CH.3 First Signal
Calm Water Afore The Storm
ค่ำคืนนี้ยังคงเป็นค่ำคืนที่ไม่ต่างจากทุกวันของหมายเลข 0009 ทริสเต้ โคล ร่างสูงโปร่งยังคงนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้สีขาวในห้องพักของผู้ป่วย เส้นผมยาวสลวยที่ปกติมักจะถูกมัดอยู่เป็นหางม้าเสมอ ยามนี้มันยาวสยายลู่ไปกับลำตัวและแผ่นหลัง มีเพียงเส้นผมช่อหนึ่งที่กำลังถูกหวีแปรงเบาๆจากไกสท์สาวล่องหนที่ฮัมเพลงเบาๆไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายแม้มันจะไม่ช่วยให้จิตใจของคนที่นั่งอยู่สงบเลยก็ตาม
จริงอยู่ที่ว่ากิจวัตรประจำวันของเขาแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยจากทุกวัน...
แต่วันนี้เรื่องที่เขากำลังคิดมันไม่ใช่เรื่องเดิม....
สัญญาณแรกที่เขาคาดไว้มานาน...
มันเริ่มขึ้นแล้ว...
จากเธอคนนั้น...
คิดเรื่องนั้นอยู่เหรอ... เสียงแว่วหวานเอ่ยขึ้น ขณะที่ยังคงบรรจงหวีเส้นผมนุ่มสลวยอย่างเบามือ เธอชอบเส้นผมของเขาเป็นที่สุด มันทั้งยาวสลวยและนิ่มนวลดุจแพรไหมทุกครั้งที่เธอแปรงมัน...
“บาเรีย...” มีเพียงคำพูดสั้นๆตอบกลับมา
เรียบร้อยตั้งแต่กลับเข้าห้องแล้ว... ไกสท์สาวตอบกลับมาอย่างมั่นใจ ก่อนจะเริ่มถามต่อ
คิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องแผนจะไปร่วมไหม ?? แม้น้ำเสียงเหมือนพูดเรื่อยเปื่อยทว่ากลับแฝงไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน
“อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ ตอนที่อลิซพูด...” กลับเป็นอีกฝ่ายที่ถามเสียเอง
อยู่สิ ฉันฟังอยู่ทั้งหมดนั่นแหละ... หวีถูกวางลงบนโต๊ะ ทริสเต้สัมผัสได้ถึงไอเย็นรอบๆคอของตน จึงพอจะเดาได้ว่าไกสท์ของตนรู้สึกอย่างไร
“มันแปลกเกินไป...” ดวงตาสีฟ้าซีดคู่สวยมองเลยหน้าต่างไปบนท้องฟ้าที่แม้ยามกลางคืนก็ยังขมุกขมัวไม่ต่างจากยามกลางวันที่มีแสงแดดน้อยนิด
แปลก ?? ไคล์ทวนคำถาม ปกติเธอไม่ได้มีบุคลิกหรือความคิดที่ซับซ้อนนัก ทำให้มักจะมองข้ามอะไรบางอย่างที่โดยทั่วไปคนอื่นเห็น
“เราอยู่ที่นี่มากี่ปี ไคล์ ..” เขาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ
จะสิบปีได้แล้วมั้ง..ถามทำไมเหรอ ??
“ถ้าเธอคนนั้นจะหนีทำไมต้องรอเวลานานขนาดนี้ ....”
ก็อาจจะรอเวลาให้มีความพร้อมก็ได้มั้ง... ตอบแบบขอไปที แต่หัวสมองยังคงประมวลความคิด ถ้าพูดในแง่การเตรียมตัว เธอยอมรับเลยว่าลำพังแค่อลิสในตอนแรกที่เธอพบเมื่อเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ ลำพังเธอคนเดียวไม่มีทางทำได้สำเร็จแน่ .... เดี๋ยวนะ...
ลำพัง....
“ทุกอย่างมันดูมีเงื่อนงำเกินไป ....จำที่ผมถามเธอไม่ได้เหรอว่าโอกาสรอดมีแค่ไหน ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเราจะรอด ถึงเธอจะบอกว่าจะเป็นนกต่อให้ ...” มวลอากาศเย็นเคลื่อนออกจากรอบคอของคนผมยาวไป แต่วนเวียนอยู่ในอากาศแทน
แต่จะมั่นใจได้ยังไงว่าสุดท้ายแล้วพวกเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายโดนตลบหลังเสียเอง.... ไคล์ตอบให้จบประโยค
และทิ้งหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว.... ไกสท์สาวนึกต่อในใจอีกหน่อย
“และเธอต้องมีคนสมร่วมรู้ร่วมคิดนอกจากพวกผู้ป่วยและเฮลิคอปเตอร์นั่น...” คำถามคือ....เขาคนนั้นหรือคนพวกนั้นเป็นใคร ......
แถมเธอยังไม่ยอมบอกในส่วนนี้ด้วยนี่นะ...เฮ้อ...ทั้งๆที่โอกาสมาแล้วแท้ๆ มวลอากาศเย็นถอนหายใจ ทริสเต้ไม่ตอบอะไร ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม เขาคิดว่าคงมีผู้ป่วยคนอื่นๆอีกหลายคนที่มีความคิดเช่นเดียวกับตน ทุกอย่างมันมีเงื่อนงำมากเกินไป....
แล้วสรุปเราจะเอายังไง ?? สุดท้ายจึงได้แต่ถามรวบทีเดียว
“รอดูท่าทีต่อไปก่อน เราควรจะได้ข้อมูลมากกว่านี้..” ทริสเต้สรุป พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้เขาบิดตัวยืดเส้นกล้ามเนื้อเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับไปนอนบนเตียง สักพักเตียงข้างตัวของเขาข้างๆจึงยวบลงคล้ายมีคนมานอนข้างๆ
เมื่อสัญญาณแรกได้ดังขึ้นแล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป การเดินหมากรอบนี้โอกาสที่เขาจะถูกใช้เป็นนกต่อและอาจไม่มีชีวิตรอดออกไปข้างนอกมีสูงมาก แต่อยู่ในโรงพยาบาลชีวิตของเขามันก็เหมือนถูกลบออกจากสารระบบแล้ว ไม่มีครอบครัว ไม่มีบ้านให้กลับไป การจะเล่นเป็นหมากบนกระดานสักรอบย่อมน่าลองเสี่ยงดู...
“คลื่นลมสงบก่อนพายุใหญ่จะพัดโหมกระหน่ำ” จู่ๆผู้ป่วยหมายเลข 0009 ก็เอ่ยขึ้นมา มองสบกับนัยน์ตาสีทองสว่างเป็นประกายคู่สวยที่กำลังจ้องมองตน
“ช่างเป็นคำที่เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้ ว่าไหม...
ไคล่า....”
TBC…..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in