เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Judge A Book By Its Coverminimore
ปกนี้ท่านได้แต่ใดมา? แง้มดูไอเดียจากเนื้อหากว่าจะมาเป็นปกหนังสือ
  • การออกแบบปกหนังสือแต่ละเล่ม อาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนักออกแบบ เพราะนอกจากจะต้องถ่ายทอดเนื้อเรื่องทั้งหมดลงในหน้ากระดาษแผ่นเดียวแล้ว ยังต้องครีเอตให้ดึงดูสายตา น่าค้นหา มีเสน่ห์โดยที่ไม่หลุดไปจากเนื้อเรื่องในหนังสืออีกด้วย (มินิมอร์ปาดเหงื่อแทนเลย) วันนี้มินิมอร์เลยมีปกหนังสือพร้อมเรื่องราวเบื้องหลังมาให้อ่านกันว่า ปกนี้ท่านได้แต่ใดมา Photoshop รึเปล่านะมอบให้? ลองไปดูแล้วจะรู้ว่ากว่าจะมาเป็นปกสวยๆ ให้เราได้จับจองเป็นเจ้าของ เขามีเรื่องราวเป็นมากันยังไง เริ่มเลย!


    Last Last Chance by Fiona Maazel


    หนังสือของ Fiona Mazeel ออกแบบโดย Henry Yee   หน้าปกหนังสือถูกออกแบบให้เหมือนกับถูกหั่นออกเป็นสองส่วนโดยเส้นแบ่ง 45 องศา สะท้อนภาพของสายรุ้งที่ขาดออกจากกัน มองผ่านๆ  เหมือนกันว่าหน้าปกนี้ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น เพราะสายรุ้งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เมื่อมองเห็นภาพนี้ หลายคนจะรู้สึกอ้างว้างและหดหู่ ยิ่งพอได้อ่านชื่อหนังสือแล้ว เพียงภาพเดียวนี้ก็ทำให้เรารู้แล้วว่า หนังสือของ Fiona Mazeel คงไม่ใช่เรื่องราวสีชมพูสดใสและสุขหรรษาแน่ๆ (ล้ำลึก)



    The Paradox of Choice by Barry Schwartz


    ปกหนังสือเล่มนี้ออกแบบโดย High Design NYC ซึ่งถูกทำให้โดดเด่นจากพื้นหลังที่เป็นสินค้ามากมายของซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีแผงโภชนาการอยู่ตรงกลาง แต่แทนที่จะแสดงข้อมูลทางโภชนาการ ข้อความในช่องว่างนั้นกลับเป็นชื่อหนังสือ คำบรรยาย ผู้แต่งและบทวิจารณ์แทน เก๋ดีไหมล่ะ 

    มีบทวิจารณ์ปกหนังสือเล่มนี้เขียนเอาไว้ว่า 

    " ฉันชอบปกหนังสือเล่มนี้เพราะสีสันและความฉลาดที่แสดงออกมา  ชื่อของหนังสือคือ "Paradox of Choice" ก็เหมาะมากกับภาพบนปกที่ศิลปินใช้ภาพถ่ายจากแสดงซูเปอร์มาร์เก็ต มันสะท้อนความจริงที่ว่า ในปัจจุบันเรามีเสรีภาพในการเลือก แต่เพราะแบรนด์หรือการโฆษณา โปรโมชันสินค้า ก็ทำให้เราต้องคิดหนักเวลาจะเลือกอยู่เสมอ เพราะงี้แหละ การเลือกจึงเป็นความขัดแย้งอย่างแท้จริง " 


    Impossible Motherhood by Irene Vilar


    หนังสือของ Irene เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของความบอบช้ำจากการทำแท้ง ถึงแม้ภายใต้ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษจะเขียนถึงความรู้สึกที่ทั้งหนักหน่วง มีความเศร้าแต่ก็จริงใจ   Carin Goldberg ผู้ออกแบบปกหนังสือเล่มนี้ ได้ทำการปรับโฉมโทนเรื่องด้วยการออกแบบหน้าปกด้วยลายเส้นเรียบง่ายเพียงไม่กี่เส้น แต่สามารถสะท้อนความเป็นหญิงสาวออกมา นอกจากนี้ ยังมีเส้นบางๆ จำนวน 15 เส้น ตัวแทนของ 15 ครั้งที่ขื่นขมจากการทำแท้ง นับได้ว่าเป็นหน้าปกที่สามารถเล่าเรื่องราวภายในได้ โดยไม่ต้องใช้องค์ประกอบที่มากมายอะไร และยังทำให้น่าสนใจและเป็นที่จดจำอีกด้วย



