เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ALIVE : เกม ซ้อน เกมNO.W
ปะทะเดือด ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
  • ……….

     

    ตอนที่ 26 : ปะทะเดือด ลานจอดรถชั้นใต้ดิน

     

    “ลำพังกระเป๋าพวกเราก็หนักอยู่แล้ว ยังต้องแบกปืนมันไปอีกหรอเนี่ย” เอิร์นพูดขึ้นระหว่างจัดของที่เลือกซื้อมาให้เข้าที่เข้าทางในกระเป๋าตน

    “แค่ถือเพิ่มอีก 3 กระบอกจะเป็นไรไปล่ะ แต่เราควรจะรีบนะ เพราะไม่รู้ว่าพวกนั้นมันจะสืบแล้วคิดว่าพวกเราเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดรึเปล่า” เปาพูดขณะจัดกระเป๋าเช่นกัน

    “รู้งี้เราเอาเป้ออกไปใส่เลยก็ดีหรอกตอนซื้อ” เอิร์นพูด

    “ใครมันจะไปรู้ล่ะ”  เปาตอบ  “เร็วเข้าเราต้องไปที่รถกันแล้ว” เปาเร่ง

    “แล้วพวกมันล่ะ” เอิร์นถามขณะรูดซิบปิด

    “ไปถึงรถก่อนค่อยว่ากัน ถือสไนกับปืนกลไออ๋องไปด้วย”  เปาโยนปืนทั้งสองของอ๋องลงบนเตียงให้เอิร์นถือก่อนที่ตนจะถือปืนของริกไว้กับตัว “ป่ะ !” เปาเดินไปหน้าประตูห้อง  ทั้งสองลงมายังชั้นล็อบบี้เพื่อจัดแจงจ่ายค่าห้องก่อนจะพากันเดินไปยังจุดที่ได้จอดรถไว้

    “อย่าทำท่าทางลนดิ เดี๋ยวก็มีคนสงสัยหรอก” เปาเตือนเอิร์นเมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายที่เอิร์นแสดงออกมา

    “โอเคๆ”  เอิร์นตอบก่อนทำตัวสบายๆแล้วเดินตามเปาไปยังลิฟต์ลงที่จอดรถ

    “เฮ้อ ! มีแต่เรื่องจริงๆ มากับพวกมันสองคนเนี่ย”เปาบ่นระหว่างรอลิฟต์บนถนนหมายเลข 1  

    “ก็สนุกดีไม่ใช่หรอ วุ่นวายดี”  เอิร์นว่า

    “เกือบตายกันน่ะสิไม่ว่า”  เปาตอบขณะเดินเข้าไปในตัวลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้น

     

                ทั้งสองนั่งลิฟต์ลงมายังชั้นใต้ดินที่จอดรถเอาไว้  ก่อนจะพากันเดินตรงไปยังรถบรรทุกสีขาวขนาดเล็กที่จอดอยู่ถัดไปจากลิฟต์ไม่กี่เมตร เปาเปิดประตูรถฝั่งคนขับก่อนทั้งสองจะโยนสัมภาระของตนเข้าไปในรถ

    “แล้วมึงจะเอาปืน ไออ๋องกับไอริกไปไว้ข้างหลังทำไมล่ะ” เปาถามเมื่อเห็นเอิร์นวางปืนทั้งสามกระบอกไว้ท้ายรถ

    “ข้างหน้ามันมีที่ป่ะล้ะ”  เอิร์นย้อนถาม ซึ่งก็จริงเพราะมันมีแค่ที่นั่งสองเบาะที่ขั้นกลางด้วยเกียร์

    “เออๆ”

     

    ติ๊ง ! เสียงลิฟต์ดังขึ้นเอิร์นกับเปาหันไปมองตามเสียงทันทีเนื่องด้วยตอนนี้รถชั้นนี้เพิ่มมากขึ้นจากตอนแรกที่พวกตนเข้ามานิดหน่อยอาจเป็นผู้เล่นรายอื่นก็ได้

