……….
ตอนที่ 31 : เตรียมการ
“มันหายไปเลยวุ้ย !” ริกเอ่ยขึ้นหลังจากจัดการเจ้า รปภ. กลายร่างได้สำเร็จ ริกผลักเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ขวางทางอยู่ออก ก่อนเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยซากศพพนักงานหลายคนที่ถูกซอมบี้รุมกิน ตอนนี้ซอมบี้ไม่ค่อยมีแล้ว นานๆจะโผล่เข้ามาทางหนีไฟสักตัวสองตัว ริกจึงเลือกที่จะจัดการด้วยมีดแทนเพราะไม่อยากส่งเสียงเพื่อเป็นการเรียกพวกมันมาอีก
ริกเดินมาหยุดอยู่หน้าลิฟต์พลางกดปุ่มย้ำๆอยู่หลายทีซึ่งก็ไม่มีแม้แต่ไฟกระพริบบอกว่าติดด้วยซ้ำ “ไอ้นี่ ! จะเล่นซ่อนหารึไงวะ” ริกเอ่ย เดินต่อไปทางจนสุดทางเหมือนจะมีห้องอยู่อีกห้องหนึ่งที่ตนยังไม่เคยเจอ “ในนี้รึเปล่าหว่า...” ริกบิดกลอนประตูก่อนค่อยๆ ผลักเข้าไปช้าๆ
ภายในห้องมีแสงไฟจากเพดานเป็นแสงสลัวๆ สีส้มอ่อนก่อนที่สายตาริกจะไปหยุดอยู่ที่แคปซูลมากมายที่ส่งตนมาในเกมส์นี้ “อย่าบอกนะว่ามึงตามมันกลับไปนอกเกมส์น่ะ” ริกเดินสำรวจภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้น่าจะเป็นห้องห้องเดียวที่เรียบร้อยที่สุดก็ว่าได้ที่ไม่มีแม้แต่รอยเลือดเป็นทางยาวหรือผนังที่เต็มไปด้วยรอยเลือดที่เปรอะไปทั่ว
ตื๊ดด ~ ตื๊ดด ~ เสียงข้อความในไอดีการ์ดดังขึ้นเบาๆริกหยิบไอดีการ์ดขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนอ่านข้อความ “ทางนั้นเป็นไงมั่ง” เป็นข้อความที่ถูกส่งมาโดยเอิร์น
“ทำไมไม่โทรล่ะวะ ในเมื่อมันก็โทรได้แท้ๆ” ริกพึมพำเบาๆ ก่อนใช้โปรแกรมในไอดีการ์ดโทรกลับไปหาเอิร์นที่ตอนนี้คงอยู่ที่ไหนสักแห่งข้างล่างนั่น
“โทรมาก็ได้ม้าง” ริกพูดทันทีเมื่อเอิร์นกดรับ
“พอดียุ่งๆ น่ะเลยส่งข้อความเอาดีกว่า” เอิร์นตอบ “ข้างล่างเละเทะแล้วสินะ” ริกถาม
“ใช่ วุ่นวายสุดๆ เลยล่ะ ว่าแต่ตอนนี้ข้างบนเป็นไงมั่งล่ะ จับตัวได้ยัง”เอิร์นถาม
“ไม่รู้สิ เจ้านั่นมันวาร์ปหนีไปแล้วน่ะ” ริกตอบ
“ฮะ ! งั้นก็แย่แล้วสิ” เอิร์นตกใจเมื่อได้ยินริกพูดขึ้น
“มีแย่กว่านี้อีกนะ อยากรู้มะ” ริกถาม “อะไรวะที่ว่าร้ายกว่านั้น” เอิร์นถามd]y[
“ไออ๋องมันตามไปน่ะสิค้าบ ไปไม่บอกกูด้วยไง” ริกตอบ
“หม่ายก็อด ! อโลนเลยสิมึงทีนี้ แล้วมึงคิดจะตามไปมั้ยล่ะ” เอิร์นถาม
“ไม่รู้ดิ แล้วนี่มีแผนการอื่นป่ะล่ะ ถ้าไม่มีกูอาจจะตามมันไป”
“เดี๋ยวถามซิลว่าก่อนนะ ซิลว่า !” เอิร์นหันกลับไปตะโกนเรียกซิลว่า
“.....”
