(เรียงจากซ้ายไปขวา)
10. หนังสือรวบรวมสถิติ The Guinness Book of Recordsหนังสือเล่มหนาและแพงมากจริงๆ แต่ก็มีเรื่องน่าสนใจนะ
11. The New York Trilogy โดย Paul Austerคนเขียนบอกไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมนี่ถึงเป็นเป้าของ "five-finger discount" เหยยยย มันแปลว่าขโมย โอ้โห ได้เรียนรู้คำใหม่
12. หนังสือเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ UFOs ศาสตร์มืด เรื่องของพวกนาซีเรื่องพวกนี้มันเรียกความสนใจคนเราได้ดีจริงๆ มินิมอร์ก็ชอบพวก Conspiracy Theory หรือ ทฤษฎีสมคบคิดนะ ยิ่งเรื่องเหนือธรรมชาติยิ่งชอบ (ตามประสาโตมากับผู้หมวดโมลเดอร์ ฟอกซ์ และ สกัลลี่ จาก The X-Files) แต่ไม่ต้องขโมยก็ด้ายยย ส่วนพวกศาสตร์มืดเธอไม่ต้องไปขโมยยย *เสียงสูง* แอบเข้าตรอกน็อคเทิร์นไปแล้วก็หาซื้อหนังสือเอา ไม่ต้องขโมยก็ได้ แต่ต้องหลบดีๆ แถวนั้นเถื่อน พวกพ่อมดแม่มดใช้ศาสตร์มืดอยู่กันให้รึ่ม (เอ๊ะ?)
13. หนังสืออ่านนอกเวลา หนังสืออ้างอิง ตำราต่างๆมินิมอร์ยกตัวอย่าง The Merchant of Venice โดย Williams Shakespeare มา เพราะว่าเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา จริงๆ มีหนังสืออีกมากเลยที่เป็นหนังสือที่ทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยกำหนดให้อ่าน...แต่หนังสือพวกนี้มินิมอร์ว่าห้องสมุดมีให้ยืมนะ แล้วก็จะบอกเรื่องที่ต้องอ่านตั้งแต่ต้นเทอม พวกเธอมาอ่านเอาตอนปลาย หนังสือโดนยืมหมดใช่มั้ยล่ะเลยขโมย ไม่น่ารักเลย
ถึงเวลาเฉลย!
หมายเหตุก่อนนิดนึง...หนังสือบางเล่มที่อยู่ในลิสต์มินิมอร์ก็ไม่ได้ดึงเอาภาพปกมาให้ดูนะ เพราะจัดเป็นหมวดหมู่ แต่ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจแน่นอน!
หนังสือที่ถูกขโมยจากห้องสมุด ได้แก่
- The Guinness Book of Records
- The Bible
- หนังสือเตรียมสอบ
- Sports Illustrated Swimsuit Edition
- Art Books
- หนังสืออ่านนอกเวลา หนังสืออ้างอิง ตำราต่างๆ
- หนังสือเรื่องเหนือธรรมชาติ
หนังสือที่ถูกขโมยจากร้านหนังสือมากที่สุด ได้แก่
- Charles Bukowski และ William S. Burroughs
- On the Road by Jack Kerouac
- หนังสือภาพประกอบ (บางทีคนขโมยก็เป็นเด็กๆ...)
- The Great Gatsby โดย F. Scott Fitzgerald.
- หนังสือของ Earnest Hemingway
- Naked and Me Talk Pretty One Day โดย David Sedaris
- The New York Trilogy โดย Paul Auster
เป็นที่น่าสังเกตว่าหนังสือที่ถูกขโมยในห้องสมุด จะเป็นหนังสือทั่วไปเสียมากกว่า ส่วนหนังสือที่ถูกขโมยตามร้านหนังสือก็จะเป็นหนังสือดังในช่วงนั้น
มินิมอร์ไม่ได้สนับสนุนการขโมยเลยแม้แต่นิดเดียว หนังสือแบบเล่มแพงใช่ไหม ลองกัดฟันซื้อสื่อการอ่าน e-books ไหม เดี๋ยวนี้ราคาถูกลงมามากแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นแทบเล็ทธรรมหาหรือว่าอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ e-ink จอภาพมีความสว่างคล้ายคลึงหนังสือ และออกแบบมาเพื่อนักอ่านโดยเฉพาะ เพราะหนังสือหลายเล่มก็เป็นหนังสือคลาสสิคและทรงคุณค่า ที่ลิขสิทธิ์ตกเป็นของสาธารณะไปแล้ว และมีโครงการอัพโหลดเป็นอีบุ๊กให้อ่านฟรีในหลายเว็บไซท์
เราสามารถสร้างนิสัยรักการอ่านได้ โดยไม่ต้องเพิ่มระดับความเป็นขโมยในตัวเราโดยการเบียดเบียนคนอื่นเนอะ จริงไหม? แล้วมาดูเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือได้ใหม่ในสัปดาห์หน้าจ้ะ :>
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in