    “คิดไปเองรึเปล่าวะ ว่าเจ้าพวกนั้นมันเดินมาทางนี้”  เอิร์นพูดกับเปาเมื่อเห็นกลุ่มคนข้างหน้าประมาณห้าถึงหกคนเดินมาเป็นกลุ่มคล้ายๆ จะเดินมาทางรถของทั้งคู่

    “หยิบกระเป๋าขึ้นสะพายซะ เร็ว !” เปาบอกเอิร์นขณะที่เจ้าพวกนั้นยังเดินมาไม่ถึงตัวรถดี

    “เฮ้ย ! พวกเอ็งสองคนน่ะ  เป็นเพื่อนกับไอ้คนที่มีประกาศจับนี่หว่า” ผู้ชายตรงกลางรูปร่างสูงใหญ่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มพูดขึ้น

    “เหมือนจะอาวุธครบมือ” เปากระซิบบอกเอิร์น “งานเข้าแท้ๆ”  เอิร์นพูดเสียงเหนื่อย

    “จำคนผิดแล้วมั้ง พวกเรามากันแค่สองคนเอง”  เอิร์นตอบ

     

                ตอนนี้เอิร์นกับเปาอยู่กันคนละฝั่งของตัวรถโดยมีเจ้าคนกลุ่มนี้ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ข้างหน้าตัวรถโดยมีคนที่เป็นหัวหน้ายืนอยู่ข้างหน้า

    “แต่รู้สึกว่าพนักงานจะบอกว่าพวกแกมากันสี่คนนะและหน้าตาจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมมันก็ชัดซะด้วยสิ ใช่มั้ยวะ” เจ้าคนหัวหน้าพูดก่อนจะทำทีหันไปถามลูกน้องตนเกิดเสียงเห็นด้วยระงมไปทั้งกลุ่ม

    “อย่ามาโกหกดีกว่าน่า พวกแกคงจะมาเตรียมตัวหนีสินะ ไม่คิดจะรอเพื่อนรึไงเอ๊ะ ! รึว่าเดี๋ยวพวกมันจะมา” เจ้าหัวหน้าพูดด้วยน้ำเสียงแกมเล่นแกมจริง

    “แล้วจะทำไม” เปาถาม

    “อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้มีธุระกับพวกแกสองคนหรอกนะ แค่อยากจะมาถามเฉยๆ ว่าไอ้สองคนนั้นมันอยู่ที่ไหนเท่านั้นแหละพวกเราจะได้ไม่มารบกวนอีก”  คนหัวหน้าพูด

    “พวกเราก็อยากบอกหรอกนะ แต่พวกเราไม่รู้จริงๆ” เปาตอบกลับ

    “คิดว่าพวกเราโง่หรอวะ ! มาด้วยกันแท้ๆ แต่กลับไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองอยู่ที่ไหนเนี่ย”  เจ้าหัวหน้าอารมณ์เริ่มหงุดหงิด

    “บอกมาเหอะน่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่มีของไว้เหลือให้ใช้นา” คนที่ยืนอยู่ข้างหลังหัวหน้าพูดขึ้น

    “เดี๋ยวพอกูเริ่มเมื่อไหร่หยิบเป้แล้ววิ่งไปข้างหลังเลยนะ”  เปากระซิบ ในมือถือปืนสั้นแต่พวกมันไม่เห็นเพราะประตูรถฝั่งเปาเปิดออกบังลำตัวไว้ทำให้เจ้าพวกนั้นมองไม่เห็นปืนในมือ

    “เฮ้ย ! ซุบซิบไรกัน จะบอกดีๆ หรือต้องเจ็บตัวฮะ !”  คนหัวหน้าตะโกนขึ้นก่อนจะเดินมาข้างหน้าช้าๆซึ่งระยะห่างเริ่มน้อยลงเต็มที  เอิร์นหันไปสบตากับเปาก่อนที่เปาจะพยักหน้าตอบรับและเปิดฉากยิงนัดแรกออกไปทันที

     

                เจ้าคนหัวหน้าไม่รู้ทำไมดันโชคดีก้มทันทำให้ไอ้ลูกน้องคนข้างหลังโดนลูกหลงล้มไปหนึ่งคนก่อนที่ทั้งกลุ่มจะเริ่มวิ่งกันไปคนละทิศละทางเพื่อหาที่หลบกระสุนเปายังคงยิงซ้ำต่อไปก่อนจะหันมาบอกให้เอิร์นไปเอาปืนกลข้างหลังรถมาด้วย

