……….
ตอนที่ 30 : ตามล่าคนบงการ !
“นั่นสไนเปอร์เปล่าวะ อ๋อง” ริกถามผมก่อนจะชี้ด้วยแสงไฟฉายไปยังหน้าประตูห้องควบคุมระบบไฟ ที่ซึ่งมีร่างเจ้าหน้าที่สองสามร่างนอนอยู่แถวๆนั้น
ก่อนที่สายตาผมจะมองเห็นสิ่งที่สะท้อนแสงไฟฉายของริก มันก็คือส่วนปลายปืนสไนเปอร์นั่นเอง มันถูกฝังอยู่ใต้ซากศพเจ้าหน้าที่แถวๆ นั้น
“ทำไมตอนเดินออกมองไม่เห็นล่ะเนี่ย” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
“มันมืด พวกเราเลยไม่ค่อยได้มองอะไรไง” ริกตอบพลางลุกขึ้น ผมลุกตาม พวกเราสองคนพากันเดินไปยังหน้าประตู ผมก้มลงผลักเจ้าหน้าที่ออกไปกองอยู่กับอีกศพเพื่อจะได้หยิบปืนขึ้นมา
“นี่มัน m110 มั้ง ถ้าจำไม่ผิด” ผมหยิบปืนขึ้นมาเช็คจำนวนกระสุนที่ยังพอเหลืออยู่หน่อย ก่อนจะสะพายไว้ข้างหลัง
“ชื่อไรก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้เราได้เปรียบขึ้นมาหน่อยแล้วล่ะ” ริกพูดก่อนที่จะส่องไฟเข้าไปภายในห้องที่ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่
“เราไปคิดหาวิธีขึ้นชั้นบนกันเถอะ” ผมบอกริกก่อนที่เราจะเดินมาถึงอยู่หน้าประตูทางหนีไฟอีกครั้ง
“ที่สงสัยที่สุดเลยนะ คือทำไมไอ้เจ้าพวกนี้มันถึงออกมาได้ทั้งๆ ที่แทบทุกชั้นเป็นประตูป้องกันอย่างดี” ริกพูดซึ่งผมก็เห็นด้วยเช่นกัน ในเมื่อพวกเรายังเปิดออกไม่ได้ทำไมไอ้ซอมบี้พวกนี้มันถึงขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้สบายๆเลยล่ะ ผมคิด
“หรือว่าตอนเราขึ้นเราลืมปิดประตูวะ” ริกถาม
“จะบ้ารึไง เราขึ้นลิฟต์ผ่านมาตั้งหลายชั้นจะไปเปิดตอนไหนล่ะ” ผมตอบ “เอาเถอะแต่ไงเราก็คงต้องออกทางนี้ทางเดียวแหละ เพราะลิฟต์ก็ใช้ไม่ได้แล้วคงต้องขึ้นบันไดไป” ริกว่า
“หวังว่าประตูมันคงไม่ใช่แบบเดิมนะ เพราะเราคงไม่มีทางเข้าได้แน่ๆ” ผมพูดก่อนเช็คสภาพกระสุนทั้งปืนสั้นพร้อมกับเตรียมข้าวของให้พร้อม
“พวกเราไม่กลัวตายอยู่แล้วนี่เนอะ” ริกพูด
“ก็หวังอย่างนั้นล่ะนะ” ผมตอบ
“เอาล่ะ ในเมื่อพร้อมแล้วก็อย่าเสียเวลาอยู่เลย” ผมค่อยๆ ออกแรงเลื่อนประตูช้าๆซึ่งมันก็เลื่อนออกตามแรงอย่างง่ายดายซะงั้น “รู้และทำไมมันถึงขึ้นมาได้ในเมื่อไม่มีไฟประตูก็ไม่มีรหัสมันก็ไม่ต่างกับประตูธรรมดาที่เสริมเหล็กหรอก” ผมบอกก่อนจะเห็นซอมบี้ข้างหน้าเริ่มหันมาสนใจที่ประตูมากขึ้น