    Valkyrie by Philipp von Boeselager


    ปกหนังสือที่ออกแบบโดย Jason Booher ก็เหมือนกับภาพซุ่มยิงที่เล็งไปยังเป้าหมายด้วยการวางจุดเลเซอร์จุดเดียวบนขมับของฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นภาพแสดงถึงความคิดในการลอบสังหาร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ในประวัติศาตร์จากช่วงสงครามโลกครัง้ที่สอง ที่ผู้นำเยอรมันถูกลอบสังหารหลายต่อหลายครั้ง และครั้งที่มีชื่อเสียงที่สุด คือเหตุการณ์  ‘Operation Valkyrie’ ซึ่งหนังสือเรื่องนี้ เขียนเรื่องราวของ Philip Boeselager และพี่น้องผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาถึงความพยายามที่จะวางแผนและเตรียมพร้อมที่จะลอบสังหาร เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะล้มเหลวก็ตามที 



    How to Speak at Public Events


    นี่เป็นหนึ่งในหน้าปกที่มีการออกแบบได้เก๋ไก๋ โดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ มาอธิบายเลยสักนิด หนังสือเล่มนี้ เขียนถึงเรื่องราวของการให้คำแนะนำโดยทั่วไป (ที่ไม่ได้ผล) ในการเอาชนะความตื่นกลัวในการพูดในที่สาธารณะ เช่น " ลองคิดว่าผู้ฟัง สวมใส่แต่ชุดชั้นในดูสิ " ช่างเป็นคำแนะนำที่ประชดประชันซะเหลือเกิน เพราะมินิมอร์ว่าในความเป็นจริงแล้ว คนพูดนั่นแหละ ที่จะรู้สึกเหมือนสวมชุดชั้นในตัวเดียวแล้วพูดต่อหน้าคนอื่นๆ 

    หน้าปกหนังสือเล่มนี้ เป็นผลงานของ Alister MacInnes ผู้มากพรสวรรค์ โดยใช้ภาพแบบพิกเซลและสีสันที่สดใส ไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อเรื่อง หรือคำอธิบายอะไร เพราะภาพบนปกสามารถอธิบายได้ทุกสิ่งอย่าง แล้วดูความเก๋เล็กๆ บนปกนี้สิ จะเห้นว่าผู้ฟังสวมใส่ชุดในโอกาสต่างๆ ที่คนเรามีสิทธิที่จะได้ขึ้นไปพูดต่อหน้าสาธารณะ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานศพ งานบวช (อันหลังนี่คงไม่มี) อุ้ย น่ารัก


    South of the Border, West of the Sun by Haruki Murakami


    John Gall ผู้ออกแบบปกหนังสือเล่มนี้ แสดงฝีมือบนหน้าปกด้วยเฉดสีที่อบอุ่น และความสมมาตรบนใบหน้าของหญิงสาวและชายหนุ่มที่ดูกลมกลืนกัน เมื่อมองดีๆ จะเห็นว่าถึงแม้ ผู้หญิงและผู้ชายจะแตกต่างกัน ทั้งลักษณะของดวงตา หรือแม้แต่ทิศทางที่ยืนอยู่ แต่เมื่อนำมารวมกัน ก็ได้ใบหน้าที่สมบูรณ์ออกมา ยิ่งเล่นเฉดสีเหมือนจริงแบบนี้แล้ว ยิ่งเข้ากับหนังสือนิยายเล่มนี้เข้าไปใหญ่



    Stargirl by Jerry Spinelli


    ดูเผินๆ อาจจะคิดว่าหนังสือเล่มนี้ คืออะไร ลายเส้นแบบสีเทียนเด็กอนุบาล ไม่มีชื่อเรื่อง มีเพียงสีสันสวยๆ และภาพของเด็กสาวกับดวงดาว (ใส่กระโปรงเพราะฉะนั้นเด็กผู้หญิงแน่ๆ) แต่ถ้าลองได้อ่านเรื่องราวภายใน จะรู้เลยว่านี่ล่ะปกที่เหมาะสมที่สุด เพราะหนังสือเล่มนี้ของ Jerry Spinelli  เกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการออกแบบปกหนังสือจึงสอดคล้องกับความแตกต่างด้วยตัวของมันเอง ก็ใครเป็นคนกำหนดล่ะว่าแบบนี้จะเป็นปกหนังสือที่สวยและดีไม่ได้? 



