เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Another Side | อีกด้านหนึ่งSaruta Nunsang
Another side | EP.1
  • Another Side...[1] 

    [sound]

     


     

    [เสียงสามารถมีตัวตนได้ด้วย....คำพูด]

    [แต่รู้ไหม...คำพูดบางคำก็ไร้เสียง]


     

    ______________________________________

     

     


    [เสียงร้องเรียก ตะโกนก้องหวังให้ใครสักคน...หรือ[เขา] ได้ยินสักที]

    ...

    ..

    .


     

    ...มันเป็นเพียงสถานที่แห่งหนึ่งบนโลก ที่เชื่อเถอะว่าคุณไม่อยากรู้จักมันหรอก...

     

     

    ...กลิ่นอับชื้นลอยอบอวนปะปนกับกลิ่นคาวฉุนขึ้นจมูกอากาศมืดครึ้มโรยตัวโดยรอบเมือง ทั้งๆที่ดวงอาทิตย์ยังคงทำงานเต็มกำลังแต่กลับไม่สาดแสงมาแม้แต่น้อยราวกับจงใจให้ที่นี้เป็นเพียงสถานที่ที่ควรหายไปท่ามกลางความมืดมินของเงาดำ บรรยากาศชวนหดหู่ที่ต่างจากเสียงของบริกรหอนางโลมที่ส่งเสียงเรียกลูกค้าอย่างแสนเบิกบาน…

     

     

     

     

    "ขอเชิญนายท่านนายหญิงคุณชายคุณหนูทุกท่านณ หอเพลินพิไล หอนางโลมระดับเอคราสอันดับหนึ่งและแน่นอนในวันนี้พิเศษๆเช่นนี้ที่ทุกท่านรอคอย.....[วันประมูลสินค้า]ที่ทางเราจะคัดสรรทาสชั้นดีเพื่อนำมาประมูลเพียงครั้งเดียวของเดือน!!!"เสียงบริกรหนุ่มเอ่ยพรางโค้งให้กับเหล่าผู้ลากมากดีที่กำลังทยอยกันเข้างานริมฝีปากนับสิบแย้มยิ้มกับแววตานับร้อยเป็นประกายพึงใจเมื่อถึงวันประมูลสินค้าอันเลื่องชื่อ...

     

     

     

     

    สินค้าที่มีเสียงเต้นของหัวใจ...สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า [มนุษย์]

     

     

     

     

    ...แต่ไม่ใช่กับทุกแววตาที่จะเปล่งประกายเมื่อได้ยินคำว่า[สินค้า]

     

    ดวงตาสีนิลภายในหน้ากากสีเดียวกันเปรยตามองไปทางต้นเสียงที่เริ่มคึกคักด้วยจำนวนผู้คนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยแววเรียบนิ่ง แต่ก่อนที่สองขาจะก้าวออกไปอย่างใจคิด 

     

     

    "หืม....."

     

     

    บางสิ่งกลับโจมตีประสาทสัมผัสให้ต้องหยุดยืนราวกับโดนโซ่ตรวนตรึงไว้ย่านโคมแดงที่ไม่เคยพิสมัยมันสักครั้งกับเรียกให้สายตาคมละไปไม่ได้ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้ มันเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน ความรู้สึกที่เหมือน....มีคนกำลังเรียกเขาอยู่?

     

     

    "..........."สายตาจ้องมองไปยังสถานที่เบื้องหน้าปล่อยให้ความรู้สึกสัมผัสบางอย่าง....สัมผัสตัวต้นเหตุที่กำลังเรียกหา [เขา]อย่างบ้าคลั่ง ราวกับเป็นสิ่งสุดท้ายที่หวังในชีวิต

    ...

    ..

    .

    "เฮีย!!!!!!!"

     

     

    ความคิดที่กำลังไหลไปกับความรู้สึกหยุดชะงักเสียงแหลมใสอันทรงพลัง[เกินไป]ของคนข้างกายปลุกคนใต้หน้ากากให้หลุดจากภวังค์ความคิด

     

     

     

    "เฮียมองอะไรอยู่น่ะ? นี้อย่าบอกนะว่าเฮียอยากเข้าหอนางโลม!?นี้มันวันโลกแตกใช่ไหมเนี่ย?.......โอ๊ย!มันเจ็บนะเฮีย!"เจ้าของเสียงแหลมร้องโอดโอยเมื่อนิ้วใต้ถุงมือดีดเข้าที่หน้าผากของตนดังลั่นมือเรียวลูบหน้าผากตัวเองปรอยๆ...ถึงจะมีหน้ากากหนังบังอยู่แต่แรงดีดของคนตรงหน้ามันใช่แรงคนทั่วไปที่ไหนเล่า!

     

     

     

    "หึ...เสียงดังน่า"

     

     

     

    "ก็แค่มองโลกเฉยๆ"เสียงทุ้มตอบตามแบบฉบับของตนเอง...มองทุกอย่างมองโลกที่ตัวเขายืนอยู่ตอนนี้

     

     

     

    "มองโลก?เฮีย อย่าพูดอะไรเข้าใจยากๆสิ ฉันไม่เข้าใจอ่ะ....อืม~แสดงว่าฉันยังไม่แก่เลยไม่เข้าใจ ฮ่าๆๆ"

     

     

     

    "เฮ่อ..."

     

     

     

    "โถ่ๆล้อเล่นน่า เฮีย ทำไมจะไม่รู้ว่าเฮียมองอะไร....พวกค้าทาสสินะ"

     

     

     

    "........"

     

     

     

    "ที่นี้ไม่ใช่[โลกสว่าง] นะ...โลกของพวกเราน่ะ มันเป็นโลกที่ [อำนาจ] อยู่เหนือ [ศีลธรรม]"เสียงแหลมใสที่สดใสเกินพิกัดอยู่เสมอกลายเป็นเรียบนิ่งนัยน์ตาใต้หน้ากากหนังก้มมองมือตัวเองที่กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ...เพราะโลกที่เธอและคนข้างๆมองเห็นมันมีแต่พวกเทิดทูน[อำนาจ] มากกว่า [ความเป็นคน]

     

     

     

    "เฮีย....."คนที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งเมื่อมือหนาใต้ถุงมือวางลงบนหัวทุยๆของตัวเองตบเบาๆเป็นเชิงปลอบส่วนคนโดนปลอบทำได้แค่มองตาปริบๆ....ขนแขนเริ่มลุกชันเมื่อเฮียใหญ่ที่แสนเคารพรักมาโหมดแปลกประหลาดไม่มีหรอกที่คิดจะปลอบใจมีแต่....

     

     

     

    "หึ...คนที่พูดอะไรแบบนี้ได้มันต้องคนแก่มาก".....มีแต่[ซ้ำเติม]

     

     

     

    "เฮีย!!นี้แกล้งกันใช่ไหมเนี่ย! ฉันยังไม่แก่นะ...$%*&!@#%^&"บรรยากาศหดหู่เมื่อครู่สลายไปในพลันเหลือเพียงเสียงโหวกเหวกโวยวายตามสไตล์ของเจ้าตัวบ่นไปงอแงไปแต่ก็แอบอมยิ้มอยู่ใต้หน้ากาก....เพราะที่เฮียใหญ่คนนี้ซ้ำเติมก็เพราะไม่ชอบให้คนในครอบครัวหดหู่ถึงชอบทำเป็นแกล้งซ้ำเติมให้โมโหจนลืมเรื่องเครียด!

