เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Short Tripหมีเป็ดไปทั่วโลก
เก็บตกเทศกาลว่าวนานาชาติ 2560 แล้วไปนั่งตากลมที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
  • เทศกาลว่าวนานาชาติ 2560

    เราเห็นประกาศเทศกาลนี้เมื่อเดือนก่อน  วางแผนดิบดีว่าจะถ่ายว่าวตัวใหญ่ล่องลอยเต็มท้องฟ้า  
    แต่เอาเข้าจริงกว่าจะคลานไปถึงชะอำก็เกือบห้าโมงเย็น  เราจอดรถด้านหนึ่งของหาด แต่งานจัดบริเวณหัวหาดอีกด้าน  เดินลุยทรายจนขาอ่อน ไปถึงที่เค้าก็เริ่มเก็บว่าว...



    ยิ่งรีบยิ่งมีอุปสรรค  เพราะบริเวณโดยรอบมีแผงเหล็กกั้นไม่ให้เข้าไปใกล้ว่าวได้อีก  อ๊ะ ยังไง  
    จะต้องซื้อบัตรเหรอ  หรือต้องเป็นสื่อวีไอพี  ไม่เห็นมีบอกในรายละเอียด  ทำไมจัดงานกันแบบเน้
    ตามด้วยคำสรรเสริญอีกเป็นชุด



    ขณะที่เรามองหาทางเข้า ก็เห็นคนต่อแถวเพื่อขึ้นไปบนเวทีเล็กๆ หลังแผงกั้น  เลยถือโอกาสเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ให้หายสงสัย
    “สวัสดีครับ ผมอยากเข้าไปดูใกล้ๆ ต้องทำยังไงครับ”
    “เราเปิดให้ลงทะเบียนพรุ่งนี้สิบโมงเช้าที่เต็นท์ตรงโน้น แล้วจะมีทีมงานนำเข้าไปชมเป็นรอบ  รอบแรกเที่ยงครับ”
    “ที่ต้องกั้นแบบนี้เพราะว่าวตัวใหญ่ เชือกแต่ละเส้นแรงดึงเป็นตันๆ  ถ้าเข้าไปใกล้เกินไปแล้วโดนเชือกเกี่ยวเข้าจะอันตรายมาก”
    “อ๋อ  ขอบคุณมากครับ”

    เป็นอันว่าเค้ามืออาชีพ พยายามรักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม  เจ้าสองคนนี้ตะหากที่มาถึงสายแล้วยังจะไปว่าเค้าอีก  สำนึกบ้างมั๊ย..



    ในเมื่อวันแรกพลาดไปแล้ว พรุ่งนี้จะมาแก้แค้น  แผนการคือตื่นแปดโมง ถึงจุดลงทะเบียนสิบโมง 
    หาอะไรกินสบายๆ ริมทะเล  เที่ยงเข้าไปเดินใกล้ชิดว่าวยักษ์ เก็บภาพเก๋ๆ  

    แต่ความเป็นจริง เราตื่นสิบโมงครึ่ง... = ='  ไปถึงหาดเที่ยง แดดแรงมากจนตาสู้ไม่ไหว  ถ่ายได้ไม่นานก็ต้องยกธงขาว  เป็นบทเรียนว่าถ้าจะถ่ายภาพกลางแดดจัด ต้องพกแว่นกันแดด  แล้วก็อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกด้วย!



  • พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

    ไม่ไกลจากหาดชะอำ มีสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่ง  สวยงาม ต้นไม้เยอะ เหมาะกับหมีเป็ดกว่าการเดินตากแดดตากลมเป็นไหนๆ  นั่นคือพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

    ก่อนเข้าต้องซื้อบัตรราคา 30 บาท และเพิ่มอีก 30 บาท สำหรับขึ้นไปเดินบนพระที่นั่ง  โดยจะเปิดเป็นรอบเพื่อจำกัดผู้เข้าชม เนื่องจากตัวอาคารไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากนัก



    ภายในเป็นสวนกว้างที่มีต้นไม้ใหญ่ พอมีร่มเงาให้หลบแดด  ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์เล็กๆ



    พระที่นั่งสีเหลืองฟ้า ใต้ถุนสูงโปร่ง เด่นสะดุดตา การออกแบบทำให้เปิดรับลมได้อย่างเต็มที่  และแม้ว่าบางส่วนกำลังได้รับการบรูณะ ก็ไม่ทำให้ความงามของมันลดน้อยลงไปนัก



    ห่างจากสวนไปราวสี่ร้อยเมตร  มีร้านน้ำชาซึ่งปลีกตัวอยู่ริมชายหาด  จิบชากาละ 250 บาท คู่กับขนมไทยชุดละ 100 บาท  น่าจะถูกใจใครที่อยากพักเงียบๆ ฟังเสียงลม เสียงคลื่น ในบรรยากาศย้อนยุค



    การมาเที่ยวทีนี่ ผมแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ 2.30 - 3.00 ชั่วโมง  ซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่  ฟังเสียงดนตรีไทยเล่นสดลอยมาตามลม  ลองนึกย้อนไปว่าเมื่อครั้งที่ ร.6 ยังคงทรงประทับอยู่ที่นี่ พระที่นั่งแห่งนี้จะสวยงามและมีชีวิตชีวาขนาดไหน

