เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Portugal's tale: โปรตุเก๊สสส *เสียงสูงwanderlust_tk
ประตูไปที่ไหนก็ได้
  • หลังจากซาฟิควนรถรอบย่านชิลี 1 รอบพอดิบพอดี นางก็ขับกลับมาจอดที่หน้า hostel ซึ่งมีป้ายชื่อติดอยู่ด้านหน้าพอให้สังเกตุเห็นได้ว่า LarExport Chile และนี่จะเป็นที่พักของฉันและโบว์ในอีก 45 วันต่อจากนี้ ฉันอดที่จะตื่นเต้นไปกับชีวิตในทุกๆวันต่อจากนี้ไม่ได้จริงๆ 

    ก่อนหน้าที่จะเดินทางมายังโปรตุเกส เมื่อฉันทราบรายละเอียดที่อยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารที่จะต้องส่งไปเพื่อทำการขอวีซ่ากับทางสถานทูต ฉันได้ลองเอาชื่อ hostel นี้มาเสิร์ชอยู่ครั้งสองครั้งในเว็บที่มีทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ใช่แล้ว ฉันลองเสิร์ชหาที่พักนี้ในกูเกิลแมพนั่นเอง ! เมื่อพิมพ์ชื่อ LarExport Chile แล้ว ทันทีที่ click ปุ่ม Enter บนโน๊ตบุคคู่ใจ บนหน้าจอก็ปรากฎรูปภาพขึ้นมาที่มุมบนด้านซ้าย ฉันลองคลิกเข้าไปดูเล่น และลองกดเลือกให้เปลี่ยนจากแมพเป็น street view แล้วลองกดลากไปลากมาเล่นๆ นอกจากนี้ฉันยังเข้าไปดูรูปที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกทำการรีวิวไว้เพื่อนำมาประกอบเป็นข้อมูลคร่าวๆ ก่อนมาที่นี่ด้วย


    และประตูไม้บานใหญ่สีเขียวที่เห็นอยู่ด้านขวามือ ก็คือประตูที่จะนำพวกเราทุกคนเข้าสู่ LarExport Chile ฉันบอกตัวเองว่านี่แหละ คือที่พักของเราในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แล้วตอนนี้ฉันก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูไม้นี้จริงๆสักที ซาฟิคช่วยฉันและโบว์ขนกระเป๋าเดินทางใบมหึมาลงจากรถ จากนั้นจึงเดินไปไขกุญแจที่ประตูบานสีเขียวนี้ และเดินนำเราทั้งสองเข้าไปด้านใน...


    เบื้องหลังประตูไม้สีเขียวนั้นด้านซ้ายเป็นกล่องจดหมายของทุกคนในอพาร์ทเมนต์นี้ ด้านขวาของฉันเป็นกองถังขยะตั้งเรียงกันประมาณ 3-4 ถัง ด้านหน้ามีบันไดไม้เก่าๆประมาณ 10 ขั้น หลังจากก้าวขึ้นมาจนถึงขั้นบนสุดแล้ว ด้านซ้ายมือของฉันมีป้าย LarExport Chile ติดอยู่เด่นชัด มองถัดลงมามีประตูสีขาวสะอาดตาอยู่ 1 บาน ด้านหน้าของฉันยังมีบันไดไม้ซึ่งแยกลงไปด้านล่าง และแยกขึ้นไปทางด้านบนของอพาร์ทเมนต์หลังนี้อีก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ ฉันมักพบผู้คนภายในอาคารเดียวกันระหว่างออกไปทำธุระด้านนอก หรือเพิ่งกลับเข้ามาบ้างในบางครั้ง นั่นทำให้ฉันเข้าใจได้ว่าทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาคารนี้ ล้วนต้องมีกุญแจ 1 ดอกที่สามารถไขประตูบานสีเขียวนี้ได้เหมือนๆกัน !


