เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Another Side | อีกด้านหนึ่งSaruta Nunsang
Another side | EP.2
  • [Another Side]...[2]

    [life]

     

     

     

    [ ลมหายใจ  เสียงเต้นของหัวใจอุณหภูมิของร่างกาย คือสิ่งบ่งบอกถึง การมีชีวิต ]

    [ แต่บางครั้งถึงมี....ก็ไม่ใช่ว่านั่นคือ การมีชีวิต ]

     

     

     

    _____________________________________

     

     

     

    [คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกใช้ชีวิตได้]

    ประโยคปลุกกำลังใจให้ไฟในการมีชีวิตลุกโชนขึ้นอีกครั้ง...

     

    [แล้วถ้าเกิด....แม้แต่ชีวิตยังเลือกใช้เองไม่ได้ล่ะ]

     

    จะเป็นยังไง?

    ...

    ..

    .

    "แกจะนั่งมองเท้าตัวเองอีกนานไหมฟังที่ฉันพูดอยู่รึเปล่าไอ้ทอม!"เสียงแหลมเอ่ยลั่นเรียกให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งสุดตัวทอมเงยหน้าขึ้นมองมาดามใหญ่ของร้านก่อนจะขานรับทั้งๆที่ประโยคก่อนหน้านี้แถบไม่อยู่ในหัวเขาเลย

     

     

     

    "ฮะมาดาม....ผมฟังอยู่"

     

     

     

    "ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยตอนขึ้นไปบนเวทีก็ยิ้มให้ลูกค้า ทำท่าทางให้มันยั่วยวนน่าสนใจให้นายท่านเขาอยากได้อยากซื้อแก"

     

     

     

    ...ยั่วยวน?

    ไอ้ท่าทางแบบนั้นเขาทำเป็นที่ไหน...

     

     

     

    ...ทอมสถบในใจกับคำสั่งของมาดามใหญ่ตากลมมองภาพตัวเองที่สะท้อนกับกระจกในห้องพักสินค้าของร้าน บนร่างกายที่ปกติมักจะสวมใส่แค่เสื้อพนักงานสีมอราคาถูกแต่ตอนนี้กลับถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อกักแขนกุดสีดำมันวาวขับผิวขาวเนียนให้เด่นสะดุดตาคอเสื้อแหวกกว้างจนถึงหน้าท้องเผยกล้ามเนื้อพองามที่อาจไม่สมชายชาตรีแต่ก็ไม่ได้ผอมแห้งประกอบกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกันโชว์เรียวขาที่เคยซุกซ่อนอยู่ใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่า 

     

     

    ...เครื่องหน้าถูกตกแต่งเพียงเล็กน้อยให้เป็นที่พึงใจของเหล่าลูกค้าที่คงไม่ชอบสินค้าหน้าตาซีดเซียวไร้สีสันสภาพที่ไม่ต่างจากตุ๊กตาในตู้กระจกที่รอเจ้าของคนใหม่มาจับจอง....ต่างกันที่ตุ๊กตาตัวนี้หายใจได้

     

     

     

    "แล้วก็ร้องเพลงให้มันดีๆแกเข้าใจใช่ไหมเอาแบบที่ฉันได้ยินแกร้องวันนั้น....และมันต้องออกมาดี"เสียงแหลมของมาดามใหญ่กล่าวย้ำอีกครั้งกับสินค้าดาวเด่นของวันนิ้วมือที่ประดับด้วยแหวนทองชี้ตรงไปยังเปียโนตัวงามที่เขานั่งอยู่เพื่อให้เตรียมพร้อมสำหรับโชว์ทอมเม้มริมฝีปากอย่างเจ็บใจ มือเรียวนึกอยากจะคว้ามืดสักเล่มมาปาดเส้นเสียงตัวเองทิ้ง.....เส้นเสียงสวรรค์

     

     

     

    ....เส้นเสียงสวรรค์พี่ๆที่เขารักเรียกมันแบบนั้น 

     

    ....ตั้งแต่วันที่เขาเริ่มรู้จักเสียงเพลงและท่วงทำนองเสียงหวานกังวานก็เริ่มแสดงความสามารถของมันจนพี่ๆบางคนถึงกลับบอกว่าเขาเป็นลูกหลานของ [นางเงือก] มนุษย์สายเลือดพิเศษที่จะมีเสียงไพเราะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปทั้งๆที่เขาไม่ใช่....เพราะถ้าใช่เขาคงไม่รอดอยู่ในร้านได้นานขนาดนี้

     

     

    ....ถึงเขาจะไม่ใช่สายเลือดพิเศษที่คนในโลกมืดต่างใฝ่หาแต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ได้ย่ำแย่ค่อนไปทางดีด้วยซ้ำจนมีแขกไม่น้อยที่ถูกตาต้องใจเขาจนถึงขั้นวางธนบัตรเป็นปึกเพื่อให้เขายอมปรนเปรอกามอารมณ์และถ้าหากมาดามใหญ่รู้ถึงเสียงร้องนี้คงไม่พ้นถูกจับประมูลทาสให้สมใจนายท่านทั้งหลายที่หมายตาร่างนี้ไว้เขาจึงเก็บซ่อนเอาไว้มานานแรมปี...แต่เพราะคนเคยพูดว่าความลับไม่มีในโลกทำให้เขาต้องมานั่งตรงนี้ในเวลานี้ทั้งหมดมันเพราะความสะเพร่าของเขาถึงทำให้พี่ๆต้องมาทรมานใจแบบนี้

     

     


     

    ...แค่เพราะวันนั้นที่เขาตั้งใจจะเล่นเปียโนและร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้พี่แคร์ให้คนที่เขาเห็นเป็นทั้งมารดาและพี่สาวแสนรัก...

     

    แต่รอยยิ้มที่เขาหวังจะเห็นกลับกลายเป็นน้ำตาสายน้อยจากดวงตาของผู้หญิงที่เขารักที่สุดแทน

     

     



     

    "ใกล้ถึงเวลาแล้วรีบไปจัดการตัวเองและถ้าแกคิดทำอะไรไม่เข้าเรื่อง....คงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขี้น"

     

     

     

    "ผมเข้าใจแล้วฮะมาดาม....มาดามเองก็อย่าลืมสัญญานะฮะ"....สัญญาที่ทำให้เขายอมอยู่ตรงนี้

     

     


     


    [ถ้าแกยอมเป็นสินค้าไฮไลท์.....ฉันจะซื้อยาให้นังแคร์มันเอง]

     

    เพื่อพี่แคร์.....ท่องไว้ทอม

     

     


     

    "แกกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ!?"ร่างท้วมขึ้นเสียงอีกครั้งอย่างไม่พึงใจก่อนสงครามน้ำลายของผู้ค้ากับสินค้าจะถูกหยุดลงด้วยเสียงของผู้มาใหม่บอดี้การ์ดที่พึ่งเผชิญกับตัวอันตรายวิ่งตรงมาทางเจ้านายอย่างร้อนรนเพราะเสียงเย็นนั้นยังดังก้องอยู่ในหัว

     

     

     

    "มาดามครับ!!

     

     

     

    "ม..มีคนจากองค์กร Black Hole มาเข้าร่วมการประมูลครับ!"

     

     

     

    "Black Hole...."ทอมพึมพำเบาๆกับชื่อที่แสนคุ้นหูผิดกับมาดามใหญ่ที่ขมวดคิ้วจนหัวคิ้วแทบจะรวมร่างกันกับคำพูดของลูกน้อง

     

     

     

    "ห๊ะ!?แกว่าไงนะ...ตาฝาดแล้วพวกแก รู้ๆกันอยู่ว่าบอสของ Black Hole เกลียดคำว่า[ทาส]ไม่มีทางให้คนมาซื้อทาสแน่ๆ"

     

     

     

    "ไม่มีทางตาฝาดแน่นอนครับ!...พ..เพราะคนที่มาเข้าร่วม....."บอดี้การ์ดหนุ่มขึ้นเสียงเล็กน้อยกับคำพูดของเจ้านายแววตาใต้แว่นดำยังคงจดจำรายละเอียดและความรู้สึกเย็นวาบจากสิ่งที่เขาเห็นได้อย่างแม่นยำก่อนเสียงนั้นจะเอ่ยชื่อเรียกขานที่ใครบางคนรอจะได้ยินมาตลอด....

     

     

     

    "คือนายท่านอีกาดำ...นายท่านหมูป่า"

     

     

     

    "ค....คนระดับสูงขนาดนั้นมาถึงที่นี้เตรียมการต้อนรับเดี๋ยวนี้เลยพวกแก!!"ร่างท้วมใหญ่กุลีกุจอออกจากห้องไปทันทีเมื่อรู้ว่าใครมาเยือนเสียงแหลมเอ่ยสั่งบรรดาลูกน้องชายหญิงให้รีบต้อนรับแขกระดับ VIP อย่างรีบร้อน ทิ้งให้สินค้าไฮไลท์ของงานนั่งจมอยู่กับเสียงของบอดี้การ์ดเมื่อครู่ 

     

     

     

    "คุณอีกา..."เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาอย่างไม่เชื่อหูมือเล็กกำจี้รูปอีกาดำแน่นพร้อมด้วยเสียงหัวใจที่เต้นถี่เร็วจนแทบทะลุจากอกก่อนนิ้วเรียวจะกดลงบนแป้นเปียโนอย่างเนิบช้าพร้อมกับคำถามที่ดังก้องอยู่ในหัว...