     

                ทั้งสองทิ้งรถไว้  หันหลังวิ่งเข้าไปยังลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่บ้างประปรายอีกทั้งยังไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่นักในชั้นใต้ดินข้างล่างนี่   “ไปหลบหลังเสานู่น !”  เปาตะโกนบอกเอิร์นแข่งกับเสียงปืนที่เปิดฉากยิงไล่หลังพวกตนมาก่อนที่เขาจะหยิบสไนเปอร์ขึ้นมา “ถือโอกาสลองของใหม่ไปเลยละกัน”เปาว่า ก่อนเผยตัวออกมาจากเสาเล็กน้อย มองผ่านกล้องที่สามารถมองเห็นในที่มืดได้ที่ตนเพิ่งซื้อมาทำให้ตนมองเห็นได้ไม่ต่างกับตอนกลางวันเลยทีเดียว ทำให้สถานการณ์ตอนนี้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบขึ้น

     

    ปัง  !  หนึ่งในพวกมันที่โผล่หน้าออกมาหมายจะยิงล้มลงกระแทกพื้นทันทีเมื่อสิ้นเสียงปืน

    “สไนเปอร์ !”  พวกมันตะโกนขึ้น

    “หยิบแว่นขึ้นมาสวมซะเอิร์น !”  เปาตะโกนจากอีกเสาหนึ่ง  

    “เอ้อ  ลืมไปเลยแฮะ”  เอิร์นนึกขึ้นได้ก่อนจะหยิบแว่นในเป้ของตนลักษณะคล้ายๆ แว่นกันแดดแต่มีสายคาดรอบหัวเพื่อป้องกันการตกหล่นระหว่างวิ่งหรือเคลื่อนไหว 

    “คราวนี้ก็เสร็จโจ๋ล่ะ”  เอิร์นพูดก่อนหยิบปืนสั้นจากเป้มาเหน็บไว้ที่ขาตามเดิมก่อนหยิบปืนกลของอ๋องขึ้นมาใส่แม็กให้พร้อมและยัดแม็กสำรองไว้ข้างหลังอีกแม็ก  “โชว์เด็กมันซะหน่อยว่าพวกเราน่ะมันผ่านอะไรมาบ้าง!”  เอิร์นตะโกนก่อนเอี้ยวตัวออกมาจากเสาเพื่อยิงไปยังกลุ่มคนข้างหน้าที่วับๆแวมๆ โผล่ออกมาทีละจุด

    “เดี๋ยวคุ้มกันให้”  เปาพูดเมื่อเห็นทีท่าเอิร์นอยากบุกเต็มที่  

     

    ฟู่ววว ~    พูดไม่ทันไรควันสีขาวก็ลอยคว้างกั้นกลางระหว่างสองฝั่ง  “สงสัยจะยากซะแล้วสิ” เปาพูด

    “ระวังด้วย เผื่อพวกมันอ้อมมาจัดการ”  เอิร์นเตือนก่อนจะยิงเข้าไปในม่านควันข้างหน้าและรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อไปยังอีกเสาหนึ่งจะได้ใกล้กับข้าศึกมากขึ้น

    “เพื่อนกูนี่มันบู๊จริงๆ”   เปาสะพายสไนไว้กับตัวและชักปืนสั้นขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ลุกช้าๆ พร้อมคอยมองระวังข้าศึกที่ไม่รู้จะมาไม้ไหน

     

    เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกับเสียงตะโกนไปมาของฝ่ายข้าศึก เอิร์นค่อยๆ ย่อง ในมือถือปืนกลเตรียมยิงไว้ตลอด ตอนนี้เขาก้าวผ่านเมฆหมอกที่กั้นกลางมาได้แล้วก่อนจะมานั่งหลบอยู่หลังต้นเสา

     