    American Nerd by Benjamin Nugent


    Jason J Heuer ได้ออกแบบหนังสือของ Benjamin Nujent เรื่อง "American Nerd" โดยแสดงให้เห็นถึงสิ่งของหลายอย่างที่ถูกเหมารวมว่าเป็นตัวแทนของความ " เนิร์ด " ไม่ว่าจะเป็น เครื่องช่วยหายใจเอย แว่นตาหนาเตอะ รีเทนเนอร์ หรือแม้แต่สมุดจดบันทึกเล่มโต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาพสะท้อนที่ผู้คนมองคนที่พวกเขาตัดสินว่าเนิร์ด เพราะแบบนั้น เมื่อมันปรากฎบนปกหนังสือเล่มนี้ มันจึงเป็นภาพสะท้อนที่ดีที่สุดของ 'American nerd-ness



    Eat, Pray, Love by Elizabeth Gilbert


    Helen Yentus ได้รับมอบหมายให้ออกแบบหน้าปกสุดพิเศษสำหรับหนังสือขายดีของ Gilbert ที่ชื่อ 'Eat, Pray, Love' หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่พึ่งจะผ่านการหย่าร้างมาหมาดๆ เธอเดินทางไปสามสถานที่ที่ห่างไกลกันตลอดทั้งปี จุดหมายแรก ' Eat ' คือเรื่องราวของเธอในอิตาลี และการบำบัดความเศร้าหมองด้วยอาหารและพาสต้า จุดหมายที่สอง  ' Pray '  เรื่องราวของคำอธิษฐานถูกสะกดด้วยลูกปัดอธิษฐานของเธอในอินเดีย การนั่งสมาธิ และค้นพบจิตวิญญาณในชีวิตของเธอ จุดหมายสุดท้าย ' Love ' คือความรักถูกสะกดออกมาเป็นดอกไม้ในอินโดนีเซียที่ซึ่งเธอพบกับความรักอีกครั้ง หน้าปกที่ถูกออกแบบโดยใช้สัญลักษณ์ทั้งสามอย่างที่ตัวเอกได้พบเจอ มาเขียนเป็นตัวอักษรเลยดูมีทั้งชีวิตชีวาและน่ารักเหมาะกับหนังสือ ว่าไหม? 



    Spring, Heat, Rains by David Shulman


    ปกหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ Isaac Tobin การออกแบบปกที่มีร่มหลายๆแบบ หลายๆ สี  และมีชื่อหนังสือพร้อมเจ้าของผลงานวางอยู่ในศูนย์กลางทรงแปดเหลี่ยมที่เหมือนกับทรงของร่มสีเหลืองสดตัดกับสีของร่มคันอื่นๆ ให้ความรู้สึกสวยงามแปลกตามินิมอร์ชอบการใช้ลวดลายและสีสันบนร่ม ที่ชวนให้คิดถึงอินเดีย นอกจากนี้ยังทำให้รู้ถึงความรู้สึกร่าเริงจนต้องยิ้มตามเลยทีเดียวเลยล่ะ 



    The Horizontal World by Debra Marquart


    Kathleen DiGrado ตั้งใจออกแบบหน้าปกหนังสือเล่มนี้ออกมาเ็นแนวนอน ต่างจากหนังสือทั่วไปที่มักจะออกแบบปกหนังสือให้เป็นแนวตั้ง ถ้าคุณรู้จักหนังสือเล่มนี้ จะรู้เลยล่ะว่านี้เป็นปกที่เจ๋งมาก และซ่อนเนื้อหาไว้ได้อย่างแนบเนียน มันตลกดีนะ ถ้าจะเห้นว่าผู้คนเอียงศีรษะตามเพื่อดูว่าหน้าปกเป็นรูปอะไร มินิมอร์ว่า หน้าปกแบบนี้ เข้ากันดีกับแนวนอนมากกว่าเเนวตั้ง เพราะมันมีพื้นที่ให้ใส่ลูกเล่นมากกว่ายังไงล่ะ