เงียบไปสักพักก่อนจะเสียงซิลว่าจะดังขึ้น “เพื่อนเธอมันตามหมอนั่นกลับไปแล้วสินะงั้นเธอก็ลงมาเจอที่ชั้นใต้ดินละกัน พวกเราจะไปเอายาจัดการกับเจ้าพวกซอมบี้อยู่น่ะ” ซิลว่าอธิบาย
“มันมียาด้วยรึ” ริกสงสัย “ไว้เดี๋ยวค่อยคุยรายละเอียดแต่ทีนี้ครั้นจะให้เธอตะลุยลงมาจากชั้น 14 ก็คงเป็นไปไม่ได้ มันยังมีอีกวิธีหนึ่งก็คือไอ้เจ้าแคปซูลที่ไว้ใช้วาร์ปน่ะ มันจะมีแผงไว้สำหรับกำหนดพื้นที่ที่จะไปได้”
“อ่าฮะ แล้วไงต่อ”
“ทีนี้ที่ชั้น 3 ของตึกน่ะมันจะมีส่วนที่ถูกกั้นไว้ข้างหลังสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะออกจากเกมส์ก่อนเวลากำหนดอยู่ถ้าพวกเธอสังเกตตอนขึ้นก็คงจะเห็นแหละ เธอก็แค่กำหนดตำแหน่งใหม่มันก็จะส่งเธอลงมาชั้น 3 เลย แล้วทีนี้มันก็อาจจะง่ายหน่อยในการลงมาชั้นใต้ดินน่ะ”ซิลว่าอธิบาย
“มันก็ง่ายขึ้นเยอะล่ะนะ แต่ก็ยังยากอยู่ดีแหละ แต่เอาไงก็เอามันก็ยังดีล่ะนะ แล้วเดี๋ยวผมจะไปรอที่ชั้นใต้ดินล่ะกันคับ..... เอ่า เวรกรรม นี่สายตัดไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ริกพูดด้วยอาการเซ็งๆเมื่ออยู่ดีๆสายก็ถูกตัดไปทั้งๆ ที่ตนก็พูดไปซะเยอะแต่อีกฝั่งกับไม่ได้ยินซะอย่างนั้น
“คนเดียวก็คนเดียววะ !” ริกพูดให้กำลังใจตนเองก่อนจะเดินไปปิดประตูห้องช้าๆ กลัวว่าซอมบี้จะโผล่เข้ามาไม่รู้ตัว เขาก้มลงไปดูแผงแสดงสถานะของเครื่องซึ่งยังคงติดอยู่ ก่อนจะมองหาพื้นที่ในการวาร์ปว่าสามารถไปที่ไหนได้บ้าง “อ้า ! นี่ไง ชั้น 3 มีจริงๆ แฮะ” ริกกดเลือกทันทีก่อนกดยืนยันการเปลี่ยนตำแหน่ง
ริกนั่งลงกับพื้น หยิบกระสุนสำรองที่ซื้อมานำมาบรรจุในปืนพกและแม็กให้เรียบร้อยพร้อมลุยไว้ เมื่อเสร็จก็ลุกขึ้นและโน้มตัวลงนอนบนแคปซูลเอื้อมมือขึ้นไปเลื่อนฝาลงมาปิด และเสียงของเครื่องก็เริ่มนับถอยหลังช้าๆ ริกหลับตาก่อนที่การนับจะสิ้นสุดและทุกอย่างก็มืดลง....
..........
“พักก่อน ๆ !” เอิร์นตะโกนไล่หลังด้วยเสียงที่หอบแฮ่กจากการวิ่งอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้พวกตนเพิ่งมาถึงถนน 8 ทั้งสามฝ่าดงซอมบี้มา ไม่ว่าจะเป็นตรอกซอกซอยที่อยู่ๆพวกมันก็โผล่พรวดเข้ามาดื้อๆ ทำเอาทั้งสามมีสะดุ้งตกใจไปตามๆ กันยังดีที่แถวนี้มีผู้เล่นที่ปักหลักนำข้าวของในห้างร้านต่างๆ นำมาเป็นบังเกอร์ป้องกัน และโชคดีที่ว่าถนนแถวนี้เป็นแหล่งรวมอาวุธและยา ทำให้ซอมบี้นั้นไม่ค่อยหนาตาเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าจำนวนผู้รอดชีวิตนั้นมีไม่น่าจะถึงพันคนด้วยซ้ำจากการคาดเดาว่ามีการติดเชื้อไปแล้วเกือบสามพันกว่าชีวิตจากอัตราจุคนของเมืองนี้ที่สามารถจุได้มากเกือบสี่พันกว่าคนด้วยกัน