     

     

     

    ...คุณมาช่วยผมใช่ไหมฮะ?....

     


     

    ...

     


     

    [เสียงหนึ่งแว่วผ่านตามสายลม...ราวจะกระซิบข้างหู]

     

     

    "เสียง..."

     

     

     

    "มีอะไรเหรอเฮีย?"

     

     

     

    "แค่ได้ยินเสียงเปียโน"

     

     

     

    "ก็คงเป็นเพลงบรรเลงประกอบการประมูลล่ะ....สุนทรีย์กับความทุกข์ของคนอื่นจริงนะไอ้พวกนี้"หมูป่าเบ้ปากกับบรรยากาศที่ชวนหงุดหงิดใจ

     

     

    ...บรรยากาศภายในหอเพลินพิไลเป็นไปตามคาดเสียงพูดคุยของบรรดานายหญิงที่เอ่ยโอ้อวดอำนาจเงินของตัวเองพรางโชว์เครื่องประดับนานากะรัตที่ประดับประดาบนเรือนร่างอย่างสนุกปากเคล้าคลอไปกับกลิ่นแอลกอฮอล์ชั้นดีจากบรรดานายท่านที่ดื่มด่ำความสำราญข้างเคียงกายด้วยสตรีผู้ทำหน้าที่รับรองแขกคอยรินเครื่องดื่มใส่แก้วทรงสูงอย่างเอาอกเอาใจบรรยากาศเดิมๆที่พบเห็นได้ทุกที่ที่ขึ้นชื่อว่า[งานประมูลทาส]....งานเลี้ยงที่เต้นรำอย่างเบิกบานอยู่บนความทุกข์ทรมานของผู้ต่ำกว่า

     

     

    ....อีกาดำมองงานรื่นเริงตรงหน้าด้วยความรู้สึกเฉยชา นัยน์ตาคมมองผ่านห้องกระจกโซน VIP ของร้านห้องส่วนตัวที่เป็นกระจกใสล้อมรอบทิศม่านสีครีมนวลปิดรอบทั้งสามด้านของห้องกระจกเหลือไว้เพียงด้านหน้าที่ตรงกับเวทีประมูลเพื่อกั้นการรบกวนจากบุคคลอื่นภายในประดับประดาอย่างวิจิตรเหมาะสมกับคำเรียกขาน เก้าอี้บุหนังเกรดเอสองตัวบ่งบอกจำนวนผู้เข้าใช้ที่มีน้อยนิดตามราคาค่าห้องที่แพงหูฉี่โต๊ะตัวเล็กข้างเก้าอี้หนังเป็นที่วางของจำเป็นสำหรับการประมูลหนึ่งคือป้ายหมายเลข 39 ที่แทนการบอกตัวตนและสองคือไมค์พกพาสำหรับการต่อราคา อุปกรณ์เดิมๆที่เขารู้จักมันดีโดยไม่ต้องการคำแนะนำวิธีใช้จากใคร....เพราะทุกอย่างมันฝังอยู่ในความทรงจำทุกตารางนิ้ว

     

     

     

    "..........."

     

     

     

    "มาดามใหญ่..."เสียงเปิดประตูห้องกระจกVIP ดังแผ่วเบาเรียกความสนใจจากทั้งสองหน้ากากและหนึ่งสาวบริการให้หันไปมองตามภาพหญิงร่างท้วมในชุดราตรีคือสิ่งแรกที่ปรากฏในคลองสายตา และวินาทีถัดมาคือกลิ่นอายของความละโมบที่ซ่อนไว้ใต้รอยยิ้มสีแดงชาด...ความอยากในเงินตราที่ไม่สิ้นสุด

     

     

     

    "ยินดีต้อนรับท่านทั้งสองนายท่านอีกาดำ นายท่านหมูป่า ฉัน [มาดามพี] เป็นผู้ดูแลใหญ่ของที่นี่...และขอโทษสำหรับความสะเพร่าของทางเราที่ปล่อยให้สาวขายบริการมายุ่งหยามกับท่านฉันเตรียมคนรับรองคนใหม่ให้ท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ"มาดามใหญ่กล่าวพร้อมรอยยิ้มการค้าที่แสนเป็นมิตรก่อนสลัดหน้ากากเปื้อนยิ้มทิ้งแล้วหันมาส่งแววตาคาดโทษให้กับแคร์ที่กล้าขัดคำสั่งมือหนายกขึ้นเป็นสัญญาณให้พวกบอดี้การ์ดรีบเข้าไปพาตัวสาวขายบริการชั้นต่ำให้ออกห่างจากลูกค้าชนชั้นสูง

     

     

     

    "เห~ไม่เอาล่ะ! ฉันอยากให้แคร์คอยดูแลมากกว่า เพราะแคร์คุยสนุก ใช่ไหมเฮีย?"หมูป่าเอ่ยเสียงใสพรางคลองแขนกับท่อนแขนบางของแคร์อย่างหวงแหนก่อนจะหันไปขอความคิดเห็นจากบุรุษใต้หน้ากากอีกาดำที่เปรยตามองคนรับรองที่มาดามของร้านบอก...

     

     

     

    ...หญิงสาวในชุดราตรีรัดรูปโชว์สัดส่วนไร้ส่วนเกินประดับประดาเรือนกายด้วยเครื่องเพชรนิลจินดาราคาแพงเครื่องหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมชั้นดี รอยยิ้มเคลือบลิปสติกสีชมพูกุหลาบแย้มยิ้มสวยส่งให้กับแขกชั้นสูง...คนรับรองที่เรียกให้เสียงแหบสถบเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบคำถามจากรองเสนาธิการข้างกาย...

     

     

     

     

    "ฉันไม่ชอบพวกจอมปลอม"

     

     

     

     

    "ด...ได้ตามที่ท่านต้องการเลยค่ะนายท่านอีกาดำนายหมูป่า..."คำตอบที่เรียกริ้วแดงบนใบหน้าผู้รับรองสาวให้เด่นชัดยิ่งกว่าเครื่องสำอางที่พวกหล่อนประโคมทาด้านมาดามใหญ่ที่ได้ยินคำตอบก็สนองความต้องการของแขกทั้งสองอย่างดีก่อนจะหันมากำชับกับคนร่างเล็กที่นั่งพับเพียบอยู่ด้านข้างหมูป่า

     

     

     

     

    "แคร์ดูแลนายท่านให้ดี อย่าให้เสียงาน แล้วก็...อย่าคิดจะช่วยไอ้เด็กชั้นต่ำนั่นเข้าใจใช่ไหม?"

     

     

     

     

    ...สิ้นเสียงของมาดามใหญ่แห่งเพลินพิไลเส้นบางอย่างที่เคยถูกขีดไว้โดนลบทิ้งในพลันเสียงในใจร้องบอกว่าความอดทนที่อยู่ในอกถึงเวลาสิ้นสุดแล้วร่างบอบบางของแคร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงขาเรียวใต้ชุดกระโปรงยาวพาเจ้าของร่างไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหญิงผู้เป็นนาย

     

     

     

     

    "ไอ้เด็กชั้นต่ำ?.....มาดามใหญ่เรียกทอมแบบนี้เสมอเลยนะคะ"รอยยิ้มอ่อนหวานแย้มยิ้มสวยส่งให้กับมาดามใหญ่ที่ทำได้แค่นิ่งเงียบเพราะความรู้สึกบางอย่างตระโกนบอกเธอว่า....คนตรงหน้าไม่ใช่แคร์ที่เธอรู้จัก?

     

     

     

     

    "ฉันไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรน้องหรอกค่ะ....เพราะคนเรามีที่ของตัวเองที่ควรอยู่อยู่แล้ว"

     

     

     

     

     

     

    ".........."

     

     

     

     

    "และมันถึงเวลาแล้วที่เทวดาอย่างน้อง.....จะได้กลับไปอยู่ในที่ชั้นสูง ไม่ใช่อยู่กับเดรัจฉานที่เอาแต่กลืนเศษเงินเป็นอาหาร"เรียวปากเอื้อนเอ่ยวาจาเสียดแทงด้วยท่าทีเฉยชาเน้นย้ำคำว่า [เดรัจฉาน] อย่างชัดถ้อยชัดคำต่อหน้าผู้หญิงที่เธอแสนเกลียดชังนัยน์ตาสีเข้มอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งจนน่าผวาท่วงท่าไร้การนอบน้อมอย่างเคยมีเพียงความทะนงตนราวนางพญาผู้สูงศักดิ์มอบให้กับไพร่ร่างท้วม

     

     

     

    "นังแคร์!!...."

