เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ALIVE : เกม ซ้อน เกมNO.W
จะขึ้นจะลงก็มีแต่เรื่องสินะ
  • ……….

     

    ตอนที่ 11 : จะขึ้นจะลงก็มีแต่เรื่องสินะ

     

    “มันเกิดอะไรขึ้นวะนั่น !”  ผมตกใจเมื่อเห็นมนุษย์คนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนนซึ่งผมคิดว่านั่นไม่ใช่ซอมบี้อย่างแน่นอน

    “รีบเผ่นเถอะ !”  ริกพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นสิ่งเดียวกับที่ผมเห็น

    “เรายังไม่รู้เลยนะว่าใครทำเจ้าหมอนั่นอย่างนั้นน่ะ”  ผมถาม

    “จะอะไรก็ไม่รู้แหละแต่เราต้องไปจากที่นี่ ตอนนี้ !” ริกดึงให้ผมออกมาจากขอบกำแพงตึก

    “แล้วเราจะไปทางไหน ”  ผมถาม

    “ทางนี้เนี่ยแหละ”  ริกขยับตู้ที่ผมเอามาขวางประตูเหล็กเอาไว้ก่อนจะบอกให้ผมเตรียมตัว

     

    ……….

     

    “อยู่ดีๆ มันโผล่มาได้ไงวะ”  เปาตะโกนลั่นขณะหลบอยู่ในร้านอาหารตรงข้ามห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งหนีตายออกมากับเอิร์น

    “ยังไม่ทันจะได้เตือนพวกมันเลย โดนซะแล้วไง”  เอิร์นพูดไปหอบไป ในมือยังกำไม้เบสบอลแน่น

    “ดีนะเจ้าหมอนั่นมันเป็นตัวล่อให้เราน่ะ อยากจะปล้นพวกเราดีนักโดนจัดหนักไปเลย”เปาว่า

    “ว่าแต่เราจะติดแหง็กอยู่ตรงนี้อีกนานมะ”   เอิร์นถาม

    “ไม่รู้เหมือนกัน รอดูสถานการณ์ก่อน ตอนนี้แค่เรารอดไปจากเจ้าตัวบ้านี่ก็พอ”  เปาตอบ

    “เดี๋ยวนะ มึงได้ยินเสียงมั้ย เสียงปืน”  เอิร์นถามก่อนจะส่งสัญญาณมือบอกให้ไอเปาเงียบ

    “เออว่ะ พวกมันไม่รู้รึไงว่ามันกำลังลากความตายไปหามันอยู่” 

     

    ปัง !  ปัง !  ปัง !

     

                เสียงปืนดังลั่นชั้น2 ไปทั่วแผนก ข้าวของกระจัดกระจายจากการต่อสู้ของพวกเรากับซอมบี้ที่รู้สึกว่าจะค่อยๆ น้อยลงเรื่อยๆ

    “ก้ม !”  ริกบอกให้ผมก้มก่อนฟาดซอมบี้ที่อยู่ข้างหลังผมด้วยสันปืนเนื่องจากพวกเราต้องคอยพลัดกันใส่กระสุนปืน

    “รีบลงไปข้างล่างเถอะ”   ผมพูดก่อนเอาปืนฟาดเข้าไปที่หัวซอมบี้ตัวนึงอย่างจัง

     

                ผมเดินตามไอริกลงไปยังชั้นล่างของตัวตึกแต่ก็ต้องชะงักทันทีเมื่อเห็นไอริกมันยืนนิ่งอยู่ข้างล่างก่อนจะรู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร

    “นั่นมันตัว  อะ..อะ..ไรวะ ”ริกพูดเสียงสั่น

     

                ภาพที่ผมเห็นเมื่อตามมันลงมาข้างล่างก็คือ ยักษ์  ต้องใช่แน่ๆ ผมคิด มันทั้งตัวใหญ่ สูงเกือบ 3เมตรได้ เนื้อตัวย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉานเหมือนกับลงไปชุบตัวในบ่อน้ำแดงยังไงยังงั้น  ยืนอยู่กลางถนน ท่ามกลางศพเหล่าผู้เล่นคนอื่นๆที่ตายด้วยฝีมือของมัน ทำให้ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใครที่จัดการผู้เล่นคนนั้นคนที่ผมเห็นบนดาดฟ้า

     

    “มันคือพวกกลายพันธ์ใช่มั้ย” ผมถามด้วยเสียงที่สั่นไม่แพ้กับไอริก

    “ใช่เลยแหละ พอกูบอก วิ่ง หันหลังแล้ววิ่งขึ้นข้างบนเลยนะ”  ริกกระซิบบอก

    “จะขึ้นไปทำไมเพิ่งลงมาเองนะ แล้วจะไปยังไงด้วย” ผมถาม

    “งั้นมึงก็ไปสิ ถ้ามึงไม่ขึ้นน่ะ” มันพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางเจ้ายักษ์นั่นที่ตอนนี้มันกำลังจ้องเราสองคนอยู่เหมือนกับว่ากำลังพิจารณาอยู่ว่าผมกับริกใครหน้าขย้ำกว่ากัน

