เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/me Now.geekjuggler
โถ่ 'จารย์
  • ถ้าใครเคยได้ไปดูฟุตบอลไทยแบบติดชิดขอบสนาม มั่นใจได้ว่า ต้องเคยได้ยินและเข้าใจถึงความหมายของชื่อตอนนี้เป็นอย่างดี แต่หากคุณไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนในชีวิต วลี "โถ่ 'จารย์" คือคำที่ใช้แสดงความงุนงง ไม่เข้าใจ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ คิดไรกันอยู่ ที่เหล่าคนดูริงไซด์มีต่อท่านกรรมการในสนามฟุตบอล เสียบน่าเกลียดจากด้านหลังแต่ไม่โดนใบ ล้ำหน้าแต่ไม่ยกธง ยกธงแต่ไม่ล้ำหน้า ฯลฯ สถานการณ์เหล่านี้ ใช้ "โถ่ 'จารย์" ได้ทั้งสิ้น

    แต่วันนี้ ผมไม่ได้จะมาชวนคุยเรื่อง "โถ่ 'จารย์" ในวงการฟุตบอลหรอกครับ
    แต่ข้ามฝากไป "โถ่ 'จารย์" กับแวดวงถ่ายภาพ

    ในฤดูกาลการถ่ายภาพของบ้านเรา จะมีอีเวนท์ประกวดภาพถ่ายงานหนึ่ง ที่ช่างภาพทั้งแผ่นดินจะมาเฝ้าจับตามอง ซึ่งพอจะแบ่งคนได้ออกมาเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก คือ คนที่มาลุ้นว่า ภาพของตัวเองจะเข้ารอบไหม ได้รางวัลไหม กับ อีกกลุ่ม ที่มารอดูว่า ภาพที่เข้ารอบจะเป็นยังไง ผลงานน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน

    ผมก็เป็นทั้งคนในกลุ่มแรกและกลุ่มหลังครับ แต่มุมมองของผมในฐานะคนกลุ่มหลังในปีนี้ นับว่าสนุกขึ้นกว่าปีก่อนเยอะมาก

    เพราะปีนี้ ในบรรดาภาพที่เข้ารอบสุดท้ายของงานประกวดนี้ มีภาพที่โดนตัดสิทธิ์ออกไปด้วยสาเหตุที่น่าสนใจจนต้องเอามาเขียนถึง

    "เป็นภาพที่มีมุมมอง บรรยากาศภาพ และถ่ายในตำแหน่งที่เหมือนกับภาพของผู้อื่นในโซเชียลมีเดีย ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของการประกวดที่ว่า เป็นการประกวดผลงานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม ทั้งในด้านของมุมมองและแนวความคิด"
    "เป็นภาพถ่ายที่ถ่ายในองค์ประกอบเดียวกันกับผู้อื่นที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว ไม่ว่าจากเวทีใด"
    "เป็นภาพถ่ายที่ทำซ้ำผลงานของตัวเอง ไม่ใช่ผลงานใหม่"

    ตามนี้ครับ
    คนที่ไม่ได้ติดตามเวทีประกวดนี้คงจะสงสัยว่า อ่าว ก็ไม่แปลกนิ ภาพโดนตัดสิทธิ์ก็เป็นเรื่องธรรมดา  ที่มันพิสดารไทยแลนด์โอนลี่ นั่นเป็นเพราะว่าเวทีประกวดนี้ เมื่อได้ภาพที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแล้ว เขาจะเปิดช่วงเวลาให้ผู้คนทางบ้าน มาทักท้วง คัดค้าน กันได้ว่า เฮ้ย ภาพที่เข้ารอบนี่มันผิดกฏนะ แล้วกรรมการก็จะพิจารณาว่าจะปรับให้ตกรอบไหม
    (ปล ท้วงว่าผิดกฏหลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว ไม่นับนะครับ ให้โอกาสแล้ว)
    และภาพที่โดนปรับตกไปตามสาเหตุข้างต้น ก็เป็นผลงานการทักท้วงของช่างภาพที่ร้องเรียนเข้าไปตามกระบวนการที่ว่ามาครับ

    ประเด็นที่คันใจผมมากๆ คือ ทำไมช่างภาพธรรมดาทั่วไปถึงรู้ว่าภาพที่เข้ารอบที่ได้ผ่านการพิจารณาอย่างเข้มข้นจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มันคือภาพมุมมหานิยมที่มีคนถ่ายกันมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ 'จารย์ทั้งหลายกลับไม่รู้ ไม่เอะใจอะไรเลย ปล่อยผ่านมาซะงั้น