    ซาฟิคทำการไขกุญแจอีกครั้งบนบานประตูสีขาวด้านซ้าย เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับประตูห้องพักมากมายเรียงรายไปตามทางเดิน หลังจากเดินผ่านมาประมาณ 2 ห้อง ด้านขวาก็มีส่วนที่เป็นทางแยกเข้าไป ซึ่งโซนกลางเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนสะอาดตา และพื้นเคาน์เตอร์เป็นสีดำ ถัดจากเคาน์เตอร์ไปก็เป็นทางแยกไปยังโซนห้องพักฝั่งทางขวา พวกเราจัดการชำระเงินกับซาฟิคเป็นที่เรียบร้อย โดยการรูดผ่านบัตรเครดิต จากนั้นซาฟิคจึงแจกจ่ายกุญแจห้องให้กับพวกเราคนละชุด ซึ่งใน 1 ชุดจะประกอบไปด้วยกุญแจ 3 ดอก ได้แก่ กุญแจ 1 ดอก สำหรับประตูไม้สีเขียวด้านหน้า อีก 1 ดอก สำหรับบานประตูสีขาวของ LarExport Chile และดอกสุดท้าย สำหรับเปิดประตูห้องของพวกเราเอง !


    หลังจากรับกุญแจมาเรียบร้อย ซาฟิคก็พาพวกเรามาดูห้องน้ำ ซึ่งภายใน hostel นี้มีห้องน้ำรวมกับห้องสุขาด้านนอกซึ่งต้องใช้ร่วมกันอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ห้อง อยู่ห้องพักทางฝั่งที่พวกเราเข้าจากประตูบานสีขาวมา 1 ห้อง และอยู่ทางปีกขวาถัดจากเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ไปอีก 1 ห้อง ถัดจากห้องน้ำไป ด้านซ้ายเป็นห้องนั่งเล่น และรับประทานอาหาร มีโซฟาสีแดงกำมะหยี่กลางเก่ากลางใหม่อยู่ที่มุมห้อง 2 ชุด และมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้อีก 3 ชุด ถัดไปเป็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ 2 ตัว และในห้องนั่งเล่นนี้ยังมีทีวีอีก 1 ตัวติดอยู่บนผนังห้องตรงข้ามกับชุดโซฟาแดง และด้านในสุดของ hostel เป็นห้องครัว ซึ่งประกอบไปด้วยเตาซึ่งมี 4 หัว 1 ตัว เคาน์เตอร์ที่มีไมโครเวฟ และซิงค์น้ำติดตั้งอยู่ เหนือเคาน์เตอร์ไปเป็นตู้เก็บของติดผนัง และภายในห้องครัวยังมีตู้เย็นอีก 2 ลูก และเคาน์เตอร์ติดผนังที่มีถาดสำหรับวางกระปุกกาแฟ น้ำตาลและเกลืออยู่

    และแล้วก็มาถึงส่วนสำคัญที่สุด ห้องนอนของฉันและโบว์นั่นเอง !!

    ห้องนอนของเราสองคน เป็นห้องพักแบบ hostel ทั่วไป ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นขาจรที่มาแล้วก็ไป แต่นี่พวกเราต้องใช้ชีวิตอยู่ถึง 45 วันด้วยกัน 

    มันเป็นห้องขนาดไหนน่ะเหรอ ลองนึกถึงห้องที่ขนาดพอดีกับเตียงขนาด 3 ฟุต 2 หลังวางเรียงกัน โดยมีโต๊ะวางโคมไฟหัวเตียงกั้นไว้ ความกว้างของห้องมีเพียงแค่นั้นจริง ๆ พื้นที่ที่เหลือที่ปลายเตียงจึงเป็นทางเดินขนาดเท่าความกว้างของบานประตูห้อง มีตู้เสื้อผ้า 1 ตู้อยู่ที่ปลายเตียง ถัดจากส่วนของทางเดินไป ด้านซ้ายของตู้เสื้อผ้าเป็นซิงค์ และถัดจากซิงค์ไปทางซ้ายอีกทีเป็นห้องอาบน้ำ เรียกว่า "ห้อง" อาจไม่ถูกนัก เรียกว่าที่แขวนฝักบัวแล้วมีม่านเป็นฉากกั้นจะดีกว่า

    แต่สิ่งที่พีคที่สุด คือ ห้องพักที่นี่ไม่มีฮีทเตอร์ค่าาาา ให้ตายเถอะ พี่สุชาติ หนาวแบบนี้ แต่ไร้วี่แววของฮีทเตอร์ ตามมาดูกันต่อไปว่าพวกเราจะจัดการยังไงกับความหนาวที่ต้องเผชิญนี้ ปาดน้ำตาสองสามที แล้วสวมฮีทเทค เสื้อกันหนาว ถุงเท้าก่อนห่มผ้ากันต่อไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in