.
สายตาคมจ้องมองผืนน้ำของทะเลสาบในยามค่ำคืนที่สะท้อนแสงจันทร์พลางครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตนเอง
เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วที่อิมยองมินตัดสินใจเดินออกจากแผ่นดินบ้านเกิดและมาลงหลักปักฐานที่ประเทศที่เขาไม่คุ้นเคยอย่างเยอรมัน การใช้ชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่ไม่ใช่บ้านเกิด แตกต่างทั้งวัฒนธรรม ภาษา การดำเนินชีวิตนั้นไม่ง่ายเลยโชคดีที่เขาได้พบกับครอบครัวอุปถัมป์ที่ดี ถึงแม้ว่าครอบครัวอุปถัมป์จะไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริงแต่ยองมินก็รักพวกเขาจากหัวใจ
การทิ้งอดีตไว้ที่เกาหลีใต้และสร้างชีวิตใหม่ เลือกทางเดินให้กับตัวเองที่เยอรมันทำให้ยองมินมีความสุขมาตลอดระยะเวลา 7 ปีและไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ทิ้งบ้านเกิดมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ยองมินถอนหายใจเบาๆ
แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งก็คิดถึงสิ่งที่คุ้นเคยมาค่อนชีวิตก่อนจากมา แต่เขาไม่ใช่เด็ก เขากำลังจะอายุ26ปีเต็มในอีกไม่กี่นาทีนี้ ดังนั้นเขาควรที่จะมีความสุขกับทางเดินที่เขาเลือกเองมากกว่าเสียดายและคิดถึงทางเดินที่เลือกจะจากมา
จ๋อม
ยองมินหันไปมองยังทิศทางของเสียงแผ่วเบาที่ถ้าเป็นปกติเขาคงไม่ได้ยิน แต่นี่เป็นเพราะรอบทะเลสาบนั้นเงียบมาก ยิ่งกลางดึกอย่างนี้ยิ่งเงียบกว่าปกติ ทำให้เขาได้ยินเสียงดังกล่าว ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังต้นทางของเสียงด้วยความสงสัย โดยปกติแล้วแถบนี้แทบไม่มีใครนอกจากเขาที่มักมานั่งปล่อยใจหาแรงบันดาลใจในการทำงานอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งที่มาเขาก็ไม่เคยเจอใครมาก่อน
ภาพที่เห็นส่งผลให้ยองมินเบิกตาโตและยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกันไม่ให้ตัวเองส่งเสียงดังออกมาครีบหางสีขาวสะอาดราวกับมุก แต่เมื่อสะท้อนแสงจันทร์กลับเปล่งประกายสีม่วงอ่อนออกมาอย่างสวยงามกำลังสะบัดขึ้นลงหยอกล้อเล่นกับผิวน้ำอย่างสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น...ร่างกายท่อนบนนั้นไม่แตกต่างอะไรกับมนุษย์เลยแม้แต่น้อย หน้าท้องแบนราบ ลำคอระหง ใบหน้าเยาว์วัยและกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกน้ำน้อยๆ
ไม่อยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ ... มนุษย์เงือกนั้นมีอยู่จริง และสวยงามราวกับจับต้องไม่ได้
ยองมินเหม่อมองภาพมนุษย์เงือกที่มองเผินๆอายุไม่ต่างกับเขาเท่าไรนัก แต่ใครเล่าจะรู้อายุที่แท้จริงของมนุษย์เงือก ใบหน้าเยาว์วัยนั้นแหงนมองพระจันทร์จากนั้นจึงระบายยิ้มออกมาช้าๆ
แกร่ก
ยองมินแทบสบถออกมาเมื่อเขาดันขยับเท้าเหยียบก้อนหินจนทำให้เกิดเสียงและส่งผลให้เงือกหนุ่มสะบัดหน้าหันมามองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นยองมินเงือกหนุ่มก็รีบสะบัดครีบกลับลงใต้ทะเลสาบทันที ร่างสูงก้าวยาวๆไปทรุดนั่งยังจุดที่เงือกหนุ่มเคยนั่งอยู่แล้วพูดกับผืนน้ำอย่างร้อนรน