“เข้ามาในนี้มา เร็วเข้า !” ซิลว่าตะโกนเรียกทั้งสองให้เข้ามาในตัวร้านขายอาวุธเล็กๆร้านหนึ่ง เปาจัดการยิงซอมบี้ที่วิ่งรี่เข้ามาหาตนก่อนเร่งเอิร์นให้ไวขึ้นอีก เปาปิดประตูตามหลังทันทีที่ทุกคนเข้ามาครบก่อนจะลากทั้งโต๊ะทั้งตู้วางอะไรต่อมิอะไรก็ได้มาขวางเอาไว้ อีกด้านเอิร์นกับซิลว่าก็กำลังฟาดฟันกับซอมบี้ที่อยู่ในร้านก่อนที่ชั้นล่างจะปลอดภัยปราศจากซอมบี้
“เหนื่อยโคตรๆ เลย ถ้าไปต่อนี่จุดจบคงหมดแรงแล้วโดยซอมบี้รุมทึ้งตายแน่” เอิร์นพูด
“เว่อร์ไปและๆ” เปาเดินเข้ามาหาเอิร์นที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์คิดตัง หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อยไม่แพ้เพื่อนของตน “เริ่มหิวแล้วด้วยสิ” เอิร์นว่า “ตลอดแหละมึงน่ะ เหนื่อยหิว มีอยู่สองอย่าง”
“เราขึ้นไปชั้นดาดฟ้ากันเถอะ จะได้มองเห็นบริเวณกว้างด้วย” ซิลว่าแนะนำพลางดื่มน้ำจากขวดที่ไม่รู้ไปหยิบมาจากไหน
ทั้งสามเดินขึ้นมายังชั้นสองซึ่งก็ไม่พบเจอซอมบี้แต่อย่างไรมีแต่กล่องมากมายที่ข้างในบรรจุอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซิลว่าผลักบานประตูเหล็กออกขึ้นมายังชั้นสามซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของร้านนี้ เปาและเอิร์นมองลงไปข้างล่างถนนที่เต็มไปด้วยซากศพและเหล่าซอมบี้ที่เดินกันเกลื่อนกลาดไปทั่ว ทั้งสองยังคงมองเห็นกลุ่มคนที่ยังรอดชีวิตที่ต่างยืนหยัดต่อสู้อย่างสุดใจเพื่อหวังจะรอดออกไปให้ได้
“นี่เราก็ถึงหน้าตึกแล้วนี่เนอะ” เปาพูดขึ้น เอิร์นและซิลว่าพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
“ซอมบี้มันออกทางประตูอย่างเดียวเลยหรอวะ” เอิร์นพูดขึ้นเมื่อหันมามองอีกฝั่งที่สามารถเห็นตัวตึกของบริษัทเกมส์ได้ถนัดตา
“คงงั้นล่ะมั้ง นี่เรายังเหลือตั้งสองถนนกว่าจะเข้าตัวอาคารได้” ซิลว่าบอกก่อนจะนั่งพักเหนื่อยบนเก้าอี้อลูมิเนียมเก่าๆ
“พักหายเหนื่อยอีกสักหน่อยเดี๋ยวค่อยลงไปลุยกันต่อละกัน” เปาพูดขึ้นก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งพิงผนังกำแพงดาดฟ้าพลางยกน้ำของตนขึ้นดื่ม
……….