    “มันบ้าไปแล้วรึไงนั่น”  เปาพูดเมื่อเห็นเอิร์นลางๆ เนื่องจากควันเริ่มจะสลายตัวแล้ว  ซึ่งข้างหน้าก็เห็นชายคนหนึ่งชะโงกหน้าออกมาจากเสาต้นเดียวกับเอิร์นเด๊ะๆเพียงแต่ตอนนี้เอิร์นมันยังไม่ชะโงกหน้าออกไปเท่านั้นเอง  ซึ่งซวยแน่ๆ เพราะตอนนี้เอิร์นแทบจะใช้ที่หลบอันเดียวกับข้าศึก 

    “จะบอกมันไงดีล่ะเนี่ย”  เปาพึมพำกับตัวเอง รีบนำสไนเปอร์ขึ้นมาเล็งอีกครั้งหมายจะช่วยเอิร์น   

     

                ปัง !  เปายิงออกไปจัดการคนที่ชะโงกหน้ามาจากอีกด้านของเสาที่เอิร์นหลบจนล้มลง“อยากจะบ้าตาย”  เปาพูดขึ้นเมื่อเห็นเอิร์นตกใจกับร่างที่ล้มลงมาตรงหน้า  เอิร์นรีบยิงซ้ำออกไปอีกสองสามนัดด้วยความตกใจทำให้ศัตรูคนอื่นเห็นประกายไฟจากปลายกระบอกปืนและพากันตะโกนบอกจุดที่เอิร์นหลบอยู่

     

    “โอ๊ะๆๆ”  เอิร์นรีบเขยิบถอยมาข้างหลังทันทีเมื่อกระสุนเริ่มถูกกระหน่ำยิงมาบริเวณที่ตนอยู่ เอิร์นลุกขึ้นลำตัวแนบเสาก่อนหันกระบอกปืนออกพ้นจากตัวเสา  ยิงสุ่มไปยังกลุ่มผู้ศัตรู “ไอ้ ! เปา”  เอิร์นตะโกนขึ้นก่อนจะเปลี่ยนแม็กแต่ก็ไม่ทัน  อยู่ดีๆ เจ้าหนุ่มท่าทางวัยรุ่นคนหนึ่งก็โผล่มาพร้อมกับไม้เบสบอลในมือหมายจะฟาดแต่เอิร์นก้มหลบทันก่อนพุ่งกระแทกเข้าใส่ลำตัวจนทั้งคู่ล้มลงไปนอนกับพื้น  เอิร์นต่อยเข้าที่ใบหน้าอย่างจังก่อนจะโดนชายตรงหน้าใช้เท้าถีบกระเด็นออกมานอนแผ่ที่พื้น 

    “อยู่เฉยๆ จะดีกว่าน่า”  ผู้ชายอีกคนที่ก้าวเข้ามาในมือที่ปืนสั้นจ่อมาที่เอิร์นที่ยังไม่ทันได้ลุก

     

    ปัง !  พูดไม่ทันจบร่างของชายในเสื้อเชิ้ตที่พูดก็ล้มลงเลือดกระเซ็นออกมาเล็กน้อยก่อนจะล้มแน่นิ่งบนพื้น  “นี่ไง อยู่นิ่งๆ” เอิร์นพูดขึ้นก่อนพุ่งไปยังชายตรงหน้าอีกครั้ง ทั้งสองปลุกปล้ำกันอยู่ยกใหญ่  ฝ่ายศัตรูก็เริ่มที่จะเห็นการต่อสู้แล้วด้วย 

    “แล้วจะช่วยมันยังไงล่ะเนี่ย เล่นสู้กันหลังเสาเนี่ย” เปาเปลี่ยนแม็กสไนเปอร์ของตนแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งมาหลบหลังเสาต้นข้างหน้า  ให้อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นเอิร์นได้ถนัดขึ้น  ครึ่ก ! เสียงลูกเหล็กกระทบกับพื้นดังก้องไปทั่วทั้งชั้น  “แหม่ คุ้นจังเลยเสียงนี้” เอิร์นพูดก่อนจะเหลือบไปเห็นระเบิดห่างจากตนไปไม่กี่เมตร   ตู้ม !  แรงระเบิดทำเอารถรอบๆ กระเด็นไปไกลหลายเมตรและเกิดควันไฟติดตัวรถด้วยบางคันถึงกลับระเบิดส่งให้ตัวรถไปกระแทกกับรถคนอื่นต่อ