ผมบอกริกให้เตรียมตัวรับมือ พอประตูเปิดออกได้ช่องพอดีผ่าน ริกก็พุ่งเข้าไปจัดการซอมบี้ด้วยมีดทันที ผมตามออกไปก่อนปิดประตูตามเดิม ผมเอี้ยวตัวหลบก่อนใช้สันปืนฟาดที่หัวซอมบี้จนมันผงะถอยหลังและตกบันไดไป ผมเดินนำหน้าริกขึ้นบันไดไปยังชั้น 13 โดยริกคอยใช้มีดจัดการซอมบี้ที่คอยวิ่งขึ้นมาหาพวกเรา พวกเราเลี่ยงที่จะใช้ปืนเพราะมันเป็นการบอกตำแหน่งอย่างดีเลยทีเดียว
เมื่อผมมาถึงหน้าประตูก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเนื่องด้วยประตูชั้นนี้เป็นประตูธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันอะไรเหมือนชั้นก่อนๆแต่ต่อให้เหมือนกันก็คงจะเข้าไปได้ง่ายๆอยู่แล้วก็ไอ้บริษัทนี่มันทำประตูอะไรของมันไม่รู้กะอีแค่ไฟดับประตูก็เปิดได้ง่ายๆ ไม่มีกระทั่งไฟสำรองด้วยซ้ำหรือว่ามีแต่ไม่ทำงานไม่รู้สิ
“เอ้า ! แล้วไม่เปิดสักทีล่ะวะ” ริกพูดขึ้นโดยไม่ได้หันมามองเพราะตนกำลังจัดการซอมบี้ที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“กำลังเปิดนี่ไงเล่า” ผมตอบก่อนจะกดตัวล็อคและออกแรงผลักบานประตูออก
บานประตูค่อยๆ แง้มออก แสงไฟลอดผ่านช่องออกมาทันทีที่ผมแง้มประตู ผมตกใจเล็กน้อยที่ชั้นนี้ยังมีไฟฟ้าอยู่ ก่อนตั้งสติชะโงกออกไปสำรวจว่ามีคนอยู่รึเปล่า พอไม่เจอใครก็บอกริกให้รีบเข้ามา ผมก้าวผ่านประตูเข้ามาอยู่ในทางเดินเล็กๆ ที่มีทางไปข้างหน้าอย่างเดียวก่อนหันมามองริกที่รีบเข้ามาพร้อมกับถีบซอมบี้กระเด็นเข้าไปก่อนรีบปิดประตูล็อคตามเดิม
“อย่าบอกนะว่าไฟสำรองมีแต่ข้างบนน่ะ” ริกถามผม
“คงจะยังงั้นล่ะมั้ง แทนที่จะเร่งเปิดไฟสำรองในส่วนของการทดลองก่อน จะได้ไม่เกิดเรื่องแท้ๆ” ผมค่อยๆ เดินออกไปตามทางข้างหน้าจนมาถึงประตูอีกชั้นหนึ่งที่มีรปภ. นั่งอยู่หน้าประตูทางเข้าทางหนีไฟหนึ่งคน
เราทั้งสองมองเห็นข้างหลังของ รปภ.คนนี้ และโถงทางเดินข้างหน้าที่ถูกแบ่งออกเป็นโซนๆที่ตอนนี้ค่อนข้างจะวุ่นวายถ้าดูจากเจ้าหน้าที่มากมายเดินวุ่นไปทั่ว ทำท่าทางเครียดกันซะเกือบทุกคน คงเป็นเพราะสถานการณ์ในตอนนี้
"เอาไงดีล่ะทีนี้ คนเพียบเลย" ริกถามผม ตอนนี้พวกเราสองคนก้มอยู่ใต้ช่องมองประตู ข้างหลังเจ้า รปภ. พอดี
"ลุยเข้าไปเลยดีมะ" ผมเสนอ "ช่วยคิดสักนิดเถอะนะ" ริกขอร้อง
ปึง ! โครม !