     

     

     

     

    "ฉันว่าคุณควรออกไปได้แล้วนะมาดาม...นายท่านอีกดำน่ะเขาค่อนข้างรักความสงบนะ"หมูป่าทำท่าจุปากใส่คนที่เริ่มอาละวาดกับคำพูดของแคร์มือเรียวชี้ไปที่คนข้างกายที่เริ่มจะมีน้ำโหเล็กๆจากเสียงแหลมที่ดังรบกวนเกินไป...แค่เสียงเธอก็ดังจนเฮียปวดหัวแล้วอย่าให้ปวดหนักกว่าเดิมจะดีกว่า

     

     

     

     

    ".........."ความเงียบที่ซัดสาดความเยือกเย็นแสนอึดอัดเป็นเครื่องยืนยันในคำพูดของหมูป่าเป็นอย่างดี

     

     

     

     

    "เข้าใจแล้วค่ะ....ขอให้ท่านเพลิดเพลินกับกระประมูลนายท่าน"เสียงกัดฟันกรอดๆอย่างแค้นใจที่ทาสสาวหาญกล้าพูดจาดูแคลนตนทุกอารมณ์เดือดดาลถูกซ่อนไว้ใต้ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างแนบเนียน ร่างนั้นโค้งตัวก่อนจะก้าวเดินออกไปจากจุดเดิม...เพราะหากยังอยู่นานกว่านี้ใบหน้าที่แสนถือดีของนังแคร์มันจะได้มีรอยมือของเธอประทับอยู่แน่ๆ!

     

     

     

     

    ...ร่างของมาดามใหญ่หายลับไปคืนความสงบให้กับโซนวีไอพีที่ควรเป็นส่วนตัวให้สมชื่อหมูป่าหันไปทางแคร์ที่ยืนเอามือกุมอกพร้อมกับหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อสงบจิตใจให้กลับมามั่นคงเหมือนเดิมอย่างชอบอกชอบใจ

     

     

     

     

    "ฮิ~ร้ายใช่เล่นเลยนิ แคร์~...เล่นซะควันออกจมูกเลย ฮ่าๆๆ"

     

     

     

     

    "ฉันอยากพูดแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะติดตรงที่น้องเองก็ยังอยู่ที่นี่....รู้สึกโล่งอกแล้วล่ะค่ะ ที่ได้พูด"

     

     

     

     

    "การประมูลกินเวลาค่อนข้างนานฉันจะเตรียมเครื่องดื่มให้นะคะ รับเป็นอะไรดีคะนายท่าน"ทันทีที่ปรับอารมณ์ได้ร่างผอมบางก็เดินไปหยิบเมนูเครื่องดื่มให้นายท่านทั้งสองก่อนจะยื่นให้พรางรอรับรายการและแน่นอนเสียงที่ดังขึ้นก่อนคงหนีไปพ้น

     

     

     

     

    "ฉันอยากกิ...."

     

     

     

     

    "นั่งไปเงียบๆหมูป่า....แค่ชา"

     

     

     

     

    "........."

     

     

     

     

    "รับเป็นชานะคะกรุณารอสักครู่ค่ะ"แคร์ส่งยิ้มบางให้หมูป่าเป็นเชิงปลอบใจเจ้าตัวที่ทำได้แค่นั่งหน้าบูดอยู่ใต้หน้ากากอีกตามเคยก่อนร่างน้อยจะรีบลุกไปเตรียมเครื่องดื่มให้นายท่านทั้งสอง

     

     

     

     

    "เฮียนะเฮีย!คอยดูฉันจะฟ้องนายแม่...."น้ำเสียงงอนๆถูกส่งให้อีกคนตามเคยในหัวนึกแผนการแก้แค้นที่มีแต่ผู้มีอำนาจสูงสุดเท่านั้นที่ติเตียนพญานกปีศาจคนนี้ได้ก่อนสมองจะประมวลผลบางอย่างได้ว่าลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท

     

     

     

     

    "อ้อ!จริงด้วยสิ!...เฮียบอกนายแม่รึยังน่ะ เรื่องที่มาที่นี้? เราต้องขอท่านก่อนนะ"

     

     

     

     

    "ติดต่อไปแล้ว....ถึงไม่รายงานก็คงรู้อยู่แล้ว"อีกาดำหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อถึงนึกบทสนทนาที่ควรจะเรียกว่าการรับฟังอย่างเดียวดีกว่าเพราะเขาแทบไม่ได้พูดรายงานอะไรเลยด้วยซ้ำ 

     

     

    .....

     

     

    ...ร่างสีทมิฬหลบซ่อนกายให้มุมมืดของซอกตึกบดบังจากทุกสรรพสิ่งตาคมลอบมองบรรยากาศรอบทิศทางเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนมือหนากดเบอร์ติดต่อลับเฉพาะสำหรับเหล่าสมาชิกBlack Hole สายพิเศษที่ต่อตรงถึง.....บอสใหญ่[องค์จักรพรรดินีสีขาว]

     


    [สวัสดีครับนายแม่ ตอนนี้....]


     

    [เราจะเตรียมการต้อนรับไว้รอสมาชิกใหม่นะจ๊ะ]


     

    [........]


     

    [เรารู้ว่าอีกาคงจะเตรียมคำพูดทางการไว้ให้เราฟังเป็นเรียงความอีกตามเคยแน่ๆใช่ไหมจ๊ะ สบายใจเถอะ เราเชื่อการตัดสินของเธอนะ]

     

     

    [ เราอนุญาตให้ร่วมการประมูลจ๊ะระวังตัวกันด้วยนะ อีกา หมูป่า]

     

    [........]


     

    [อ่อ!แล้วก็อย่าทำให้น้องน้อยกลัวล่ะ เธอยิ่งชอบทำหน้าดุอยู่นะ อีกา]


     

    [แล้วเจอกันที่บ้านนะจ๊ะ]


     

    [ครับนายแม่... สวัสดีครับ]

     

     

     

    ....เสียงแหบเอ่ยคำลาก่อนจะกดวางสายจ้องมองเครื่องมือสื่อสารอยู่นานสองนานเพราะไม่คาดคิดว่าคำพูดรายงานที่เขาคิดไว้ในหัวอย่างที่บอสล้อเลียนจะจบลงด้วยบทสนทนาสั้นๆที่เขาพูดอยู่แค่สามประโยค 

     

     

    ...บางทีเขาก็นึกกลัวบอสของตัวเองขึ้นมาจริงๆ

     

     

    .....

     

     

    "สมเป็นนายแม่จริงๆฮ่าๆๆๆ.....ฉันบอกแล้ว เฮียน่ะ จริงจังเกินไปพูดอะไรง่ายๆไม่ต้องทางการมากก็ได้"หมูป่าหลุดขำกับบทสนทนาของคนข้างตัวกับบอสใหญ่ตบมือชอบใจกับคำล้อเลียน...แน่ล่ะ! ก็ทุกครั้งที่รายงานความคืบหน้าของงาน คุณท่านอีกาดำก็แทบจะยกบรรดาศัพท์วิชาการทั้งหลายทั้งแหล่ในโลกมาให้ผู้เป็นนายอมยิ้มขำๆกับความจริงจังเกินเหตุ....ส่วนเธอน่ะเหรอ!ก็ทำได้แค่นั่งหลับรอให้เฮียพูดจบนั่นแหละ!

     

     

     

    "จะว่าไป....ฉันสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายในห้องประชุมตอนที่นายแม่บอกทุกคนว่าเฮียจะซื้อทาสได้เลยล่ะ ฮ่าๆ"

     

     

     

     

    "เฮ่อ...."

     

     

     

     

    "กลับไปคงมีเรื่องเล่ายาวเลยนะเฮีย"คนเสียงใสกล่าวอย่างร่าเริงเมื่อคิดถึงอาการตกใจของแต่ละคนในองค์กรในหัวนึกภาพตอนที่พวกเธอกลับถึงองค์กรพร้อมด้วยสมาชิกใหม่สิ่งที่ได้รับจากการต้อนรับกลับ...อย่างแรกคงเป็นรอยยิ้มอ่อนหวานจากบอสใหญ่เช่นเคยและอย่างที่สองก็คือสรรพัดคำถามจากเหล่าสมาชิกตัวท๊อปเป็นแน่

     

     

     

     

    "หึ....พวกนั้นอยากรู้น้อยซะเมื่อไรวุ่นวายกันจริงๆ"อีกาดำเค้นหัวเราะในลำคอเบาๆ กล่าวถึงกลุ่มคนที่ป่านนี้คงนินทาเขากันให้ควักคำว่า [ความวุ่นวาย] คงเป็นคำนิยามที่เหมาะสมที่สุดร่างสูงคิดในใจอย่างปลงตกก่อนจะหันไปทางประตูที่ร่างเล็กของแคร์กลับมาพร้อมเครื่องดื่มเลิศรส 

     

     

     

     

    "นายท่านค่ะงานประมูลจะเริ่มแล้วนะคะ....เครื่องดื่มที่สั่งไว้ค่ะ"แคร์เอ่ยบอกเวลาของงานที่กำลังจะเริ่มในไม่กี่อึดใจมือเล็กรินชาให้กับนายทั้งสองพรางฝ่ายมือไปทางด้านเวทีประมูลที่แสงไฟสว่างขึ้นตามเวลาที่กำหนด

     

     

    ...

