……….
ตอนที่ 4 :คืนแรก
“มีอะไรให้เก็บมั่งมะ ?” ริกถาม
“มีขนมปังแผ่นอยู่แถวนึงว่ะ” ผมตะโกนตอบข้ามห้องเนื่องจากเราแยกกันหา
“รอดไปอีกมื้อสองมื้อสินะ” ริกตอบ
“แล้วนั่นขนหนังสือมาทำไมเยอะแยะน่ะ”ผมถามเมื่อเห็นมันเดินมาหาผมในห้องครัวพร้อมหนังสือในมือกองหนึ่ง
“เผื่อจุดไฟหรือทำไรได้ไง ไม่เอาไปหมดทุกเล่มหรอกน่า” ริกพูด หยิบเอาบางเล่มยัดลงไปในเป้
“ว่าแต่มึงหยิบขวดน้ำออกมาเติมให้เต็มไว้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องแวะบ่อย” ผมพูดขณะรองน้ำจากก็อกน้ำในอ่างล้างจานอยู่
“แน่ใจหรอวะ ว่าน้ำนั่นกินได้” ริกถามอย่างไม่เชื่อ
“แน่ดิ ! เพิ่งอ่านจากไอดีการ์ดมาเนี่ยไม่เชื่อก็หยิบขึ้นมาอ่านดิ”
ริกควักไอดีการ์ดในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู พบว่ามีข้อความจากระบบแจ้งความรู้เบื้องต้นในการอยู่รอดในเกมส์อย่างเช่นสามารถหาน้ำดื่มได้จากก๊อกทุกสถานที่ (เนื่องจากสามารถตายเพราะขาดน้ำได้เหมือนในโลกจริง)อีกทั้งยังสามารถหาซื้อของใช้จำเป็นจาก NPC ได้ตามที่ต่างๆ
“ไม่คิดจะหยิบขึ้นมาดูเลยนะเนี่ย ว่าแต่ต้องไปที่ไหนถึงจะเจอ NPC ล่ะ? ” ริกถาม
“ก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน จะไปรู้ได้ไงล่ะ ว่าแต่ตอนนี้เรารีบย้ายที่เหอะ” ผมรู้สึกว่าพวกเราเริ่มอยู่ในบ้านนานไปแล้วไม่รู้พวกที่ยิงมันยังคิดจะเล่นงานอยู่อีกรึเปล่า
“เพิ่งคิดได้รึไง กูกะจะมาบอกให้รีบไปเนี่ยแหละเห็นยังทำสบายใจเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้จะโดนฆ่าเลยเนี่ย”
“กูไม่ได้ลนลานแบบมึงนี่หว่า” ผมตอบ
“อ๋อหรอ กูเริ่มลนตรงที่มึงไม่สนใจสถานการณ์ตอนนี้เนี่ยแหละ” ริกเดินไปที่ประตูหลังบ้านที่อยู่ในห้องครัว ผมเดินตามหลังมันติดๆผมเก็บปืนไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมก่อนเอามีดมาเหน็บไว้ข้างเอวแทนท่อนเหล็กที่ลืมหยิบลงมาด้วย
“ชู่ววววว ! เงียบ…” ริกบอกให้เงียบขณะทำท่าจะหมุนลูกบิดประตู
“เอ็งแหละเงียบ ! อยู่ของกูดีๆมาบอกให้เงียบเฉย” ผมตอบเสียงเบา
“ก็แค่เตือนไว้น่า เครียดไปได้ เราจะมุ่งหน้าไปแถวร้านค้าข้างหลังหมู่บ้านนั่นใช่มะ”ริกถาม ยังไม่เปิดประตู
“อือ”
“โอเค จะได้ไปถูกทาง” พูดจบริกค่อยๆ แง้มประตูเปิดออก ก่อนจะก้าวออกไปนอกตัวบ้าน
“ถ้าจะเดินให้เงียบขนาดนี้ล่ะก็ มึงไม่กลั้นหายใจไปด้วยเลยล่ะ”ผมถาม เมื่อเห็นท่าทางการเดินที่ระมัดระวังยิ่งกว่าโจรย่องเบาซะอีก
“เซฟตี้ เฟิส ไง”