"เฮ้ยย !" ผมตะโกนด้วยความตกใจ ริกรีบหันไปตามสายตาผมทันทีเมื่อผมเห็นว่าประตูที่เราเพิ่งลงกลอนปิดไปตะกี้มันพังโครมลงมาซะเเล้ว พร้อมกับซอมบี้ที่พรวดเข้ามา ผมชักปืนออกมายิงซอมบี้ตัวเเรกที่พุ่งเข้ามาทันทีก่อนที่ริกจะปามีดใส่ตัวที่สองที่เข้ามาเเล้วรีบวิ่งเข้าไปดึงออกก่อนจะเเทงทะลุขมับอีกตนที่อยู่ใกล้ๆ
"เเกเป็นใคร" คำถามเเรกที่ รปภ. ถามเมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอผมก่อนจะร้องเหวอ ! ด้วยความตกใจเมื่อเห็นซอมบี้กำลังทะลักเข้ามาในห้อง
"เดี๋ยวก่อน เด้ ! จะรีบไปไหนเล่า !" ผมดึงเจ้า รปภ. เข้ามาในห้องเมื่อเห็นพี่แกทำท่าจะหันหลังหนีพร้อมกับปิดประตูตามหลัง ผมผลัก รปภ. ไปปะทะกับซอมบี้ที่ตรงมาหาผม เจ้ารปภ. สู้สุดตัวเเต่ก็ไม่รอดเมื่อโดนซอมบี้ที่จำนวนมากกว่าผลักลงไปนอนกับพื้นก่อนจะโดนรุมทึ้งสดๆ
"ไอริกไปเร็ว !" ผมตะโกนเรียกมันก่อนที่ผมจะถีบซอมบี้ตนหนึ่งเซไปชนกับกำเเพง ผมรีบเปิดประตูโดยมีริกตามมาติดๆพวกเรารีบล็อกประตูที่ยังไงก็คงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งเห็นผมกับริกเข้ามา ต่างก็หันมามองก่อนจะพากันกรีดร้องขึ้น เเต่ไม่ใช่เพราะพวกเรา พวกพนักงานต่างก็เห็นซอมบี้ที่หลังประตู ซึ่งกำลังจะพังประตูเข้ามาในไม่ช้า กลับกลายเป็นว่าในห้องต่างก็โกลาหลมากขึ้นไปอีกไม่มีใครสนใจผมกับริกเเล้วตอนนี้ต่างคนต่างก็หาทางเอาตัวรอดกันยกใหญ่
ผมกับริกเดินฝ่าเจ้าหน้าที่มากมายเพื่อหาคนที่ดูท่าจะรู้เรื่องมากที่สุดโดยเร็วก่อนที่ซอมบี้มันจะเข้ามาได้"หาโต๊ะหรือห้องที่มันเด่นๆอ่ะ ไอ้คนนั้นมันน่าจะตำเเหน่งสูง" ริกพูด ผมกับริกเดินจนทั่วจนคิดได้ว่ามันยังมีอีกชั้นหนึ่งนี่หว่าจึงรีบบอกมัน
"เเล้วไหนทางขึ้นอีกชั้นล่ะ" ริกถามกลับ "เดี๋ยวถามเอาก็รู้" ผมตอบก่อนจะถามพนักงานคนหนึ่งที่เดินเข้ามาใกล้ที่สุด เธอไม่พูดอะไร ไม่แม้แต่มองด้วยซ้ำ เธอเเค่โบ้ยมือไปอีกฟากของห้องก่อนจะรีบเดินหายไป
"รู้สึกมั้ยไออ๋อง คนมันเริ่มน้อยลง" ริกถาม ผมหยุดอยู่กับที่มองไปรอบๆ ซึ่งนั่นก็จริงคนที่ตอนเเรกมากมายกลับหายไปเกือบครึ่งห้อง “หายไปได้ยังไง” ผมพูดขึ้น ก่อนจะได้ยินเสียงพนักงานชายคนหนึ่งแผดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซอมบี้เข้ามาเเล้ว
