เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Portugal's tale: โปรตุเก๊สสส *เสียงสูงwanderlust_tk
ฟ้าจะบิน
  • 23.17 น. สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
                                                                                 
                                                                                 Read by 7 11.17 PM "ฝันดีน้าทุกคน"             

    โฉด 1 "เดินทางปลอดภัยเน้อออ" 11.17 PM

    โฉด 2 "บาย" 11.17 PM
                                                                                 Read by 7 11.17 PM "ขอบคุณที่อยู่ร่วมฟินกับเรา"

    โฉด 3 "Bon voyage" 11.17 PM

                                                                                 Read by 7 11.17 PM "เรามารอขึ้นเครื่องละ"

    บทสนทนาตอนหนึ่งจากกรุ๊ปสาวโฉดในแอพพลิเคชันชื่อดังที่มีไอคอนเป็นสีเขียวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ขึ้นจำนวนสมาชิกสาวโฉดที่ได้อ่านข้อความที่ฉันส่งไปหาพวกนาง หลังจากที่ฉันกินน้ำ และยืนพักให้หายจากอาการหอบอยู่ครู่หนึ่งในเกทขาออกนอกประเทศ

    ย้อนไปสักหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ฉันและเพื่อนนกของฉันอีก 1 ตน วิ่งหน้าตั้งกันอยู่ในเกทขาเข้า หลังจากมีมือดีชี้เป้ามาว่าสามี (ในมโน) ของฉันจากเกาหลีซึ่งกำลังจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในวันรุ่งพรุ่งนี้จะแลนด์ดิงยังไทยแลนด์แดนแม่ในวันเดียวกันกับที่ฉันและเพื่อนนกจะบินไปโปรตุเกส ใช่ค่ะ เราสองคนกำลังจะไปโปรตุเกส แต่ก่อนไปก็ขอทำหน้าที่ติ่ง*ให้สมบูรณ์แบบเสียก่อน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว อย่าได้ปล่อยโอกาสนั้นไป 

    " ขอโทษนะคะ พอดีเพื่อนกำลังจะมาจากเกาหลี จะนัดเจอกันก่อนอ่ะค่ะ ไม่ทราบว่าไฟลท์นี้จะออกที่เกทไหนคะ" 

    เพื่อนนกทำการสอบถามจากพนักงานสาวสวยประจำเคาเตอร์ information ประจำสนามบิน 

    "เกท E1 ค่ะ"

    เพื่อนที่ไหนล่ะ นั่นสามีชัดๆ เมื่อทราบแน่ชัดแล้วว่าสามีจะออกเกทใด พวกเราก็เดินสวยๆ ไปจนถึงหน้าประตูที่มีป้ายอลูมิเนียมสะดุดตาแสดงตัวอักษร E1 อย่างเด่นชัดอยู่ ก้มดูนาฬิกาแล้วยังพอเหลือเวลา เราจึงนั่งฆ่าเวลากันเล่นๆ ตรงหน้าทางออกที่มีตัวอักษร E1 นั่นแหละ

    สักครึ่งชั่วโมงต่อมาเริ่มมีคนแปลกหน้าเข้ามาแสตนบายด์ในถิ่นนกที่เรานั่งเงียบสงบอย่างกับป่าช้ามานานสองนาน เหล่ากลุ่มคนที่ว่านี้มีตั้งแต่คุณลุงใส่สูทที่มองไม่ออกว่าเขามาทำอะไร เหล่าพนักงานสนามบินหญิงที่เดินมาพร้อมกล้องและมือถือ เด็กๆที่มาพร้อมกล้องที่เลนส์ยาวประหนึ่งเอามาส่องดาวซึ่งน่าจะถ่ายแล้วมองเห็นไปได้ถึงผิวดวงจันทร์และมองยังไงก็ไม่ได้บินไปไหนอย่างแน่นอนในค่ำคืนนี้ 

    เมื่อใกล้จะถึงฤกษ์งามยามดีก็มีพนักงานสนามบินผู้หญิงที่ขับรถกอล์ฟ (บ้านฉันเรียกมันว่ารถกอล์ฟ บ้านพวกเธอเรียกว่าอะไรเหรอ) เข้ามาจอดรอเทียบท่าข้างเก้าอี้ที่ฉันและเพื่อนนกนั่งแสตนด์บายหน้าเกท อย่างพอดิบพอดีจำนวน 3 คัน ทุกคนล้วนยังสาวและสวย น่าจะเป็นแอร์กราวด์ไม่ผิดแน่ ในใจฉันอยากขึ้นไปนั่งแทนที่พวกเธอใจจะขาด แต่ทำได้แค่คิด 

    รอแล้วรอเล่าในที่สุด ก็ถึงเวลาที่ทุกคนตั้งตารอคอย เมื่อผู้โดยสารเริ่มทยอยเดินออกมา และสามีก็เดินออกมาจากเกทด้วยความตกใจ ถึงจำนวนคนที่มายืนรออยู่ภายใน จากนั้นกิจกรรมฝึกภาษาเกาหลีก็เริ่มขึ้น เมื่อผู้คนที่มายืนรอเริ่มสปีคเกาหลีสำเนียงไทยใส่สามี บ้างก็กรีดร้อง โดยมีเสียงรัวชัตเตอร์ แชะๆๆๆ ประกอบตลอดเวลา 