    ...

    ..

    ....แต่!!การปลอบด้วยการซ้ำเติมว่า แก่! น่ะ มันไม่โอเคเลยนะ!! 

     

     

     

    "เฮียกา ฉันยังไม่แก่นะ!!!"

     

     

     

    ชื่อเรียกที่เรียกให้เจ้าของนามหันมาถอนหายใจเบาๆตาคมมองเจ้าของเสียงงอแงที่ชูมือชูไม้เรียกความสนใจและแน่นอนว่าไม่มีทางหยุดง่ายๆหรือจริงๆเขาควรปล่อยให้เจ้าตัวคิ้วขมวดหดหู่เป็นหมูหงอยต่อไปมากกว่า....นี้ตกลงเขามากับรองเสนาธิการชั่วคราวหรือเด็กสาวขวบ?

     

     

     

    "หมูป่า...อยากโดนลอบฆ่ารึไง?"เสียงแหบเอ่ยเตือนอย่างหน่ายๆสถานที่ตอนนี้ที่พวกเขาอยู่คือระหว่างทางกลับองค์กร การประกาศว่าตนคือเสนาธิการและรองเสนาธิการขององค์กรขั๋วอำนาจแห่งโลกมืดไม่ต่างอะไรจากการบอกให้คนเอาปืนมายิงแสกหน้า....ถึงคนที่คิดจะทำมันคงอยู่ไม่ทันเล็งเป้าก็เถอะ

     

     

     

     

    "เฮ่อ..."เป็นการถอนหายใจรอบที่ร้อยของวันถ้าการถอนหายใจหนึ่งครั้งคือการตัดชีวิตไป 10 ปีสงสัยคงต้องมีสักล้านชีวิตถึงจะพอ ถ้ายังมีรองเสนาธิการสามขวบอยู่ข้างตัวคนใต้หน้ากากอีกาดำคิดในใจก่อนจะเปรยตามองไปทางเดิมอีกครั้ง...หอเพลินพิไล

     

     

     

    "........"

     

     

    ...ใครกันที่ร้องเรียกหา [ปีศาจ] อย่างเขา...

    ...

    ..

    .

     

    [คนหนึ่งหวังพบเสียงที่เพรียกหาตน]

    [ส่วนอีกด้าน...หนึ่งเสียงก็ร่ำร้องหาผู้รับฟัง]

     

     

     

    ...หอนางโลมเพลินพิไลที่คึกคันเป็นปกติด้วยลูกค้าจำนวนมากที่รอใช้บริการแต่วันนี้คำว่าคึกคันคงจะไม่พอกับสถานการณ์ตอนนี้คำว่า  [วุ่นวาย] น่าจะเป็นคำบรรยายที่เหมาะสมกว่าเพราะวันนี้คือวันพิเศษประจำเดือน [วันประมูลสินค้า] ที่ทางร้านจะเปิดให้นายท่านนายหญิงทั้งหลายได้ประมูลทาสชั้นดีไปเล่นสนุกที่คฤหาสน์และทาสที่นำมาประมูลก็ไม่ใช่ใครที่ไหน....บ้างก็คือคนในสลัมที่ขายตัวเองเพื่อความอยู่รอดที่ราคาจะถูกแสนถูกหรือบางคนก็ถูกจับมาโดยไม่ถามคำยินยอมเป็นทาสพันธุ์ผสมที่มีสายเลือดพิเศษซึ่งถูกซื้อมาอีกทอดจากโลกใต้ดินชั้นที่ลึกกว่าขายได้ราคางามเกินกว่าจะคาดเดา

     

     

     

    ....แต่ความวุ่นวายของร้านกลับไม่เท่าความว้าวุ่นใจของเหล่าสาวขายบริการที่ยืนเกาะลูกกรงมองเวทีการประมูลจากหลังร้านพวกเธอไม่มีสิทธิ์เหยียบเข้าไปในตัวร้านเป็นอันขาดในเวลานี้ด้วยคำสั่งจากมาดามใหญ่ที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเพราะกลัวพวกเธอจะทำอะไรไม่เข้าเรื่องอย่าง....ปล่อยสินค้า [บางคน] หนีไป 

     

     

     

    "พี่แคร์ทำยังไงดีล่ะ!....น....น้องจะโดนประมูลจริงๆเหรอพี่!?"เสียงสั่นของเพลินเอ่ยทั้งน้ำตาคลอเบ้าไม่ต่างจากคนอื่นที่มองไปทางเวทีประมูลที่กำลังจะเปิดฉากในไม่กี่อึดใจ

     

     

     

    สมองส่งห้ามร่างกายไม่ให้ขยับไปจากจุดเดิมแต่ใจกลับร้องตะโกนให้วิ่งไปยังหลังเวทีประมูล...

    ...หลังม่านสีแดงที่มีแก้วตาดวงใจของพวกเธออยู่ที่นั่น...

     

     

     

    "......"มือเรียวกำเข้าหากันแน่น สัมผัสเบาๆจากมือนุ่มของผู้เป็นน้องที่จับเธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้พวกบอดี้การ์ดเอาตัวไปมันยังตรึงอยู่ในความรู้สึก ในหัวคิดสรรพัดวิธีที่จะทำให้น้องเล็กได้รับ [อิสรภาพ]แต่ทางออกทุกทางกลับจบด้วยทางตันเหลือเพียงทางออกเดียวที่ตัวเธอเฝ้าภาวนามาเป็นอาทิตย์

     

     


    ...ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสมันช่างน้อยนิดแต่มือเรียวก็ยังคงสอดประสานกันเช่นทุกวันก้มหน้าภาวนาอีกครั้ง อีกครั้ง....และอีกครั้ง...

     

     

     

    ...องค์พระผู้เป็นเจ้าได้โปรด...

    โปรดช่วยดลบันดาลให้พวกเขาเหล่านั้นมาที่นี้ทีเถิด

    ..

    .

    และเหมือนพระเจ้าจะได้รับเสียงภาวนาแล้ว

     

     


     

    "เฮียกาฉันยังไม่แก่นะ!!!"


    "หมูป่า...เราไม่ควรแสดงตัว"

     

     

     

     

    เสียงแหลมใสที่ดังเข้ามาในโสตประสาทเรียกให้แคร์กวาดสายตาหาต้นเสียงทันทีเพราะชื่อเรียกที่คงไม่มีทางเป็นใครอื่นแน่หากไม่ใช่ [เขา] คนนั้นตาเรียวมองตามซอกซอยเท่าที่ดวงตาจะอำนวยและในที่สุดผ้าคลุมสีดำสนิทที่ตรึงอยู่ในความทรงจำก็ปรากฏในคลองสายตา

     

     

     

    "นายท่าน...อีกาดำ"

     

     

     

    "ใช่จริงๆด้วย!ในที่สุดพวกเขาก็มา เพลิน!"แคร์เอ่ยด้วยความยินดีร่างกายผอมบางรีบลุกขึ้นยืนจัดแจ้งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยท่ามกลางสายตาของน้องๆที่จ้องมองด้วยความสงสัยพอมองไปตามสายตาของคนเป็นพี่ก็พบเพียงซอกซอยอับชื้นไร้ผู้คนเช่นทุกวัน

     

     

     

    "พี่แคร์พี่หมายถึงใคร?"

