Show Me The Rapper! บทพิสูจน์วงการแร็พไทย - My Pop Culture

หลังจาก RAP IS NOW รายการแร็พใต้ดินของไทย ออกอากาศไปได้ไม่กี่ปี ก็ได้รับกระแสมากมาย ฝั่งใต้ดินส่วนมากจะชื่นชอบ เพราะเป็นเหมือนอีกเวทีที่เปิดให้แสดงความสามารถ แถมยังได้แบทเทิลกับคนเก่งๆ ในวงการ ส่วนอีกเสียงคือ ผู้ชมทั่วไป ที่ขอบาย ไม่ไหวกับความหยาบคายของเนื้อร้อง (บางครั้งมีการเหยียดเพศหญิง)

พอทีมงานรายการนี้ มาจับมือกับ WORKPOINT ทำรายการ The Rapper ก็ยังนึกไม่ออกว่า รูปแบบรายการจะออกมายังไง? คนไทยจะอินกับวัฒนธรรมแรพหรอ? แถมทาง True ก็ซื้อลิขสิทธิ์ รายการแรพจากเกาหลี Show Me The Money ซึ่งเราเป็นแฟนตัวยงของเวอร์ชั่นเกาหลีอยู่แล้ว เลยอดคาดหวังไม่ได้ ว่าอย่างน้อยก็คงทำออกมาไม่น่าเกลียด (มั้ง) หลังจากได้ดูทั้งสองรายการครบแล้ว ก็มีทั้งหลายความรู้สึกปนเปกันเข้ามา ทั้งผิดหวัง เสียดาย ตื่นเต้น และแอบเซอร์ไพรส์กับหลายๆ โชว์ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด

1. เพลงไตเติ้ลรายการ

ฝั่ง The Rapper ใช้บีทเบสิค เข้าหูได้ง่าย โปรดิวเซอร์แต่ละคนก็แรพมีเอกลักษณ์ แต่ได้กลิ่นอายไทยๆ ฟังง่าย ทุกเพศทุกวัย เรียกว่า ไม่มีคำหยาบเลย ท่อนติดหูคงเป็น It’s the rapper, rapper! Rapper! Rapper! Rapper!

เปิดมาพี่อุ๋ย ก็ตะโกนใส่เราว่า “รวยยย!” ก่อนเลย แต่ก็ชอบตรงที่มันดูก๊วนกวนดีนี่แหละ Double P และ DajimDajazz ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่วน Sunnycash ก็โดดเด่นกับบีทอีดีเอ็มมันส์แบบจัดเต็ม ที่กรี๊ดหนักมากคือ ตอนท้ายเอ็มวีมี Tiger JK โผล่มามอบตะขาบให้พี่เดย์รับช่วงต่อ คือดีย์ ส่วนตัวเทใจให้ SMTM มากกว่าแล้วแค่เพลงไตเติ้ล
2. ความเก๋าของเหล่า Producer
The rapper นำด้วย โจอี้บอย + ขันเงิน Thaitanium และ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่, ปู่จ๋านลองไมค์, URBOY TJ, TWOPEE Southside โดยโจอี้บอย และขันทำหน้าที่เหมือนครูใหญ่ ชี้เป็นชี้ตาย หรือเลือกลูกทีมให้เหล่าโค้ชอีกต่อหนึ่ง ตรงนี้เราว่า ใช้วิธีซับซ้อนเกินไป และมันทะแม่งๆ อยู่ ดูแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะะ! แล้วทำไมโค้ชเลือกลูกทีมเข้าเองไม่ได้? หรือโค้ชไม่เก่งจริง จึงต้องเอารุ่นใหญ่อย่างสองคนนี้ มาช่วยชี้แนะให้

ฝั่ง SMTM ใช้การแบ่ง 4 ทีมตามเกาหลี คือ Buddha Bless, แจ๊ส สปุ๊กนิค+ดาจิม, เป้ วง Mild +ป๊อก Mindset, เดย์ Thaitanium +เอ้ Botcash นับว่าเลือกจับคู่แมทช์มาได้น่าสนใจไม่เบา โดยเฉพาะ แจ๊ส+ดาจิม ที่ได้ยินแล้วแอบกุมขมับ แต่ปรากฎว่าออกมาดีผิดคาด แปลกใหม่ ไม่กลัวที่จะทดลองแนวเพลงแปลกๆ ทำให้เราจดจำโชว์ของทีมนี้ได้ตลอด

ในขณะที่ Sunnycash ก็เป็นตัวเทพในรายการทีเดียว สกิลการแรพของเดย์โหดมาก ตัวพ่อจริงๆ และบีทของเอ้ถูกใจวัยรุ่น โชว์อินเตอร์ส่งออกได้สบายๆ ค่อนข้างผิดหวังมากกับ Buddhabless หรือสามคนนี้ จะเหมาะทำเพลงตัวเองก็พอแล้ว?? Double P กับสไตล์อาร์แอนด์บี แต่การแรพก็ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร แถมยังมีผสมร้องเยอะไปในบางโชว์