     

    “วิ่ง !”  ริกตะโกนพร้อมกับหันหลังวิ่งขึ้นไปยังชั้นสอง ส่วนผมก็ไม่รอช้ารีบตามมันขึ้นไปติดๆ แต่สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนนี้ก็คือผมเห็นไอเจ้ายักษ์กลายพันธุ์นั่นมันวิ่งอยู่แถวๆหางตา

    “รีบเลย !  มันตามตูดมาแล้ววว !”  ผมตะโกนลั่นขณะที่พวกเรากำลังวิ่งผ่านโซนออฟฟิศที่เละเทะด้วยน้ำมือพวกเราสองคน  ทันทีที่ขึ้นมาชั้นบนผมรีบปิดประตูเหล็กทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนมีแผ่นดินไหวไล่หลังผมมา

    “เร็วๆ เข้า !”  ริกร้องเรียก ก่อนที่มันจะวิ่งยาวๆ และกระโดดข้ามไปยังอีกตึกที่อยู่ถัดไปทันทีทำเอาผมคิดในใจว่าไอ้เจ้านี่มันไม่กลัวเลยรึไงวะ 

     

                ผมไม่รอช้ารีบวิ่งตามมันไปโดยมือก็ควักเอาระเบิดที่เก็บมาจากกล่องที่ตกอยู่ในร้านขายปืนออกมาดึงสลักออกแล้วปล่อยทิ้งไว้บนพื้น ก่อนจะออกแรงสุดตัวกระโดดข้ามไปยังอีกตึกนึงผมตะโกนบอกไอริกก่อนที่จะกระโดดว่า  “วิ่ง !”   

     

    ทันที่ที่พูดจบก็เกิดเสียง  ตูม ขึ้นข้างหลังพร้อมกับเสียง ครืน ของปูนและโครงตึกที่แตกกระจายด้วยแรงระเบิด  ผมไม่รู้ว่าไอเจ้ายักษ์นั่นมันรอดหรือเปล่าแต่ด้วยแรงระเบิดทำให้ตัวผมกระเด็นข้ามตึกมาเร็วยิ่งขึ้น จนกลิ้ง คลั่กๆอยู่บนดาดฟ้าอีกตึกนึง

    “ รีบลุกเร็วเข้า !”  ริกที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าตึกตะโกนบอกผมซึ่งมันดังก้องอยู่ในหัวผมก่อนที่ผมจะรู้เหตุผลว่าทำไม  ผมก็เห็นพื้นที่ผมกำลังจะลุกขึ้น มันเกิดรอยแตกเป็นทางยาวผมหันไปข้างหลังด้วยอาการมึนๆจากแรงระเบิดก็พบว่า ซากตึกที่มันระเบิดมันลอยมากระแทกตึกนี้ด้วย 

     

                ริกวิ่งมาหาพร้อมกับส่งมือมาให้ทันทีที่ผมจับมือมันพื้นที่ผมกำลังทรงตัวอยู่ก็ค่อยๆ ทรุดทลายลง

     “มึงเป็นอะไรของมึงฮะ สู้หน่อยเด้”  ริกตะโกนก้องในหัวผมขณะเอื้อมมือมาจับผมอยู่ตอนนี้ตัวผมกำลังห้อยต่องแต่งอยู่ระหว่างชั้นสองและชั้นดาดฟ้าของตึกอยู่โดยมีไอริกที่กำลังออกแรงดึงผมอยู่

    “ปล่อยกูลงไปชั้น 2 แล้วเดี๋ยวมึงค่อยตามกูไป” ผมตะโกนบอกมันเมื่อเห็นว่าชั้นสองไม่มีซอมบี้

    “จะบ้ารึไง มันสูงนะเว่ย !”

    “ไม่สูงหรอกน่า ไปเจอกันข้างล่าง !”  ผมปล่อยมือจากมัน ตกลงมาบนผนังที่หักโค่นลงมาเป็นแนวทแยงตั้งอยู่กับพื้นชั้นสองทำเอาผมกระแทกดัง อั่ก กลิ้งไหลลงมานอนแผ่อยู่บนพื้น

    “โอยยย...”  ผมร้องโอดครวญก่อนแหงนหน้ามองไปรอบๆห้องที่ตนเพิ่งตกลงมา

     