     

     

     

    "ก็คนช่วยชีวิตน้องไง!ถ้าไม่อยากให้น้องไปเป็นทาสใคร...เราก็ต้องให้นายท่านท่านนั้นซื้อน้องไปให้ได้!"

     

     

     

    "พี่หมายความว่ายังไง!ถ้าถูกซื้อตัวไปยังไงก็ไปเป็นทาสอยู่ดีนะ...เฮ้ย!เดี๋ยวสิ พี่แคร์อย่าออกไปข้างนอกสิพี่!"เพลินเอ่ยเสียงลั่นเมื่อคนตัวบางไขกุญแจหลังร้านอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันที่จะเอ่ยห้ามขาเล็กก็พาเจ้าของของมันก้าวออกไปเสียแล้ว

     

     

     

     

    "เพลินฝากเฝ้าพวกการ์ดให้พี่ด้วยนะ!"เสียงใสตะโกนบอกน้องสาวร่วมสาบานอีกครั้งโดยไม่แก้ข้อสงสัยในกับบรรดาหญิงสาวที่ใจหล่นไปยังตาตุ่มเมื่อเห็นพี่สาวแสนรักวิ่งออกจากร้านไป...

     

     

     

    ขาเรียวออกแรงวิ่งไปยังจุดหมายตราบเท่าที่ร่างกายยังคงเชื่อฟังคำสั่งจากสมองและจิตใจตาเรียวจ้องมองไปยังบุคคลเบื้องหน้าเพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่านั่นคือความหวังที่เธอเฝ้ารอและแน่นอนว่าเธอไม่มีวันมองพลาด

     

     

     

    เสื้อคลุมสีมืดสนิทพริ้วไหวโบกสะบัดล้อตามแรงลม 

    ทุกย่างก้าวที่ชายผ้าปลิวผ่านต่างเงียบสงัดราวกับกำลังก้มหัวให้ด้วยความเกรงต่ออำนาจที่ไร้เสียง 

     

    ...เหมือนครั้งอดีต...

     

     

     

    "ขอโทษนะคะนายท่าน..แฮ่กๆ"เสียงพูดปนกับเสียงหอบหายใจเอ่ยเรียกบุคคลทั้งสองให้หันกลับมามองตาเรียวมองหญิงสาวในชุดรัดรูปสีแดงสดที่บดบังใบหน้าด้วยหน้ากากหมูป่าและเลื่อนสายตามายังบุรุษในชุดขนนกสีดำทั่วตัวที่ซ่อนใบหน้าไว้ภายตาหน้ากากอีกาดำที่แสนคิดถึงก่อนจะโค้งให้นายท่านทั้งสองอย่างนอบน้อม

     

     

     

     

    "มีอะไรสาวน้อย"อีกาดำมองหญิงสาวผอมบางแล้ววิเคราะห์ตามความเคยชินถึงระดับความอันตรายของคนตรงหน้ามือปืน? มือสังหาร? นกต่อ? นักฆ่าที่สนใจอยากลองดีมาเด็ดหัวพวกเขาตอนกลางวันแสกๆ?...และสรุปสุดท้ายที่เขาให้กับตัวเอง [แค่คนธรรมดา] 

     

     

     

    เสียงแหบที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ได้ยินมันครั้งสุดท้ายริมฝีปากยกยิ้มบางที่เธอได้มีโอกาสมายืนอยู่ตรงหน้าคนๆนี้อีกครั้ง....คงจะจำเธอไม่ได้แล้วสินะแน่ล่ะ ก็ตอนนั้นเธอพึ่งเจ็ดขวบ...

     

     

     

     

    "น..นายท่านอีกาดำและนายท่านหมูป่าแห่ง [Black Hole] ใช่ไหมคะ!?"

     

     

     

    "หืม?...ใช่แล้ว มีอะไรกับพวกเรางั้นเหรอ?"หน้ากากหมูป่าเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัย...คงมีไม่กี่คนในโลกมืดที่อยากยืนคุยถามสารทุกข์สุกดิบกับคนแบบพวกเธอหรอกหรือ อาจมี?

     

     

     

    "ขอบคุณพระเจ้าขอบคุณที่ท่านมาที่นี้...ท....ท่านสนใจจะซื้อทาสใช่ไหมค่ะ ถึงได้มาที่นี้?"

     

     

     

    สิ้นประโยคคำถามของแคร์บรรยากาศรอบข้างกลับสั่นสะท้านด้วยแรงกดดันจากหน้ากากอีกาดำ [ทาส] คำที่ทุกคนในโลกมืดรู้ดีว่าไม่ควรเอ่ยมันต่อหน้าองค์กรอันตรายอย่าง[Black Hole] และโดยเฉพาะกับพญานกปีศาจตรงหน้า

     

     

     

    "........"

     

     


     

    "เฮียอย่าทำท่าเหมือนจะจิกไส้เธอกินสิ ตรงหน้าน่ะ ผู้หญิงนะไม่ใช่คนร้าย!"หมูป่าที่รีบเข้ามาขวางก่อนเฮียใหญ่คนนี้จะได้สาวไส้หญิงสาวตรงหน้ากินแทนอาหารเย็นมือบางดันให้คนความอดทนต่ำกับคำว่า ทาสออกห่างจากคู่กรณีพรางหันมาคุยกับสาวร่างเล็กต่อแทน

     

     

     

    "พวกเราแค่เดินผ่านมาไม่คิดจะซื้อทาสหรอก องค์กรพวกฉันไม่มีทาสคิดว่าเรื่องนี้ทุกคนในโลกมืดน่าจะรู้นะ"

     

     

     

    "องค์จักรพรรดินีสีขาว...เกลียดคำนี้"เสียงแหบเอ่ยย้ำขึ้นอีกครั้งไม่ใช่แค่เขา....แต่บอสใหญ่ของพวกเขาก็เกลียดเช่นกันทั้งๆที่คนในโลกมืดน่าจะรู้ดีว่าคำประกาศก้องในวันนั้นของบอสใหญ่มันคือความสัตย์จริงไม่ใช่แค่สร้างภาพ

     

     

     

    "ดิฉันรู้ดีคะ!และนั่นคือสิ่งที่ฉันรอฟังมาตลอดทั้งอาทิตย์"

     

     

     

    "เดี๋ยวก่อน!ทำอะไรของ.."