พวกเราทั้งคู่รีบวิ่งไปยังทิศที่พนักงานบอกว่ามีทางขึ้นไปชั้นต่อไป ขณะที่ซอมบี้เริ่มเข้ามาทีละตัวสองตัวแล้ว เสียงร้องโหยหวนก็เริ่มกระจายไปทั่วทั้งชั้น ระหว่างที่วิ่งผ่านโต๊ะทำงานมากมาย สายตาผมบังเอิญไปหยุดอยู่ที่ห้องๆ หนึ่งซึ่งมีพนักงานหลายคนกำลังเคาะประตูเพื่อที่จะเข้าไปให้ได้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ปัง ! เสียงปืนดึงสายตาผมกลับมาตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะเห็นริกจัดการซอมบี้ที่วิ่งมาอยู่ตรงหน้า ผมหันหลังกลับไปเห็นซอมบี้ที่ตามผมมาเหมือนกัน ผมเอี้ยวตัวหลบซอมบี้ตัวหนึ่งที่วิ่งดิ่งแบบไม่คิดอะไรเข้ามาพร้อมกับสกัดขามันล้มลงกลิ้งไปกับพื้นก่อนจัดการอีกตัวที่วิ่งมาทางเดียวกัน
"เข้ามาเร็ว !" ริกเปิดประตูออกก่อนจะวิ่งหายเข้าไป
"ไม่รอกูอีกเเละ" ผมพูดขึ้นก่อนจะวิ่งข้ามซอมบี้ที่นอนกับพื้นเข้าประตูตามมันไป เเต่สายไปเเล้วที่จะปิดประตู จำนวนมันมากเกินไปที่จะปิดได้ ผมหยุดตรงขั้นบันไดหันมายิงซอมบี้ที่ค่อยๆโผล่เข้ามาทีละตัวไม่หยุดสักที ก่อนได้ยินเสียงริกตะโกนบอกให้รีบวิ่งขึ้นไป
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” ริกตะโกนขึ้น ผมที่กำลังจะถึงหน้าประตูรีบหยุดทันทีก่อนจะรู้ตัวว่ามันไม่ได้พูดกับผม ผมวิ่งเข้าไปในตัวห้องก่อนจะปิดประตูตามเสียงและพบพนักงานกลุ่มหนึ่งยืนนิ่งหันมาทางนี้
“พวกแกสองคนเป็นใคร” หนึ่งในพนักงานถามขึ้น
“คนที่จะมาจบไอ้เรื่องบ้าๆ นี่ไงล่ะ หัวหน้าพวกแกอยู่ไหน !” ผมตะคอกถามพลางชี้ปืนขู่ พวกพนักงานเริ่มเปลี่ยนสีหน้าเป็นหวาดกลัว
“คิดว่าแค่สองคนจะทำอะไรได้รึไง” พนักงานคนเดิมถามกลับ
“แล้วคิดว่าพวกเรามากันแค่สองคนรึไงเล่า !” ผมสบตาริกเป็นการเข้าใจกัน ก่อนจะเปิดประตูออก ซอมบี้ตนแรกวิ่งเข้ามาทันที ริกวิ่งเข้าไปยังกลุ่มพนักงานข้างหน้า โดยมีผมวิ่งตามหลังปล่อยให้ฝูงซอมบี้วิ่งเข้ามาเรื่อยๆ ผมที่วิ่งตามริกมาต้องตกใจไปตามๆ กันเมื่อชั้นนี้พนักงานยังมีน้อยกว่าชั้นที่แล้วซะอีก
“ไปไหนกันหมด มันมีทางออกอื่นรึไง” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย ริกยิงซอมบี้ตนหนึ่งทิ้งก่อนจะชี้นิ้วบอกให้ผมไปยังแผนกตรงหน้า
เท่าที่ดูคร่าวๆ ชั้นนี้ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ พวกเราเข้ามาในส่วนที่ถูกกั้นเป็นบล็อกๆ ให้พนักงานทำงาน ซึ่งริกบอกให้ผมไปยังฝั่งตรงข้ามของส่วนนี้ที่ทแยงจากเราไป ซึ่งในห้องมีชายคนหนึ่งอยู่ในห้องกับกลุ่ม รปภ.หลายคนด้วยกัน ดูจากการตกแต่งห้องแล้วนั่นต้องเป็นเจ้าตัวบงการแน่ๆ
ผมวิ่งผ่านพนักงาน มุ่งตรงไปยังห้องผู้บริหารที่ตอนนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้วเพราะผมเห็นพวกนั้นกำลังจะออกจากห้องมา ผมใช้ปืนยิงข้ามไปทันทีถึงแม้จะห่างกันอยู่ก็ตาม ทันทีที่ยิงไป พวกนั้นก็รีบยิงตอบโต้มาทันที