“แล้วมันจะถึงวันไหนวะ เดินอย่างมึงโดนสไนเก็บก่อนพอดี” ผมสาวเท้าเดินไปเรื่อยๆ จนถึงรั้วไม้สีน้ำตาล สูงประมาณเอว ก่อนปีนข้ามไปยังอาณาเขตบ้านอีกหลังหนึ่ง
“เฮ้ย ! รอด้วยดิ” ริกรีบจ้ำเท้าเดินตามแต่ก็ยังพยายามเดินให้เงียบที่สุด
เพื่อความปลอดภัยผมดึงมีดข้างเอวออกมาถือไว้แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปยังประตูหลังของบ้านหลังนี้ทุกบ้านออกแบบมาคล้ายกันหมด ริกยืนถือไม้เบสบอลอยู่ข้างหลังผม มองซ้ายขวา ทำท่าจะฟาดทุกอย่างที่เคลื่อนไหว
“ไหงอยู่ๆ ดูเชี่ยวหยั่งกะเล่นมาเป็นปีๆ ซะงั้น” ริกถาม
“แค่คิดว่าศัตรูจริงๆ ของเราในตอนนี้มีแค่คนเท่านั้นแหละ”ผมเปิดประตู เดินเข้าไปข้างใน
“อ้อเพราะคิดว่าไม่มีซอมบี้ในนี้เลยไม่กลัวขึ้นมาซะงั้นสินะ” ริกเดินตามเข้ามาและปิดประตู
“คงงั้นมั้ง ให้เลือกล่างหรือบน?” ผมหันไปถามริก
“ล่างดีกว่า”
“โอเค” ผมเดินไปยังบันไดไม้สีน้ำตาลเข้มซึ่งอยู่ใจกลางบ้านพยายามเดินให้เงียบเข้าไว้ถึงแม้หมู่บ้านนี้ผมจะยังไม่เห็นซอมบี้เลยซักตัว แต่ยังไงก็ไม่อยากประมาทอยู่ดีผมเดินขึ้นมาชั้นสองของบ้าน ตัวบ้านทาสีครีมอ่อนตัดกับขอบล่างของกำแพงที่เป็นสีน้ำตาลบนพื้นชั้นสองปูด้วยพรมสีเลือดหมูทั้งชั้นไม่ว่าจะในหรือนอกห้องก็ตามยกเว้นก็แต่ห้องน้ำ
ผมไล่เช็คทุกห้องที่เดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเก็บหนังสือและระเบียงที่ยื่นออกไปยังหน้าบ้านแต่ก็ไม่พบอะไรเป็นพิเศษจึงเดินลงมาหาริกข้างล่าง
“กูว่าเกมส์นี้มันสมจริงดีว่ะลายละเอียดบ้านแต่ละหลังนี่เยอะจริงๆ ลองเป็นเกมส์อื่นดิบ้านนี่ร้างเชียวไม่มีอะไรสักอย่าง” ริกพูดเมื่อเห็นผมกำลังลงมาจากชั้นสอง
“เออจริง แต่คงไม่ใช่เพราะเกมส์มันเพิ่งเปิดหรอกนะเลยยังไม่มีคนผ่านมาผ่านไปค่อยๆ หยิบของออกไปจากบ้านจนท้ายๆ ก็ร้างเหมือนเกมส์อื่นๆอ่ะ ” ผมพูด
“เออว่ะ ลืมไปเลยว่าเกมส์มันเพิ่งเปิดแต่เอาเหอะ ยังไงคืนแรกเราก็มีที่พักล่ะนะ” มันพูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาที่อยู่หน้าเตาผิงในห้องนั่งเล่นผมจึงทิ้งตัวลงนอนในโซฟาตัวข้างๆ มั่ง ตั้งแต่เข้าเกมส์มานี่ก็เย็นซะแล้วรึเนี่ย สงสัยจะกินเวลาช่วงเดินมาหมู่บ้านนี้แน่ๆผมคิด
“คืนนี้ก็พักก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคิดต่อว่าจะเอาไงต่อไปละกัน”ผมพูด
“กูว่านะ ถ้าไม่มีซอมบี้อย่างที่มึงพูดจริงๆล่ะก็ เราน่าจะออกเดินทางกันตอนกลางคืนนะเพราะถ้าออกพรุ่งนี้เช้าไอ้พวกที่ซุ่มยิงเรามันจะโผล่ออกมาอีกรึเปล่าก็ไม่รู้”