    "โถ่ 'จารย์"

    ถ้าลองมาไล่เรียงกันใหม่ ก็จะพบกับความมึนงงบางประการอยู่
    กรรมการ ตามหน้าที่แล้ว คือผู้ที่ควรจะใช้ความรู้ความสามารถของตัวเอง ตัดสินผิดถูก หรือ ผลการแข่งขันได้โดยเด็ดขาด แต่กลับกลายเป็นว่า ปล่อยผลตัดสินออกมา แล้วให้เหล่านักสืบทั้งหลายมาช่วยกันยืนยันความถูกต้อง รีเช็คการตัดสินของตัวเองอีกที (และภาพที่เหลือรอดก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะซ้ำไหม แค่อาจจะยังไม่มีใครเจอว่ามันซ้ำ)​

    ตกลงหน้าที่รับผิดชอบในการรับรองความถูกต้องของรางวัลนี้ ตกอยู่กับใครกันแน่
    กรรมการ หรือ คนดู

    ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยคิดว่า การก๊อปมุมของชาวบ้านมาส่งประกวดเป็นเรื่องที่ผิด
    ใครจะก๊อปมุม ก๊อปไอเดีย ก๊อปวิธีการของชาวบ้านมาถ่ายเพื่อส่งประกวดก็เชิญได้เลยเต็มที่
    เพราะสุดท้ายแล้ว หน้าที่ที่จะจัดการตัดสินถูกผิดนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของกรรมการทุกคนล้วนๆ ไม่ใช่คนที่ส่งเข้าไป ถ้ามันผิดจริง ก็ต้องย่อมโดนตัดทิ้ง

    ภาพที่เจ้ารอบสุดท้ายทั้งหมดมีจำนวน 90 ภาพ ผมว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากเกินไปที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดถึงที่มาที่ไปว่า ภาพแบบนี้ มันเคยมีคนถ่ายมาแล้วบ้างรึเปล่า ( Google หาได้ไม่อยากหรอก เชื่อสิ) เพราะนี่คือภาระของกรรมการ ที่ประหลาดมาก เพราะ ดันโดนโยนมาให้เป็นภาระของคนดู
    และ เท่าที่รู้มา ยังไม่เคยมีเวทีประกวดไหนในโลก ที่ใช้วิธีการแบบนี้ ที่กรรมการเปิดช่วงอย่างเป็นทางการให้ออกมาทักท้วงผลการตัดสินของตัวเอง 

    ผมก็เลย "งง" กับกรรมการอยู่ไม่น้อย

    และ อีกจุดหนึ่งที่แสนจะคันใจ อยากจะ "โถ่ 'จารย์" มากๆ คือ ถ้าเป้าประสงค์ของเวทีนี้ คือการเฟ้นหา "ผลงานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม ทั้งในด้านของมุมมองและแนวความคิด" ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า ผลงานที่ผ่านเข้ารอบมาปีนี้ก็ไม่ค่อยจะตอบโจทย์นี้เท่าไร ไม่ใช่แค่ว่าไม่แปลกใหม่ด้านเทคนิคถ่ายภาพ หรือ มุมมอง แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่จากผลงานที่เข้ารอบในปีก่อน ปีก่อนก่อน ปีก่อนก่อนก่อน เหมือนกัน 
    ดังนั้น อย่าแปลกใจหรือขุนเคืองกันเลย ที่เขาถึงได้เอาชื่อของกลุ่มกรรมการที่มาตัดสินไปตั้งเป็นชื่อเรียกแนวภาพถ่ายแบบหนึ่ง
    เพราะ ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหน ภาพจากเวทีนี้ กรรมการกลุ่มนี้ ก็จะออกมาในทำนองเดียวกันเสมอๆ

    ท้ายที่สุด รู้อยู่เต็มอกครับ ว่าเดี๋ยวฤดูการประกวดของงานนี้มันก็จะพัดผ่านไป
    และก็เฉกเช่นฤดูกาลของโลกใบนี้

    เพราะปีหน้า เชื่อได้ว่า ผมก็คงยังได้มานั่ง "โถ่ 'จารย์" กันแบบนี้แหล่ะ

    ปล ถึงผมจะมา โถ่ 'จารย์ แบบนี้ ถ้าถามว่าปีหน้าผมจะส่งภาพเข้าไปประกวดมั้ย ผมก็ส่งอยู่ดีแหล่ะ เงินรางวัลเยอะดี เผื่อฟลุ้ค
    ปปล เงินชนะทุกอย่าง จบ. 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in