     

     

     

    "ได้โปรดเถอะคะจะให้ฉันกราบหรืออะไรก็ได้แต่ช่วยประมูลน้องของพวกฉันออกไปจากที่นี้ที่เถอะนะคะพวกเราทนเห็นเขาไปเป็นตัวบำเรอให้คนอื่นไม่ได้!"ร่างเล็กก้มตัวลงกราบแทบเท้าของนายท่านทั้งสองพื้นดินกลิ่นชื้นที่ไม่เหมาะกับการก้มกราบไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใดสำหรับเธอในเวลานี้สิ่งเดียวที่เธอคิดคือชีวิตของคนสำคัญที่เฝ้ารออยู่

     

     

     

    "ใจเย็นสิ!ลุกขึ้นมาเถอะน่า มาก้มกราบอะไรตรงนี้พื้นมันสกปรกนะ...เธอ..."

     

     

     

    "ขอร้องล่ะคะดิฉันรู้ดีว่าองค์กรของพวกท่านไม่มีทาสและไม่ซื้อทาส คำสัตย์สาบานที่ [จักรพรรดินีสีขาว]เคยพูดไว้ ฉันยังจำมันได้ขึ้นใจ"แคร์นึกย้อนถึงวันที่เธอได้เห็นหญิงสาวผู้สง่างามในชุดเดรสสีขาวอันสูงศักดิ์ผู้ซ่อนใบหน้าไว้ใต้หน้ากากนาม [จักรพรรดินีสีขาว] เสียงหวานที่แสนอาทรแต่ทรงอำนาจในทีเปล่งคำสัตย์ที่ทำให้ทาสทุกชีวิตอยากเข้าไปอยู่ใต้บัชญาของท่าน

     

     

     

    [องค์กรของเราไม่มีทาส ไม่มีใครสมควรเป็นทาส]

     

     

     

    "เพราะแบบนั้นถ้าท่านซื้อน้องไปพวกท่านจะต้องไม่ให้เขาไปเป็นทาสแน่ๆ"

     

     

     

    นั้นคือทางออกที่เธอคิดขึ้นได้ทันทีเมื่อน้องเล็กต้องถูกประมูลถ้าให้องค์กรที่ตระบัดสัตย์ว่าไม่มีทาสในองค์กรเป็นอันขาด ซื้อตัวน้องไปแน่นอนว่าจะต้องไม่ไปเป็นทาสแน่ๆ อาจจะเป็นคนรับใช้ คนดูแลสวน หรืออะไรก็ตามแต่แต่ที่แน่ๆมันดีกว่าการถูกตีตราว่าเป็น [ทาส] 

     

     

     

     

     

    ..แค่พวกท่านเท่านั้น..

    ที่ฉันมั่นใจ

     

     

     

     

    "ไม่มีเวลาแล้วดิฉันขอร้อง คุณอยากได้มือปืนเก่งๆรึเปล่า น้องฉันมีความสามารถด้านปืนสูงมากถ้าคุณ...."

     

     

     

    "พวกเราไม่ซื้อ[ทาส]"

     

     

     

    "ด...เดี๋ยวก่อนสิคะ!...นายท่าน!!......."มือเรียวที่พยายามจะฉุดรั้งบุรุษใต้หน้ากากเป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาที่มองจ้องมาที่เธอ ถึงจะมีหน้ากากบัดบังอยู่แต่ความรู้สึกเยือกเย็นที่จุกอยู่ที่ลำคอเป็นตัวการันตีได้อย่างดีว่า....มันคือประโยคบอกให้หยุด

     

     

     

    "เฮียกา...เฮ่อ~ขอโทษนะ แต่องค์จักรพรรดินี ท่านไม่ชอบการซื้อชีวิตหนึ่งด้วยเงินและนั้นเป็นกฏขององค์กรเราซะด้วย เธอเองก็รีบกลับไปเถอะ"หมูป่าเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะจับมือเรียวของอีกฝ่ายมาบีบเบาๆแทนคำขอโทษและเดินจากไปไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยแต่การบังคับให้คนอย่างอีกาดำเข้าไปในงานประมูลทาสแล้วซื้อทาสเนี่ย...ต่อให้โลกแตกก็ไม่มีวันนั้นหรอก 

     

     

     

     

    "แต่...."

     

     


    ...ความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยชีวิตน้อยๆที่แสนรักให้ออกไปจากนรกบนดิน..

    ..ความหวังสุดท้ายที่เธอเฝ้ารอมาทั้งอาทิตย์..

    กำลังจะเดินจากไป..

    ...

    ..

    .

    ใครมันจะไปยอมกันเล่า!!! 

     

    [เมื่อหัวใจได้ถืออำนาจเหนือสมองไม่ว่าผิดถูกหรืออันตรายปรางตายแค่ไหนคนเราก็ยอมเสี่ยง]

     

     

     

     

    "แต่ถ้าท่านไม่ซื้อหนึ่งชีวิตด้วยเงิน...หนึ่งชีวิตนั้นจะต้องตายทั้งเป็นอยู่ในมือพวกมากกามที่คิดว่าหนึ่งชีวิตเป็นแค่ของเล่นระบายความใคร่!นั้นมันคือสิ่งที่ท่านต้องการงั้นเหรอ!!!" ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากันก่อนประโยคที่กลั้นกรองจากหัวใจจะถูกตะโกนก้องให้อีกฝ่ายได้รับรู้ความรู้สึก

     

     

     

     

    "......"

     

     

     

    "ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วจริงๆ"

     

     


    "ถ้าฉันไม่กลับเข้าไปในร้านฉันจะถูกยิงตายตรงนี้ ต่อหน้าพวกท่าน"แคร์นั่งพับเพียบนิ่งอยู่กับที่แววตาที่เคยสั่นไหวกลับมาแน่วแน่อีกครั้งพร้อมจ้องมองสายตาคู่เดิมที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากความเย็นยะเยือกเมื่อครู่ที่ได้สัมผัสยังคงตรึงอยู่ในทุกความกลัว....แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการแหกกฏของร้านอีกแล้ว

     

     

     

    ..ทุกที่ล้วนมีกฏหอเพลินไลก็เช่นกัน กฏที่เหล่าสาวขายบริการต้องจดจำและท่องให้ขึ้นใจ

    ถ้าหากยังอยากมีหัวใจไว้สูบเลือดเลี้ยงชีวิตต่อ..

     


    [กฎข้อที่ 1. ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรห้ามไม่ให้สาวขายบริการทุกคนออกจากตัวร้านเป็นอันขาดถ้าผิดกฏ...ให้ยิงทิ้งในทันที]

     

     

     

    "เธอ..."หมูป่าหยุดชะงักอยู่กับที่ดวงตากลมใต้หน้ากากมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความตกใจถึงเธอจะอยู่ในโลกมืดและความรู้สึกเมื่อได้ยินคำว่า [ตาย]มันแสนชินชาจนเหมือนเป็นแค่คำบอกอรุณสวัสดิ์แต่นี้...มันไม่ใช่คำที่ควรจะออกมาจากปากผู้หญิงตัวเล็กๆที่แค่ผลักทีเดียวก็ล้มหัวแตกแบบนี้

     

     

    "มันฟังดูบ้าและฉันรู้ว่าพวกท่านคงไม่แคร์อะไรกับแค่ชีวิตผู้หญิงขายบริการที่มายืนเถียงบุคคลระดับสูงอย่างท่านทั้งสอง...ที่จริงฉันสมควรโดนท่านสั่งเก็บไปนานแล้วด้วยซ้ำ"

     

     

     

    "พี่แคร์กลับมาเถอะน่า!อยากตายรึไงพี่!"เพลินตะโกนลั่นเมื่อพี่สาวที่เธอเคารพรักยังคงนั่งนิ่งในขณะที่เสียงฝีเท้าของบอดี้การ์ดใกล้เข้ามาทุกทีถ้าพวกมันเห็นเมื่อไรนั้นคือเครื่องบอกเวลาตายของคนเป็นพี่

     

     

     

    "พี่ไม่กลับ.."