"คุณ! ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจ เอ่อ ไม่รู้คุณจะได้ยินมั้ย แต่ผมขอโทษจริงๆนะ"
ร่างสูงรีบเสียจนไม่ได้สนใจว่าตอนที่เขาคุกเข่าข้างทะเลสาบนั้นหัวเข่ากระแทกเข้ากับหินคมเข้าเต็มๆ หลังจากนั่งมองผืนน้ำอยู่หลายนาทีแต่ไร้วี่แววเงือกหนุ่มครีบหางสีขาวมุก ยองมินก็ยอมแพ้
"อา..แย่ชะมัด เลือดออกตอนไหนล่ะเนี่ย" มือหนาลูบแผลที่หัวเข่าซึ่งเลือดกำลังไหลออกมาด้วยความแปลกใจก่อนที่ความเจ็บจะเข้ามาแทนที่ ยองมินกัดฟันก่อนวักน้ำจากทะเลสาบขึ้นมาล้างเลือดออก และพยายามจะลุกขึ้นเพื่อเดินกลับที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบมากนัก
จ๋อม..
"กลิ่น..เลือด" เสียงจากทางด้านหลังเรียกให้ยองมินสะบัดหน้าหันกลับไปมองและยิ้มกว้างทันที"คุณ" ยองมินค่อยๆเดินกลับเข้าไปหาเงือกหนุ่มที่โผล่เพียงใบหน้าและลำคอขึ้นมาจากผิวน้ำเท่านั้น ป้องกันไม่ให้เงือกหนุ่มตกใจจนหนีหายไปอีกครั้ง
"เลือด"
"ครับ พอดีผมรีบเกินไป คงไปโดนหินบาดเข้า" นัยน์ตาสีม่วงใสของเงือกหนุ่มจ้องเข้าไปในตาของยองมินก่อนลดสายตาลงมองแผลของชายหนุ่ม
"มา..ใกล้"
"ครับ? ให้ผมเข้าไปใกล้หรอ" เงือกหนุ่มพยักหน้าเพียงแผ่วเบาก่อนเคลื่อนตัวเองเข้ามาชิดฝั่งทะเลสาบ ยองมินเดินเข้าไปใกล้แล้วทรุดตัวลงนั่ง
"คนดี..รักษาได้" ยองมินยิ้มตลอดระยะเวลาที่เงือกหนุ่มพยายามพูดคุยกับเขา หรือบางทีอาจรำพึงกับตัวของเงือกหนุ่มเองก็ได้ เขาเองไม่แน่ใจนัก แต่เมื่อนัยน์ตาสีม่วงใสเหลือบขึ้นมาสบตากับเขาอีกครั้ง ยองมินแน่ใจว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะ
"ตาคุณ..กับครีบของคุณสวยมากเลยครับ" เงือกหนุ่มเม้มปากก่อนหลบสายตายองมินแล้วทำท่าจะผลุบหายไปใต้ทะเลสาบอีกครั้ง "ไม่ๆๆๆ อย่าไปนะครับ ผมไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ผมจะไม่บอกใครว่าเจอคุณที่นี่"
ยองมินยื่นมือออกไปคล้ายกับจะจับเงือกหนุ่มไว้แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสผิวของเงือกหนุ่ม มือเย็นๆก็ยื่นมาแตะมืออุ่นของยองมินเสียก่อน
"เลือด...รักษา" มือเย็นของเงือกผละไปสัมผัสหัวเข่าของร่างสูงที่เลือดยังคงไม่หยุดไหลก่อนปาดเลือดออกแล้วชะโงกใบหน้าเข้ามาจรดกลีบปากลงที่ปากแผล ทันใดนั้นเลือดก็หยุดไหลและปากแผลเองก็ปิดสนิท
"คุณ.." นัยน์ตาม่วงใสช้อนขึ้นสบตากับยองมินก่อนผละออกจากหัวเข่าและกลับลงไปอยู่ในทะเลสาบเช่นเดิม "ขอบคุณมากครับ"
"คนดี..ต้องรักษา"
"ผมหรอครับ?" เงือกหนุ่มพยักหน้าช้าๆก่อนหลบสายตาคมแล้วแหงนหน้ามองพระจันทร์แทนใบหน้าหล่อของยองมิน "ขอบคุณครับ ผมชื่อยองมิน คุณล่ะ"
ใบหน้าสวยหันกลับมาช้าๆก่อนเปล่งเสียงเอ่ยชื่อของเจ้าตัวออกมา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง บางทีอาจเพราะชื่อนั้นเป็นภาษาของเงือกทำให้เขาออกเสียงตามไม่ได้"ผมเรียกไม่ได้..ถ้าผมตั้งชื่อให้คุณใหม่ จะเป็นไรไหมครับ?"