     

     

    ...เสียงทุ้มของพิธีกรหนุ่มกล่าวทักทายคือสัญญาณบอกว่าการประมูลสินค้าของหอเพลินพิไลได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบุรุษใต้หน้ากากถอนหายใจแผ่วเบาเพื่อสงบจิตใจให้มั่นคงรอเวลาที่ชีวิตตัวน้อยจะออกมา....แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนที่เกลียดคำว่า[ทาส] เข้ากระดูกดำแต่ต้องมานั่งมองสิ่งนั้นในระยะประชิด 

     

     

     

    ...กระประมูลดำเนินไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของอีกาดำชีวิตน้อยๆถูกใส่โซ่ตรวนยืนนิ่งกลางเวลาเวทีคนแล้วคนเล่าผ่านดวงตาคู่คมนี้ไปนับสิบชีวิตเสียงผู้คนโต้เถียงราคากันอย่างสนุกปากหลักมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆผสมผสานกับเสียงหัวเราะอย่างเริงอารมณ์แต่กลับไม่มีใครคิดจะสนใจเสียงกรีดร้องของหนึ่งชีวิตที่เรียกร้องอย่างเว้าวอน 

     

     

    ...ความรู้สึกชวนอาเจียนตีตื้นขึ้นมาจุกในลำคออากาศรอบข้างคล้ายขาดหายไปชั่วขณะลมหายใจติดขัดผสานกับอาการเกร็งของร่างกาย...เมื่อบรรยากาศเดิมย้อนกลับมาสู่ห้วงความรู้สึกสถานที่เสมือนอดีตต่างที่ห้วงเวลาดึงให้ความทรงจำที่อยากลบมันออกไปมากที่สุดผุดขึ้นมาในหัวราวเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังกระซิบข้างหู...

     


     

    "แง!...พี่จ้า!..."


     

    "น...หนูอยากกลับบ้าน....แง!..."


     

    "ไม่ต้องกลัวนะ!เราจะกลับบ้านกันพวกเราต้องไม่เป็....อ๊าก!!!!!"เสียงกรีดร้องด้วยเจ็บปวดยังฝังรากลึกในทั่วทุกอณูนิ้วมือหยาบจิกลงบนพื้นคอนกรีตเพื่อระบายความทุกข์ทรมานที่เกาะกุมหัวใจเสียงนั้นเอ่ยขอร้องต่อทุกสิ่งบนโลกหวังให้มีใครสักคนมาพาพวกเขาออกไปจากขุมนรกนี้เสียที....พาพวกเขากลับบ้านที

    ....

    ...

    ..

    .

    "เฮีย!!"

     

     

    "!!?...."ร่างสูงสะดุ้งตัวโยน ห้วงความทรงจำสีมืดถูกเสียงแหลมกระชากออกไปอย่างรวดเร็วคืนภาพบรรยากาศการประมูลให้กลับสู่มโนทัศน์แต่อาการเกร็งกลับยังตรึงอยู่บนร่างแกร่งใต้ขนนกสีดำเสียงหอบหายใจแรงๆอย่างคนเพิ่งวิ่งออกกำลังกายดังฟึดฟัดก่อนจะค่อยๆสงบลงตามใจสั่งมือหน้ากำเข้าออกช้าๆก่อนจะหันไปยกถ้วยชาขึ้นจิบลดรสชาติคาวฝาดชวนคลื่นไส้ที่ค้างอยู่ในคอ

     

     

     

    "เป็นอะไรรึเปล่า....เฮียหายใจแรงมากเลยนะ"

     

     

     

    "เปล่า...ไม่มีอะไร"

     

     

     

    "เฮีย...."หมูป่ามองคนที่พยายามเก็กขรึมอย่างห่วงๆแต่ถ้าอีกฝ่ายเลือกจะนิ่งเธอก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ให้ลำบากใจก่อนเสียงใสของแคร์จะดึงความสนใจของทั้งสองไป...เสียงบอกว่าเวลาที่เฝ้ารอมาถึงแล้ว

     

     

     

    "นายท่านอีกาดำนายท่านหมูป่า ถึงเวลาแล้วค่ะ....โชว์ของสินค้าไฮไลต์จะเริ่มแล้วค่ะ"

     

     

     

    ....สิ้นเสียงของแคร์ดวงไฟภายในหอเพลินพิไลก็ค่อยๆหรี่แสงลงจนเหลือแค่แสงสว่างบนเวทีประมูลม่านสีแดงเลือดหมูเปิดออกอย่างเชื่องช้าก่อนสิ่งเบื้องหลังม่านจะปรากฏสู่สายตานับร้อยคู่ที่เฝ้ารออยู่แกรนด์เปียโนสีขาวสะอาดกับร่างเล็กของเด็กหนุ่มที่เดินออกมายืนด้านหน้าเครื่องดนตรีหลังใหญ่ดวงหน้าหวานแย้มยิ้มเศร้าพรางก้มโค้งให้กับบรรดาลูกค้าชายหญิงก่อนร่างน้อยๆจะเดินไปประจำที่บนเก้าอี้ทรงเตี้ยและเริ่มการแสดงไฮไลท์ของวัน....


     


    Some people live for the fortune

    Some people live just for the fame

    Some people live for the power....yeah

    Some people live just to play the game....


     

     

     

    ...ทันทีที่ปลายนิ้วเริ่มเริงระบำสร้างท่วงทำนองเสนาะหูริมฝีปากบางฮัมเพลงเบาๆก่อนจะเริ่มเปิดฉากให้เส้นเสียงสวรรค์ได้แสดงอำนาจของมัน....อำนาจที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งตกสู่ความเงียบราวกับเสียงหวานใสนั้นคือมนต์สะกดให้ผู้คนหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้นไม่เว้นแม้แต่บุรุษใต้หน้ากากอีกาดำ

     

     

     

    "........"ความรู้สึกคลื่นไส้เมื่อครู่โดนเสียงกังวานชะล้างจนหมดสิ้นแทนที่ด้วยความรู้สึกอุ่นวาบในใจ อีกาดำมองภาพคนตัวเล็กบนเวทีด้วยหลากความรู้สึกแต่ที่มั่นใจแน่คือมันคงเป็นภาพที่งดงามและบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นในโลกมืด...ถ้าหากที่ลำคอระหงส์กับข้อมือเล็กนั่นไม่มีปลอกคอและโซ่ตรวนเหล็กประดับอยู่

     

     

     

    Some people think that thephysical things

    Define what's within

    And I've been there before

    But that life's a bore

    So full of the superficial...

     

     

     

    ...เสียงเปียโนยังคงดำเนินไปตามปลายนิ้วเรียวที่กรีดกรายอย่างงดงาม เพลงคลาสสิกที่แสนคุ้นหูยังคงถูกเรียงร้อยด้วยเสียงใสกังวานไม่ขาดสายขับกล่อมให้จิตใจของเหล่าผู้ฟังเคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองที่แสนไพเราะ ดวงตาสุกใสของผู้เล่นตัวน้อยที่มีม่านหมอกแห่งความเศร้าบดบังมองตรงมายังโซนที่นั่งพิเศษของร้านคล้ายกำลังสื่อสารบางสิ่งความผิดปกติที่เรียกให้หมูป่าสัมผัสได้ว่าสายตาที่จับจ้องมาคือความตั้งใจไม่ใช่แค่บังเอิญ 

     

     

     

    "......."

     

     

    "เฮีย"

     

     

    "ไม่รู้ฉันคิดไปเองรึเปล่านะแต่...เหมือนน้องเขามองมาทางเฮียตลอดเลย"

     


     

    ...เหมือนกำลังบอกกล่าวว่าเพลงนี้มอบให้ใคร...

     

     

     


    Some people want it all

    But I don't want nothing at all

    If it ain't you baby

    If I ain't got [you] baby...

     

     

     


    ....เสียงหวานของผู้ขับขานเปล่งเสียงเน้นย้ำในบทเพลงท่อนสุดท้ายราวกำลังจะสื่อความหมายบางอย่าง ก่อนบทเพลงแสนไพเราะจะจบลงอย่างสวยงามพร้อมกับเสียงตบมือจากบรรดาลูกค้าที่ถูกอกถูกใจในสินค้าพิเศษของวันและเสียงแหบที่เอ่ยตอบความหมายที่ถูกเจ้าของเสียงซุกซ่อนไว้ในเพลง

     

     

     

    "รอมานานสินะ..."

     

     

     

    ....[เธอ] เองสินะ...ที่ร้องเรียกหา [ปีศาจ] อย่างฉัน...

     ...

    ..

    .

     


    ...และเมื่อเสียงเพลงจบลงนั่นคือระฆังตีบอกเวลาว่าการประมูลราคาสินค้าไฮไลท์ของงานได้เริ่มขึ้นแล้วพิธีกรหนุ่มกล่าวบรรยายลักษณะของสินค้าอย่างชำนาญเช่นทุกครั้งมือนับร้อยคู่ต่างกำรอบป้ายบอกเบอร์ของตนเองเพื่อเตรียมตัวประมูลเสียงสวรรค์นั่นมาไว้ในครอบครอง 

     


     

    "จบกันไปแล้วนะครับกับการแสดงคุณภาพสินค้าไฮไลท์ของเรา หวังว่าจะเป็นที่ถูกใจของทุกท่านนะครับ"

     

     

    "ทาสชายชั้นดีที่มาพร้อมเสียงร้องอันแสนไพเราะเหมาะแก่การสร้างความผ่อนคลายให้กับนายท่านนายหญิงหรือเป็นตัวช่วยปรนเปรอทั้งท่านหลายด้วยเรือนร่างยามต้องการเสพสุขและแน่นอนครับ.....สินค้านี้ยังบริสุทธิ์ครับ!"เสียงฮือฮาในสรรพคุณของสินค้ายังคงดังไม่ขาดสายคำว่า [บริสุทธิ์] เป็นเหมือนตัวจุดไฟราคะในอกให้โหมกระหน่ำแววตาหื่นกระหายในห้องประมูลมองสินค้าตัวน้อยด้วยสายตาโลมเลียวาดฝันในหัวถึงเสียงสวรรค์ที่กลายเป็น....เสียงครางกระสันหวานหู

     

     

    "เราขอเริ่มประมูลที่ 10,00......"