//สิ้นสุดกระบวนการเคลื่อนย้าย//
เสียงในแคปซูลดังขึ้น ริกเอื้อมมือเปิดฝาแคปซูล ค่อยๆ แง้มขึ้นทีละนิดเพราะยังไม่รู้ว่าตนมาโผล่กลางดงซอมบี้รึเปล่า ก่อนจะสังเกตว่าภายในห้องมีสภาพเรียบร้อยยังไม่ได้โดนบุกรุกจึงกล้าที่จะเปิดประตูขึ้น เขาลุกขึ้นมายืนอยู่ในห้องที่มีแคปซูลกว่า20 เครื่องได้จากที่ซิลว่าบอกมาว่าชั้นนี้เป็นที่สำหรับผู้ที่ต้องการออกจากเกมส์ก่อนระยะเวลาที่กำหนด
“ในห้องนี้ก็มีไฟฟ้าแฮะ คงไม่ได้มีเฉพาะชั้นที่มีไอ้เครื่องนี่หรอกนะ” ริกเอ่ยก่อนจะหยิบไฟฉายขึ้นมาพลางเปิดปิดดูว่ายังใช้การได้ดีอยู่รึเปล่า“เผื่อไว้ละกัน” ริกเหน็บปืนไว้ที่ใส่ปืนบริเวณต้นขาก่อนจะก้มจับมีดดูว่ายังอยู่รึเปล่า
“เอาล่ะ” ริกให้สัญญาณตัวเองก่อนเดินไปหน้าประตูห้อง จับลูกบิดประตูเตรียมบิด “ฟู่ว ~” ริกถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกก่อนค่อยๆเปิดบานประตูออก
ข้างนอกเป็นทางเดินมืดๆยาวไปข้างหน้ากับหลัง สองข้างมีแต่ห้อง พอเดินไปเปิดดูก็พบว่าเป็นเหมือนกับห้องที่ตนออกมา จึงไม่คิดที่จะเดินไปข้างหลังเพราะคงเหมือนๆ กัน ริกก้าวเดินไปตามทางที่มืดสนิทด้วยไฟฉายในมือหนึ่งกระบอก ทุกย่างก้าวจะได้ยินแต่เสียงฝีเท้าตนเองที่เหยียบลงบนพรมที่ถูกปูเอาไว้ตลอดทาง ริกส่องไฟไปตามพื้น ระหว่างทางพลางสังเกตสิ่งของต่างๆรอบตัว รอบตัวไม่มีแม้แต่คราบเลือดสักหยดเหมือนกับว่าละแวกนี้ยังไม่โดนรุกล้ำเข้ามาแต่อย่างใด
“ในที่สุดก็เจอประตูออกสักทีสิน่า แต่ทำไมไม่ค่อยอยากออกเท่าไหร่เลยไม่รู้แฮt” ริกพูดกับตนเองเมื่อส่องไฟไปเจอกับประตูข้างหน้าเมื่อเดินมาได้สักพัก แสงไฟอ่อนๆ ที่รอดใต้ช่องประตูมาบ่งบอกว่าข้างนอกพอจะมีแสงไฟบ้าง เขานึกขึ้นได้ว่าตอนแรกที่ตนกับอ๋องเข้ามาครั้งแรก ชั้นที่หนึ่งกับสามแทบจะเป็นกระจกใสทั้งชั้นทำให้มองเห็นภายนอกได้ส่วนชั้นสองรู้สึกจะมีแค่บางส่วนเท่านั้นเพราะเป็นแหล่งขายของมือสองและสมาคมต่างๆ
“โอ้ว หม่ายก็อด” ทันทีที่ริกเปิดประตูก็ต้องตกใจ ประตูที่ริกออกมาเป็นประตูหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเลยเคาน์เตอร์ไปมีซอมบี้อยู่กระจัดกระจายเต็มไปหมดยากที่จะเลี่ยงได้
“ไม่ออกก็ตาย ออกก็ตาย คิดหนักเลยกูทีนี้” ริกค่อยๆ ปิดประตูช้าๆก่อนก้มตัวลงนั่งหลังบานประตูเพื่อคิดหาวิธีไปต่อ
……….
“เอาล่ะ ไปกันต่อเถอะ เดี๋ยวมันจะสายเกินแก้” ซิลว่าพูดพลางละสายตามาจากเหล่าผู้คนข้างล่าง ทั้งสามคนเดินลงมาในร้าน ซิลว่าบอกให้เอิร์นกับริกหยิบไฟฉายที่สามารถติดเข้ากับปืนไปด้วยเพราะว่าภายในอาคารมันมืดก่อนที่ซิลว่าจะหยิบไฟฉายมาด้วยหนึ่งกระบอก
เปาค่อยๆแง้มประตูเปิด ทันทีที่ก้าวออกซอมบี้ก็วิ่งมาทางตนทันที เปาจัดการใช้ปืนสไนเปอร์ของตนฟาดแทนเพื่อจะได้ไม่เกิดเสียงดังเป็นการเรียกซอมบี้ เนื่องด้วยพวกซอมบี้ส่วนใหญ่จะมุ่งไปยังเสียงปืนของพวกที่ยังคงมีชีวิตรอดอยู่ทำให้พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ไม่ลำบากมากนัก