หลังเฝ้ามองปฏิกิริยาเงือกหนุ่มอย่างระมัดระวังและไม่เห็นว่าเขาจะว่าอะไร ยองมินจึงตัดสินใจ "ผมเรียกคุณว่าแดฮวีนะครับ" ใบหน้าสวยกดลงช้าๆหนึ่งครั้งก่อนมองพระจันทร์เช่นเดิม
"ผมไม่เคยคิดเลยว่าเงือกจะมีอยู่จริง" แดฮวีหันมองยองมินช้าๆก่อนพลิกตัวนอนหงายและสะบัดครีบสีขาวมุกประกายม่วงให้ยองมินดูแล้วซ่อนไว้ใต้ทะเลสาบเช่นเดิม "ผมคิดว่าเงือกจะมีแค่ครีบสีเขียวซะอีก"
เจ้าของนัยน์ตาสีม่วงใสมองยองมินแล้วยิ้มออกมาก่อนส่ายหน้าเบาๆ "หลายสี..เขียวเยอะ"
"แล้วครีบแบบคุณล่ะครับ" บางทีมันอาจจะเป็นคำถามที่ล้ำเส้นมากเกินไป แดฮวีจึงเงียบลงและหันกลับไปจ้องมองพระจันทร์อีกครั้ง "ขอโทษนะครับถ้าผมไม่ควรถาม"
"อา ถึงเที่ยงคืนแล้ว วันนี้วันเกิดผมก็จริงแต่ผมขอให้คุณมีความสุขแล้วก็สวยงามแบบนี้ตลอดไปนะครับ" เงือกหนุ่มเอียงคอมองยองมินด้วยความสงสัย
"วัน..เกิด?"
"อ่า หมายถึงวันที่ผมอายุเพิ่มขึ้นอีกปีอะไรประมาณนั้นครับ"
"แข็งแรง..ความสุข" ยองมินยิ้มออกมาจนกระทั่งเขาปวดแก้มไปหมดแต่เขาต้องกลับที่พักแล้ว ดังนั้นคงถึงเวลาที่จะปล่อยให้เงือกหนุ่มได้ใช้เวลาส่วนตัวเสียที
"ขอบคุณครับ ผมคงต้องกลับแล้ว ขอบคุณที่คุยกับผมนะ" แดฮวีปรี่เข้ามาเกาะที่ริมทะเลสาบแล้วช้อนนัยน์ตาสีม่วงใสมองตาของยองมินจนฝ่ายคนถูกมองไม่กล้าขยับตัวลุกขึ้นยืน
"กลับมา..ม..มั้ย" ราวกับว่าเงือกหนุ่มกำลังหัดพูดภาษามนุษย์ที่ไม่คุ้นชินจึงค่อยๆพูดทีละคำและบางคำก็ใช้เวลากว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้ ยองมินยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าแรงๆ
"ถ้ากลับมาแล้วเจอคุณ ผมจะมาบ่อยๆเลยครับ" แดฮวีระบายยิ้มแล้วมือเย็นๆก็เลื่อนมาแตะที่หลังมือของยองมินก่อนผละออกเมื่อพบว่ามือของยองมินนั้นอุ่น บางทีอาจจะอุ่นเกินไป "พรุ่งนี้ผมจะมารอครับ"
แดฮวีพยักหน้าแล้วผลุบหายลงไปใต้ทะเลสาบ ส่วนยองมินก็จ้องมองผิวน้ำต่ออีกครู่หนึ่ง สัมผัสเย็นชื้นที่หลังมือยังคงอยู่และด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หัวใจของเขาเต้นแรงกว่าเดิมเล็กน้อยแต่ร่างสูงตัดสินใจไม่สนใจและเดินกลับที่พักไป
เกือบหนึ่งเดือนผ่านไป
