา เขาจะได้ช่วยภูไง "

    ฉันเลยสวนกลับไปว่า "แล้วแฟนใหม่ล่ะทำไมไม่โทร มีไว้ทำไม 1669 ล่ะ ทำไมไม่โทร มันไม่ Make Sense นะภู"

    ฉันอดทนอดกลั้นกับเรื่องนี้ไว้นานจนเข้าพฤศจิกา ทุกครั้งที่ฉันถามว่าคุยอีกทำไม เขาก็อ้างว่า ผู้หญิงคนนั้นทักมาหาเรื่องลงทะเบียนเรียนวิชาอังกฤษ 4 ไม่ได้ 
    ฉันรู้ว่านี่เป็นคำโกหก เพราะเขาคิดมาโดยตลอดว่าฉันโง่ 
    ฉันรู้ว่าเขาลบแชททุกครั้ง ก่อนจะยื่นมือถือให้ฉันดู 
    ฉันเชื่อว่าถ้าคนไม่มีอะไร มันซื่อสัตย์จริงๆ มันจะกล้าเปิดเผยทุกอย่าง
    ฉันรู้ว่าฉันควรเลิกกับเขาเสียที ที่ฉันมาคบกับเขา เพราะฉันอยากดูแลเขาไปตลอดจนถึงวันที่เราแต่งงานกัน ฉันจริงจังจนถึงขั้นนั้นแต่ไม่มีพฤติกรรมไหนเลย ที่ทำให้ฉันเชื่อใจเขาได้...
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in