“มึงบ้ารึไง ไปบอกมันทำไมว่าเรามาเพื่อจับมันน่ะ” ริกที่วิ่งมาถึงพูดขึ้น
“ก็มันจะไปอยู่แล้วเนี่ย” ผมตอบ
“พวกมันจะไปไหนได้ ข้างล่างมีอะไรมึงก็รู้อยู่” ริกตอบ ซึ่งก็จริงของมัน “รีบตามมันไปเดี๋ยวกูคุมหลังให้” ริกบอกก่อนจะหันไปยิงซอมบี้อีกตัวหนึ่งที่วิ่งเข้ามา
พนักงานบางส่วนที่วิ่งไม่ทันหรือไม่รู้วิธีการจัดการต่างก็โดนกัดบ้างก็โดนรุมทึ้งไปซะ แน่นอนว่าพวกที่โดนกัดก็ต้องกลายเป็นซอมบี้และก็เริ่มล่าผู้ที่ยังเหลือรอดอยู่ “พวกมันเคลื่อนที่แล้ว” ริกตะโกนบอกผมเนื่องด้วยตอนนี้เสียงร้องของผู้คนแทบจะเป็นเสียงเดียวที่เราได้ยินในตอนนี้
“ไม่ให้รอดหรอกน่า” ผมผลักพนักงานคนหนึ่งเมื่อเจ้านี่ขวางทางวิ่ง ก่อนยิงออกไปอีกสองสามนัดที่กลุ่ม รปภ.ที่ล้อมรอบผู้บริหารของมันไว้ พวกนั้นมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ที่ห่างไปไม่ไกล
“ตามมันไปให้ทัน !” ริกตะโกนมาจากข้างหลัง
“กูไม่รีบเลยเนอะ !” ผมตะโกนกลับเมื่อเห็นว่าข้างหน้ายังไม่มีซอมบี้และข้างหลังก็มีริกคุ้มกันให้ จึงรีบเอาสไนเปอร์ที่เก็บได้ออกมาใช้ทันที ผมปีนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะและใช้แผงกั้นเป็นฐานรองปืน“เอาดีๆ นะเว่ย” ริกพูด
“เออหน่า ! ระวังหลังให้กูก็พอ” ผมว่า ก้มลงเล็งไปที่หลังเจ้า รปภ.คนหนึ่งที่คุ้มกันเจ้านั่นอยู่ ผมจัดการยิงออกไปอีกหนึ่งนัดอัดหลังรปภ. ไปเต็มๆ จนเจ้านั่นล้มลงไป กลุ่มรปภ. ต่างพากันคุ้มกันแน่นหนาขึ้น
เจ้าตัวหัวหน้าก้มหลบลงไปข้างล่างโดยใช้แผงกั้นเป็นที่กำบังตัว กระสุนต่างพากันแหวกอากาศมายังทิศที่ผมอยู่ ผมกระโดดลงมาข้างล่างทันหวุดหวิดก่อนที่จะโดนยิงจนพรุน
“ตัวหัวหน้ามันหลบลงข้างล่าง มองไม่เห็นแล้ว” ผมพูด ก่อนจะใช้ปืนสั้นยิงซอมบี้ข้างตัวทิ้ง
“แล้วเราจะเอาไงดีล่ะเนี่ย ถ้ามันถึงลิฟต์เราก็จบเลยนะ” ริกพูด “งั้นเราก็รีบไปสิวะ” ผมพูดจบก็ชะโงกหน้าออกมายังทางเดินยาวที่พวกนั้นอยู่ซึ่งห่างจากเราค่อนข้างไกล พวกนั้นยิงทันทีที่เห็นผมโผล่ออกไป “รู้สึกว่ามันจะเข้าลิฟต์ไม่ได้นะ” ผมบอกริกเมื่อเห็นว่าพวกมันยังไม่เข้าลิฟต์ไปสักที “บางทีมันอาจเพิ่งรู้ว่าไฟดับก็ได้” ริกตอบ
“อ้อมไป” ริกเสนอพลางร่วมมือกับพนักงานที่ยังรอดจัดการซอมบี้ที่ทยอยเข้ามา กลุ่มพนักงานทั้งชายและหญิงต่างก็พากันหยิบแฟ้มไม่ก็อุปกรณ์ต่างๆมาใช้ฟาดเข้าไปที่หัวพวกซอมบี้ไม่รู้ทำไมพนักงานที่ยังรอดสิบกว่าคนต่างก็มารวมกลุ่มกับพวกเราทั้งๆ ที่รู้ว่าพวกเรามาจัดการหัวหน้าพวกตน “งั้นเดี๋ยวกูไปอีกด้าน มึงก็ยิงๆไปให้พวกมันคิดว่ายังอยู่ตรงนี้” ผมอธิบายก่อนพาตัวเองเดินแบบก้มๆ อ้อมแผงกั้นมายังอีกทางที่จะไปโผล่ตรงหน้าลิฟต์เหมือนกัน