ยองมินจ้องมองผิวน้ำที่กระเพื่อมเล็กน้อยก่อนพบเข้ากับนัยน์ตาม่วงใสที่เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อยๆ เขายิ้มกว้างก่อนยื่นมือลงไปจับสองมือของเงือกหนุ่มให้ครึ่งมนุษย์ของเขาโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำแล้วค่อยมือทั้งสองนั้นไป
"คิด..ถึง" ร่างสูงก้มลงไปจนสายตาของพวกเขาประสานกันแล้วยิ้มให้กับแดฮวีก่อนแตะแก้มเงือกหนุ่มเบาๆ
"เหมือนกันครับ"พวกเขาพบกันทุกคืนมาเกือบเดือนแล้ว และเพราะแถบนี้นั้นแสนจะเงียบสงบจึงไม่ต้องกังวลมากนักว่าจะมีคนมาเจอ อีกอย่างถ้าหากไม่ปลอดภัยจริงๆแดฮวีคงโดนคนเห็นไปนานแล้วเช่นกันในระยะเวลาที่ทำความรู้จักกัน แดฮวีเริ่มเปิดใจพูดคุยกับยองมินมากขึ้นและเล่าให้ฟังว่าพี่น้องเงือกของเขาไม่มีใครรอดจนโตเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้ ทั้งทะเลสาบแห่งนี้จึงมีเขาเป็นเงือกเพียงตนเดียว ยองมินเองก็เล่าเรื่องอดีตของตัวเองให้แดฮวีที่นิ่งเงียบฟังอย่างตั้งใจเช่นเดียวกัน
"ยองมิน..ลงน้ำมั้ย"เป็นครั้งแรกที่ยองมินได้รับคำเชิญชวนให้ลงน้ำ ลงไปในอาณาเขตส่วนตัวของเงือกหนุ่ม ซึ่งสิ่งนี้ทำให้หัวใจของชายหนุ่มอดที่จะพองฟูไม่ได้ เงือกหนุ่มต้องไว้ใจเขามากขนาดไหนถึงได้ชวนให้เขาลงน้ำด้วยแบบนั้น
"ไม่เปียก" เมื่อเห็นเขาเงียบไป แดฮวีจึงเอ่ยขึ้นคงคิดว่าเขากลัวเปียก ไม่ได้คิดเลยว่าเขากำลังดีใจจนพูดไม่ออกต่างหาก ยองมินยิ้มแล้วส่งมือให้แดฮวี ให้อีกฝ่ายพาเขาไปในที่ที่อีกฝ่ายอยากพาไป
"ก้มก่อน"ร่างสูงก้มหน้าลงไปใกล้ก่อนต้องเบิกตาโตเมื่อสัมผัสหยุ่นชื้นและเย็นเฉียบประทับลงบนกลีบปากอุ่นของเขา กลีบปากเย็นเฉียบของเงือกหนุ่มบรรจงประทับที่กลีบปากของเขาและขยับเพียงเล็กน้อยให้เขาเปิดทางซึ่งเขาก็ยินยอมแต่โดยดี อะไรบางอย่างในร่างกายเขาเปลี่ยนแปลงทีละน้อยและเมื่อรู้ตัวอีกที พวกเขาทั้งคู่ก็อยู่ใต้ทะเลสาบเสียแล้ว
ยองมินกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติเมื่อภาพที่เห็นคือแดฮวีและครีบหางสีขาวมุกประกายม่วงอ่อนกำลังสะบัดไปมารอบตัวเขาราวกับเจ้าของของมันกำลังมีความสุข
"ยองมินหายใจได้" ยองมินทดลองสูดลมหายใจเข้าและพบว่าเขาหายใจได้จริงๆ แต่สายตาคมก็ยังคงไม่ละไปจากครีบหางสวยงามนั้นเช่นเดิม