     

     


    ...ก่อนวิมานสีคาวเป็นอันต้องพังทลายเมื่อราคาเริ่มต้นจากพิธีกรถูกเสียงแหบเย็นของใครบางคนเอ่ยขัดและตามด้วยราคาประมูลที่เกินกว่าจะเป็นราคาแรกของการเริ่มต้นไปใกล้โข

     

     

     

     

    "หมายเลข39.........500,000,000 บาท"

     

     

     

     

    "!!??....."สิ้นเสียงราคาแรกที่ประกาศก้อง ป้ายหมายเลข 39 กลายเป็นจุดสนใจจากบรรดาลูกค้ารายอื่นในทันทีรวมทั้งเจ้าของราคาค่าตัวที่แทบหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อได้ยินจำนวนหลักเงินที่เกินจินตนาการ...

     

     

     

    "คุณอีกา...."

     

     

     

     

    "ห...ห้าร้อย..ล้าน...จากหมายเลข39...ม..มีท่านใดให้มากกว่านี้ไหมครับ!?"สติที่เพิ่งถูกดึงกลับมาของพิธีกรหนุ่มหลังจากช็อคกับราคาแรกของสินค้าเสียงสั่นกรอกใส่ไมโครโฟนเอ่ยย้ำจำนวนเงินและป้ายหมายของผู้ประมูลตามหน้าที่แต่ไม่ใช่แค่พิธีกรและลูกค้าคนอื่นที่ตกใจกับการออกตัวของหมายเลข 39 

     

     

     

    "หูย~เฮีย ออกตัวแรงไปรึเปล่าเนี่ย?"เสียงใสของหมูป่าเอ่ยถามพรางกระพริบตาปริบๆมองคนข้างตัวอย่างทึ่งๆไม่ต่างจากแคร์ที่นั่งสูดยาดมระงับอาการตกใจเธอรู้ว่าแค่นี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งเฮียกาคนขรึมร่วงได้หรอก....แต่ก็จะเปย์ไปนะ

     

     

     

     

    "ขี้เกียจมานั่งเถียงราคา"

     

     

     

     

    "ก็รู้ว่าเฮียไม่ชอบแต่ก็ไม่คิดว่าเฮียจะเอาตั้งแต่เริ่ม แต่ราคาแรงขนาดนี้คงไม่มีใครต่อแล้...."

     

     

     

     

    "หมายเลข17.....700,000,000 บาท..."

     

     

     

     

    "!!!???"เสียงฮือฮาดังอีกละลอกเมื่อราคาประมูลเริ่มต้นที่สูงเฉียดฟ้าโดนทลายด้วยจำนวนเงินที่สูงล้นฟ้าจากผู้ประมูลหมายเลข17 

     

     

     

     

    "จ...เจ็ดร้อยล้านครับ!..หมายเลข17.....มีท่านใดให้มากกว่านี้ไหมครับ!?"

     

     

     

     

    "บ้าน่า...ราคาสูงขนาดนี้....เบอร์17 แคร์ เธอมีบันทึกแขกรึเปล่า?"

     

     

     

     

    ....ป้ายหมายเลข17 ตั้งเด่นตระหง่านราวกับเป็นผู้ชนะในการประมูลด้วยราคาที่สูงลิบลิ่วแต่ผู้เป็นเจ้าของเสียงกลับซ่อนกายภายใต้เงามืด....เงามืดที่สามารถหลบซ่อนจากสายตาหลุมดำอย่างพวกเขาไปได้?

     

     

     

     

    "ฉันเป็นแค่พนักงานบริการไม่มีรายชื่อแขกหรอกค่ะ  มีแต่มาดามใหญ่กับพวกบอดี้การ์ดเท่านั้นที่มีนายท่านหมูป่า"แคร์เอ่ยตอบอย่างร้อนใจ ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก้าวพาร่างออกไปติดกำแพงใสที่กั้นระหว่างเธอกับน้องทอดมองร่างเล็กยืนนิ่งอยู่กลางเวทีด้วยความหวาดหวั่นเมื่อราคาที่แทบจะสูงสุดในประวัติศาสตร์การประมูลของเพลินพิไลจากนายท่านอีกาดำกลับถูกราคาที่แทบจะซื้อเพลินพิไลได้ทั้งหอมาทำลายทิ้งจนไม่เหลือซาก

     

     

     

     

    "ชิ......."คนใต้หน้ากากอีกาดำสถบอย่างหัวเสียตาคมยังคงจ้องมองหาตัวของหมายเลข 17 ที่กล้าสู้ราคาของเขาก่อนจะเบนสายตาไปทางเด็กหนุ่มตัวน้อยบนเวทีถึงจะอยู่ไกลแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาคือร่างเล็กที่สั่นเป็นลูกนกตกน้ำยิ่งทำให้อารมณ์ขุ่นมัวในคราแรกยิ่งโหมกระหน่ำ ขายาวดันตัวขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะพาเจ้าของร่างก้าวออกจากห้องกระจกตรงไปทางด้านหน้าเวที

     

     

     

     

    "อ้าว!เฮียจะไปไหนน่ะ??"

     

     

     

     

    "ไปรับคน"

     

     

     

    ....

     


     

    [มาแล้ว...]

     

     

    เปล่งเสียงหวานก้องกังวานด้วยแรงศรัทธาบรรจงร้อยเรียงความรู้สึกผ่านทางท่วงทำนอง....[ส่งให้กับเขาคนนั้น

     

     

     

    [เขามาแล้ว...]

     

     

     

    แววตาใต้กรอบแว่นเปล่งประกายด้วยความหวังเมื่อเสียงแหบชวนฟังกล่าวประมูลราคาที่สูงเทียมฟ้า...[ฟ้าสีทมิฬที่รอคอยมาเนิ่นนาน]

     

     

     

    [คุณอีกามาช่วยแล้วจริงๆด้วยฮะ....พี่แคร์]

    .....

    ...

    ..

    .

    แต่มันกลับพังทลายลงด้วยชั้นฟ้าที่สูงกว่า

     

     

     

    "700,000,000 บาท..."


    "!!!???"


    "จ...เจ็ดร้อยล้านครับ!...หมายเลข17 มีท่านใดให้มากกว่านี้ไหมครับ!?"


     

     

    ...ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่เสียงประมูลราคาเงียบหายไปเพราะในหัวของร่างเล็กตอนนี้มีแค่เสียงราคาประมูลที่ไม่ใช่ของเสียงแหบเสน่ห์ในคราแรกดังวนซ้ำไปมาร่างกายสั่นไปโดยอัตโนมัติเมื่อสมองประมวลผลอย่างฉับไวว่าคนที่จะได้ตัวเขาไปไม่ใช่คุณอีกาดำที่เฝ้ารอ

     

     

    ... ลมหายใจเริ่มติดขัดเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นบีบรัดลำคอหัวใจที่เคยเต้นรัวเมื่อได้ยินนามของอีกฝ่ายกลับแผ่วลงอุณหภูมิร่างกายเย็นเชียบราวกับ....ชีวิตที่เคยคิดว่าจะได้มันกลับมา หลุดลอยไปอีกครั้ง

     

     

     

    ...นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหลับลงพร้อมกับมือบางยกขึ้นกุมสร้อยคอตัวเองแน่นอย่างตั้งหวัง...เอ่ยเรียกชื่อนั้นซ้ำไปซ้ำมา

     

    คุณอีกาฮะ..

    .....

    ....

    ...

    ..

    .

     

    "นายท่าน!ขึ้นไปบนเวทีไม่ได้นะครับ......เฮือก!!!!"

     

     

     

    "ถอยไป"

     

     

     

    ...ก่อนความหวังนั้นจะถูกตอบรับด้วยเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินขึ้นมาบนเวทีประมูลและเสียงร้องห้ามของบอดี้การ์ดหนุ่มที่ดังแว่วมาพร้อมสัมผัสเบาๆบนศีรษะที่เรียกให้ดวงตากลมลืมขึ้นมองภาพแรกที่ปรากฏคือร่างของปักษาสีทมิฬที่บดบังแสงจากดวงไฟบนเวทีจนตัวของเขากลืนหายไปกับเงาของร่างตรงหน้า....เงาดำที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยยิ่งกว่าแสงสว่างใดในโลก

     

     

     

    "คุณ..."

     

     

     

    "ไม่เป็นไร...คลุมไว้"

     

     

     

    "ฮะ..."เสียงหวานทำได้แค่ขานรับนัยน์ตาสวยสบกับดวงตาใต้หน้ากากเนิ่นนานในความรู้สึกจนสัมผัสหนักๆบริเวณไหล่ทั้งสองที่ช่วยให้ร่างกายสั่นเทาเมื่อครู่คลายความวิตกได้อย่างหน้าประหลาดเสื้อคลุมสีนิลที่บุรุษใต้หน้ากากอีกาถอดออกเพื่อมาคลุมตัวเขาช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกายที่เย็นเชียบให้กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง...