3. Stage ที่น่าจดจำที่สุด

ฝั่ง The Rapper

มีทั้งสายดีพ ดิ่งลึกเข้าสู่อารมณ์อย่าง Jarom, Black Sheep, Dark Face หรือสายรัวเร็ว ชวนโยกสนุกๆ P-HOT, Ironboy สายกวี พันช์ไลน์คมกริบ ฮาทุกเม็ด KQ, หมวดแวน และอีกหลายสไตล์ เรียกว่า คนดูอย่างเราเลือกเชียร์กันสนุก แต่สะดุดตรงการเอาเพลงเก่ามาแปลงใหม่มีเยอะ 80 เปอร์เซ็นต์ของรายการ!! ฟังเพลงเก่าแล้วร้องตามได้ก็ดีแหละนะ แต่ถ้าเหล่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีม ได้คิดเพลงใหม่ เลือกบีทที่แสดงตัวตนจริงๆ ขึ้นมาเลย น่าจะเจ๋งกว่านี้อีก
ฝั่ง SMTM

แต่ละทีมมีสไตล์ต่างกันชัดเจน อย่าง SunnyCash จะแรพแบบดิบๆ ผสมบีทอิเล็คโทร เวทีอลังการเฟ่อออร์ ลูกทีมมีเอกลักษณ์

ส่วน Buddhabless เรามองว่ารายการแรพควรจะคิดฮุกใหม่ แต่งแรพยกเครื่องใหม่หมดนะ การดึงเอานักร้องเก่าๆ อย่างฮาย-อาภาพร หรือติ๊ก ชีโร่ ใช้เพลงเก่ามากเป็นสิบปีแล้ว คือมันช้ำไปหมด เลยไม่ว้าว

Double P ค่อนข้างลุ่มๆ ดอนๆ น่าเบื่อบ้าง พอดูได้บ้าง โปรดิวซ์ไม่เก่งทั้งคู่

ที่ยกนิ้วให้จริงๆ คือ DajimDajazz พี่ตั้มมองเฉียบ พาเด็กมาได้ขนาดนี้ แล้วแต่ละคนไม่ได้เก่งเท่าทีมอื่น แต่ดึงเสน่ห์ในตัวออกมาได้
4. ภาพรวม

จากที่เราไม่สนใจ the rapper ดูไปไม่กี่อีพี กลายเป็นชอบมากกว่าเดิมไปเลย เปลี่ยนความคิดของเราที่มีต่อวงการแรพได้ ตอนแรกคิดว่า จะต้องแรพหยาบ หรือมีแต่เนื้อหารักเลี่ยน แต่ปรากฎว่า คุณภาพโชว์รวมๆ ก็ดูเพลิน ย่อยง่าย แอบเป็นห่วงไอซ์-อภิษฎา ว่าเธอจะดูผิดที่ผิดทางมั้ย แต่รายการวางบทให้เธอเป็นคนทั่วไปที่เริ่มรู้จักแรพไปพร้อมๆ กับคนดู เลยไม่เหวอะหวะมาก แถมโค้ชแต่ละคนยังขยันยิงมุกกันกระจาย ช่วงไหนโดนดราม่า รายการก็รับฟังและปรับปรุง ช่วยไม่ได้ที่จะดึงดูดคนดูส่วนใหญ่ได้มากกว่า

ส่วน SMTM คนดูสายใต้ดินน่าจะถูกใจกัน ฉีกออกไปด้วยบรรยากาศรายการที่อึมครึมกว่ามาก แถมดราม่ายังผุดขึ้นมาเยอะสุดๆ เห็นได้ชัดจากกรณี wonderframe และอีกหลายราย แต่คอนเซปรายการนี้ ก็ขายดราม่าเป็นหลักอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกแปลก โชว์เพลงจะมีคำหยาบบ้าง แต่ยิ่งแรงยิ่งถูกใจคนดูซะอีก

ผู้เข้าแข่งขันหลายคน ยังแรพยังไม่ค่อยแข็งแรงกัน ถ้าใครเก่งจริงก็เด่นขึ้นมาเลย เหมือน ทศกัณฐ์ หรือ Ling Of King (ตรงนี้เสียเปรียบเดอะแรปเปอร์ เพราะได้คนจาก rap is now ไปเสริมทัพ เหมือนคนแข่งมันเก่งกว่า พอจับมาเจอกันแต่ละคู่ ก็ลุ้นกว่า) ที่สำคัญการเอาน้าเน็กมาเป็นพิธีกร ยังไม่สุดจริงๆ และรายการก็ยังดิบได้มากกว่านี้
5. ก้าวต่อไป

ทั้งสองรายการ กระแสดี จนสามารถจัดคอนเสิร์ตรวมได้ แน่นอนว่า เตรียมรอดู season 2 ในปีหน้าต่อได้เลย ส่วนตัวแอบเชียร์ the rapper มากกว่านิดนึง เพราะทำโชว์ออกมาสนุกกว่า แถมเคมีของพิธีกร และโค้ชก็ดูเข้ากันดี ส่วน smtm ผิดหวังบางส่วน แต่ก็ยังเอาใจช่วยให้พัฒนาให้ดีขึ้น เหมือนยังไม่พร้อม 100% เลยยังออกมาไม่ปังเท่าที่ควร ยังไงก็รอดูทั้งสองรายการอยู่ดีแหละ อยากเห็นสีสันในวงการแรพไทย เชื่อว่ายังมีหน้าใหม่เก่งๆ ที่รอปล่อยของอีกเยอะนะจ๊ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น