ผมเลือกใช้มีดแทนปืนในการจัดการซอมบี้ที่หมายจะจัดการผมให้ได้ ฉึก ! ผมจับซอมบี้กดลงกับพื้น ใช้มีดแทงจากใต้คอขึ้นไป เลือดสีเข้มทะลักออกมาแทบจะทันทีแต่ผมไม่รอช้ารีบย่องไปต่อเพื่อจะได้เริ่มจัดการก่อนที่เจ้าตัวหัวหน้าจะหนีไปได้
ทันทีที่ถึงปลายทางผมเปลี่ยนมาใช้สไนเปอร์อีกครั้ง ผมนอนราบกับพื้น ลำตัวยื่นออกไปข้างนอกครึ่งตัว ผมรีบเล็งไปที่ขาเจ้าหัวหน้าเพราะต้องการจะจับเป็นมากกว่า ผมตัดสินใจยิงออกไปโดยเร็วเพราะผมอยู่ในสภาพไร้การป้องกันตัวใดๆทั้งสิ้น เจ้าหัวหน้าล้มลงพร้อมร้องโอดโอยกับพื้นด้วยความเจ็บปวดรปภ. คนหนึ่งวิ่งเข้ามาอารักขาความปลอดภัยทันที เห็นว่าได้โอกาสผมจึงรีบยิงซ้ำออกไปอีกเจ้าหน้าที่อารักขาล้มลงคว่ำไปบนตัวหัวหน้าตัวเอง
“กินหมูล่ะคราวนี้” ผมพูดกับตัวเองก่อนเกือบเอาตัวเองไม่รอดจากซอมบี้ที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมจัดการใช้ปลายกระบอกปืนสไนเปอร์ฟาดที่ขาจนมันล้มลงและยิงอัดลำตัว แต่มันยังไม่ตาย ผมจึงชักมีดออกมาปักเข้าที่เบ้าตาเต็มๆ “เสร็จไป 2 เหลือ อีก 2” ผมนับจำนวนรปภ.ที่ยังเหลืออยู่
“พวกแกไม่รู้สินะว่าเล่นอยู่กับใคร !” เสียงเจ้าหัวหน้านั่นตะโกนขึ้นมาด้วยเสียงที่โกรธกร้าว ผมเอี้ยวตัวหลบกระสุนปืนที่ลูกน้องมันยิงมาทางผม ตอนนี้คงรู้แล้วว่าตนโดนดักสองทาง
พวกซอมบี้ทยอยเข้ามาจากบันไดหนีไฟเรื่อยๆ ยังดีที่ชั้นนี้เป็นชั้นบนสุดจำนวนเลยไม่มากเท่าไหร่ โครม ! ผมกระเด็นออกมาตามแรงของโต๊ะที่อยู่ๆ ก็เคลื่อนที่มากระแทกผมซะกระเด็น ผมออกแรงเคลื่อนโต๊ะออกจากตัวก่อนจะเห็นว่าเป็นฝีมือเจ้า รปภ. ทำ เดี๋ยวนะ เจ้านี่ผมยิงไปเป็นคนแรกเลยนี่หว่า ผมคิด ก่อนมองไปที่เจ้านั่นซึ่งตอนนี้แปลกไปมาก ร่างกายรู้สึกจะขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนเหมือนเล่นกล้ามมาภายใน 5 นาทีไงงั้น กับลูกตาที่แดงก่ำจ้องเขม็งมาที่ผมจนลูกตาแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว “เจ้านี่ต้องโดนยาอะไรแน่ๆ” ผมคิด
“คิดว่าฉันจะไม่เตรียมการอะไรเลยรึไงฮะ ! เป็นไงล่ะลูกน้องของฉันร่างกายที่ไม่มีวันตายและยังคงเชื่อฟังคำสั่งของฉันดังเดิม มันคือสุดยอดวิวัฒนาการของบริษัทฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า !” ผมได้ยินเสียงเจ้านั่นตะโกนและหัวเราะขึ้น