     

     

     

    "รีบกลับเข้าไปอยากตาย?"นัยน์ตาใต้หน้ากากอีกาดำจ้องมองหญิงสาวเบื้องหน้านิ่งส่งเสียงเย็นที่ไม่ว่าใครเป็นต้องทำตามคำของเขาโดยไม่คิดขัดแต่ท่าทีและแววตาของอีกฝ่ายไม่มีคำว่า กลับ ในหัวเลยแม้แต่น้อย

     

     

     

     

    "ถ้าตายแล้วมันช่วยได้...ฉันก็ยอม"

     

     

     

    "ใจเย็นๆหน่อยสิฉันว่าเธอรีบกลับไปเถอะ ฉันกับเฮียไม่อยากเห็นใครตายหรอกนะ ชีวิตมันสำคัญนะ!"

     

     

     

    "ฉันรู้คะว่าชีวิตสำคัญแต่...สำหรับฉันน้องสำคัญกว่านั้นมาก"

     

     

     

    "สำคัญเกินกว่าที่จะปล่อยให้ตกลงเหวลึกแบบพวกเรา"....ตกลงเหวลึกที่เรียกว่า [ทาส] ที่แค่ชีวิตตัวเองยังเลือกหายใจเองไม่ได้!

     

     

     

    "น้องชาย?"

     

     

     

    "ไม่ใช่หรอกคะ...เขาไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับฉันไม่ได้เป็นพี่น้องหรือญาติกับใครเขาเป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่โดนครอบครัวทอดทิ้งก็แค่นั้น"ภาพเด็กชายตัวน้อยที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่กองขยะหลังร้านยังแจ่มชัดในห้วงความคิดดวงตาสีใสที่กว่าจะเกลี่ยกล่อมให้ไปกับเธอได้ก็กินเวลาไปหลายวันและมันเป็นหนึ่งในสีสันที่สวยที่สุดในความทรงจำของเธอ

     

     

     

    "ท่านคงคิดว่ามันเพี้ยนที่คิดจะตายเพราะแค่ช่วยเด็กที่ไม่ใช่สายเลือดตัวเอง....แต่พวกเราหญิงขายบริการที่ต่ำชั้นมองเขาเป็นแสงสว่างเป็นความสุขหนึ่งเดียวในโลกใต้ดินเป็นเด็กน้อยที่เห็นอีตัวอย่างพวกเราเป็นคนปกติ"

     

     

     

    ...แสงสว่างน้อยๆที่ไม่ควรให้มันจบลงด้วยน้ำมือโสโครกของพวกมากกาม...

     

     

     

    "พี่แคร์กลับมา!..ขอร้อง!!"เสียงเว้าวอนจากฝั่งเพลินพิไลยังคงดังไม่ขาดสายและยิ่งดังขึ้นเมื่อเส้นตายที่พวกเธอไม่อยากให้มาถึงจะปรากฏตัวบอดี้การ์ดหนุ่มร่างยักษ์ที่เดินตรวจตราตามหน้าที่หยุดชะงักเมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติก่อนเสียงเข้มจะดังก้อง...

     

     

     

    "เฮ้ย!อีตัวตรงนั้น ออกมาได้ยังไงว่ะ มันผิดกฎของร้านรู้ใช่ไหม!?"

     

     

     

     

     

    "รีบกลับมาอย่าหาว่ากูไม่เตือน!"

     

     

     

    "กลับไป..."อีกาดำเอ่ยอีกครั้งด้วยเสียงเรียบนิ่งและแน่นอนว่าคำตอบยังคงเป็นคำเดิมร่างผอมบางที่สูดผอมเพราะโรคภัยยังคงนั่งนิ่งทำเพียงแค่แย้มยิ้มบางเพื่อบอกว่านี้คือทางที่ตัดสินใจและพร้อมยอมรับทุกสิ่ง

     

     

     

    "ฉันบอกท่านแล้วว่าฉันยอม...ถ้ามันจะช่วยน้องของพวกเราได้"

     

     

     

    "......"

     

     

     

    "เฮียกายอมช่วยเธอเถอะ...เธอทำถึงขนาดนี้แล้วนะ เอาเด็กคนนั้นมาเป็นเด็กฝึกงานก็ได้!"

     

     

     

    "....."

     

     

     

    "ถ้าเฮียไม่ซื้อ!ฉันซื้อเอ..."

     

     

     

    "องค์จักรพรรดินีเกลียดคำว่า[ทาส] หมูป่า"สิ้นเสียงของเสนาธิการหลักแห่ง BlackHole นั้นคือคำประกาศิตบอกให้หมูป่าเลิกความคิดในการซื้อเด็กคนนั้นไปได้เลย....ถึงเธอจะเล่นหูเล่นตากับเฮียเป็นปกติจนคนอื่นชินตาว่าเธอก็มีตำแหน่งทัดเทียมกับอีกฝ่ายแต่จริงๆแล้วตำแหน่งเสนาธิการหลักก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเมื่อใดที่ออกคำสั่งแล้วเธอที่เป็นแค่รองก็ไม่สิทธิ์โต้เถียงได้

     

     

     

    "เฮียกา..."

     

     

     

    "กูให้โอกาสมึงแล้วนะรู้ใช่ไหมถ้าผิดกฎของร้านมันจะเป็นยังไง..."เสียงบอดี้การ์ดแสนเรียบนิ่งเหมือนนัยน์ตาสีเข้มของหญิงสาวไร้ความหวาดกลัว ทุกวินาทีเปรียบเหมือนระเบิดอยู่ที่เวลาว่ามัจจุราชจะดึงสลักระเบิดออกเมื่อใด

     

     

     

    "รีบกลับไปเถอะนะฉันไม่อยากเห็นใครตาย..."เสียงใสเอ่ยขอร้องคนตรงหน้าที่ยังแย้มยิ้มส่งให้เธอ....ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาในลำคอจนไม่รู้จะพูดอะไรเธอคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ต้องการช่วยคนที่รักก็เท่านั้นเองมันต่างจากพวกโลภมากที่เธอคงไม่คิดจะใส่ใจแน่ๆ

     

     

     

    "ฉันมาไกลเกินกลับไปแล้วคะนายท่าน...ยังไงซะพวกนั้นก็คงฆ่าฉันอยู่ดี"

     

     

     

    "........."