     

     

     

    "น..นายท่านอีกาดำท่านทำแบบนี้ระหว่างประมูลไม่ได้นะครับ สินค้านี้เป็นของผู้ให้ราคาสูงสุดในขณะนี้ท่านให้ราคาต่ำกว่ำ...."พิธีกรหนุ่มเดินเข้ามาใกล้บุคคลระดับสูงอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ด้วยหน้าที่การประมูลที่มีจึงจำใจเอ่ยถึงกฏการประมูล...ที่อีกฝ่ายไม่คิดจะสนใจฟัง

     

     

     

    เมื่อเสียงนั้นเปล่งวาจาอีกครั้ง....และเป็นอีกครั้งที่สร้างเสียงฮือฮาให้ดังกระหึ่มกว่าครั้งไหนๆผู้คนเบื้องล่างจับจ้องเหตุการณ์บนเวทีราวกับเป็นสักขีพยานให้บุคคลที่ได้รับสมญานามว่า[ตัวอันตรายแห่งโลกมืด] ที่กำลังสำแดงอำนาจให้สมชื่อ

     

     

     

    "ฉันให้...."

     

     

     

    "1000,000,000 บาท"

     

     

     

     

    "!!!!?????"

     

     

     

     

    "เด็กคนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของฉันอย่าได้คิดประมูลต่อ"

     

     

     

    "ถ้าใครคิดจะต่อ.....ก็ลองดู"เสียงแหบเอ่ยอย่างเนิบช้าแต่ทุกๆถ้อยคำกลับตอกสลักลงในการรับรู้ไอเย็นที่แผ่ซ่านไปทั้วทุกอณูของพื้นที่ด้วยคำพูดแค่ไม่กี่คำเรียกให้จิตใต้สำนึกของผู้รับฟังกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว....และแน่นอนว่าเมื่อมัจจุราชสีนิลเอ่ยถามคำตอบที่ได้รับกลับมา คงหนีไม่พ้น

     

     

     

    "..........".....ความเงียบ

     

     

     

    ตุบ!....เสียงค้อนไม้กระทบกับฐานเป็นสัญญาณบอกว่าการประมูลสิ้นสุดลงโดยมือของพิธีกรประจำวัน...เมื่อไร้ผู้ต่อรองก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอ 

     

     

     

    "สินค้าไฮไลท์ของเราวันนี้ถูกประมูลในราคา1000,000,000 บาท โดยนายท่านอีกดำ แห่ง BlackHole....ปิดประมูล!!!"

     

     

     

    ...สิ้นเสียงประกาศสรรพเสียงที่เขาคาดไว้ว่าคงได้ยินในไม่ช้าก็ดังขึ้น แรกคือเสียงโห่ร้องดีใจของเหล่าพี่ๆที่รอลุ้นอยู่หลังร้านลอยมากระทบโสตประสาทสองคือเสียงของพี่แคร์ที่เอ่ยคำขอบคุณจนแทบไม่หยุดหายใจ และสาม....คือเสียงของบุรุษใต้ชุดอีกาดำที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอชวนให้สบายใจ

     

     

     

    [ไม่เป็นไรแล้ว....]

     

     

     

    นั่นคือจังหวะเสียงที่เขาได้ยิน....ทั้งที่ริมฝีปากใต้หน้ากากไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำพูดใด

     

     

     

    ....

     

     

    [เงินมาสินค้าไป]

     

    ...วลีง่ายๆที่ชี้แจ้งทุกรายละเอียดได้กระจ่างชัดว่าสิทธิ์การถือครองสินค้าจะสมบูรณ์เมื่อลูกค้าชำระเงินตามที่ตกลงไว้...ทันทีที่ปึกธนบัตรอยู่ในที่ที่ควรโซ่ตรวนเหล็กจะถูกปลดออกแทนที่ด้วยรอยเหล็กร้อนที่จะประดับอยู่บนเรือนร่างแปรสภาพเป็นโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ทุกขณะจิตว่ามันยังคงอยู่...

     

     

     

    ข้อตกลงง่ายๆที่เป็นยอมรับกันของคนส่วนใหญ่....ที่ไม่ฟังความยินยอมจากคนส่วนน้อย

     

     

     

    "......."มือหนายื่นเช็คประจำตัวให้กับพนักงานฝ่ายการเงินของร้าน กระดาษสีขาวซีดประดับด้วยสีหมึกเส้นเล็กที่เขียนระบุจำนวนเงินและชื่อเจ้าของลายมืออย่างบรรจง...แค่กระดาษใบเดียวกับน้ำหมึกไม่กี่หยดก็สามารถซื้อหนึ่งได้ง่ายๆ 

     

     

     

    "ยินดีอย่างยิ่งครับนายท่าน....หืม?สองใบ?"คิ้วหนาของผู้รับขมวดเป็นปมเมื่อจำนวนเช็คจากนายท่านมีสองใบใบแรกระบุจำนวนเงินถูกต้องตามที่ราคาประมูลพร้อมลายเซ็นแต่อีกใบ....

     

     

     

    "ใบแรกนั้นคือค่าตัวของพ่อหนุ่มน้อยเสียงใสส่วนอีกใบน่ะ..."

     

     

     

    "ค่าหอนางโลมนี้ไง"คำตอบที่เรียกให้ดวงตาของบอดี้การ์ดเบิกโพลงด้วยความตกใจก้มหน้าก้มตาดูบันทึกข้อมูลแขกจากฝ่ายข้อมูลที่ไม่เห็นมีส่วนไหนแจ้งไว้ว่าบุคคลตรงหน้าจะกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของที่แห่งนี้และของตน

     

     

     

    "ค..ครับ!?ท่านหมายความว่ายังไงครับ?"

     

     

     

     

    "ก็หมายความตามนั้นพวกเราขอซื้อทั้งหอเพลินพิไล ทั้งโฉนดที่ดินของที่นี้แล้วก็สาวขายบริการทุกคนในที่นี้ด้วย....อ่อ!แต่เราไม่เอาพวกนายนะ"

     

     

     

     

    "น..นายท่านอีกาดำนายท่านหมูป่าผมว่าเรื่องนี้เราดำเนินการให้..."

     

     

     

     

    "นายกำลังขัดหน้ากากอีกาดำเสนาธิการฝ่ายตะวันออกตัวแทนขององค์จักรพรรดินีขาวอยู่นะ....นายกล้าขัดคำสั่งบอสใหญ่ของพวกเรางั้นเหรอ?"มือเรียวชี้ไปทางคนใต้ชุดอีกาดำที่ยิ่งนิ่งแต่แผ่รังสีอำมหิตทุกขณะจิตก่อนจะหันกลับมาโชว์ถุงมือหนังชั้นดีของตนที่ประทับด้วยลวดลายสีทองวิจิตรอันเป็นเอกลักษณ์สัญลักษณ์ที่ทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มแถบหยุดหายใจ...สัญลักษณ์ของ BlackHole 

     

     

     

    "........"

     

     

     

    ...มันตัวใดคิดขัดบัชญา [องค์จักรพรรดินีสีขาว] มันคงไม่อยู่ไม่ทันเห็นแสงแรกของวันรุ่ง..

     

     

     

    "ไม่พอ?"เสียงแหบที่เริ่มเค้นเสียงด้วยอารมณ์รำคาญมือหนาหยิบสมุดเช็คเล่มเก่าออกมาจรดปลายปากกาอย่างรวดเร็วก่อนจะยื่นให้เป็นใบที่สามของวัน...

     

     

     

    "นายท่านอีกาดำถึงท่านจะให้เงินจำนวนเท่าไร ทางเราก็....!!!!??"

     

     

     

    "บ..บ้าไปแล้ว..ง..เงินมากขนาดนี้..."มือที่รับใบกระดาษใบเล็กสั่นเทาด้วยความตระหนกจำนวนหลักที่มากมายเกินจินตนาการว่าชีวิตนี้จะได้จับอยู่บนมือเสียงทุ้มเอ่ยเรียกผู้เป็นนายที่เดินเข้ามาตรวจความเรียบร้อยอย่างร้อนรนพรางยื่นเช็คเงินสดให้หญิงสาวพร้อมอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมด

     

     

     

     

    "มาดามใหญ่ครับคือ...."

     

     

     

     

    "ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะนายท่าน ฉันไม่คิดจะขายหอเพลินพิไลให้กับท่านหรือท่านไหนทั้งนั้น เพราะที่นี้ก็เป็นที่ทำมาหากินของพวกฉัน....หวังว่าท่านคงเห็นใจพนักงานในร้าน"มาดามใหญ่เอ่ยตอบด้วยความนอบน้อมหยิบยกเหตุผลที่ฟังขึ้นที่สุดมาเจรจากับบุคคลชั้นสูงของโลกมืด....แต่เหตุผลบางประเภทมันลบล้างการกระทำไม่ได้...

     

     

     

     

    "ฮิพวกเราไม่คิดจะขัดทางทำมาหากินของคุณหรอกมาดามใหญ่....ถ้าคุณไม่เป็นฝ่ายขัดขาพวกเราก่อน"

     

     

     

     

    "ท่านหมายความว่ายังไง...."น้ำลายในคอพลันเหนียวหนืดขัดขวางเสียงที่คิดจะเปล่งออกมาอย่างใจนึกนัยน์ตาหรี่ลงอย่างระแวงระวังกับคำพูดอันกำกวมจากหน้ากากหมูป่าก่อนคำตอบที่เธอภาวนาให้มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด....จะซัดสาดความจริงว่าเธอได้ทำผิพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต

     

     

     

     

    "ก็ไม่ยังไงหรอกพอดีฝ่ายแหล่งข่าวของเราแจ้งมาว่าคุณลักลอบทำอะไรๆที่ดูท่าทางจะเป็นพิษภัยกับองค์กรของพวกเรา..."