ทั้งสามฝ่าเหล่าซอมบี้ด้วยการฟาดและใช้อาวุธประชิด เพื่อไม่ทำให้เกิดเสียง แต่ในถนน 9 เหล่าซอมบี้ก็เริ่มมากขึ้น พวกมันอยู่กระจัดกระจายบนเดินทั้งถนนและในตรอกต่างๆ รวมทั้งในอาคารด้วย แต่ทุกถนนที่พวกตนผ่านมาจะมีเหล่าผู้รอดชีวิตแทบทุกถนน
“พวกเราจะเข้าข้างหน้าเลยใช่มั้ยเนี่ย” เอิร์นที่อยู่รั้งท้ายถามขึ้นพร้อมกับถีบซอมบี้ที่พรวดพราดเข้ามาหา
“ใช่สิ แล้วมึงจะไปเข้าทางไหนล่ะวะ” เปาตอบกลับระหว่างที่ทั้งสามอยู่ในตรอกกำลังเข้าไปในตัวตึก
“รู้สึกข้างหน้าจะมีผู้คนอยู่เยอะใช่เล่นนะเนี่ย ฟังจากเสียงปืนแล้ว” ซิลว่าเอ่ยขึ้น
“จริงด้วยแฮะ” เปากับเอิร์นเห็นด้วยเมื่อทั้งสองต่างก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่นมาจากทางข้างหน้า ตอนแรกพวกตนไม่ได้ใส่ใจเสียงรอบข้างเท่าไหร่ เอาแต่ระวังพวกซอมบี้อย่างเดียว เลยไม่ได้สนใจรอบตัวมากนัก “หวังว่าโผล่ไปจะไม่คิดว่าเราเป็นซอมบี้หรอกนะ”เอิร์นบอก
ทั้งสามวิ่งออกมาจากตรอกโผล่ถึงถนนหน้าตึกจนได้ ก่อนจะเห็นว่ามีผู้เล่นร่วมสองร้อยกว่าคนได้ช่วยกันนำสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ม้านั่งต่างๆ มาช่วยกันทำบังเกอร์แทบล้อมรอบตัวอาคารที่เป็นแหล่งปล่อยซอมบี้ออกมา มีการนำสิ่งของเหลือใช้ต่างๆ มากั้นเสริมไว้มากมายเป็นเหมือนกับหลุมหลบระเบิดของทหารสมัยก่อนที่ไว้ใช้เดินไปมาอยู่ข้างใน
“เฮ้ ! เจ้าสามคนตรงนั้นน่ะ รีบวิ่งมาเร็วเข้า!” ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนเรียกทั้งสามให้รีบวิ่งเข้าไปในสิ่งก่อสร้างที่พวกตนสร้างขึ้นมา “ทางนี้ๆ” พวกเราสามคนค่อยๆ ต่อคิวกันมุดเข้าไปใต้โต๊ะและคลานผ่านเก้าอี้สำนักงาน ม้านั่งในสวนกองอยู่เหนือหัวพวกเราระหว่างคลานเข้าไปจนทั้งสามเข้ามาอยู่ข้างในบังเกอร์ได้สำเร็จ
“ไม่อยากจะเชื่อว่าข้างนอกยังมีคนรอดอยู่อีก” ชายในชุดลำลองกล่าวขึ้นเป็นคนเดียวกับที่เรียกพวกเราเข้ามาข้างใน
“มันกันอยู่จริงๆ หรอ ไอ้พวกเนี้ย” เอิร์นถามพลางมองไปรอบๆ ตัวที่มีแต่โต๊ะไม้โต๊ะเหล็ก เก้าอี้ธรรมดาๆหลายร้อยตัววางทับซ้อนไปมาเต็มไปหมด
“คงเพราะเรามีกำลังพลมากพอด้วยล่ะมั้ง ไม่งั้นมันคงล่มมาหมดแล้วล่ะ” ชายในชุดลำลองตอบ
“แล้วถ้าพวกเราจะเข้าตึกต้องไปออกตรงไหนล่ะเนี่ย” ซิลว่าถาม
“จะบ้ารึไง ! มีใครคิดจะเข้าไปข้างในที่ไหนล่ะ” ชายวัยกลางคนที่ไม่รู้โผล่มาตอนไหนพูดขึ้น
“ข้างในนั้นมันมีของที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้น่ะสิ” ซิลว่าอธิบาย
“เพิ่งสังเกตว่าเธอเป็นคนของเกมส์นี้ อาจจะทำได้ก็ได้แต่ฉันไม่รับรองหรอกนะว่าจะรอดออกมาน่ะ”
“พวกเราออกมากันเองได้อยู่แล้ว” เอิร์นตอบแทนซิลว่า
“แล้วพวกเราจะไปยังไงล่ะ” เปาถาม
“ไม่ยากหรอก ก็แค่ปีนข้ามไปแค่นั้นแหละ” ชายคนแรกตอบ
“แล้วก็กองไว้ซะสูงเชียวนะ” เอิร์นพูดพลางมองกองสิ่งของข้างหน้าตนที่มีผู้คนที่รอดช่วยกันยิงผ่านช่องว่างจัดการซอมบี้ที่ทยอยออกมาจากตึก
……….
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in