“เดี๋ยวนะ ตายไป 2 งั้นมันก็มีอย่างงี้สองตัวสิวะ” เมื่อคิดได้ผมก็ต้องหลบเก้าอี้ที่เจ้านั่นฟาดลงมา“กูตายๆๆ” ผมออกตัววิ่งกลับไปทางที่ริกอยู่ ริกโผล่ออกมาแล้วยิงเจ้ารปภ. ที่ตอนนี้กลายร่างเป็นมินิยักษ์ที่เราเจอเมื่อตอนเริ่มต้นไม่มีผิด แต่เจ้านั่นแค่กระตุกตามแรงกระสุนปืนที่ยิงแต่ล่ะนัด
“ทำไรมันไม่ได้เลยว่ะ” ริกพูดด้วยความทึ่ง
“ก็คงต้องที่หัวเหมือนเดิมแหละน่า” ผมยืนส่องสไนเปอร์เพื่อจะจัดการเจ้านี่แต่ก็ถูกริกผลักให้วิ่งต่อ
“มึงผลักกูทำไมเนี่ย” ผมถามก่อนที่จะเห็น ไอ้ซูเปอร์รปภ.อีกคนปล่อยหมัดใส่พนักงานชายคนหนึ่งจนลอยไปชนกับแผงกั้นล้มระเนระนาดไปหมด พวกพนักงานเริ่มตกใจกลัวกับความร้ายกาจของเจ้านี่จนพากันวิ่งไปคนละทิศละทางทำให้บางคนกลับไปเสียท่าให้พวกซอมบี้เข้า
“ถ่วงเวลาให้กูเล็งหน่อยเด้ !” ผมบอกริก
“แล้วมึงอยากชิมแรงมันมั้ยเล่า !” ริกตะโกนตอบ
ปัง ! ผมตัดสินใจยิงไปและก็เข้าหัวเจ้านั่นอย่างจัง จนมันล้มลงไปนอนกับพื้น “จุดอ่อนยังคงเหมือนเดิมสินะ” ผมพูดก่อนออกตัววิ่งไปข้างหน้า ตอนนี้เหมือนพวกเราวิ่งวนไปมา เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเริ่มมากขึ้นจากการที่พนักงานเริ่มทยอยเสียท่าเหล่าซอมบี้ไปทีละคนๆ
“มึงไปจัดการตัวหัวหน้าเถอะ เดี๋ยวไอ้นี่กูเคลียร์เอง” ริกบอก ผมพยักหน้าตกลงก่อนหันหลังวิ่งอ้อมไปยังที่ที่เจ้าหัวหน้าอยู่ แต่ตอนนี้มันกลับหายไปแล้ว ผมยิงซอมบี้ที่ขวางทางก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าลิฟต์
“มันก็ใช้งานไม่ได้นี่หว่า” ผมมองไปรอบบริเวณก่อนสะดุดเข้ากับห้องห้องหนึ่งที่ประตูมันแง้มอยู่ พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับแคปซูลที่ใช้เข้าเกมส์เมื่อตอนแรกไม่มีผิด แต่ในห้องกับไม่ปรากฏร่างผู้ใดในห้องสักคน
ถ้าจำไม่ผิดซิลว่าบอกว่าเจ้าแคปซูลนี่ก็คือเครื่องที่ส่งพวกเรามายังที่นี่ งั้นมันก็สามารถส่งเรากลับไปได้เหมือนกัน ผมเริ่มคิดหนักเพราะว่าผมต้องรีบไปจับเจ้านั่นโดยไว แต่ถ้าผมไปแล้วไอริกล่ะ คนอื่นๆ อีกล่ะ “จะบ้าตาย เอาไงดีๆ” ผมคิดวนไปวนมาก่อนตัดสินใจวาร์ปไปจับเจ้าตัวหัวหน้ามันก่อนที่มันจะหนีไปได้
“ไอริกมันอึดอยู่แล้ว ไงมันก็รอด แต่ไอ้บ้านั่นมันหนีไปล่ะแย่แน่ๆ” คิดได้ผมก็รีบเปิดแคปซูลก่อนจะลงไปนอน เอื้อมมือปิดฝาแคปซูลลง
“จะต้องจับเจ้านั้นให้ได้” ผมคิดในใจก่อนที่ภาพทั้งหมดจะมืดลง
..........
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in