ผู้ร่วมอาสาห้าชีวิต พี่มอสประเสิรฐ พี่มอสฉัตรเทพพี่ติ๋ว พี่ฟาง และฉันหวาย(น้องเล็กสุดของทริป) เด็กอีสานสี่ชีวิต พวกเราทั้งสี่คนเป็นคนชัยภูมิ ชัยภูมิเป็นจังหวัดที่พี่เบิร์ดธงไชย เคยถ่ายทำโฆษณาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดที่มีดอกกระเจียวสวยๆ มีมอหินขาวที่เขาเรียกว่า Stonehenge of Thailand และยังมีผาที่ชื่อว่าผาหำหด อีผาไม่เท่าไหร่แต่ชื่อนี่โคตรพีค ว่างๆก็อยากให้ทุกคนไปพิสูจน์ว่ามันจะหดตามชื่อจริงๆหรือเปล่า ส่วนของฝากคือหม่ำ(รสชาติคล้ายไส้กรอกแต่อร่อยกว่า ทำจากหมูและเนื้อ) ชัยภูมิเป็นจังหวัดที่ผู้คนเป็นมิตร มีน้ำใจไมตรีอันดีงาม ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผาไหมพระใหญ่ทวารวดี คำขวัญจังหวัดท่องได้ตั้งแต่สมัยปอหนึ่งทับหนึ่งห้องคุณครูวาสนา ที่ต้องอธิบายก็เพราะว่า เจอคำถามแบบนี้บ่อยมาก ถึงมากที่สุด
คนแปลกหน้า : “เธอๆอยู่โรงเรียนอะไร”
ชาคริยา :“ภูเขียว”
คนแปลกหน้า : “ไม่มีวิทยาหรอ ชื่อสั้นจัง”
ชาคริยา :“ไม่อ่ะ”
คนแปลกหน้า : “อยู่บนเขาหรอ อยู่จังหวัดอะไร”
ชาคริยา : “อื้อ(ขี้เกียจอธิบาย) อยู่ชัยภูมิ”
คนแปลกหน้า : “ชัยภูมิประเทศไทยมีจังหวัดนี้มีด้วยหรอ พึ่งเคยได้ยิน อยู่ภาคไหนอ่ะ”
ชาคริยา : “อีสาน ข้างๆขอนแก่นหนะ”
คนแปลกหน้า : “อ่อ พึ่งรู้จักอ่ะ”
ชาคริยา :บ่นในใจ ฟหกด่าสวเ&()*%^&*()*%$!!!!!!!!!!!!!
สมัยปอสามคุณเธอไม่ได้เรียนภูมิศาสตร์รึไง อย่างน้อยก็ควรรู้จักรายชื่อจังหวัดในประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด รู้จักไหมเทคโนโลยีที่เรียกว่ากูเกิ้ลแมพ(โอเคมันอาจจะเป็นปมนิดๆของผู้เขียน)และเด็กเหนืออีกหนึ่งชีวิตคือพี่ฟางที่เป็นคนเชียงใหม่
พวกเราออกเดินทางประมาณสี่โมงเย็นจากสถานีขนส่งโดยสารอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่หรือที่คนเหนือเรียกว่าอาเขตการเดินทางครั้งนี้ฉันได้แต่ภาวนาว่าอย่าท้องเสียเลยนะ เดินทางไกลนะ ห้ามปวดนะ พี่ขอล่ะ และสุดท้ายคำภาวนาก็เป็นจริง ดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้นม้วนหน้าม้วนหลังเมื่อถึงอาเขต
ย้อนกลับไปในสมัยที่ยังเป็นละอ่อน ใสๆหัวใจสี่ดวง หรือช่วงชีวิตสมัยมัธยม หลังจากจบปอหกก็โดนแม่ขับไสไล่ส่งบังคับให้ไปเรียนโรงเรียนต่างอำเภอโดยระยะทางที่บ้านกับโรงเรียนห่างกันประมาณยี่สิบสี่กิโล ชีวิตก็เลยตกระกำลำบากตั้งแต่เด็ก ต้องตื่นเช้าไปเรียนทุกวัน มีคบขับรถส่วนตัวคือรถโดยสารประจำทาง ซึ่งรถโดยสารรอบพิเศษสำหรับนักเรียนจะออกประมาณหกโมงสี่สิบ ถ้าไปไม่ทันก็ต้องรอรอบต่อไป และเป็นรถโดยสารที่มีความถี่ในการออกตัวสูงมากประมาณชั่วโมงละคัน พร้อมเลทอีกสามสิบนาที ตามแต่อารมณ์ของคนขับ วันไหนที่ลุงอยากกินลมชมวิว ลุงก็จะขับประมาณสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนที่ทะเลาะกับภรรยาผู้ซึ่งเป็นคนขายตั๋ว หรืออารมณ์ไม่ดี คุณลุงจะแปลงร่างเป็น Vin Diesel ขับอย่างกับกำลังถ่ายหนังฟาส กว่าจะเบรค ก็จอดเลยป้ายไปประมาณกิโล แล้วถ้าวันไหนตื่นสาย โดนนาฬิกาปลุกทรยศหักหลัง รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงแม่ตะโกนเรียกชื่อระดับความดังขนาดร้อยสี่สิบเดซิเบลมาจากชั้นล่าง กว่าจะทำธุรเสร็จก็ประมาณเจ็ดโมงเช้า แม่ก็ต้องขับรถตามรถโดยสารไปไม่ก็ไปส่งที่โรงเรียนพร้อมกับเสียงบ่นตลอดระยะทางยี่สิบสี่กิโล (คิดในใจไม่กล้าตอบโต้ : นี่ถ้าแม่ให้เรียนใกล้บ้านตื่นแปดโมงยังเข้าโรงเรียนทันเลย)