"สวยมากเลย" คำรำพึงถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อครีบหางของเงือกหนุ่มพันรอบขาของเขาโอบให้ร่างสูงเข้าไปชิดลำตัวของเงือกหนุ่มก่อนที่พวกเขาจะประกบปากเข้าด้วยกันอีกครั้ง ภายใต้ทะเลสาบอุณหภูมิในร่างกายที่แตกต่างกันของพวกเขานั้นไม่ส่งผลมากนัก และแดฮวีสามารถสัมผัสเขาได้โดยไม่ร้อนดังนั้นเงือกหนุ่มจึงจับมือและพาเขาดำลึกลงไปยังบ้านที่แท้จริง
ทันทีที่ร่างของพวกเขาเอนลงนอนบนเตียงน้ำหลังใหญ่ของแดฮวี ยองมินก็ถูกครีบหางสะบัดพันรอบขาอีกครั้งราวกับอีกฝ่ายกำลังหยอกล้อเขาอยู่ ดังนั้นยองมินจึงยกมือหนาขึ้นลูบแก้มใสแล้วยื่นหน้าเข้าไปประกบจูบกันอีกครั้งแดฮวีขยับตัวลงแนบแก้มเข้ากับอกของยองมินแล้วหลับตาโดยที่ครีบหางยังคงสะบัดลูบขาของยองมินไม่หยุด
"แดฮวี" นัยน์ตาสีม่วงใสช้อนมองแต่ไม่พูดอะไร
"แบบนี้จะดีหรอครับ" แก้มใสแนบกับอกกว้างแล้วแขนเรียวเองก็พาดกับเอวของยองมินก่อนกอดอีกคนแน่น
"จับ..หางมั้ย" ยองมินระบายยิ้มเมื่อเงือกหนุ่มจงใจเบี่ยงประเด็นไปที่หางของตนซึ่งยองมินชอบนักหนา ดังนั้นมือหนาจึงเลื่อนลงไปสัมผัสครีบหางของเงือกหนุ่มแผ่วเบา
"ยองมิน ไม่ชอบเราหรอ"
"ชอบมากแต่ไม่อยากให้แดฮวีมีอันตราย ถ้ามีคนรู้ ถ้ามีคนจับได้" แดฮวีเงียบไป ทำเพียงแค่สะบัดครีบหางไปมาเท่านั้น ยองมินจึงเงียบลงบ้างและทำเพียงแค่ลูบหลังเปลือยของอีกฝ่ายไปมาแผ่วเบา
"มนุษย์กับเงือก รักกันได้ แต่ไม่เคยสมหวัง" อะไรบางอย่างในน้ำเสียงของแดฮวีนั้นแฝงไปด้วยความขมขื่น ยองมินจึงด้มลงไปหอมแก้มอีกฝ่ายแล้วกระชับกอด
"อย่าคิดไกลถึงวันนั้นเลย วันนี้เรายังอยู่ด้วยกันได้ครับ" พวกเขานอนกอดกันบนเตียงน้ำหลังใหญ่ของแดฮวีจนกระทั่งเช้ามืด แดฮวีจึงกลับขึ้นไปส่งยองมินที่ผิวน้ำ ร่างสูงกดจูบอย่างอาลัยที่กลีบปากบางแล้วกลับที่พักไป
ยองมินยังคงไปที่ทะเลสาบทุกวันและลงไปที่บ้านของแดฮวีเป็นบางครั้ง แต่ลึกๆในใจเขารู้ดีว่าเขาคงทำอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ สักวันจะต้องมีคนสงสัยและเริ่มค้นหาความจริง และถ้ามันเป็นอย่างนั้นล่ะก็เขาคงทนไม่ได้ถ้าหากเห็นแดฮวีต้องเป็นอะไรไป