    Pisa, Paris and London Books by Penguin Books


    หนังสือจากสำนักพิมพ์ Penguin books เป็นที่รู้กันว่ามีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร นี่เป็นหนึ่งในชุดหนังสือที่มีหน้าปกน่ารัก และมินิมอร์คิดว่ามันเก๋มากๆ เลยทีเดียวล่ะ เพราะชื่อหนังสือที่เป็นชื่อสถานที่นั้นเล่นกับตัวอักษรบนหน้าปกยังไม่พอ ัยงใส่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นที่นั้นๆ ลงไปด้วย อย่างตัว 'I' ใน Pisa มีรูปร่างเหมือนหอเอนอันโด่งดัง , ปารีสมี 'A' เป็นรูปหอไอเฟลในขณะที่ลอนดอนมี 'o' ซึ่งก็กลายมาเป็นล้อของรถบัสสองชั้นประจำทางลอนดอน น่ารักขนาดนี้ ต้องนับถือไอเดียคนออกแบบจริงๆ นะเนี่ย 



    The Great Gatsby by F. Scott Fitzgerald


    ถึงแม้ว่านี่จะเป็นปกหนังสือเก่า แต่ถ้าลองสังเกตุดูสักนิดนึง จะเห็นว่าคนออกแบบใส่ลูกเล่นเอาไว้ มองเห็นหรือยัง? อะ มินิมอร์จะบอกให้ ก็ตรงตัวอักษรตัว Y  ใช้เป็นแก้วแชมเปญของสุภาพบุรุษที่กำลังนั่งไขว้ห้างอยู่บนหน้าปกยังไงล่ะ! หนังสือเล่มนี้ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตในช่วงความมั่งคั่ง รุ่งโรจน์ และความมีชื่อเสียงของยุควัตถุนิยม และแก้วแชมเปญก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการฉลองในชนชั้นสูง เห้นไหมว่า เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็กลายมาเป็นที่มาของไอเดียได้ทั้งนั้น



    The Psychopath Test by Jon Ronson


    ปกหนังสือเล่มนี้ก็เหมือนตัวตนของดร. Jeckyll และ Mr. Hyde ในเนื้อเรื่อง มันถูกออกแบบให้แบ่งเป็นสองส่วนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือด้านซ้ายที่เป็นภาพขาวดำ และภาพกระต่ายที่น่ารักอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านขวามีสีสันแสบจี๊ดเข้าห้ำหั่นกับเสื่อดาวที่กำลังขู่คำราม ดูรวมๆ แล้ว เหมือนเสือดาวกำลังล่าเหยื่อ แต่ใครจะรู้ จนกว่าจะได้อ่านงานข้างใน ซึ่งมินิมอร์ยอมรับเลยว่า คนออกแบบหน้าปกหนังสือเล่มนี้ สามารถทำให้ความแตกต่าง เข้ามาอยู่ร่วมเฟรมกันได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ได้ดูแปลกแยกออกจากกันแถมยังดูมีเรื่องราวอีกด้วยล่ะ 



    Things I Learned from the Women who Dumped Me by Ben Karlin

    ปกหนังสือเกี่ยวกับ 'ความรู้สึกที่ถูกชำแหละ '  โดยการออกแบบให้เห็นชิ้นส่วนของหัวใจ เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาของหนังสือที่ว่ากันว่า ความเสียใจที่เกิดขึ้นในทุกครั้งเป็นบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้ ซึ่งสิ่งที่ช่วยตอกย้ำก็คือ การออกแบบหน้าปกให้เหมือนหนังสือเรียนวิทยาศาตร์ ไม่ว่าจะโทนสีบนปก หรือแม้แต่แบบตัวอักษรที่ใช้ โดยหนังสือเล่มนี้ รวมบทความคนถูกทิ้งจากผู้หญิงมาจากหลายที่เอาไว้ให้อ่านกันจ้ะ 


    เห็นแล้วทึ่งเลยเนอะ ที่คนออกแบบ สามารถทำให้ตัวอักษรในเนื้อเรื่องกลายมาเป็นภาพที่อธิบายทุกอย่างได้ในหน้าเดียว ยังมีอีกหลายตัวอย่างนะ ตามไปดูได้ที่ 1stwebdesigner เลย 

    เห็นแล้วใช่มั้ยว่า กว่าจะมาเป็นหนังสือดีๆ สักเล่มนอกจากเนื้อเรื่องจะดีแล้ว ปกหนังสือก็มีเรื่องราวซ่อนเอาไว้ด้วยนะ เพื่อนๆ ที่มีงานเขียนของตัวเอง ลองออกแบบปกหนังสือกันดูบ้างไหม? ลองทำแล้วส่งมาให้มินิมอร์ดูบ้างนะ รอชมและพร้อมเชียร์จ้า :>



    เขียนโดย Minimore Trainnee : Little Swan
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in