     

     

     

     

    "พิษภัยเช่น....การเสนอตัวเป็นนกต่อให้กับองค์กรบางองค์กรที่คิดวางแผนปล้นยาตัวใหม่ที่ทางเรามีจัดส่งให้กับรัฐบาลในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า"ริมฝีปากใต้หน้ากากปีศาจวัวกล่าวอย่างขำๆในความกล้าหาญที่แสนขลาดเขลาของมาดามใหญ่ที่อายุไม่ได้ช่วยเตือนสติว่าอะไรควรทำหรือไม่...

     

     

     

     

    "คิดว่าการปล้นของจากBlack Hole มันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอถึงยอมเสี่ยงเป็นนกต่อเพื่อแลกกับเงินตอบแทนน่ะ.....[มาดามพิไลวรรณ]?"ชื่อจริงของหญิงร่างท้วมที่ฝ่ายแหล่งข่าวสืบหาเรียกสายตาตื่นตระหนกจากเจ้าของชื่อได้เป็นอย่างดี....[ชื่อจริง]ที่ควรเป็นความลับหากคิดทำงานในโลกมืดที่ไร้กฏหมายและกฏเกณฑ์

     

     

     

    "ขอบอกไว้อย่างนะไอ้ข่าวลือที่ชอบพูดกันว่า Black Hole เวลาส่งของจะไม่มีคนระดับเสนาธิการมาด้วยมีแต่ลูกน้องชั้นล่างคอยคุ้ม ทำให้ง่ายต่อการปล้น....แล้วไหนล่ะ? คนที่ปล้นสำเร็จน่ะ มันมีรึยัง?"

     

     

     

     

    มีเพียงตำนานเล่าลื่อ....แล้วไหนคือผู้กล้าที่พิชิตปีศาจร้าย?

     

     

     

     

    "ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็เลือกเอาแล้วกันว่าอยากรับเช็คนี้ขายที่ต่อให้พวกแล้วหายไปเงียบๆหรือว่ายังอยากรับหน้าที่นกต่อให้กับองค์กรปลายแถวนั่นแล้ว......"หมูป่าเอ่ยเสียงยียวนอย่างขำขันก่อนลากเสียงในประโยคท้ายให้ผู้รับฟังหัวใจเต้นโครมครามด้วยความตระหนก

     

     

     

    ม่านหมอกสีจางที่ไร้สาเหตุการเกิดลอยบังบดเรือนกายของทั้งสองหน้ากากจนร่างนั้นเลือนรางและสิ่งที่ปรากฏในวินาทีต่อมาคือบางสิ่งบางอย่างที่มนุษย์ธรรมดาไม่ควรมี....บนศีรษะของหน้ากากหมูป่าที่มีเงารูปร่างคล้ายเขาสัตว์อันเขื่องประดับอยู่ทั้งด้านซ้ายขวาและร่างสูงของหน้ากากอีกาดำที่มีเงาปีกยักษ์แผ่สยายจนสัมผัสได้ถึงแรงลมที่ปะทะหน้าก่อนเสียงทั้งสองจะเอ่ยประโยคที่เป็นได้ทั้งคำเตือนและคำคาดโทษ

     

     

     

    "มาประกาศสงครามกับ [Black Hole]?"

     

     

     

     

    "!!?....."มาดามใหญ่สะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินประโยคที่เล่าขานกันมาปากต่อปากในโลกมืดกับหูตัวเองในเวลานี้...หากสมาชิก [Black Hole] คนใดเอ่ยประกาศสงครามนั่นหมายถึง....

     

     

     

    ...เงาสีนิลของหลุมดำจะคอยหลอกหลอนทุกค่ำคืนจนวันหนึ่งเงาหัวที่เคยตั้งตรงอาจเอียงเอนหล่นหายไปในความมืดโดยไม่รู้ตัว...

     

     

     

     

    "........" ร่างกายที่จิตใจเริ่มสั่งการให้ถอยห่างจากอันตรายตรงหน้าทั้งคำพูดและสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาต่างตอกย้ำว่าสิ่งอยู่เบื้องหน้าคือ [สัตว์ประหลาดแห่งโลกมืด]อย่างคำล่ำลือ สมองประมวลผลน้ำหนักความคุ้มค่าของข้อเสนอจากบุคคลใต้หน้ากากและหน้าที่นกต่อก่อนริมฝีปากสีชาดจะเอ่ยเสียงสั่นเมื่อการตัดสินใจเป็นอันเด็ดขาด

    .....

    ....

    ...

    .

    "ฉันยินดีรับขอเสนอของท่านค่ะ"

     

     

     

    ....เพราะมนุษย์ไม่มีทางเห็นเสียง [ลมหายใจ] ของคนอื่นดีกว่าเสียง[หัวใจ] ของตนเองหรอก....

     

     

     

    "ไม่คิดว่าเฮียจะซื้อมันทั้งหอเลยแบบนี้"หมูป่าเอ่ยอย่างตกใจกับความคิดของอีกฝ่ายมือบางหยิบโฉนดแผ่นใหญ่ที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆออกมาตรวจสอบระหว่างเดินไปรับสมาชิกใหม่ขององค์กรพรางนึกย้อนถึงเสียงเนื่อยๆตามสไตล์ของหนึ่งในสมาชิก [Black Hole] ที่แจ้งข่าวให้พวกเขารู้ว่ามาดามใหญ่แห่งเพลินพิไลคิดไม่ซื่อ...

     

     

     

    ...รายละเอียดบทสนทนาที่องค์กรปลายแถวเจรจากับมาดามใหญ่ถึงการปล้นรถส่งสินค้าของพวกเขาในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าเพราะเส้นทางการส่งของจำเป็นต้องผ่านหน้าหอเพลินพิไล หน้าที่นกต่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจึงถูกเสนอให้พร้อมกับค่าตอบแทนที่สูงลิวและมาดามใหญ่ก็ตกลงปลงใจเสียเต็มประดากับเมล็ดเงินที่จะได้แต่น่าเสียดายที่ [Black Hole].....มี [ผี] ที่สิงอยู่ตามเทคโนโลยีทุกประเภทคอยมองทุกความเคลื่อนไหวของทุกอย่างอยู่บทสนทนาลับจึงถูกเปิดโปงอย่างไม่ยากเย็น

     

     

     

     

    [นายแม่ฝากมาให้จัดการด้วยน่ะ เฮีย หมูป่า....ระวังตัวด้วย....ฉันนอนล่ะ บาย]และนั่นคือประโยคอวยพรและบอกลาจากผีจอมขี้เกียจที่เสร็จสิ้นหน้าที่ของตน

     

     

     

     

    ....และแน่นอนว่าคำสั่งที่ส่งตรงจากบอสใหญ่มาถึงขนาดนี้ท่านเสนาธิการและรองเสนาธิการอย่างเธอต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่ไอ้คำว่า [จัดการ].....คุณเฮียกาคนนี้เขาจัดการซื้อมันทั้งหอเลยเนี่ยสิ!?

     

     

     

     

    "แค่เคลียร์สถานที่...เพื่อความปลอดภัย"อีกาดำพูดแผนการที่วางหมากไว้ในหัวถ้าไม่กำจัดเนื้อร้ายอย่างคนในพอเพลินพิไลให้หมดสิ้นมันอาจกลับมาแว้งกัดในภายหลังได้เพราะฉะนั้นสู้ตัดทิ้งไปตั้งแต่เนินๆแล้วใช้ประโยชน์จากรอยเนื้อเน่าล่อแมลงวันให้มาติดกับน่าจะเป็นผลดีที่สุด

     

     

     

     

    "ส่วนที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของ [จิงโจ้] กับ [ระฆัง]....พวกนั้นคงอยากได้หนูทดลองเพิ่ม"ริมฝีปากกระตุกรอยยิ้มเวทนาใต้หน้ากากเมื่อนึกถึงองค์กรผู้โชคร้ายที่ต้องเจอกับสำเนียงแปร่งๆแสนขี้เล่นและรอยยิ้มแสนสุภาพแทนนกต่อที่ว่าจ้างไว้

     

     

     

     

    "ก็รู้หรอกว่ามันเป็นแผนแต่ใช้เงินเป็นว่าเล่นเลยนะ เฮีย...ป๋ามากป่ะล่ะ"หมูป่าเอ่ยแซวคนข้างกายที่เซ็นเช็คเอาๆไม่เกรงขนหน้าแข้งจะร่วงแม้แต่นิดแต่ในความเล่นใหญ่เธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง....ที่น่าสนุกสุดๆเลยด้วย

     

     

     

     

    "เล่นใหญ่รัชดาขนาดนี้เฮีย~.....สนใจน้องมากกว่าที่คิดล่ะสิ~"

     

     

     

     

    "แค่ทำตามที่รับปาก"...ก็แค่นั้น...

