……….
ตอนที่ 37 : การต่อสู้ครั้งสุดท้าย #1
“ทางเกือบสะดวก” ริกหันมาบอกเอิร์นและเปาหลังจากละสายตามาจากช่องประตูที่ตนแง้มเปิดเพื่อดูสถานการณ์ภายนอก
“ไม่มีได้มะไอ้เกือบเนี่ย” เอิร์นพูด
“รีบๆ ออกไปซะทีเถอะน่า ซอมบี้ธรรมดาๆ มันโหดซะที่ไหนกัน” เปาพูดพลางดันริกให้ออกไป
“เฮ้ยๆ อย่าผลักกูๆ กูเปิดเอง” ริกค่อยๆ เปิดประตูก่อนก้าวออกไป ตามด้วยเอิร์นและเปาที่หันหลังกลับไปปิดประตูตามเดิม
“เราต้องจับมันมาฉีดวัคซีน” เปาว่า
“จะเอาเลยรึ ไม่รอออกไปข้างนอกก่อนล่ะ” เอิร์นถาม
“เดี๋ยวนะ สรุปไอ้ยาบ้านี่มันจะทำให้ซอมบี้มันกัดและแพร่เชื้อที่แรงกว่าเดิมจนทำให้มันคิดจะกินทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนไหวได้สินะใช่มะ” ริกถาม
“ทำนองนั้นแหละ งั้นเรารีบออกไปรวมกลุ่มกับพวกข้างนอกก่อนแล้วกันแล้วค่อยหาโอกาสใช้อีกที” เปาพูด
เอิร์นวิ่งนำเป็นคนแรกโดยใช้มีดถางหญ้าในมือสะบั้นหัวซอมบี้ทุกตัวที่ขวางทาง ริกกับเปาที่วิ่งตามก็ได้แต่คอยยิงระวังป้องกันรอบข้างให้
“ไหนวะกลุ่มคนที่มึงว่า” ริกถามขึ้นเมื่อพวกตนใกล้จะถึงหน้าประตูทางเข้าอยู่แล้ว
“เวรกรรม” เอิร์นที่มัวแต่สะบั้นซอมบี้อยู่เมื่อหันมามองก็อุทานขึ้นเมื่อตอนนี้เหล่าผู้รอดชีวิตหายกันไปหมดแล้ว พร้อมกับซากข้าวของและซากศพที่นอนเกลื่อนไปทั่วข้างหน้าตึก ตัวบังเกอร์ที่ช่วยกันแบกข้าวของต่างๆ มากั้นได้พังทลายลงเละเทะไปหมด เหมือนกับว่าเพิ่งโดนอะไรถล่มมาอย่างไรอย่างนั้น
“ถึงว่าไม่ได้ยินเสียงปืนหรืออะไรเลย” เปาพูด
“สงสัยเราต้องไปหาที่หลบแล้วล่ะ” ริกพูดพร้อมกับยิงไปที่ประตูกระจก
“อันที่จริงเราเปิดก็ได้นะ โซฟานั่นกูกับไอเอิร์นแค่เอามาขวางน่ะ” เปาพูด
“แล้วก็ไม่บอก ก็คนมันอยากเท่ห์บ้างอ่ะนะ เร็ว ไปกันเถอะ” ริกเดินนำออกไป ข้างหน้าทั้งสามเป็นกองบังเกอร์ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่บ้าง ทั้งสามพากันปีนข้ามบังเกอร์เข้าไปยังข้างในบังเกอร์อีกที
“มึงรอดออกไปก่อนเลย” เอิร์นบอกเปาก่อนหันไปสับซอมบี้ที่เดินเนิบๆเข้ามาทางตน
“จะมุดทำไมในเมื่อทางออกอื่นก็มีเนี่ย” ทุกคนหันไปมองตามที่ริกชี้มันเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ และเป็นจุดที่บังเกอร์พังทลายเละเทะที่สุดและมีศพเยอะที่สุดด้วย