สมัยมอปลาย โรงเรียนมีนโยบาลให้เงินนักเรียนไปซื้ออุปกรณ์การเรียนประมาณสองร้อยบาท แต่คิดหรอว่าชาคริยาจะเอาเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนตามวัตถุประสงค์ที่โรงเรียนต้องการ เปล่าเลย จำได้ว่าวันนั้นเพื่อนแต่ละคนดีใจยกใหญ่ที่ได้เงินฟรี เพื่อนก็เลยชวนไปเลี้ยงฉลองกินหมูกระทะด้วยความที่เป็นคนดี(น้อย) จึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของเพื่อนกลัวเสียน้ำใจ เลยเอาตังค์ที่ได้ไปฉลองกับเพื่อน (เด็กๆโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง)
ตัดภาพมาที่ร้านหมูกระทะ นั่งกินหมูกระทะด้วยเงินโรงเรียนอย่างมีความสุข หลังจากที่กินหมูกระทะเสร็จ เพื่อนขับรถไปส่งที่สถานีขนส่งนั่งรอรถได้ไม่นานรถบัสก็มา พอรถออกเท่านั้นแหละอยู่ดีๆร่างกายก็เกิดอาการไส้ตรงหรือที่เรียกง่ายๆว่ากินแล้วต้องขี้เลย หนทางยี่สิบสี่กิโลเหมือนสองพันสี่ร้อยกิโล ต้องนั่งขมิบตูด ไม่พูดไม่จา เหงื่อแตกผลั่กๆ นั่งกุมมือตัวเอง พยายามข่มใจ ทนหนออย่าออกหนอ ทรมานเหมือนกำลังจะตาย ระหว่างที่นั่งขมิบตูดก็ได้แต่นั่งน้อยใจชีวิตทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย โลกใบนี้ช่างโหดร้าย แต่นี่สินะที่เขาเรียกว่าเวรกรรมติดจรวด ถ้าเอาเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนคงไม่เจออะไรแบบนี้ เว๊รกรรม เวรกรรม
ในชีวิตของคนๆหนึ่งต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้สักครั้งฉันเชื่ออย่างนั้น…
กลับมาสู่เรื่องราวในปัจจุบัน
บนรถพวกเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากทุกคนต่างตื่นเต้นที่จะได้เป็นครูอาสา ตอนแรกฉันวางแผน ไว้ว่าจะดื่มด่ำความสวยงามของธรรมชาติยามค่ำคืนตลอดเส้นทางผ่านไปสามสิบนาที หลับ หลับจริงหลับจัง หลับลึก หลับอภิมหึมาลึก ตื่นมาอีกที อ้าวถึงเชียงใหม่เสียแล้ว ได้แต่เฮ้อออ เสียดายจัง ฮ้าาาา เสียดายจัง
ถึงอาเขตประมาณตีสี่กว่าๆสถานีต่อไปคือประตูเมืองเชียงใหม่ซึ่งจะมีรถตู้สายอมก๋อยแม่ตื่นจอดรออยู่ ฉันคิดเอาไว้ในใจว่านี่แหละจะชมวิวภูเขา จะไม่หลับ! สู้เค้าชาคริยา! แต่พี่มอสบอกมาว่าเส้นทางที่จะไปอมก๋อยเป็นเส้นทางภูเขา กินยาแก้เมารถไว้ดีกว่าจะได้ไม่เมารถ ด้วยความที่เป็นเด็กดีเชื่อพี่ กันไว้ดีกว่าแก้ ฉันก็กินไปหนึ่งเม็ด…
รถตู้ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณตีห้ากว่าๆชมวิวเมืองไปเรื่อยๆ ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนจากความมืดมิดเป็นแสงรุ่งอรุณในยามเช้า นั่งรถตู้ไปเรื่อยๆ เริ่มเจอวิวภูเขา น้ำ สายลมแสงแดด ตาก็เริ่มหย่อน วิวสวยแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานฤทธิ์ยาแก้เมารถได้คราวนี้ก็หลับอีกครั้งหลับอีกครา ตื่นมา อ้าวววววว ถึงอมก๋อยแล้วหรอ ได้แต่เฮ้อออเสียดายจัง ฮ้าาาา เสียดายจัง
ปล.ขอติดแฮทแท็กเพื่อนอธิบายนิสัยของตัวเองในบทนี้ว่า
#วิถีคนอ้วนไส้ตรงที่นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแ-ก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in