Directed by: Christopher Landon

Written by: Christopher Landon

Characters created by: Scott Lobdell

Genre: Horror/Thriller

Real Genre: Comedy/Sci-Fi/Thriller

Runtime: 100 mins

*SPOILER ALERT*

วันพฤหัสอีกแล้วนะครับ เช่นเคยครับ ผมก็ไปดูหนังที่เข้าโรงวันนี้วันแรก คิวของวันนี้ก็เป็น Happy Death Day 2U ภาคต่อของหนังสยองปี 2017 ซึ่งเป็นหนังที่ว่าด้วยหญิงสาวที่ติดอยู่ในลูปเวลา เพื่อตามหาฆาตกรที่เป็นคนลงมือฆ่าเธอ ภาคแรกก็สนุกดีครับ มาภาคนี้ถ้าไม่ไปดูก็กระไรอยู่

หนังแนววนลูปเรื่องแรกๆที่ผมดูก็คือ Groundhog Day เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยดูหรือได้ยินชื่อมาบ้าง สำหรับใครที่ไม่เคย ผมจะเล่าคร่าวๆให้ ก็คือ นักข่าวคนนึงเดินทางไปทำข่าว 'เทศกาลว้นอ้น' ที่เมืองๆนึง ก่อนที่ในวันต่อมา เขาพบว่าตัวเองยังติดอยู่ในวันอ้น และก็ต้องหาทางออกจากวันเดิมๆซ้ำๆซากๆนี้ให้ได้ ซึ่ง GD เนี่ยกลายเป็นหนังตลกคลาสสิคไปแล้ว แต่ไอเดียเรื่องวนลูปเนี่ยก็ต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน (จริงๆ GD ก็ไม่ใช่หนังวนลูปเรื่องแรกหรอกครับ เพียงแค่มันดังมากจนทำให้หนัง time-loop กลายเป็นที่รู้จัก) ผ่านหนังหลากแนว ไม่ว่าจะแอ็คชั่น (Deja Vu, Edge of Tomorrow) ไซไฟ (Source Code, Predestination) หรือจะดราม่าวัยรุ่น (Before I Fall) แต่แนวสยองขวัญก็มี HDD นี่แหละครับ (ใครม่ีเรื่องอื่นแนะนำ คอมเมนต์ด้านล่างได้ครับ)

เอาล่ะ ต่อจากนี้ผมจะสปอยล์เนื้อหาละกันนะครับ เพราะถ้าให้เขียนเปล่าๆนี่ยังไงก็มีหลุดไปบ้างแน่ๆ 5555555 เดี๋ยวจะเขียนสรุปไว้ด้านล่างอีกทีนะครับสำหรับคนที่ไม่อยากโดนสปอยล์นะครับ

ในภาคแรก นางเอกรอดจากลูปมาได้, จัดการฆาตกร แถมได้ผัวมาอีกคน (แหมมม นังตัวดี!) แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าไอ้ลูปเวลาที่นางไปติดนี่เป็นมายังไง มาภาคนี้ผู้กำกับเค้าก็เลยเฉลยให้เลยว่า อ๋อ เพื่อนเอเชียของพระเอกที่มาเคาะประตูนั่นแหละ คือเจ้าของเครื่องกลควอนตัมซัมติงที่มีวิทยาศาสตร์สักอย่าง แล้วก็เชื่อมโยงกับมิติอื่นๆได้ (ส่วนนี้กระผมขอกราบอภัยด้วย ฟังไม่ทันจริงๆ) แล้วก็ไปๆมาๆ นางเอกก็ดันเข้าไปติดในลูปเดิม ทว่า ทุกอย่างที่นางคิด กลับไม่เหมือนเดิมอย่างในลูปครั้งแรก เช่น ฆาตกรไม่ใช่คนเดิม หรือ พระเอกคบกับประธานหอนางเอก ฯลฯ

อย่างที่ท่านๆน่าจะทราบกันดีว่า HDD ภาคแรกนั้น คือหนัง slasher ที่เอาประเด็น time-loop มาขาย ซึ่งเอาแค่นี้ก็ใหม่มากแล้วนะ พอมาภาคนี้ เหมือนทุกอย่างถูกเพิ่มเครื่องปรุง x2 จากหนังไล่เชือดวัยรุ่นปนตลก กลายมาเป็นหนังไซไฟตลกที่มีความสยองเป็นเครื่องเคียง ซะงั้น มันไปไกลกว่าที่ผมคิดม้าก!หนังยำเอาทั้งไซไฟแบบเบาๆ ความตลกแบบภาคแรก (แต่คูณสอง) ความเป็นหนังรักวัยรุ่น ดราม่าเรื่องปมในใจของนางเอก และความเป็นหนังไล่เชือด เข้าด้วยกัน คิดว่ามันจะเละสินะครับ แต่ไม่แฮะ

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ หนังออกมาดูดีมาก กลายเป็นว่าไอ้ประเด็นเครื่องควอนตัมของเพื่อนพระเอกเนี่ย ดันเข้ากับโทนเรื่องได้อย่างลงตัว ผสมความไซไฟเข้ากับหนังสยองไล่เชือดได้แปลกมาก นอกจากนี้ ความตลกก็กลายเป็นหนึ่งในแกนหลักของหนังไปแล้ว ความลุ้นระทึกแบบในภาคแรกยังมีอยู่ แต่ในภาคนี้มันจะถูกกลืนไปกับความตลกร้ายของตัวละครและเหตุการณ์ในเรื่อง ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหน มันก็ยังเอาฮาได้ ชอบที่มันล้อ Back to the Future 2 ด้วย (พล็อตภาคนี้ก็คล้ายเรื่องนั้น)

แต่ในขณะเดียวกัน บางคนอาจจะไม่ชอบที่หนังกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว เหมือนความ slasher ในภาคแรกหายไปเกือบหมด เพราะถูกแทนที่ด้วยปมประเด็นใหม่ๆ (ฉากไล่ล่าลุ้นระทึกในภาคนี้มีน้อยมากเลยนะสำหรับผม) หรือบางคนอาจจะไม่ชอบที่หนังมีส่วนผสมใหม่ๆเยอะแยะเกินไป ทำให้หนังเสียสมดุลในการเล่าเรื่อง ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อเสียของหนังเหมือนกัน บางอย่างมันเยอะเกินไป แต่บางส่วนก็น้อยไป บาลานซ์หนังเลยไม่ค่อยพอดีเท่าไหร่

จะว่าไป หนังมันก็ค่อนข้างกาวเอาเรื่องอยู่นะ ตลกบ้าบอมาก พล็อตเรื่องก็หลุดโลกไปไกล (แต่อย่างที่ผมบอก มันเข้ากับโทนเรื่องลงตัวมาก) ยิ่งฉาก end credits นี่แบบ เอางี้เลยเรอะพี่!? เชื่อว่าภาคสามมาแน่ๆครับ รายได้ก็ดีด้วย นึกไม่ออกเลยว่าพล็อตเรื่องจะมาไม้ไหน