                สภาพภายในห้องเต็มไปด้วยโต๊ะที่ถูกพับเก็บแล้วซ้อนเอาไว้หลายๆชั้นอยู่ติดกับกำแพง ใกล้ๆ กันก็เป็นเก้าอี้ที่ถูกตั้งวางซ้อนเป็นแถวๆอีกทั้งยังมีข้าวของเกี่ยวกับครัวเรือนต่างๆ มากมายถูกเก็บไว้ในตู้ จึงเดาได้ว่าที่นี่น่าจะเป็นร้านอาหารหลังจากที่อาการมึนจากแรงระเบิดได้หายไปบ้างแล้วอีกทั้งก็หายปวดหายเจ็บจากที่ตกลงมาไปบ้าง 

     

                ผมก็เดินไปเปิดประตูไม้เก่าๆเพื่อที่จะออกไปข้างนอก  ภายนอกเป็นทางเดินแคบๆพอจะเบียดได้ซัก 2 คนอย่างน้อย ชั้นสองนี้ยังมีห้องอีกมาก คาดว่าน่าจะเป็นห้องเก็บของไม่ก็ห้องพักพนักงานผมเดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยกะระยะจากประตูที่ริกมันน่าจะเดินลงมาจากดาดฟ้าก่อนจะเห็นว่าห้องฝั่งตรงข้ามกับห้องที่ผมออกมาเปิดประตูไว้

     

                ผมหยิบปืนกลขึ้นมาพร้อมเตรียมยิงไว้ก่อนจะค่อยๆ เดินไปทางประตูดังกล่าวเมื่อถึงหน้าประตูห้องผมก็รีบชะโงกหน้าพร้อมกับตัวออกไปเหมือนกับในหนังที่พวกตำรวจมักจะทำท่านี้เวลาบุกเข้าห้องคนร้าย แต่กลับต้องตกใจถึงแม้ว่าจะไม่มีซอมบี้โผล่ออกมาก็ตาม

    “โห่ ! หัวใจแทบวาย”  ผมตกใจเมื่อโผล่ออกไปมันก็ชักปืนออกมาเล็งผมเหมือนกัน แตกต่างกันก็ตรงที่มันลั่นไกด้วยแต่ผมก็ยังโชคดีพอที่ก่อนหน้านี้เรากระหน่ำยิงกัน แล้วก็ยังไมได้เปลี่ยนแม็ก

    “ดีนะ กูยังไม่ได้เปลี่ยนแม็ก”  ริกพูด

    “กูก็เหมือนกัน ไม่งั้นได้ฆ่ากันตายเนี่ยแหละ”   ผมมองลอดบ่ามันไปสำรวจข้างหลังซึ่งก็มีแต่ลังไม้เก่าๆตั้งวางเต็มห้องและมีประตูทางลงมาจากข้างบน

    “ดูเหมือนว่าที่นี่จะปลอดภัยนะ” ริกพูด ก่อนเดินออกจากห้องไปยังราวบันไดเพื่อลงชั้นล่าง

    “ก็คงงั้น ถ้าไอ้ยัก์นั่นมันตายซึ่งคิดว่ามันน่าจะตายนะ”  ผมตอบ

    “รีบออกจากเมืองนี้เหอะ”  ริกเดินนำผมลงไป

     

                ชั้นล่างที่เราลงมาก็คือห้องครัวขนาดมาตรฐานเหมือนกับห้องครัวภัตตาคารในโรงแรมหรูต่างกันก็ตรงที่ที่นี่อาจจะมีขนาดเล็กกว่าหน่อย  

     

                ผมผลักประตูออกมายังหน้าร้านเต็มไปด้วยโต๊ะอาหารมากมาย ริกเดาว่าที่นี่น่าจะเป็นร้านอาหารจีน ซึ่งผมก็คิดว่าน่าจะใช่เพราะโต๊ะมันเป็นโต๊ะกลม พร้อมกับมีที่เลื่อนอาหารอยู่บนโต๊ะ คล้ายๆ กับร้านอาหารจีนที่ผมเคยไป

    “เอาล่ะ เหมือนทางจะโล่งนะ”  ริกพูดพลางมองผ่านผ้าม่านหน้าต่างออกไปสังเกตการณ์ข้างนอก

    “ว่าแต่มันก็แปลกเนอะ เราเดินไปเดินมา ไม่ยักจะเจอคนแต่ไอ้ยักษ์บ้านั่นกับฆ่าคนเกือบสิบ

    มันไปเจอที่ไหนของมันวะ อยากรู้จริงๆ” ผมพูดพลางยัดกระสุนลงในแม็กปืนสำรอง

    “นั่นน่ะสิ แต่รู้สึกว่าเราจะออกไปไม่ได้แล้วล่ะ”  ริกพูดขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ย่องกลับมาหาผม

    “เกิดอะไรขึ้น”  ผมกระซิบถามก่อนเก็บข้าวของเข้าที่

    “มีคนกลุ่มนึงอยู่ข้างนอกอ่ะดิ มันคงหาของกันล่ะมั้ง ไม่รู้สิ” ริกตอบ

    “มันมีอาวุธกันรึเปล่า”  ผมถาม

    “มีปืนอยู่แค่ไม่กี่คน ที่เหลือก็ไม้มั่ง มีดมั่ง” 

    “แล้วถ้าพวกมัน...”   