     

                ทั้งควันทั้งไฟลอยคุกรุ่นอยู่ทั่วบริเวณบดบังทัศนะวิสัยทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น  ถึงแม้ทั้งสองคนจะใส่แว่นมองในที่มืดก็ตาม  เอิร์นถูกแรงระเบิดทำให้พุ่งไปปะทะกับกำแพงข้างๆยังดีที่ตอนสู้ยังพลิกร่างชายตรงหน้าให้หันมาบังสะเก็ดระเบิดได้แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด

    “เอิร์นๆ !”  เปาเรียกเพื่อนที่นอนอยู่กับพื้น “รีบลุกเร็วเข้า” เปาเร่งก่อนใช้ปืนสั้นยิงตรงไปยังชายสองสามคนที่ผลุบโผล่อยู่ตามซากรถที่กระจัดกระจายด้วยแรงระเบิด

    “โอยย”  เอิร์นส่งเสียงครวญพลางลุกขึ้นโดยมีเปาคอยช่วยพยุงอีกแรงถึงแม้ตัวเอิร์นจะใหญ่กว่าก็ตาม เปาพยุงเอิร์นมาหลบข้างตัวรถกระบะที่อยู่ถัดไปไม่ไกล

    “โดนตรงไหนวะ” เปาถาม   “โดนสะเก็ดนิดหน่อย แต่ก็เจ็บอยู่แต่ที่หนักคือกระแทกกำแพงตรงๆ เนี่ยแหละ เอาซะจุกเลย” เอิร์นตอบ

    “งั้นนั่งอยู่ตรงนี้คอยระวังข้างให้หน่อย” เปาเตรียมสไนอีกครั้งแต่โผล่หัวขึ้นไปไม่เท่าไหร่มันก็ยิงโต้มาชุดใหญ่ “มันมีปืนกลแค่กระบอกเดียวไม่ใช่หรอวะ” เปาพูดเมื่อเห็นข้าศึกอีกคนถือปืนกล “สงสัยเอาจากกูไปแล้วมั้ง” เอิร์นตอบ 

    “มึงนี่ก็น้า ทีนี้งานหินเลย”  เปาว่า

    “เราก็เล่นระเบิดไปบ้างสิ มันยังเล่นเลย”  เอิร์นแนะนำ 

    “ประเด็นคือมันหลบแถวๆ รถเราไง ขืนขว้างไปไม่มีรถใช้แน่ๆ” เปาพูดขึ้น

    “ก็จริงแฮะ แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้” เอิร์นพูดจบรถที่ยืนเยื้องถัดไปก็ระเบิดขึ้น ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ก็เล่นไฟท่วมตัวรถซะขนาดนั้น

    “เอางี้ บุกเหมือนเดิม มึงคุ้มกันไป มันคงเหลือแค่สองคนแหละเท่าที่เดาๆ ดู”เอิร์นบอก

    “ไหวแล้วรึไง”  เปาถาม  “อย่างเอิร์นไม่มีคำว่าไม่ไหวเว้ย!”  เอิร์นลุกขึ้นยืนหยิบปืนสั้นขึ้นมา  ค่อยๆ คลานออกไปจากตัวรถ “ระวังด้วยล่ะ”  เปาเตือนเพื่อน

     

                 เอิร์นคลานห่างออกมาจากตัวรถได้เล็กน้อยตลอดกับคอยมองใต้ตัวรถเพื่อดูความเคลื่อนไหวข้าศึกเป็นระยะ “สองคน”  เอิร์นขยับปากพลางชูสองนิ้วบอกเปา  เปร้ง !  กระสุนยังคงยิงมายังรถที่เปาใช้หลบอยู่เรื่อยๆสงสัยกระสุนเริ่มน้อยลงแล้วล่ะมั้ง เอิร์นคิดก่อนคลานต่อไปหวังจะเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุด

     

    เสียงกระสุนยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีหนึ่งในศัตรูกำลังคลานเพื่อไปยังรถเหมือนที่ตนกำลังทำอยู่เหมือนกัน  เอิร์นรีบคลานให้เร็วขึ้นแต่ด้วยเอิร์นออกตัวก่อนทำให้ระยะห่างยังต่างกันอยู่มาก

     

                กระจกรถคันข้างหน้าแตกเพล้งทำเอิร์นสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ตกใจมากเพราะเป็นเสียงสไนของเปา  ตอนนี้เอิร์นเห็นขาของเจ้าคนที่อยู่หลังรถแล้ว  คาดว่าจะเป็นเจ้าคนที่รูปร่างใหญ่สุดและเป็นหัวหน้าด้วย  ปัง !  เปาหันไปยิงอีกฝั่งหนึ่งแทน สงสัยจะเห็นอีกคนให้แล้วเอิร์นโล่งใจมากขึ้นที่มันรู้ว่ามีข้าศึกมุ่งไปหาก่อนที่ตนจะนอนหมอบกับพื้นและยิงปืนผ่านใต้ท้องรถโดนปลายขาเจ้านั่นเต็มๆ

     

                เสียงร้องด้วยความเจ็บดังขึ้นเอิร์นเหน็บปืนไว้ที่ซองตรงขาเหมือนเดิมก่อนรีบเปลี่ยนเป็นมีดทันทีและพุ่งตัวข้ามกระโปรงรถลงไปกลิ้งกับพื้นหนึ่งตลบก่อนจะหันหลังกลับพุ่งเข้าหาศัตรูตรงหน้าที่ยังไม่ทันตั้งตัวเพราะความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเอิร์น

     

                เอิร์นเงื้อมีดขึ้นหมายจะปักลงไปที่ต้นคอแต่เจ้านั่นเอี้ยวตัวหลบได้ทันเอิร์นแกว่งมีดเข้าใส่อีกครั้งแต่มันก็หลบได้อีก ก่อนจะใช้ขาอีกข้างที่ไม่โดนยิงเตะเอิร์นเข้ากับตัวรถ

    “มันจะง่ายไปหน่อยมั้ง”  มันพูดก่อนจะค่อยๆ เขยิบไปหยิบปืนพกของตนที่ตกอยู่ใกล้ๆแต่เอิร์นรู้ทันรีบพุ่งเข้าใส่อีกรอบทันที ทั้งสองสู้กันอย่างนัวเนียผลัดกันซัดหมัดคนละชุดสองชุด

     

    อั่กก ! เอิร์นกระแทกกับพื้นหายใจหอบอย่างหนัก ทั่วใบหน้าเริ่มมีรอยถลอกและแตกจากการต่อสู้แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีใครยอมกัน  เจ้านั่นฉวยโอกาสตอนที่เอิร์นยังตั้งตัวอยู่พุ่งไปหมายจะไปหยิบปืนที่อยู่ถัดออกไปจากตัว

    “ชิบ ปืนหายไปไหนวะ”  เอิร์นเห็นฝ่ายตรงข้ามจึงคิดหนักเมื่อปืนไม่ได้อยู่ที่ซองปืนแล้ว ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ข้างตัวรถซึ่งสายไปแล้วที่จะเข้าไปหยิบแต่ยังไงก็ยังดีกว่าไม่ได้ลองล่ะน่าเอิร์นรีบลุกขึ้นวิ่งไปยังรถแต่แทนที่จะก้มหยิบปืนกับโดดข้ามกระโปรงรถไป  พร้อมๆ กับเสียงกระสุนที่ยิงไล่หลังมาติดๆ

     

                ทันทีที่ตกมาถึงอีกฝั่งรถเอิร์นลุกขึ้นต่อทันทีก่อนที่จะมียิงไล่หลังตามมาอีก  “โดนจนได้สิน่า”เอิร์นคลานมาหลบข้างรถอีกคันที่เยื้องกันอยู่  เช็คสภาพแผลบริเวณเอวที่เพิ่งโดนกระสุนโฉบผ่านมาหมาดๆ

    “เหมือนว่ายังแอบไม่มิดนะ”  เจ้านั่นพูดขึ้นก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ เดินมายังรถที่หลบอยู่