“ถ้าไม่ใช่ระเบิดก็ต้องเป็นตัวอะไรที่ร้ายกาจมากแน่ๆ” เอิร์นพูดเมื่อเห็น
“เราต้องวิ่งเข้าไปถนน 9 ที่นั่นมีอาวุธและยา เผื่อบางทีเราอาจต้องใช้”ริกแนะนำ
“งั้นก็ไปกันต่อ” เปาวิ่งนำ คอยยิงด้านหน้า ริกตรงกลางคอยยิงซ้ายขวา และเอิร์นปิดท้ายเปานำเข้าไปในตรอกเพื่อจะได้ทะลุออกไปยังถนน 9
“ตรงนั้นยังมีคนรอดแฮะ” ริกเห็นกลุ่มผู้รอดชีวิตใช้ร้านขายอาวุธและร้านยาเป็นที่มั่นปักหลักสู้กับซอมบี้ที่แห่กันเข้ามาตามเสียงปืนที่พวกตนยิงไป
“ถนน 8 กับ 9 คนรอดเยอะแต่ซอมบี้ก็เยอะด้วยเหมือนลากซอมบี้มารวมกันแถวนี้เลยล่ะ” เปาบอกริก
“ทำไมพวกมึงไม่เข้าไปคุยกันข้างในล่ะวะมายืนยิงซอมบี้ไปคุยไปอยู่ในตรอกทำไม” เอิร์นถามเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคุยกันเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงซอมบี้ที่อยู่รอบตัวเท่าไรนัก
ทั้งสามฝ่าซอมบี้เข้ามาในร้านขายยาร้านหนึ่งก่อนจะรีบหาข้าวของมากั้นประตูเพื่อความปลอดภัย และพากันเลือกสิ่งของที่คาดว่าจะได้ใช้เก็บในเป้แต่ละคน
“ขึ้นไปดูข้างบนเถอะ” เอิร์นชวนเมื่อเห็นว่าทุกคนไม่คิดจะเอาอะไรอีก ริกอาสาเดินนำขึ้นไปเป็นคนแรก ชั้นบนมองไม่ค่อยเห็นนักเพราะข้างบนนั้นแสงเข้าไม่ถึงอีกทั้งยิงไม่ได้เปิดไฟอีก
“เหวอ !” ริกร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆซอมบี้ก็พุ่งพรวดเข้ามาจากทางด้านข้างริกสู้แรงซอมบี้กันตัวเองจากการโดนกัดก่อนจะสะบัดมันหลุดและผลักไปชนชั้นวางของข้างหลัง
“อย่าเพิ่งยิงๆ !” เปารีบห้ามเมื่อเห็นริกง้างปืน “พวกมึงสองคนไปจับมันไว้เร็วเข้า ถ้าไม่ฉีดตอนนี้เดี๋ยวมันจะช้าเกินไป”เปาสั่งเพื่อนทั้งสองของตนที่ตอนแรกก็งึกงักแต่ก็รีบเข้าไปล็อคเจ้าซอมบี้ไว้พลางคอยหลบไม่ให้มันกัดได้
“จับไว้ดีๆ ล่ะ” เปาบอก
“มึงอ่ะเร็วๆ เถอะ” ริกพูด เปาเปิดประเป๋าหยิบหลอดวัคซีนที่มีสารสีน้ำผึ้งเข้มอยู่ข้างในก่อนเดินตรงมาอยู่หน้าซอมบี้และปักเข็มเข้าไปกลางหน้าอกก่อนกดตัวยาจนหมดด้าม ร่างของมันพลันกระตุกขึ้นทันทีเมื่อยาหมดหลอดพลางส่งเสียงครือในลำคอ
“เฮ้ยๆ มันแรงเยอะขึ้นป่ะเนี่ย” ริกถามเมื่อตนเริ่มคุมไม่อยู่
“งั้นก็รีบพามันลงไปข้างล่างเถอะ” เอิร์นพูด “เดี๋ยวก่อนๆเอานี่ครอบไว้” เปาเดินไปหยิบกล่องกระดาษลังบนชั้นมาครอบหัวมันไว้“กันไว้เดี๋ยวโดนกัด” เปาพูด