     

    เพล้ง !

     

                ผมยังพูดไม่จบอยู่ๆกระจกประตูร้านก็เกิดแตกขึ้นมา ผมรีบก้มหลบใต้โต๊ะทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นฝีมือของพวกมันที่ทุบกระจก พวกมันค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างระมัดระวัง

    “เอาไงดี”  ผมไม่พูดแต่ใช้สีหน้าถามเจ้าริกแทน

    “ยิงขู่พวกมันแล้ววิ่งเข้าไปในครัว” ริกกระซิบ

    “เฮ้ย ! มีคนอยู่ตรงนั้น”  ผมได้ยินใครสักคนในกลุ่มมันตะโกนขึ้นมาก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกมันมากขึ้นผมถือปืนขึ้นกราดยิงเหนือหัวไปข้างหน้าแบบมั่วๆ พร้อมกับตะโกนบอกไอริกให้วิ่ง

     

    ผมค่อยๆ ยิงทีละชุด บวกกับเดินถอยหลังตามริกเข้าไปในครัวทันที่ที่ประตูครัวปิดผมได้ยินเสียงกระสุนไล่ตามมาข้างหลังทันที

    “เอาไงดีทีนี้”   ผมรีบเปลี่ยนแม็กสำรองที่เตรียมไว้

    “พวกมันมีอาวุธน้อยกว่าเรา ดูจากที่มันไม่กล้ายิงเท่าไรเราน่าจะจัดการพวกมันได้”

    “จัดการนี่คือฆ่าใช่มั้ย”  

    “นั่นแหละ มันเป็นกฎการเอาตัวรอดอยู่แล้ว ยังไงพวกมันก็ต้องฆ่าเราเพื่อเอาของแน่ๆ”ริกพูด

    “ถึงมันจะเป็นแค่เกมส์แต่มันก็เหมือนจริงอยู่นะเว่ย” ผมพูดพลางเหลือบตามองผ่านกระจกประตูครัวออกไปเห็นเจ้าคนกลุ่มนั้นกำลังลังเลว่าจะเข้ามาดีไม่เข้ามาดี แต่ดูจากท่าทางของเจ้าคนที่ใส่ชุดเหมือนพนักงานออฟฟิศที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกมัน

     

                เมื่อผมสังเกตดีๆพวกมันมีกันประมาณ หก ไม่สิ เจ็ดคนได้ ในนั้นมีปืนอยู่ก็ครึ่งนึงแล้ว

    ผมละสายตากลับมาที่ห้องครัวเห็นไอริกตั้งท่ารอตั้งรับกับพวกมันอยู่ 

     

                ในใจตอนนี้ผมยังลังเลอยู่เพราะอย่างน้อยซอมบี้ผมยังฆ่าได้เพราะมันเป็นแค่บอทของเกมส์ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนจริงยังไงก็เถอะ แต่นี่มันเป็นคนที่รู้สึกเจ็บได้เหมือนกันกับผมเนี่ยสิ

    “มึงกำลังคิดว่าจะฆ่าดีไม่ดีสินะ”  ริกพูดขึ้น

    “อือ” 

    “ถ้ามึงไม่สามารถฆ่าคนได้ตั้งแต่แรกๆ ล่ะก็นะมึงเล่นเกมส์พวกนี้ไม่รอดหรอกว่ะ” ริกตอบ

     

    เพล้ง ! 

     

                หน้าต่างประตูครัวซึ่งอยู่ข้างๆหัวผมแตกดังเพล้งจากเสียงปืนที่มันยิงฝ่าเข้ามาหาเรา

    “อื้อหือ เอากูวิ้ง ! เลย”  ผมลงไปกุมหูซ้ายซึ่งอยู่ด้านเดียวกับประตูเนื่องจากผมหันหลังให้

    “คิดได้ยังล่ะทีนี้”  ริกพูดพลางยิงโต้ออกไป

    “กูคิดได้และ !”  ผมคลานไปยังจุดที่ริกยืนอยู่ ซึ่งเป็นอีกฝั่งของโต๊ะเครื่องครัวที่ตั้งยาวอยู่กลางห้องก่อนจะคว้าสไนเปอร์ไม้ที่แบกให้เมื่อยอยู่นานออกมา

    “ได้ใช้คราวนี้แหละ” ผมทาบปืนไว้กับโต๊ะเตรียมเล็ง

     

    ..........


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in