    “อยากเจ็บตัวมากสินะ”  เอิร์นพูดก่อนชักมีดที่ขาออกมาถือไว้ในมือ   ฟุ่บ!   เอิร์นโผล่ขึ้นมาด้วยความเร็วก่อนจะปามีดตรงเข้าหน้าอกอย่างจัง  เจ้านั่นมองตาค้างไปที่มีดก่อนจะเงื้อปืนขึ้นหมายจะยิงตอบโต้   ปัง !  แต่ไม่ทันจะได้ลั่นไกเลือดก็กระเซ็นไปทั่วรถข้างหลังจากการโดนยิงเข้าที่หัวเต็มๆ 

    “เฮ้ออ !”  เอิร์นถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าเมื่อไม่มีข้าศึกเหลือแล้ว“เลือด.. นี่มึงโดนยิงหรอ”  เปาที่วิ่งเข้ามารีบถามเมื่อเห็นเสื้อที่เอิร์นใส่ถูกย้อมด้วยสีแดง

    “เฉี่ยวๆ ล่ะน่า..” เอิร์นตอบ เขยื้อนเป้มาหน้าตัวเพื่อที่จะหายาที่ตนซื้อมา

    “อยู่ตรงนี้นะ  เดี๋ยวกูมา ไปเก็บปืนของไออ๋องก่อนไปเจอกันที่รถเราเลยก็ได้”  เปาพูดขึ้นก่อนเดินหายไปในซากรถและควันไฟที่ยังคงคุกรุ่นอยู่

     

                หลังจากรักษาตนเองเสร็จ  เอิร์นก็เดินผ่านซากรถที่ระเบิดเหลือแต่โครงรถ  บางคันก็บุบทั้งยุบไปทั้งคัน  เอิร์นสำลักควันไฟระหว่างเดินก่อนจะเห็นรถบรรทุกของตนยังคงอยู่ในสภาพใช้การได้ ถึงแม้จะกระเด็นออกไปจากจุดเดิมมากอยู่ก็ตาม และก็เต็มไปด้วยรอยบุบที่มากขึ้น

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !”  เอิร์นและเปาหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นผู้หญิงวัยทำงานในชุดกราวน์สีขาวพร้อมกับผมยาวประบ่าสีดำซึ่งมองมาอย่างทึ่งๆกับสิ่งที่ตนกำลังได้เห็น  สภาพของที่จอดรถชั้นใต้ดินที่มีซากรถกระจัดกระจายเกลื่อนกราดเละเทะ ทั้งซากรถระเบิด ควันไฟ ชิ้นส่วนรถกำแพงที่ถูกแรงระเบิดอัดซะเกือบจะถล่ม

    “ถ้าให้เดาพวกเธอคงเป็นเพื่อนของอ๋องกับริกสินะ”  ซิลว่าถามพลางเดินผ่านซากรถมายังรถบรรทุกที่เอิร์นและเปายืนอยู่

    “ใช่แล้ว ว่าแต่คุณคือ....” เปาย้อนถาม

    “ฉันมาตามคำแนะนำของอ๋องกับริกน่ะ”  ซิลว่าเอ่ย 

    “พวกมันให้มาหาพวกเราเนี่ยนะ” เอิร์นถามบ้าง  “ใช่แล้ว”  ซิลว่าตอบ

    “ดูจากฝีมือพวกเธอ ก็เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเพื่อนสองคนนั้นเพราะเล่นซะเละพอๆ กันเลย”

    “แล้วตอนนี้เจ้าสองคนนั้นอยู่ไหน”  เปาถาม

    “เรื่องนั่นเดี๋ยวบอก แต่ตอนนี้ต้องรีบไปจากที่นี่แล้ว ไม่งั้นพวกเธอคงจะโดนประกาศจับแน่ๆ”ซิลว่าพูด

    “งั้นรถพวกเราล่ะ” เอิร์นถาม

    “ไม่ต้องแล้ว เก็บข้าวของทั้งหมดแล้วรีบตามฉันมาเลย”  ซิลว่าพูดก่อนเดินตรงไปกดลิฟต์ โดยมีทั้งสองคนเดินตามหลังพร้อมกับสัมภาระของพวกตน

     

    ..........

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in