     

     

     

    "เฮียกา!"หมูป่าตะคอกเสียงลั่นเหมือนคนใต้หน้ากากสีดำก้าวเดินออกไปจากจุดเดิมหันแผ่นหลังโดยไม่คิดจะฟังเสียงตะคอกจะรองเสนาธิการทิ้งให้ทั้งหมูป่าและแคร์มองตามจากด้านหลัง 

     

     

     

    แคร์มองแผ่นหลังกว้างอย่างเข้าใจเมื่อคำตอบของอีกฝ่ายชัดเจนถึงขั้นนี้ก็ไม่มีอะไรที่เธอต้องพูดอีกแล้วรอยยิ้มบางหุบลงเล็กน้อยอย่างหมดหวังตอนนี้คงทำได้แค่สะสางเรื่องที่คาใจเธอเท่านั้น....คำพูดคำเดียวที่เธอต้องการพูดมันมาตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา

     

     

     

    "นายท่านอีกาดำฉันขอบพระคุณท่านมากนะคะ...."เสียงแผ่วเบาเอ่ยขอบคุณบุคคลเบื้องหน้าริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนพรางพนมมือไว้กลางอก ถึงคนรับฟังจะไม่ได้หันมาฟังคำกล่าวนี้....แต่อย่างน้อยก็ขอขอบคุณท่านที่ได้เคยช่วยชีวิตคนไร้ค่าคนนี้ ให้เจอกับความสุขตัวน้อย..

     

     

     

     

    ...ผ้าคลุมสีดำพริ้วไหวอีกครั้งเหมือนครั้งแรกที่เธอเห็นแต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้ไร้เสียงตอบกลับมีเพียงเสียงของฝีเท้าที่ก้าวเดินห่างไกลออกไปจากตัวเธอพร้อมกับความหวังสุดท้ายที่มลายหายไปเช่นกัน

     

     

     

    "เฮียกา!คิดจะปล่อยเธอคนนั้นไปงั้นเหรอ!?"เสียงแหลมเอ่ยปากถามคนแก่กว่าด้วยความไม่เข้าใจถึงคนตรงหน้าจะขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและไร้เมตตา แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปมากเกินกว่าที่จะเป็นเฮียอีกาดำที่เธอรู้จักและเคารพร่างเล็กวิ่งไปดักหน้าคนใจร้ายก่อนเรียวคิ้วสวยจะเลิกขึ้นเมื่อสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า......

     

     

     

     

    "เฮีย...?"

     

     

     

     

    ...

     

     

     

     

    "ไปแล้ว....สินะ"

     

     

     

    ...ตาเรียวมองความหวังสุดท้ายที่ก้าวเดินออกไปต่อหน้าต่อตาทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายให้เก็บไปชวนฝันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ทั้งๆที่มันคือ เรื่องจริง แคร์เค้นยิ้มสมเพชกับความสามารถของตัวเองที่สุดท้ายก็ช่วยอะไรไม่ได้ ใบหน้าหวานหันกลับไปต้นทางที่มีน้องๆรอเธออยู่ทั้งน้ำตาและบอดี้การ์ดร่างสูงที่แสยะยิ้มพร้อมอาวุธร้ายในมือ

     

     

    "ขอโทษนะทุกคนทางออกสุดท้ายของพวกเรา...หมดลงแล้ว พี่ไม่ได้เรื่องเองล่ะ ขอโทษนะ"

     

     

     

    "พี่แคร์...."

     

     

     

    "จากนี้อยู่กันดีๆล่ะอย่าทะเลาะกันเข้าใจไหม....เพลิน เธอโตสุดรองจากพี่ฝากพวกน้องๆด้วยล่ะ"เสียงใสเอ่ยสั่งเสียกับเพลินหน้าที่ต่อจากนี้คงเป็นของน้องสาวร่วมสาบานคนนี้แล้ว

     

     

     

    "กูเตือนมึงแล้ว.."

     

     

     

    อาวุธที่สามารถดับชีวิตหนึ่งได้เพียงแค่ปลายนิ้วลำกล้องถูกยกขึ้นจ่อหน้าผากมนนัยน์ตาสีเข้มหุบลงเตรียมรับคมเคียวของมัจจุราชในคราบมนุษย์ ก่อนเสียงของใครบางคนจะดังก้องในหัว

     

     


    [พี่แคร์ฮะ!]

    [ผมรักพี่นะฮะ!]

     

     


    เขาว่ากันว่าเมื่อถึงคราสุดท้ายของชีวิตภาพความทรงจำที่แสนสุขจะถูกฉายเข้ามาในมโนทัศน์...คงจะเป็นเรื่องจริงสินะ

     

     

     

     

    "พี่ก็รักเรามากนะแสงสว่างตัวน้อยของพี่"

     

     

     

    "พี่แคร์!!!!!..."

     

     

    ปัง!!!!....เสียงคำรามของอาวุธสีมันวาวดังก้องในทุกโสตสัมผัสตรึงให้ทุกสายตาจดจ้องไปที่หญิงสาวผมสีดำสนิทที่แย้มยิ้มเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลาบุคคลสำคัญ

    ....

    ...

    ..

    .

     

    "ทำอะไรเสียงดังน่าหนวกหู"

     

     

    ...หรืออาจไม่สุดท้าย...

     

     

    เสียงแหบแผ่วเบาแต่ทว่าทรงอำนาจดังขึ้นข้างหูดวงตาสีเข้มเบิกกว้างเมื่อเสียงกระสุนปืนที่ได้ยินไม่ได้มาจากบอดี้การ์ดแต่กลับเป็นลูกกระสุนสีดำจากบุรุษในหน้ากากสีดำนิลกระบอกปืนสีดำด้านที่สลักลวดลายสีทองไว้กลางกระบอกสัญลักษณ์ที่ไม่มีใครหน้าไหนในโลกมืดไม่รู้จัก 

     

     

    ....[BlackHole]....

     

     

    "น..นายท่านอีกาดำ"

     

     

     

    "ท...ท..ท่านอีกาดำ...ท...ท่านหมูป่า.."บอดี้การ์ดหนุ่มรีบโค้งตัวลงต่ำเมื่อพบบุคคลระดับสูงของโลกมืดเสียงเรียบนิ่งแปรเปลี่ยนเป็นสั่นไหวจนสัมผัสได้เหงื่อที่เริ่มซึมออกมาทั่วทั้งร่างเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่าคำเล่าลือ...ว่าการยืนอยู่ต่อหน้า[ตัวอันตราย] แห่งโลกมืดไม่แค่เรื่องหลอกเด็ก

     

     

     

    "คิดจะยิงก็ยิงเลยรึไงพนักงานร้านนี้เขามารยาทแย่กันจริงเนอะเฮียกา"หมูป่าเอ่ยเสียงใสพรางเดินอ้อมไปฉุดให้หญิงสาวที่พึ่งผ่านวินาทีเฉียดตายมาหยกๆให้ลุกขึ้นมือเล็กปัดเศษดินเศษฝุ่นออกจากคนตัวเล็กพร้อมยกยิ้มกว้างใต้หน้ากาก

     

     

     

    "หึ..."

