VIDEO
*ไม่มีสปอยล์* เป็นอีกครั้งที่เดินออกจากโรงมาพร้อมกับคำถามมากมายเต็มหัวไปหมด ครั้งล่าสุดที่รู้สึกแบบนี้ก็คงจะเป็น Hereditary เมื่อปีที่แล้ว ที่น่าบังเอิญอย่างประหลาดก็คือ ทั้งสองเรื่องคือหนังสยองขวัญที่มีครอบครัวเป็นธีมหลักของเรื่อง ดูเรื่องนี้จบถึงกับค้นหา ending explanation ของฝรั่งอ่านเลย แต่อ่านแล้วก็ยังงงอยู่ดี หรือผมโง่เองหว่า
Jordan Peele ที่ทำ Get Out ไปเมื่อปี 2017 (แล้วชนะบทดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากออสการ์มาได้) กลับมาจับงานสยองขวัญอีกครั้ง ซึ่งเรื่อง Us นี้ ตัวผู้กำกับบอกว่า นี่จะเป็นหนังสยองขวัญเพียวๆไม่เหมือนเรื่องที่แล้วนะ แต่ระหว่างที่ดู การสอดแทรกประเด็นสังคมต่างๆก็ยังโผล่ขึ้นมาอยู่ดี ซึ่งก็ตรงคอนเซ็ปต์ของผู้กำกับเขาแหละนะ
Us มีแกนเรื่องหลักๆคือ ครอบครัววิลสัน ประกอบด้วย อเดเลด (Lupita Nyong'o ) ผู้เป็นแม่, เก๊บ (Winston Duke ) ผู้เป็นพ่อ และลูกๆอีกสองคน ที่เดินทางไปยังบ้านพักตากอากาศนอกเมือง ก่อนจะได้เผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่มีรูปพรรณเหมือนพวกเขาไม่มีผิด และนั่นก็นำไปสู่ค่ำคืนที่ยาวนานแห่งการเอาตัวรอดและค้นหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด
หนังค่อยๆปูเรื่องอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่จังหวะหนังค่อนข้างช้า แต่ไม่ได้แปลว่าหนังน่าเบื่อนะครับ มันค่อยๆสร้างเรื่องราวขึ้นมาเพื่อกรุยทางให้คนดูเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของหนัง เพราะระหว่างที่ดูผมก็นั่งขบฟันลุ้นไปกับตัวละครมากๆ ตัวละครน่าเอาใจช่วยมากๆ แม้จะแบนราบไปบ้างในบางจุด
บรรยากาศของหนังจะคล้ายๆ Get Out ทั้งเรื่องเราจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันไม่น่าไว้วางใจเอาซะเลย เราจะระแวงหน้าหลังอยู่ตลอดทั้งเรื่อง กดดันมากๆ ยกตัวอย่างฉากบุกบ้าน มันทั้งลุ้น หวาดระแวง และเดาอะไรไม่ได้สักอย่าง
ภาพรวมของหนังถือว่าสนุกครับ เป็น atmospheric horror ที่ทำได้ดีมากเรื่องนึง เพราะบรรยากาศมันกดดันจริงๆ ด้านเนื้อหาก็ถือว่าแปลกใหม่และไปได้สุดทาง โดยเฉพาะองค์สุดท้ายที่ผมไม่ได้คิดเลยว่ามันจะออกมาแนวนี้ ด้านความเป็นหนังสยองขวัญก็น่าจะตอบโจทย์คนที่ชอบหนังไล่เชือด ฉากโหดเยอะพอสมควร แต่บางครั้งหนังก็เลี่ยงที่จะโชว์ให้เราเห็นแบบจะจะ เน้นให้คนดูจินตนาการเอาเอง
ผมชอบที่เค้าสร้างครอบครัวนี้ขึ้นมาให้ฝีมือสมน้ำสมเนื้อกับตัวร้าย คือไม่โง่นั่นแหละ มันจะมีบางโมเมนต์ที่สองฝ่ายชิงไหวชิงพริบกันสนุกมาก ลุ้นระทึกมาก ระหว่างดูก็แอบสบถในใจว่ามึงตายแน่ๆอีตัวร้าย แต่ก็นั่นแหละ อะไรมันก็พลิกแพลงกันได้ตลอดเวลา
และตามสไตล์ Jordan Peele คือแกเป็นตลก แต่คิดไงไม่รู้ถึงมาทำหนังสยองขวัญ เฉกเช่นใน Get Out แกจะหยอดมุกตลกเข้ามาเป็นระยะๆ กับเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ผมว่าฮากว่าเรื่องนั้นด้วยซ้ำไป เช่น ซีนที่มันกำลังไล่ล่ากันอยู่เนี่ย พี่แกก็โยนเอามุกตลกเข้ามาใส่ดื้อๆซะงั้น ซึ่งผมว่าลงตัวและกลืนไปกับความสยองขวัญดีนะ ไม่ทำให้หนังเสียมู้ด และเป็นการผ่อนอารมณ์ของหนังให้ภาพรวมมันไม่เครียดเกินไปด้วย ฉลาดมาก
ทางด้านนักแสดง Lupita แสดงได้คลั่งและดูหวาดผวาได้สมจริงมาก เผลอๆอาจมีชื่อติดออสการ์ปีหน้าด้วยซ้ำไป ส่วน Winston ก็สร้างสีสันให้กับหนังได้ดี ส่วนนักแสดงเด็กก็ทำหน้าที่เสริมเรื่องราวได้เหมาะมากครับ
รู้สึกว่าผู้กำกับจะมี influence หลักๆเลยก็คือซีรีส์ The Twilight Show ต้นฉบับ ที่เป็นซีรีส์แนว anthology แต่ละตอนจะมีเนื้อหาไม่เกี่ยวกัน (นึกภาพ Black Mirror ) โดยพี่แกหยิบเอาตอน Mirror Image มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ไม่เคยดูนะ แต่กำลังรอ TTS ฉบับสร้างใหม่ของ Jordan Peele นี่แหละที่จะฉายทาง CBS All Access ในเดือนหน้านี้ หวังว่าไทยจะมีเข้ามาฉายบ้างนะครับ อยากดูพอๆกับ GoT เลย 5555555
สำหรับใครก็ตามที่ชอบหนัง horror/thriller นะครับ Us น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะในช่วงนี้ (ก่อนที่ Pet Sematary และ The Curse of La Llorona จะมาในเดือนหน้า) หนังสนุก ดูไม่ยาก มีความระทึกและสยองขวัญครบสูตร jump scares ก็มีบ้าง แต่หนังใช้ถูกเวลาและไม่พร่ำเพรื่อเหมือนหนังสยองเรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความตลกเกินคาดอีก เชื่อว่าต้องถูกใจหลายคนไม่มากก็น้อยครับ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่ดูมาในปีนี้แล้วแหละ
Score : 8.5/10
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in