“มึงคิดได้ไงเนี่ย” ริกถามพลางช่วยกันกับเอิร์นพาเจ้าซอมบี้ลงบันไดไปข้างล่าง เปารีบวิ่งรี่ไปเอาของที่พวกตนกั้นประตูไว้ออกเพื่อจะได้เอาซอมบี้ออกไปข้างนอกได้
“หลบไปไอเปา 1..2....3 !” ทั้งคู่นับเสร็จก็ปล่อยซอมบี้พร้อมกับใช้เท้าถีบซอมบี้จนกระเด็นไปถึงบานประตูแต่มันก็ยังใช้มือยันประตูไว้ไม่ยอมออกไปง่ายๆ
“ยังจะยันอีกนะมึง” เปาหยิบเก้าอี้ข้างตัวขึ้นมาฟาดเข้าไปเต็มๆจนมันกระเด็นออกไปยืนอยู่นอกตัวร้านแต่มันก็วิ่งเข้ามา ทีนี้ซอมบี้ตัวอื่นเห็นต่างก็รี่เข้ามาด้วย
“ช่วยกันเร็ว !” ทั้งสามรอจังหวะก่อนออกแรงถีบพร้อมกันจนมันกระเด็นไปชนซอมบี้ตัวอื่นๆล้มลงไปขลุกกับพื้นถนนข้างหน้าร้าน ก่อนที่พวกตนจะพากันปิดประตูแล้วเอาโต๊ะมาขวางเอาของมาวางทับซ้อนกันไว้เหมือนเดิม เมื่อเสร็จสิ้นการปล่อยไวรัสไปกับซอมบี้ ทั้งหมดก็พากันขึ้นสู่ชั้นดาดฟ้าข้างบน
……….
ผมลืมตาตื่นขึ้นหลังจากมีอาการวูบๆระหว่างการเคลื่อนย้ายสิ้นสุดลง ผมค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆในมือยังคงถือกระเป๋าที่ไม่รู้ข้างในคืออะไรอยู่ ผมเข้ามาอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องวาร์ปตั้งเรียงเป็นแนวหน้ากระดานสัก5-9 เครื่องได้ ข้างหน้าเครื่องเป็นเก้าอี้ม้านั่งยาวเหมือนก่อนหน้านี้ ผมเดินไปยังบานประตูก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันข้างในห้อง ผมไม่รู้จะทำยังไงกับไอ้กระเป๋านี้ดี ใจผมไม่ค่อยอยากจะเอาเข้าไปในห้องสักเท่าไหร่นักจึงตัดสินใจเอามันไปเก็บไว้ในเครื่องวาร์ปตู้แรกก่อนจะปิดประตูเอาไว้
ผมเดินไปจับลูกบิดพอดีกับที่ยามข้างในมองเห็นผมพอดี ซึ่งผมก็ทำตัวปกติเอาไว้เพราะพวกนี้คงคิดว่าผมเป็นพวกนอกเครื่องแบบอยู่แล้ว ผมเปิดประตูออกเดินเข้าไปช้าๆ
“เอ้า ! ยังมีคนมาอีกรึเนี่ย” ยามหนุ่มรูปร่างสูงแต่ออกแนวผอมแห้งไปหน่อยพูดขึ้น
“เด็กใหม่สิท่า มาตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรให้ทำแล้วล่ะ” ยามอีกคนพูด คนนี้ดูมีน้ำมีเนื้อขึ้นหน่อย
“รึว่ามีธุระอะไรกับพวกเรารึเปล่า” ยามคนสุดท้ายพูดขึ้นดูจากท่าทางและวัยแล้วดูจะอาวุโสที่สุดในกลุ่มนี้