     

     

     

    "ท..ท่านทั้งสองมีเหตุอะไรครับทำไมถึงต้อง.."

     

     

     

    "เธอคนนี้แค่แจ้งรายละเอียดการค้าทาสให้ฉันกับเฮียฟังฉันเป็นคนพาเธอออกมาเอง นายไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเธอ"

     

     

     

     

    "ต..แต่ทางเรามีกฎ..."ประโยคบอกเล่าจากปากบอดี้การ์ดหนุ่มถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเสียงเรียบนิ่งที่สามารถเยือกแข็งคนให้ตายได้ทั้งเป็นถูกส่งมาทักทายราวคมเคียวมัจจุราชจ่ออยู่ชิดคอหอยถ้าหากยังดื้อดึงที่จะพูดต่อ....คอมันอาจไม่อยู่ที่เดิม

     

     

     

    "พวกเรากำลังฟังรายละเอียดจากเธอคนนี้อยู่"

     

     

     

    "เฮือก!!....ข..ขอประทานโทษครับท่านอีกาดำ ท่านหมูป่า"

     

     

     

    "ถ้าพวกเราฟังรายละเอียดเสร็จเมื่อไรฉันจะพาเธอกลับไปที่เดิมเอง กลับไปประจำที่ของนายเถอะน่า ไปๆ"

     

     

     

    "ค..ครับท่านหมูป่า...ขอบพระคุณครับ...อึก!?"บอดี้การ์ดหนุ่มโค้งตัวก่อนจะต้องสะดุ้งตัวโยนเมื่อปลายกระบอกสีดำด้านชี้ตรงมาที่ปากของตนในระยะประชิดจนแทบได้กลิ่นดินปืนลอยกรุ่นก่อนเสียงเรียบนิ่งจะเอ่ยคำสอนแสนแผ่วเบาแต่ตราตรึงอยู่ในทุกอณูของสมอง

     

     

     

    "อีกอย่าง...คำว่าอีตัวมันไม่ใช่คำไว้เรียกผู้หญิงจำไว้"

     

     

     

    "ค..ครับท่าน.."

     

     

     

    ร่างของบอดี้การ์ดหนุ่มหายลับเข้าไปในร้านเหลือทิ้งไว้แค่หญิงสาวที่ยังคงสบสนกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปแววตาสับสนปนข้องใจถูกส่งให้คนใต้หน้ากากอีกาอย่างไม่ปิดบัง....ในเมื่อเธอเห็นท่านทั้งสองหายลับไปในซอกหลืบแล้วแท้ๆแต่ทำไมถึงมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอภายในไม่กี่วินาที

     

     

     

     

     

    "นายท่าน..ทำไม?"

     

     

     

    "เฮ่อ~ทำเอาตกอกตกใจหมด เฮียเนี่ยนะ!ทดสอบอะไรไม่เข้าท่าเลย!!"มือเล็กฟาดแรงๆไม่ยั้งบนเสื้อคลุมขนนกสีดำอย่างคาดโทษกับคนหน้านิ่งที่ทำเธอใจหายสิ่งที่เธอเห็นตอนไปยืนขวางหน้าอีกคนคือรอยยิ้มมุมปากที่ชอบยกขึ้นเมื่อเจอสิ่งพึงพอใจนั่นทำให้เธอรู้ทันทีว่าเฮียกาคนขรึมคิดจะช่วยหญิงสาวอยู่แล้วแค่...อยากทดสอบอย่างที่ชอบทำเฉยๆ

     

     

    "ทดสอบ?"

     

     

     

    "ก็แค่ทดสอบความตั้งใจของเธอ...ว่ามันจริงรึเปล่า"

     

     

     

    "คนสำคัญไม่ใช่รึไง....อย่ามายอมตายแล้วทิ้งสิ่งสำคัญไว้ข้างหลังแคร์"หน้ากากอีกาหันไปทางหอนางโลมที่มีบรรดาเด็กสาวหญิงสาวยืนน้ำตานองหน้าจ้องมาทางพี่สาวคนโตอย่างดีใจเสียงแหบเอ่ยเตือนอีกฝ่ายที่คิดจะทิ้งดวงตานับสิบคู่นั้นไปอย่างขาดสติ

     

     

     

    "เธอยังต้องดูแลคนอื่นๆเด็กพวกนั้นเห็นเธอเป็นเสาหลัก...ถ้าเสาหลักหายไปเด็กพวกนั้นจะอยู่ยังไง"

     

     

     

    "ฉันเข้าใจคะนายท่าน....แต่น้อง"เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา จงใจลดเสียงในประโยคท้ายอย่างหมดหวังถึงนายท่านอีกาจะช่วยชีวิตเธอไว้แต่ความเป็นจริงก็ยังคงตอกย้ำ....

     

     


    ...ความหวังสุดท้ายหมดลงแล้ว...

     

     

     

    "ส่วนเด็กคนนั่น..."

     

     

     

    ....หรืออาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความหวังครั้งใหม่...

     

     

     

    "ฉันจะรับฝากเอง"

     

     

     

    เสียงแหบเอ่ยประโยคที่เธอหวังจะได้ยินมาตลอดอาทิตย์ดวงตาเรียวเบิกกว้างเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันเธอเองก็ไม่แน่ใจ...แต่ที่แน่ใจคือเสียงเต้นของหัวใจที่เร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆเพื่อตอบย้ำว่านี้ไม่ใช่ความฝันที่เธอหลอกตัวหลังสิ้นชีพไปแล้วมือเรียวพนมขึ้นเหนือหัว แทบจะทรุดลงกับพื้นเพื่อกราบขอบคุณผู้มีพระคุณอีกครั้งถ้าไม่ติดว่าหน้ากากหมูป่าห้ามเธอไว้

     

     

     

    "ข..ขอบพระคุณคะ..อึก..ขอบพระคุณจริงๆบุญคุณครั้งนี้..ฉ..ฉันต้องหาทางทดแทนให้ท่านแน่ๆคะ...ขอบคุณ...ขอบคุณจริงๆคะ"

     

     

     

    "พอแล้วๆขอบคุณแทนคนทั้งโลกแล้วเนี่ย แคร์....พาพวกเราเข้าไปข้างในดีกว่าขอที่นั่งแบบไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นได้ไหมพอดีคงไม่มีใครอยากนั่งใกล้ตัวอันตรายแบบนายท่านอีกาดำคนนี้หรอก และถ้าจะให้ดีขออะไรเย็นๆ...."

     

     

     

    "หมูป่าอย่าดื่มในเวลางาน"เสียงแหบดักทางรองเสนาธิการตัวดีที่คิดจะกินเหล้าฟรีแล้วลงบิลเป็นชื่อเขาอีกตามเคยคนโดนดุก็ได้แต่ทำหน้าบูดไปตามระเบียบ...แต่ให้แคร์แอบเอามาให้ก็ได้ไม่ง้อหรอก!