"แดฮวี" ใบหน้าหม่นไม่สดใสเหมือนทุกทีผละจากอกกว้างแล้วจ้องในตาของยองมินนิ่ง แม้แต่นัยน์ตาสีม่วงใสก็หม่นแสงลงไม่เป็นสีม่วงใสเหมือนอย่างเคย มือหนาทั้งสองจับประคองแก้มของแดฮวีไว้ ปลายนิ้วหัวแม่มือปัดผ่านใต้ตาสวยแผ่วเบา
"ผมว่าเราเลิกเจอกันเถอะนะ" ฝ่ามือเย็นเฉียบของแดฮวีจับมือหนาไว้แล้วค่อยหันไปบรรจงจรดริมฝีปากที่กลางฝ่ามือนั้น
"เร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะ" พวกเขาสอดประสานปลายนิ้วเข้าด้วยกันก่อนเป็นแดฮวีที่ขยับเข้ามาจูบยองมินอย่างแนบแน่น "รู้ไหมว่าถ้าเราขึ้นบนบก เราจะมีขาแต่เราอยู่โดยมีขาตลอดไปไม่ได้"
"นานแค่ไหน"
"หนึ่งวัน" พวกเขามองตากันนิ่ง "พาเราไปกับยองมินนะ"
ยองมินพาแดฮวีขึ้นบกและพากลับที่พักด้วยหัวใจทั้งเจ็บและมีความสุขปะปนกันไป ความคิดที่จะใช้เวลาในวันสุดท้ายด้วยกันให้มีค่าที่สุดทำให้ยองมินและแดฮวียิ้มออกมา ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บไม่น้อยเลยก็ตาม
คืนนั้นยองมินสอนให้แดฮวีได้เรียนรู้การแสดงออกถึงความรักในแบบที่มนุษย์บกนั้นทำกันอย่างอ่อนหวาน จนกระทั่งยองมินผล็อยหลับไปตอนรุ่งสาง
"ขอบคุณนะยองมิน" แดฮวีกระซิบที่ข้างหูร่างสูงก่อนก้มลงจรดริมฝีปากจูบที่กลีบปากอุ่นเป็นครั้งสุดท้าย วางสร้อยที่ห้อยจี้มุกและส่วนหนึ่งของเกล็ดจากครีบหางของเขาไว้ที่หัวเตียงเป็นของขวัญแทนคำเอ่ยลาและบอกรักทั้งหมด ก่อนเดินจากมาและกลับสู่ทะเลสาบดังเดิม
เมื่อยองมินตื่นขึ้นมาแต่ไม่พบแดฮวีเขาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายได้จากเขาไปแล้ว และพวกเขาไม่ควรเจอกันอีก มือหนายกมาปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนักก่อนจะเหลือบไปเห็นสร้อยคอที่แดฮวีวางทิ้งไว้ให้เขานั่งลูบสร้อยนั้นอยู่นานก่อนจดริมฝีปากจูบแผ่วเบาที่เกล็ดจากครีบหางแล้วใส่สร้อยเข้ากับคอของตัวเอง พลางลูบหน้าลูบตาเตรียมตัวไปทำงานต่อไป
"ขอบคุณนะแดฮวีที่ให้ผมได้รู้จักได้รักคุณ ผมจะไม่มีวันลืม"
...เรารู้...
และชั่วขณะหนึ่งยองมินคิดว่าเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ตอบกลับมา.....
THE END
talks. แง อย่าตีหนู
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in