“ก็ไหนเห็นบอกว่าทำศูนย์ช่วยเหลือทุกประตูทางเข้าสำหรับผู้ที่รอดนี่” ผมมองออกไปนอกหน้าต่างห้องที่ทั้งห้องก็แทบจะเป็นกระจกอยู่แล้ว ด้านขวาจากทางเข้าเป็นตู้ล็อกเกอร์เก็บของ ตรงข้ามประตูที่ผมเข้าก็มีประตูลงไปข้างล่างด้านซ้ายมือผมติดกับกระจกก็เป็นแผงควบคุมอะไรต่อมิอะไรมากมาย
“ใครมันจะไปทำทันล่ะ เล่นแพร่จากตรงกลางเมืองแล้วค่อยลามออกนี่” ลุงตอบ
“แล้วสรุปนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ” ยามคนแรกถามอีกครั้ง
“คือ....ผม...ได้รับคำสั่งให้มาบอกกับประตูทุกทิศให้ประกาศบอกผู้ที่รอดชีวิตให้ขึ้นมาบนหอควบคุมในแต่ล่ะทิศ ซึ่งเราจะใช้ประตูวาร์ปเจ้าหน้าที่ในการส่งพวกเขากลับน่ะครับ” ผมสร้างเรื่องอีกแล้ว แต่มันก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ดูเหมือนจะเป็นการช่วยคนซะด้วยซ้ำ
“งั้นเราก็ต้องแจ้งไปยังทุกทิศก่อนสินะ” ยามอีกคนพูดขึ้นก่อนจะเดินไปยังแผงควบคุม
“แต่ว่าถ้าทำยังงั้นคนเหล่านี้ก็จะรู้น่ะสิว่านี่ไม่ใช่เกมส์น่ะ” ลุงถามขึ้น
“ผมก็ได้แต่ทำตามคำสั่งน่ะครับ” ผมยืนยำคำเดิมเพราะก็ไม่รู้จะอ้างอะไรแล้ว
“นั่นสินะ เรามันเบื้องล่างสั่งอะไรมาก็คงต้องทำแหละ เดี๋ยวทางนั้นเขาก็จัดการกันเองงั้นเรารีบลงมือกันเถอะ เดี๋ยวพวกข้างล่างมันจะตายกันหมดซะก่อน” ลุงพูดขึ้นพลางสั่งการลูกน้องตน
“จะประกาศอะไรกันรึ พอดีได้ยินไม่ค่อยชัดน่ะ” เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นตรงประตูซึ่งผมโคตรจะคุ้นเลยทีเดียว นั่นก็คือไอ้ผู้บริหารที่ตอนนี้ยืนพิงประตูพลางยิ้มให้ผมเหมือนกับว่าตนเล่นซ่อนแอบแล้วหาผมจนเจอ
“งานเข้าแล้วกู !” ผมคิดในใจ สายตาจับจ้องไปที่มัน
……….
“แล้วเราจะเอาไงต่อล่ะทีนี้เวลาเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ซะด้วยดิ” ริกพูดขึ้นเมื่อทุกคนต่างนั่งพักกันข้างบน
“จากที่เราวิ่งขึ้นมา หลังจากที่รับสายไออ๋องกูว่าเราน่าจะเหลือไม่ถึงชั่วโมงแล้วล่ะ”เอิร์นลองคำนวณระยะเวลา
“งั้นเราก็ต้องรีบหาทางไปจากที่นี่แล้วล่ะ” ริกว่า
“จริงสิ เราก็ใช่เครื่องวาร์ปชั้น 3 ที่มึงวาร์ปลงมาอ่ะริกวาร์ปเรากลับไปก็ได้ ถ้าเรารีบไปตอนนี้อาจยังพอทันเวลาอยู่บ้าง งั้นมึงโทรบอกไออ๋องด้วยว่าพวกเรากำลังจะไปไม่ต้องมาแล้ว” เปาบอกก่อนทั้งสามคนจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวลุยกันอีกครั้ง
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in