     

     

     

     

    "ฮิ...เชิญนายท่านอีกาดำนายท่านหมูป่า ด้านในร้านได้เลยคะ การประมูลจะเริ่มในอีกสิบนาทีฉันคิดว่าเขาคงออกเป็นคนสุดท้ายของงานดิฉันจะพาท่านไปยังที่นั่งพิเศษเอง"มือเรียวผายมือไปทางประตูทางเข้าบานใหญ่ของหอเพลินพิไลขาเล็กก้าวนำไปเพื่อจับจองที่นั่ง VIP ของร้านให้นายท่านทั้งสองก่อนเสียงแหบจะเอ่ยคำถามที่ทำให้เธอต้องหยุดชะงัก...

     

     

     

     

    "อะไรทำให้เธอมั่นใจว่าฉันจะไม่จับน้องเธอไปขายให้ซ่องอีกที"

     

     

     

    "เฮีย....?"คิ้วสวยขมวดเป็นปมเมื่อประโยคที่ไม่คาดคิดว่าจะออกมาจากปากของคนเกลียดการซื้อขายทาสอย่างหน้ากากอีกาดำ....บอกทีเฮียกาเป็น ไพโบลาร์ เหรอ!? อารมณ์เปลี่ยนเร็วยิ่งกว่าจรวดติดฟังก์ชั่น8Gอีก!

     

     

     

    "ฉันมั่นใจคะ"

     

     

     

    "......."

     

     

     

    "เพราะคำพูดแรกที่ท่านพูดกับฉันคือ...[มีอะไรสาวน้อย]....ไม่ใช่...[ฉันไม่ซื้อเธอ]หรือ[ขายเท่าไร่].."

     

     

     

    "......"

     

     

     

    "ตลอดชีวิตที่ผ่านมามีไม่กี่คนที่มองฉันเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง....นั่นทำให้ฉันมั่นใจคะนายท่าน"

     

     

     

     

    "เธอ.....โตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ดี"

     

     

     

    คำชมที่เรียกให้แววตาสีเข้มเบิกกว้างอีกครั้งผู้มีพระคุณที่เธอเฝ้าหวังว่าสักวันจะได้เอ่ยคำขอบคุณสักครั้งในขณะที่เขายังจำเธอได้....และเธอได้ทำมันสำเร็จแล้วจริงๆ

     

     

     

    "ท....ท่านจำได้"

     

     

     

    "มีไม่กี่ชีวิตที่ดิ้นรนเพี่อคนอื่น.....เธอเป็นคนเดียวที่ฉันเห็นทั้งในวันนี้และในวันนั้น"ภาพเด็กสาวตัวจ้อยที่อ้อนวอนขอกุญแจปลดประตูกรงของเด็กคนอื่นทั้งๆที่เธอสามารถหนีไปเองคนเดียวได้แท้ๆแต่แขนเล็กที่แค่บีบเบาๆคงแหลกคามือกลับยื่นออกมาขอกุญแจกับเขาด้วยท่าทีหวาดกลัวเสียเต็มประดาแต่ก็มุ่งมั่นจนต้องมอบกุญแจให้ไป....แน่นอนว่าเขาจำแววตามุ่งมั่นนั้นได้ตั้งแต่แรกแล้ว

     

     

     

    "นั่นถือเป็นคำชมที่ฉันไม่สมควรได้รับ...แต่ขอบพระคุณมากคะนายท่าน"แคร์เอ่ยตอบทั้งรอยยิ้มและสายน้ำตาเส้นเล็กที่ไหลอาบแก้มขาวก้มโค้งเพื่อแสดงความขอบคุณอีกครั้งและอีกครั้งจนกว่าจะทดแทนบุญคุณคนตรงหน้าได้หมด

     

     

     

    "ขอฝากแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของพวกเราด้วยนะคะ"

     

     

     

    "ฉันจะดูแลเขาอย่างดี"

     

     

     

    "เย้ๆๆจะได้สมาชิกใหม่แล้วสินะ! นี้ๆ แคร์ น้องของเธอน่ะเป็นคนยังไงเหรอ?"หมูป่ากระโดดลอยตัวเมื่อพูดถึงสมาชิกใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาเป็นครอบครัวในเร็วๆนี้นัยน์ตาใต้หน้ากากเป็นประกายวาววับก่อนจะเอ่ยถามถึงลักษณะน้องเล็กคนใหม่

     

     

     

    "เป็นเด็กที่อ่อนโยนแต่ก็หัวดื้อในสิ่งที่รักมากๆเลยล่ะคะ....แต่ถ้าพูดถึงความสามารถฉันคิดว่าฉันไม่เคยได้ยินใครร้องเพลงเพราะเท่าเขาเลยล่ะคะ"แคร์เอ่ยพร้อมรอยยิ้มบางเมื่อนึกถึงเสียงใสๆที่ชอบอวดเพลงใหม่ๆให้เธอและทุกคนฟังบ่อยๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปชื่อเสียงเรียงนามของแสงสว่างตัวน้อยของพวกเรา

     

     

     

    "นายท่านน้องของพวกเรา เขาชื่อ...."

     

     

     

    ...[ทอม อิศรา]...

     

     

     

     

    ____AnotherSide...[1]____

     

     

    โซนอธิบาย 


    - ทุกคนใน BlackHole จะเรียกอีกาดำว่า เฮียกา นะคะ


    - ทุกครั้งที่สมาชิกของBlack Hole จะออกนอกสถานที่จะใส่ผ้าคลุมนะคะเพื่อปิดบังตัวจริง


    - แคร์เจอกับทอมครั้งแรกที่โซนทิ้งขยะค่ะแคร์เลยชวนมาอยู่ด้วยกันซึ่งในตอนนั้นทอมยังเด็กอยู่


    - แคร์โดนจับค้าทาสตั้งแต่ยังเด็กถูกขังไว้กับคนอื่นๆ ส่วนเฮียกาบังเอิญมากวาดล้างพวกค้าทาสเฉยๆเลยเจอแคร์มายืนขอกุญแจเพื่อปล่อยเด็กๆคนอื่นค่ะ


    - องค์กร BlackHole เป็นองค์กรแรกที่ บอสใหญ่[องค์จักรพรรดินีสีขาว] ออกมาประกาศว่าไม่มีทาสค่ะ


    - หน้ากากหมูป่าเป็นรองเสนาธิการชั่วคราวนะคะไม่ได้เป็นรองเสนาธิการของอีกาดำจริงๆ


     

     

     

    Nilkan Talk :

     

    บท1ค่าาา เป็นตอนเชื่อมก่อนที่เฮียจะได้เจอกับทอมนะคะ

    ใกล้เวลาที่เจ้าชายอีกาดำจะมาช่วยองค์หญิงน้อยแล้วรอติดตามตอนต่อไปนะค่า

     

     

    คอมเม้น ติชมกันได้นะค่าา

    เม้น 1 เม้นเป็นพลังได้เนอะ :)

     

    { แท็กฟิค #anothersideTM }หรือ {แท็ก #นิลฟิค}

    แท็กในทวีตมาหวีดกันได้นะค่าา

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in