     

     

     

     

    "โห~ให้มันจริงเถอะ....หรือเราจะได้มากกว่าสมาชิกใหม่ไปให้นายแม่กันนะ"

     

     

     

     

    "......."คำถามกึ่งเล่นกึ่งจริงจากรองเสนาธิการทำให้ฝีก้าวของอีกาดำหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายที่โคลงตัวไปมาอย่างลั่นลาเสียงจังหวะบางอย่างกระตุกผิดแปลกเพียงเสี้ยวนาทีก่อนเงียบหายไป รวดเร็วจนคล้ายกับไม่เคยเกิดขึ้น....

     

     

     

     

    "เซ็นส์ของผู้หญิงน่ะแม่นกว่าที่คิดนะ...โอ๊ยๆๆ!มันเจ็บนะเฮีย!!"มือบางลูบหน้าผากตัวเองเป็นครั้งที่สองของวันเมื่อนิ้วแกร่งของอีกคนดีดเข้าให้อย่างตัดรำคาญแถมความเจ็บมันยังแรงกว่าครั้งแรกไปมากโข

     

     

     

     

    "เลิกเล่นได้แล้วไปเคลียทุกอย่างให้มันจบ จะได้กลับองค์กรซะที"

     

     

     

     

    "ค่ะๆๆรับทราบค่า~”เสียงใสขานรับอย่างงอนๆกับคำของท่านเสนาธิการที่ไร้ความเมตตาต่อหน้าผากน้อยๆของเธอก่อนริมฝีปากใต้หน้ากากจะแย้มยิ้มกว้างผสานกับเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อคนแก่ขี้เก๊กไม่ยอมรับในเซ็นส์ของผู้หญิง....หรือที่ดีดหน้าผากแรงๆนี้เพราะเขินที่โดยถามกันนะ

     

     

    "แต่จริงๆนะเฮีย~....."

     

     

     

     

    .....การกระทำของเฮียตั้งแต่งานประมูลเริ่มจนจบน่ะ...อ่อนโยนแบบที่ฉันไม่เคยเห็นเลยนะ.....

     

     

     

     

    "หมูป่า"

     

     

     

    "ค่ะๆไปแล้วค่ะ~....เฮีย!อย่าไปทำหน้ายักษ์ใส่น้องใหม่ล่ะ! เดี๋ยวเขาจะไม่กล้าเข้าครอบครัวเรา!"หมูป่าเอ่ยเตือนอีกฝ่ายที่น่าจะแผ่รังสีเยือกเย็นใส่น้องใหม่ตามสไตล์เฮียกาผู้ไร้อัธยาศัยที่ดีขาเรียวบนรองเท้าสันสูงเดินเร็วๆตามหลังคนแก่ขี้บ่นไปอย่างร่าเริงภายในใจเบิกบานด้วยความยินดีเมื่อไม่กี่อึดใจจะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่....ครอบครัวคนใหม่ของเธอน้องเล็กคนใหม่!

     

     

     

    ...เบื้องหน้าคือบานประตูสีแดงสดที่เป็นตัวกั้นกลางระหว่างผู้ประมูลและสินค้าบอดี้การ์ดร่างหนาโค้งให้นายท่านทั้งสองก่อนจะเอ่ยย้ำรายละเอียดเพื่อตรวจสอบความมั่นใจตามหน้าที่...ที่ไม่ควรทำในเวลานี้

     

     

     

    "สินค้าไฮไลท์ประมูลด้วยรา....."

     

     

     

     

    "เปิดประตู"เสียงแหบเอ่ยตัดบทอย่างรำคาญจนหน้ากากหมูป่าต้องโชว์ป้ายหมาย 39 ให้บอดี้การ์ดผู้เฝ้าประตูดูเป็นเชิงเปิดประตูเลยไม่ต้องมาตรวจสอบ...ก็คนแบบพวกเขาจะมีใครกล้าสวมรอยจริงไหม?

     

     

     

     

    "ค...ครับนายท่าน"

     

     

     

     

    กริ๊ก...เสียงแม่กุญแจถูกปลดพันธนาการตามคำสั่งบานประตูสีแดงเข้มเปิดออกและสิ่งแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเปียโนหลังใหญ่มือบางกำเสื้อคลุมตัวโคร่งบนตัวแน่นราวกับมันเป็นเครื่องป้องกันเพียงหนึ่งเดียวที่มีอยู่ก่อนเสียงเปิดประตูของผู้มาใหม่จะเรียกให้ตวงตากลมโตหันมองมาทางเขาเต็มตาขาเล็กพาเจ้าของเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนมือหนาเผลอกางออกเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะสะดุดล้มหัวคะมำไปนอนกองกับพื้นห้องเสียก่อน

     

     

     

     

    "ในที่สุดคุณก็มานะฮะคุณอีกา"คนตัวเล็กกว่าหยุดยืนตรงหน้าอีกฝ่ายพรางแย้มยิ้มกว้างให้คนที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิตเอ่ยเสียงใสที่แสนแผ่วเบาเพราะเรี่ยวแรงทั้งหมดมันหายไปในตอนประมูลแต่ถึงจะอ่อนแรงแต่มันก็เต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้นอย่างสุดใจ

     

     

     

     

    "........"นัยน์ตาสีนิลจ้องมองร่างน้อยตรงหน้าก่อนมุมปากจะยกยิ้มน้อยๆอย่างเอ็นดู มือหนาใต้ถุงมือยกขึ้นลูบกลุ่มผมสีดำนุ่มพร้อมกับเสียงแหบที่อ่อนลงจนหมูป่าแอบหัวเราะเบาๆจะเอ่ยตอบเด็กน้อยที่ส่งเสียงเรียกหาเขามาตลอด...

    ....

    ...

    ..

    .

    "ฉันมารับแล้วทอม"

     

     

     

    ____Another Side...[2]____

     

     

    โซนอธิบาย 


    - เส้นเสียงสวรรค์เป็นชื่อที่พี่ๆสาวบริการตั้งให้ทอมนะคะเพราะเสียงของทอมเพราะมาก ไม่ใช่สายเลือดพิเศษนะคะ


    - [ยา]ของแคร์เป็นยารักษาโรคประจำตัวค่ะ จำเป็นต้องกินตลอดทอมกับสาวขายบริการคนอื่นจะเป็นคนออกค่ายารวมกันๆทำให้ขาดยาไปบ้างด้วยเงินดือนที่น้อยของแต่ละคน


    - ในตอนนี้นิลใส่พาร์ทอดีตของเฮียกาไว้ด้วย เป็นการปูทางเล็กๆค่ะ


    - หมายเลขประมูลของเฮียกาคือ39 มาจากอายุน้าล้วนๆเลยค่ะ55


    - คนในองค์กรจะเรียกบอสใหญ่ว่า[นายแม่] นะคะ บ่งบอกเพศสภาพที่แท้จริง บอสใหญ่ของ Black Hole เป็นเพศหญิงค่ะ


    - เพลงที่ทอมใช้ร้องในตอนนี้คือ[if i ain't got you] ที่ใช้ใน The mask singer ค่ะ


    - ซึ่งสาเหตุที่ใช้เพราะเนื้อเพลงมีความหมายว่าทุกคนอยากได้ทุกสิ่ง แต่ตัวทอมต้องการและรอแค่เฮียกาค่ะ เน้นย้ำที่คำว่า [you]ก็คือตัวเฮียกาค่ะ


    - เงินที่เฮียกาใช้ในงานประมูลเป็นเงินส่วนตัวของเฮียล้วนๆค่ะไม่มีเงินจากองค์กรเลย....มีความป๋าอย่างแท้จริง


    - เสื้อคลุมที่เฮียกาคลุมให้ทอมเป็นตัวเดียวกับในตอนแรกนะคะ


    - ในตอนนี้จะมีฉากที่แสดงอีกด้านของเฮียกาและหมูป่าด้วยนะคะคือด้านที่เป็นสัตว์ประหลาดที่จะเห็นแค่ผ่านเงาลางๆ เป็นการประเดิมเล็กๆ


    - [ผี] ในที่นี้คือสมาชิกฝ่ายข่าวสารนะคะแต่ที่เรียกผีเพราะสามารถดูทุกเครื่องมือสื่อสารหรือเทคโนโลยีของทุกพื้นที่ได้ค่ะ


    - สมาชิกของBlack Hole จะเรียกคนในองค์กรด้วยกันว่า [ครอบครัว]และจะเรียกองค์กรว่า [บ้าน] ค่ะ

     

     

     

     

    Nilkan Talk :

     

    คลอดบท2 ค่าาาาาาา มันก็จะยาวหน่อยๆในตอนที่2 นี้จะค่อนข้างเน้นอธิบายเยอะและเริ่มเกริ่นถึงองค์กร Black Hole มากขึ้นนะคะ

    และในที่สุดเฮียกาก็มารับน้องแล้วนะคะ[หิ้วเด็กบินกลับรัง > <] เย้!

    ขอให้สนุกกับanotherside นะค่าา เจอกันตอนหน้าค่ะ:))))))

     

     

     

     

    คอมเม้นติชม กันได้นะค่าา

    เม้น1 เม้นเป็นพลังได้เนอะ:)


     

    { แท็กฟิค #anothersideTM} หรือ { แท็ก #นิลฟิค }

    แท็กในทวีตมาหวีดกันได้นะค่าา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in