    ทริปนี้เราขับรถกลับบ้านพร้อมขนมอร่อยจากร้านของฝาก  โดยเฉพาะขนมบุหงา รสหวาน หอมงาพอดีๆ เคี้ยวหนึบหนับเหมือนเยลลี่  เพลิดเพลิน ใช้ต่อสู้กับรถติดเย็นวันอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี
    (ลูกอมน้ำตาลโตนด อร่อยหอมน้ำตาลเมืองเพชรมาก ไม่ควรพลาด)

    ยังเหลือรีวิวอาหารและโรงโรม ที่ผมขอโยนหน้าที่ให้อาเจ้  เพราะตอนนี้งานประจำยุ่งอีรุงตุงนัง 
    ยังไม่นับรีวิวขนาดยาวของทริปลงใต้ที่ยังเขียนไม่เสร็จซะที T^T



    ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตรงนี้ สวัสดีค๊าบ
  • เปลี่ยนโหมด อาเจ้มาต่อ ที่พัก-อาหาร ทริปนี้กันค่า 
    หมีเป็ดติดใจเมืองเพชร มีเหตุให้ต้องระเห็ดไปหลายรอบ 
    เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งวัง ทั้งวัด ทะเล ป่าเขา ของกินก็อร่อยมีเอกลักษณ์ ผู้คนน่ารัก

    ที่พักที่ไปบ่อยคือ
    Sun Hotel : โรงแรมเก่าคลาสสิคดี ใกล้เขาวัง มีอาหารเช้า
    J House : ที่พักใหม่  ห้องกว้างขวาง เตียงหมอนดี น้ำไหลแรง 
    ครั้งนี้จอง J House ผ่าน Booking.com ปรากฏว่าเกิดตกหล่นยังไงไม่ทราบ ห้องเต็มหมดแล้ว
    ดีที่เรายังมีหลักฐานการจองยืนยัน น้องพนักงานก็รับผิดชอบ พาเราไปที่พักใหม่ ไม่ไกลกันมาก 
    แถมถูกกว่าที่เดิม 50 บาท เป็นอันราบรื่น

    ทิพนลิน : บรรยากาศดี มีที่จอดรถน้อยไปนิดนึง
    กลายเป็นว่าอาเจ้ชอบบรรยากาศที่ใหม่ มากกว่า J House ซะอีก  ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นหลายชั้น ดีไซน์ห้องโปร่ง เรียบ ดูดี เตียงนุ่มนอนสบาย


    ที่สำคัญ มีเจ้าแมวชื่อกาฟิล น่ารักขี้อ้อนสุดๆ เดินตามมาเล่นถึงในให้อง

    มุมนี้ซ่อนหุ่น

    ก่อนกลับนอนเป็นขนุนอยู่นอกบ้าน





    มาที่อาหาร ตั้งใจว่าจะกลับไปซ้ำ ร้านพวงเพชร เคยลองทะเลผัดฉ่าแล้วเฮียหมีติดใจในความเผ็ดโพดๆ ของที่นี่ อาเจ้กินเผ็ดไม่เก่งยังต้องยอมเสียน้ำตา เพราะ กุ้ง หอย ปลา ของเค้าสดเด้ง รสชาติดีจริงๆ  

    แต่... ก็มัวย้วยกันจนร้านพวงเพชรปิด 555 

    ลองร้านข้างๆ ก็ได้ หิวตาลายแล้ว ร้านรีแล็กซ์
    ร้านนี้ติดแอร์ บรรยากาศจะสงบเงียบกว่าพวงเพชรเล็กน้อย เปิดเพลงสมัยคุณแม่ยังสาว
    พนักงานสุภาพ เปลี่ยนผ้าปูโต๊ะทุกครั้งที่มีลูกค้าใหม่


    สั่งทะเลผัดฉ่ามาวัดกัน รสไม่จี๊ดเท่าพวงเพชร มาตรฐานกลางๆ วัตถุดิบสดดี


    ข้าวผัดปูขนาดกลาง เยอะมาก ทานได้ซัก 3-4 คน ถ้าไป 2คน จานเล็กก็น่าจะพอค่ะ 
    รสอ่อนๆ กลมกล่อม สั่งมากินพร้อมกับข้าวกำลังดี ให้เนื้อปูสมราคา ผัดเม็ดร่วน ไม่อมน้ำมัน


    ไข่เจียวหมูสับ หมูแอบน้อย

    ทั้งหมดนี่รวมน้ำเปล่า ราคา 620 อิ่มจุก

    ที่นี่เค้าใช้น้ำมันรำข้าวทำอาหารด้วย โดยรวมคือ อิ่ม สด บริการดี ไม่แพงเว่อ อาหารรสไม่จัดจ้านเท่าพวงเพชร  แต่ใครอยากนั่งตากแอร์บรรยากาศสบายๆ มาร้านนี้ก็ได้อีกบรรยากาศนึง



    อาเจ้หลงรักเมืองเพชรเต็มเปา ยังมีไอติมโอวทึ้งกี่ ที่ไม่ควรพลาด น้ำตาลสดแท้ จากสวนคุณลุงถนอมก็เป็นของฝากคุณภาพดี ราคาไม่แพง ขนมจีนทอดมัน อาเจ้ยังไม่ได้ลองชิมกะเค้าเล๊ย 

    แล้วจะกลับไปอีกน๊าา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in