“นั่นสินะถ้าเราไปตอนกลางคืนอาจจะทิ้งช่วงห่างจากพวกมันได้บ้างเพราะยังไงหมู่บ้านมันก็ทางผ่านอยู่แล้วนี่”ผมเห็นด้วยกับความของของริก
“เอางี้ นี่ก็จะทุ่มและ ถึงมันจะยังสว่างอยู่นิดๆก็เถอะ เราค่อยไปกันประมาณเที่ยงคืนหาของหาไรเสร็จน่าจะหาทางออกได้ก่อนเช้าล่ะมั้งจะได้พ้นๆ จากไอ้พวกนั้นด้วย” ริกเสนอ
“ดีเหมือนกัน งั้นเอาตามนี้ เดี๋ยวข้าขึ้นไปเช็คห้องดูก่อนว่าปลอดภัยรึเปล่า” ผมอาสา
“ฝากด้วยละกัน ขอนอนตรงนี้ซักแปป”
“อือ” ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยังห้องครัว ดูว่าพอมีของอะไรที่พอจะใช้ได้เปล่า ก่อนรื้อหาตามลิ้นชักต่างๆ และพบเข้ากับไฟฉายกระบอกหนึ่งค่อนข้างใหญ่ทีเดียวเปลือกนอกทำด้วยอลูมิเนียมอย่างดี เมื่อกี้ไอริกมันไม่ได้หาของรึไง? ผมลองเปิดปิดเล่นๆ สองสามทีก่อนถือขึ้นไปยังชั้นสอง
ผมเดินปิดหน้าต่างทุกห้องของชั้นสองและปิดประตูไว้เพื่อความแน่นหนาเผื่อจะมีคนบุกรุกก่อนเดินเข้าห้องนอนที่ใกล้บันไดที่สุด ภายในห้องมีเตียงนอนเดี่ยวตั้งอยู่กลางห้องมีชั้นหนังสือกับตู้เสื้อผ้าอยู่ข้างๆ ชิดติดกำแพงตรงข้ามกับเตียง มีโซฟาตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงหน้าต่างสำหรับนั่งอ่านหนังสือ
ผมล็อคหน้าต่าง วางเป้ไว้บนโซฟา เดินลงไปล็อคหน้าต่างที่ชั้นล่างด้วยเหมือนกันพร้อมกับปิดผ้าม่านทุกผืนที่มี
“ชิงหลับก่อนอีกนะ” ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่นเห็นไอริกมันหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา ผมไม่คิดที่จะปลุก เดินขึ้นบันไดเข้าห้องที่จัดเตรียมไว้ปิดประตูล็อคเรียบร้อย ก่อนล้มตัวลงนอนบนเตียงที่นุ่มสบายแต่ในใจก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรเพราะนิ่มๆแบบนี้มักจะปวดเมื่อยตัวทุกทีตอนตื่นนอน ผมพยายามไม่คิดถึงสิ่งต่างๆ และข่มตาหลับไป
……….
“ไอ้พวกนี้มันกล้าว่ะ นึกว่าพวกมันจะหนีไปไกลกว่านี้ซะอีกกลับมาอยู่บ้างข้างๆ ซะได้” ชายร่างเล็กพูดขึ้นพร้อมกับส่งกล้องส่องทางไกลให้แก่เพื่อนร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆ
“แล้วจะเอาไงต่อ” ชายร่างใหญ่เมื่อดูเสร็จก็ส่งกล้องคืนกลับให้เพื่อนซึ่งกำลังง่วนกับการรื้อหาอะไรซักอย่างในเป้อยู่
“ผลัดกันเฝ้าละกัน เมื่อพวกมันออก พวกเราก็จะออกตามเอ็งเป็นกะแรกนะ ผลัดกันทุก ชม. ละกัน” ชายร่างเล็กว่าก่อนเดินลับหายไปในความมืดของตัวบ้าน
“ได้กะแรกทุกทีสิน่า” ชายร่างใหญ่พึมพำ
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in