คืนนี้มันเป็นอีกคืนที่ผมนอนไม่หลับ จวบจะตีสองแล้ว ดวงตาของผมยังเปิดอยู่ มองเพดานห้องนอนสีขาวเปลี่ยนเป็นสีดำมืดจากยามราตรี
มันเป็นช่วงเวลาสงบสุดของช่วงวันในทุก ๆ วันของชีวิตระยะนี้ การนอนไม่หลับทำให้ผมได้คิดทบทวนอะไรหลายอย่างที่ผ่านมา เขาว่ากันว่ามนุษย์เรามักมากไปด้วยกิเลส ตัณหา กามรมณ์ หรือองค์ประกอบอันเป็นปัจจัยหลายอย่างที่มีทั้งดี และก็แย่
ผมมักพร่ำบอกตัวเองเสมอว่าผมรักความสันโดษ หรือการมีชีวิตสงบ มีความสุขได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเอามันไปผูกกับใคร ทว่าก็บ่อยครั้งอีกเช่นกันที่ความสันโดษของผมมันมาพร้อมกับความเหงาหรืออ้างว้าง
เปล่าเปลี่ยวบางช่วงเวลา จากการไม่ค่อยมีสังคมกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันเท่าไหร่นัก
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร รู้แค่ทุกครั้งที่ผมพยายามจะวิ่งเข้าไปร่วมวง ผ่านไปได้แค่เพียงแวบเดียว ผมกลับเริ่มโหยหาความสันโดษของตนเองอีกครั้ง ชักเข้าชักออกเป็นแบบนี้ตลอด กระทั่งมันมาถึงจุดที่ผมเริ่มรู้สึกเข้ากับบางคนไม่ได้ หรือเริ่มลืมกระทั่งวิธีการทักทายเริ่มต้นบทสนทนาไปเสียด้วยซ้ำไป
ไม่รู้ว่าตกลงโลกนี้มันประหลาด หรือเป็นตัวผมกันแน่ที่ประหลาด คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน เพื่อนผมคนนึงเขียนถึงเรื่องปลาวาฬในท้องมหาสมุทร มันส่งเสียงร้องออกมาในรูปแบบคลื่นความถี่ เพื่อบอกเหล่านารีว่ามันอยู่ตรงนี้ มีใครได้ยินมันไหม แต่ไม่เคยมีเสียงตอบรับกลับมา
ผมว่าตอนนี้ผมอาจจะเป็นวาฬตัวนั้นก็ได้ ที่พยายามส่งเสียงไปบอกใครสักคนว่าผมอยู่ตรงนี้ ท่ามกลางมวลมหามนุษย์ของโลกใบนี้ ถ้าสักวันมีเสียงตอบกลับมาก็คงดี ถึงจะริบหรี่แต่ผมยังคงหวัง
หวังว่าสักวันนึงจะมีคนตอบผมกลับมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in