    เมื่อสามีประจำที่บนรถกอล์ฟเรียบร้อย ราชรถก็เริ่มเคลื่อนออกจากจุดที่จอดไปยังทางออกพิเศษของสนามบิน กลุ่มคนที่ฉันเห็นในช่วงแรกนั้น ก็เหมือนกับมีองค์ของอูเซน โบลต์เข้าสิงกลายร่างเป็นนักวิ่งตีนผีจากอูกานด้ากันเป็นทิวแถว ไม่เว้นแม้แต่ฉันและเพื่อนนก และนี่คือเหตุผลที่พวกเรามายืนหอบอยู่หน้าเกทขาออกนอกประเทศก่อนเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางจริงที่ตั้งใจไว้ กำไรมั้ยถามใจดู...



    * หมายเหตุ: ติ่ง คือ สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ซึ่งคุณอย่าได้ดูถูกพวกเขาเป็นอันขาด เพราะแม้แต่โคนันยังต้องอาย เชอร์ล็อคเหรอ เด็กๆ เพราะติ่งรู้ติ่งเห็น แม้แต่พิกัดละติจูดและลองจิจูดของเครื่องบินที่สามีพวกเธอโดยสารมาก็ไม่สามารถรอดพ้นไปจากญานทิพย์ของพวกเธอได้ วะฮะฮ่า

  • 19 ธันวาคม 2558 24.28 น. 


    "ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง 40 นาที นะไฟลท์นี้" 

    ฉันพิมพ์ข้อความดังกล่าวทิ้งไว้ในไลน์กลุ่มของครอบครัว แล้วทำการเปลี่ยน mode ของโทรศัพท์ให้เป็น flight mode ก่อนที่เครื่องจะ take off 

    ฉันและเพื่อนนกของฉัน (เห็นเรียกแต่เพื่อนนกๆ ฉันจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักว่านางไว้ นางชื่อเล่นว่า โบว์ นาจา ) โดยสารนกยักษ์ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปนกสีเหลือง แห่งสายการบินสัญชาติเยอรมัน 
    กิจกรรมในระยะเวลาเกือบ 12 ชั่วโมงของเรา 2 คนก็ไม่มีอะไรมากนอกจากกินและนอน ตื่นมาก็กิน ดูหนัง ฟังเพลง วนไปแบบนี้

    13.20 น. ตามเวลาประเทศไทย

    "ถึงแฟรงเฟิร์ตละน้าาา"

    "กำลังจะต่อเครื่องไปลิสบอน ตอนนี้ที่เยอรมัน 7.45 น."

    ฉันทำการรายงานสถานการณ์ทันทีที่สามารถต่อสัญญาณ WiFi ที่สนามบินได้ ฉันยังจำได้ดีว่าในวันนี้เป็นวันซ้อมรับปริญญาของน้องสาวแท้ ๆ เพียงคนเดียวของฉัน แต่ฉันไม่สามารถไปร่วมแสดงความยินดีกับนางได้ เพราะวันนี้ฉันต้องเดินทาง และวันที่นางรับปริญญาจริง ๆ คือวันเดียวกันกับที่ฉันจะเริ่มฝึกงานที่โปรตุเกสเป็นวันแรก 

    ในไลน์กลุ่มของครอบครัวจึงเต็มไปด้วยรูปของอาม่า อาอี๊ อาเตี๋ยว พ่อ แม่ น้องๆ สลับกันกับข้อความที่ฉันส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม

    การผ่าน ตม.ที่เยอรมันไม่ยากนักสำหรับพวกเรา อาจเพราะชาวเยอรมันเห็นพวกเราเป็นเด็กน้อย อีกทั้งวีซ่าที่ขอมาก็เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียน ตม.จึงถามแค่ว่า "มาเรียนหรือหนู" ก็แค่นั้นจริงๆ ข้อดีของชาวเอเชียก็คือจะดูหน้าเด็กกว่าอายุจริง (ซึ่งจริงๆ หน้ากับตัวเลขอายุมันก็พอๆ กันนั่นแหละ แต่พวกฝรั่งหน้ามันแก่ไปก่อนเอง 555) 

    ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมตอนแสกนกระเป๋าก่อนเข้ามาในตัวสนามบิน พนักงานชาย หญิง ต่างยิ้มให้ฉันแล้วยัดช็อคโกแลตซึ่งทำแจกโดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ยัดแล้วก็ยัดอีก นี่เหลือกลับมาถึงไทยเลย ก็เพราะฉันหน้าเด็ก (เหรอ) ไง

    เผลอแป๊บเดียว พวกเราก็มาอยู่หน้าเกทรอขึ้นเครื่องเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่แท้จริง นั่นก็คือ เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ประเทศที่ไม่เคยอยู่ในความคิดว่าในชีวิตนี้ฉันจะไปสักครั้ง แต่กลับต้องมาแบบงงๆ แต่ก็นั่่นแหละ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลุยกันสักตั้ง จะได้รู้ๆ กันไปว่าประเทศนี้มีอะไรดีอีกนอกจาก ฝอยทอง !!! 

    See you in the next 3 hours my Lisbon !!!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in